วันนี้เราได้รับคำเชิญจาก PR ของ "Mahanakhon Eatery" (มหานครอีทเทอรี่) ให้มาถ่ายรูปรีวิวร้านอาหารบาร์และคาเฟ่สุดหรูรวมกัน 7 แบรนด์เอาไว้ในที่เดียว โดยมี Concept สุดพิเศษนั่นก็คือ Cross-Kitchen Dining หรือ สั่งครบจบและจ่ายในที่เดียวไม่ต้องแยกบิลให้เสียเวลา ซึ่งเราสามารถนั่งเสพบรรยากาศ 7 สไตล์ที่แตกต่างกันจากตรงไหนก็ได้ในพื้นที่และสั่งอาหารของร้านอื่นมาทานข้ามกันไปมาได้อย่างไม่มีข้อจำกัด วิธีการเดินทางถ้ามาด้วยรถยนต์ส่วนตัวให้ปักหมุดมาที่ Mahanakhon CUBE มีลานจอดรถขนาดใหญ่ให้บริการฟรีไม่จำกัดเวลา เงื่อนไขก็คือต้องเก็บใบเสร็จที่ซื้อสินค้าบริการเข้าไปปั๊มตราภายในตึกมหานครเพื่อรับสิทธิ์จอดฟรี 24 ชม. ถ้าเดินทางมาด้วยบริการขนส่งสาธารณะก็สะดวกเพราะอยู่ใกล้กับ BTS สถานีช่องนนทรีมีสะพานเชื่อมพิเศษเดินเข้าไปถึงด้านในทันที ซึ่งโครงการมหานครอีทเทอรี่นั้นตั้งอยู่บริเวณ ชั้น G ของอาคารมหานครคิวบ์และประตูทางเข้าหลักจริงๆอยู่ตรงทางเชื่อมระหว่างตึกมหานครที่มีความสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยติดกับบันไดเลื่อนโดยเราจะตั้งต้นจากตรงนี้ครับ
เริ่มจากร้านที่ 1 นั้นก็คือ "เมซอง ดู แวงน์" เป็นไวน์เลาจน์แห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญพิเศษประจำอยู่คอยแนะนำรสชาติของไวน์แต่ละชนิดรวมถึงวิธีการดื่มที่ถูกต้อง มีทั้งไวน์ราคาสูงและหายากมากๆนำเข้าจากต่างประเทศมากกว่า 100 แบรนด์ชั้นนำจากทั่วโลก โดยบรรยากาศภายในร้านก็จำลองมาจากโรงบ่มไวน์ที่อยู่ในประเทศฝรั่งเศสเน้นความมืดมิดแต่หรูหราพร้อมโต๊ะ/โซฟาขนาดใหญ่นั่งสบายพร้อมสำหรับการนั่งเสพรสชาติของไวน์ชั้นสูงได้อย่างแท้จริง ส่วนเล่มเมนูของร้านนี้เราไม่ได้ถ่ายมาเพราะเป็นรายการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ล้วนแต่เราสามารถสั่งกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวน์ที่ประจำอยู่ในร้านได้เลยว่าเราอยากดื่มรสชาติประมาณไหนเป็นพิเศษเดี๋ยวเขายกมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะตามต้องการพร้อมแก้วที่เหมาะสมกับไวน์ชนิดนั้น สายน้ำองุ่นหมักต้องถูกใจสิ่งนี้อย่างแน่นอนครับ
