สำหรับผู้ที่ฝึกสมาธิด้วยวิธีอานาปานสติ รู้ลมหายใจ เข้า-ออก หรือ ภาวนาพุทโธ, สัมมา อรหัง, นะมะพะธะ หรือ เพ่งกสิณ แล้วจิตไม่สงบรวมเป็นสมาธิ แนะนำลองใช้วิธีการฝึกสติ
สติ คือ ตัวตื่นรู้ไว้ที่ใจ ระหว่างดำเนินชีวิตประวัน ให้เอาสติจับไว้ตรงนั้น (ที่ใจ) เอาไว้เรื่อยๆ เวลาขาดสติก็ระลึกให้ตื่นรู้ที่ใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะคิด จะพูด จะทำอะไรก็ให้ตื่นรู้ไว้ที่ใจ จับตรงนี้
ในการนั่งสมาธิ ให้เอาสติตื่นรู้ไว้ที่ใจ พอมีความคิด ก็ใช้สติหยุดความคิด อย่าให้มีความคิด เพราะความคิดเป้นต้นเหตุของความฟุ้งซ่าน วุ่นวายและความทุกข์ ให้จับสติ ตื่นรู้ไว้ที่ใจที่เดียว เมื่อมีสติแล้ว พอมีความคิดเราจะเห็น รู้ว่าจิตมันติด เมื่อเห็นความคิด ก็หยุดคิดซะ อย่าให้มันคิดยาวต่อไป พยามให้มีสติ ตื่นรู้ที่ใจตลอดเวลา
เมื่อฝึกบ่อยๆ สติจะเริ่มต่อเนื่อง ทำได้นานขึ้นๆ สติยาวเป็นสาย มีสติตลอดเวลา ไม่มีความคิดแทรกเข้ามาเลย อยากจะหยุดความคิดเมื่อไหร่ ก็ทำได้ทันที เมื่อทำได้เช่นนี้ จิตจะรวมเป็น “อัปนาสมาธิ” ได้ง่าย
สติ ตื่นรู้ที่ใจ
สติ คือ ตัวตื่นรู้ไว้ที่ใจ ระหว่างดำเนินชีวิตประวัน ให้เอาสติจับไว้ตรงนั้น (ที่ใจ) เอาไว้เรื่อยๆ เวลาขาดสติก็ระลึกให้ตื่นรู้ที่ใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะคิด จะพูด จะทำอะไรก็ให้ตื่นรู้ไว้ที่ใจ จับตรงนี้
ในการนั่งสมาธิ ให้เอาสติตื่นรู้ไว้ที่ใจ พอมีความคิด ก็ใช้สติหยุดความคิด อย่าให้มีความคิด เพราะความคิดเป้นต้นเหตุของความฟุ้งซ่าน วุ่นวายและความทุกข์ ให้จับสติ ตื่นรู้ไว้ที่ใจที่เดียว เมื่อมีสติแล้ว พอมีความคิดเราจะเห็น รู้ว่าจิตมันติด เมื่อเห็นความคิด ก็หยุดคิดซะ อย่าให้มันคิดยาวต่อไป พยามให้มีสติ ตื่นรู้ที่ใจตลอดเวลา
เมื่อฝึกบ่อยๆ สติจะเริ่มต่อเนื่อง ทำได้นานขึ้นๆ สติยาวเป็นสาย มีสติตลอดเวลา ไม่มีความคิดแทรกเข้ามาเลย อยากจะหยุดความคิดเมื่อไหร่ ก็ทำได้ทันที เมื่อทำได้เช่นนี้ จิตจะรวมเป็น “อัปนาสมาธิ” ได้ง่าย