ร้านที่ 2 มีชื่อว่า "อีซี่" จำหน่ายขนมหวานและเบเกอรี่โดยเชฟเปเปอร์ อริสรา จงพาณิชกุล เชฟขนมหวานชื่อดังของประเทศไทยที่พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวของขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสให้ออกมาดูน่ารัก-สนุกสนาน เข้ากับร้านสีฟ้าผสมสีน้ำเงินพาสเทลตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Luxury ผสมกับพื้นและภาพวาดกราฟิกสมัยใหม่ได้อย่างลงตัวไม่เหมือนใคร ส่วนวิธีการสั่งขนม-เครื่องดื่มต่างๆสามารถเดินมาตรงมาที่ Show Room กระจกหรือสั่งจากเล่มเมนูก็ได้ หน้าแรกจัดอยู่ในหมวดเค้กมูสรูปร่างน่ารักราคาเริ่มต้นที่ 185-450 บาท ต่อกันด้วยเครื่องดื่มสีสดใสราคาเริ่มต้นที่ 135-195 บาท เค้กบรรจุลงกระป๋องกับขนมทานเล่นเคี้ยวเพลินๆราคา 145-425 บาท เค้กวันเกิดก้อนใหญ่ราคา 790-1,290 บาทและครัวซองต์อบใหม่เอาใจสายคาเฟ่ ดูจากเมนูการตกแต่งแล้วคุณผู้หญิงน่าจะรักเลยครับ
ต่อกันด้วยร้านที่ 3 นี้มีชื่อว่า "เอวรีล กูร์เมต์ แอนด์ บอร์ดิเยร์ ซีเล็กชั่น" เป็นศูนย์รวมวัตถุดิบคุณภาพระดับพรีเมี่ยมจากแหล่งผลิตชั้นยอดในประเทศฝรั่งเศสและยุโรปทั้งแฮม/ซาลามี่/ชีสชนิดต่างๆ แบบเดียวกับที่เคยทานมาในโรงแรม-ร้านอาหารชั้นนำในประเทศไทยก็ถูกส่งมาจากร้านนี้เพราะเป็น Supplier รายใหญ่มาเปิดหน้าร้าน เพื่อเป็น Show Room ให้กับลูกค้าทั่วไป-นักธุรกิจได้มาชิมและตัดสินใจซื้อไปทานหรือจำหน่ายต่อในอนาคต โดยเมนูอาหารที่ร้านจะเน้นไปทาง Comfort Food ง่ายๆเอาไว้ทานคู่กับไวน์ การตกแต่งร้านเป็นเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่สีดำเข้มในตู้กระจกเต็มไปด้วยวัตถุดิบถูกแขวน-แช่เย็นเอาไว้ชิ้นใหญ่คอยตัดเสิร์ฟแบ่งเมื่อมีคนมาสั่ง ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นโต๊ะให้นั่งมุมเล็กๆแต่หรูหราด้วยพื้นไม้สีเข้มผนังหินอ่อนแผ่นใหญ่ราวกับอยู่ในร้าน Fine Dining แต่เปิดโล่งมีความคล้ายกับอยู่ใต้ชายคาริมถนนในประเทศฝรั่งเศส ส่วนอาหารไม่ได้มีแค่ที่เห็นอยู่ในตู้กระจกเท่านั้นขอเล่มเมนูมาเปิดกันครับ
อย่างที่บอกไปเบื้องต้นแล้วว่าร้านนี้เน้น Comfort Food ทานง่ายเข้ากับไวน์ เริ่มต้นด้วยสลัดต่างๆราคาเริ่มต้นที่ 190-320 บาท แซนด์วิชและฮอทด็อกราคาเริ่มต้นที่ 220-430 บาท เมนูจานหลักกินง่ายมีแค่ 4 อย่างราคาเริ่มต้นที่ 240-890 บาท ซุปสไตล์ฝรั่งถ้วยละ 160-220 บาท Charcuterie หรือ ชาร์คูเตอรี เป็นเนื้อตากแห้ง/ชีส/ผลไม้ต่างๆวางบนบอร์ดไม้สไตล์ฝรั่งเศสมีตั้งแต่ขนาดเล็กราคา 120-299 บาท ไปจนถึงขนาดใหญ่ใส่วัตถุดิบรวมกว่า 5 ถึง 8 ชนิดราคาเริ่มต้นที่ 695-990 บาท พร้อมเครื่องเคียงให้กินคู่กันเป็น Side Dish ราคา 60-110 บาท ไปจนถึงของหวานเป็นโยเกิร์ตต้นตำรับและผสมเลมอนกับผลไม้ราคาถ้วยละ 120 บาท สายชีสต้องหลงรักกับถาดรวมชีส 4 ชนิดและ 6 ชนิดราคา 695-990 บาท สุดท้ายเป็นเครื่องดื่มทั้ง ชา/น้ำเปล่า/น้ำแร่/น้ำแร่อัดแก๊สและน้ำอัดลมราคาเริ่มต้นที่ 40-110 บาท ผู้คลั่งไคล้ Cheese กับ Cold Cut ตัวจริงต้องถูกใจร้านนี้อย่างแน่นอนครับผม
ตามมาด้วยร้านที่ 4 มีชื่อว่า "เอลมาร์" จำหน่ายซีฟู้ดสดใหม่คุณภาพสูงระดับพรีเมี่ยมนำเข้าจากทั่วโลก โดยได้จำลองบรรยากาศทั้งหมดให้คล้ายกับอู่ต่อเรือเก่าๆในหมู่บ้านชาวประมงของประเทศฝรั่งเศส โดดเด่นด้วยบาร์กลางร้านที่ออกแบบราวกับเรือใบขนาดใหญ่จอดเทียบท่าเพื่อขนส่งวัตถุดิบที่เพิ่งจับขึ้นมาจากมหาสมุทรวางเรียงสวยงามบนน้ำแข็งพร้อมติดป้ายราคาแบบเดียวกับแผงตลาดปลาตั้งอยู่ริมทะเล (มีการปรับเปลี่ยนไปในแต่ละวันจึงใช้ป้ายที่สามารถเขียนแล้วลบได้อย่างในรูป) เน้นความปลอดโปร่งโล่งสบายด้วยไฟโทนส้มกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนราวกับว่ากำลังนั่งทานซีฟู้ดริมทะเลพร้อมรับแสงแดดนวลตา พร้อมชมเชฟประจำร้านปรุงอาหารให้ชมทุกๆขั้นตอนภายในครัวแบบเปิดโล่งไร้ผนังปกปิดแสดงถึงความมั่นใจในคุณภาพของวัตถุดิบและรสชาติในแต่ละจานได้เป็นอย่างดีเลยครับ
เมนูของที่ร้านก็เน้นไปทางซีฟู้ดเป็นหลักเริ่มต้นด้วย คาเวียร์เสิร์ฟละ 15/30 และ 50กรัม มีให้เลือกถึง 3 เกรดราคาเริ่มต้นที่กระปุกละ 1,570-10,285 บาท คาเวียร์ขนาด 5 กรัม เสิร์ฟพร้อมอาหารทั้งหมด 3 เมนู ราคาเริ่มต้น 600-650 บาท หอยแมลงภู่และหอยกาบนึ่งไวน์ขาวราดซอสมะเขือเทศสดราคา 550-680 บาท ซีฟู้ดรวมปรุงสุกจานเล็กกับใหญ่ราคา 2,980-4,895 บาท หอยนางรมทานสดเสิร์ฟเป็นตัวราคา 200-380 บาท หอยนางรมแบบปรุงสุกราดซอสต่างๆราคาเมนูละ 220 บาท หอยนางรมสดแช่เย็นจากภูมิภาคต่างๆทั่วโลกทั้งหมด 8 ชนิด เลือกได้ว่าอยากทานแค่ตัวเดียว-ครึ่งโหล 6 ตัวหรือโหลนึง 12 ตัว ราคาเริ่มต้นที่ 160-3,220 บาท หากไม่ทานของสดก็มีซีฟู้ด-เนื้อย่างเสิร์ฟเป็นจานและต่อ 100 กรัมมาพร้อมซอส 5 ชนิด ราคาเริ่มต้นที่ 285-1,600 บาท เครื่องเคียงไว้ทานคู่กับจานหลักราคา 95-165 บาท เมนูโรล/ข้าวและก๋วยเตี๋ยวพร้อมทานราคา 450-1,070 บาท ซุปสลัดราคา 350-380 บาท จานซีฟู้ดเรียกน้ำย่อยราคา 280-1,070 บาท นอกนั้นเป็นเครื่องดื่มและแอลกอฮอล์ ส่วนใครที่ไม่สะดวกนั่งทานในร้านก็สั่งกลับบ้านหรือช็อปปิ้งสินค้าสำเร็จรูปพร้อมทานนำเข้าจากต่างประเทศได้ที่ตู้เย็นขนาดใหญ่ข้างๆกันก็ได้มีทั้งแยม/โยเกิร์ต/ปลาซาร์ดีนกระป๋องในซอสต่างๆ/Cold Cut/ซอสบรรจุใส่กระปุก/สลัดพร้อมทาน/ขนมปังและเครื่องดื่มแช่เย็น อยากกินอะไรก็หยิบแล้วเดินเข้าไปคิดเงินภายในร้าน "เอลมาร์" ที่อยู่ใกล้กันได้เลยครับ
ส่วนร้านที่ 5 นี้มีชื่อว่า "อิซาเบลล่า อิตาเลียน โรติสเซอรี บาย อันเดรีย" ร้านอาหารอิตาเลียนแห่งใหม่ของเชฟ "อันเดรีย โบนิฟาโช" เจ้าของร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดังระดับตำนานเมืองหัวหิน เน้นไปที่เมนูเด็ดอย่างพิซซ่าอบเตาถ่าน-โฮมเมดพาสต้าและไก่อบในเตาย่างสุดพิเศษนำเข้าราคาแพงจากประเทศอิตาลี โดยเน้นเป็นครัวเปิดโล่งเพื่อให้ลูกค้าสามารถมองเห็นการทำงานของเชฟได้อย่างชัดเจนในทุกมุม ส่วนบรรยากาศภายในเน้นความเป็นบิสโทรคล้ายกับกำลังนั่งทานข้าวภายในบ้านสไตล์ยุโรปย้อนยุคสบายๆ เน้นพื้นไม้สีเข้มกับผนังก่ออิฐแดงพร้อมเฟอร์นิเจอร์สุดหรูให้อารมณ์แบบเดียวกับร้าน Fine Dinning หากใครไม่สะดวกนั่งทานที่ร้านเขามีเมนูอร่อยด่วนอย่าง "พิซซ่าอบเตาถ่าน" เริ่มต้นเพียงชิ้นละ 80 บ. ส่วนรายการอื่นๆจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้นมาดูที่เล่มรายการอาหารฉบับเต็มกันครับ
******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขออนุญาตเขียนรีวิวต่อในช่อง Comment แทนนะครับ *******
[SR] รีวิว "Mahanakhon Eatery" (มหานครอีทเทอรี่) แหล่งรวมอาหารบาร์คาเฟ่ 7 ร้าน สั่งครบจบและจ่ายในที่เดียว
เริ่มจากร้านที่ 1 นั้นก็คือ "เมซอง ดู แวงน์" เป็นไวน์เลาจน์แห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญพิเศษประจำอยู่คอยแนะนำรสชาติของไวน์แต่ละชนิดรวมถึงวิธีการดื่มที่ถูกต้อง มีทั้งไวน์ราคาสูงและหายากมากๆนำเข้าจากต่างประเทศมากกว่า 100 แบรนด์ชั้นนำจากทั่วโลก โดยบรรยากาศภายในร้านก็จำลองมาจากโรงบ่มไวน์ที่อยู่ในประเทศฝรั่งเศสเน้นความมืดมิดแต่หรูหราพร้อมโต๊ะ/โซฟาขนาดใหญ่นั่งสบายพร้อมสำหรับการนั่งเสพรสชาติของไวน์ชั้นสูงได้อย่างแท้จริง ส่วนเล่มเมนูของร้านนี้เราไม่ได้ถ่ายมาเพราะเป็นรายการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ล้วนแต่เราสามารถสั่งกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวน์ที่ประจำอยู่ในร้านได้เลยว่าเราอยากดื่มรสชาติประมาณไหนเป็นพิเศษเดี๋ยวเขายกมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะตามต้องการพร้อมแก้วที่เหมาะสมกับไวน์ชนิดนั้น สายน้ำองุ่นหมักต้องถูกใจสิ่งนี้อย่างแน่นอนครับ
ร้านที่ 2 มีชื่อว่า "อีซี่" จำหน่ายขนมหวานและเบเกอรี่โดยเชฟเปเปอร์ อริสรา จงพาณิชกุล เชฟขนมหวานชื่อดังของประเทศไทยที่พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวของขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสให้ออกมาดูน่ารัก-สนุกสนาน เข้ากับร้านสีฟ้าผสมสีน้ำเงินพาสเทลตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Luxury ผสมกับพื้นและภาพวาดกราฟิกสมัยใหม่ได้อย่างลงตัวไม่เหมือนใคร ส่วนวิธีการสั่งขนม-เครื่องดื่มต่างๆสามารถเดินมาตรงมาที่ Show Room กระจกหรือสั่งจากเล่มเมนูก็ได้ หน้าแรกจัดอยู่ในหมวดเค้กมูสรูปร่างน่ารักราคาเริ่มต้นที่ 185-450 บาท ต่อกันด้วยเครื่องดื่มสีสดใสราคาเริ่มต้นที่ 135-195 บาท เค้กบรรจุลงกระป๋องกับขนมทานเล่นเคี้ยวเพลินๆราคา 145-425 บาท เค้กวันเกิดก้อนใหญ่ราคา 790-1,290 บาทและครัวซองต์อบใหม่เอาใจสายคาเฟ่ ดูจากเมนูการตกแต่งแล้วคุณผู้หญิงน่าจะรักเลยครับ
ต่อกันด้วยร้านที่ 3 นี้มีชื่อว่า "เอวรีล กูร์เมต์ แอนด์ บอร์ดิเยร์ ซีเล็กชั่น" เป็นศูนย์รวมวัตถุดิบคุณภาพระดับพรีเมี่ยมจากแหล่งผลิตชั้นยอดในประเทศฝรั่งเศสและยุโรปทั้งแฮม/ซาลามี่/ชีสชนิดต่างๆ แบบเดียวกับที่เคยทานมาในโรงแรม-ร้านอาหารชั้นนำในประเทศไทยก็ถูกส่งมาจากร้านนี้เพราะเป็น Supplier รายใหญ่มาเปิดหน้าร้าน เพื่อเป็น Show Room ให้กับลูกค้าทั่วไป-นักธุรกิจได้มาชิมและตัดสินใจซื้อไปทานหรือจำหน่ายต่อในอนาคต โดยเมนูอาหารที่ร้านจะเน้นไปทาง Comfort Food ง่ายๆเอาไว้ทานคู่กับไวน์ การตกแต่งร้านเป็นเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่สีดำเข้มในตู้กระจกเต็มไปด้วยวัตถุดิบถูกแขวน-แช่เย็นเอาไว้ชิ้นใหญ่คอยตัดเสิร์ฟแบ่งเมื่อมีคนมาสั่ง ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นโต๊ะให้นั่งมุมเล็กๆแต่หรูหราด้วยพื้นไม้สีเข้มผนังหินอ่อนแผ่นใหญ่ราวกับอยู่ในร้าน Fine Dining แต่เปิดโล่งมีความคล้ายกับอยู่ใต้ชายคาริมถนนในประเทศฝรั่งเศส ส่วนอาหารไม่ได้มีแค่ที่เห็นอยู่ในตู้กระจกเท่านั้นขอเล่มเมนูมาเปิดกันครับ
อย่างที่บอกไปเบื้องต้นแล้วว่าร้านนี้เน้น Comfort Food ทานง่ายเข้ากับไวน์ เริ่มต้นด้วยสลัดต่างๆราคาเริ่มต้นที่ 190-320 บาท แซนด์วิชและฮอทด็อกราคาเริ่มต้นที่ 220-430 บาท เมนูจานหลักกินง่ายมีแค่ 4 อย่างราคาเริ่มต้นที่ 240-890 บาท ซุปสไตล์ฝรั่งถ้วยละ 160-220 บาท Charcuterie หรือ ชาร์คูเตอรี เป็นเนื้อตากแห้ง/ชีส/ผลไม้ต่างๆวางบนบอร์ดไม้สไตล์ฝรั่งเศสมีตั้งแต่ขนาดเล็กราคา 120-299 บาท ไปจนถึงขนาดใหญ่ใส่วัตถุดิบรวมกว่า 5 ถึง 8 ชนิดราคาเริ่มต้นที่ 695-990 บาท พร้อมเครื่องเคียงให้กินคู่กันเป็น Side Dish ราคา 60-110 บาท ไปจนถึงของหวานเป็นโยเกิร์ตต้นตำรับและผสมเลมอนกับผลไม้ราคาถ้วยละ 120 บาท สายชีสต้องหลงรักกับถาดรวมชีส 4 ชนิดและ 6 ชนิดราคา 695-990 บาท สุดท้ายเป็นเครื่องดื่มทั้ง ชา/น้ำเปล่า/น้ำแร่/น้ำแร่อัดแก๊สและน้ำอัดลมราคาเริ่มต้นที่ 40-110 บาท ผู้คลั่งไคล้ Cheese กับ Cold Cut ตัวจริงต้องถูกใจร้านนี้อย่างแน่นอนครับผม
ตามมาด้วยร้านที่ 4 มีชื่อว่า "เอลมาร์" จำหน่ายซีฟู้ดสดใหม่คุณภาพสูงระดับพรีเมี่ยมนำเข้าจากทั่วโลก โดยได้จำลองบรรยากาศทั้งหมดให้คล้ายกับอู่ต่อเรือเก่าๆในหมู่บ้านชาวประมงของประเทศฝรั่งเศส โดดเด่นด้วยบาร์กลางร้านที่ออกแบบราวกับเรือใบขนาดใหญ่จอดเทียบท่าเพื่อขนส่งวัตถุดิบที่เพิ่งจับขึ้นมาจากมหาสมุทรวางเรียงสวยงามบนน้ำแข็งพร้อมติดป้ายราคาแบบเดียวกับแผงตลาดปลาตั้งอยู่ริมทะเล (มีการปรับเปลี่ยนไปในแต่ละวันจึงใช้ป้ายที่สามารถเขียนแล้วลบได้อย่างในรูป) เน้นความปลอดโปร่งโล่งสบายด้วยไฟโทนส้มกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนราวกับว่ากำลังนั่งทานซีฟู้ดริมทะเลพร้อมรับแสงแดดนวลตา พร้อมชมเชฟประจำร้านปรุงอาหารให้ชมทุกๆขั้นตอนภายในครัวแบบเปิดโล่งไร้ผนังปกปิดแสดงถึงความมั่นใจในคุณภาพของวัตถุดิบและรสชาติในแต่ละจานได้เป็นอย่างดีเลยครับ
เมนูของที่ร้านก็เน้นไปทางซีฟู้ดเป็นหลักเริ่มต้นด้วย คาเวียร์เสิร์ฟละ 15/30 และ 50กรัม มีให้เลือกถึง 3 เกรดราคาเริ่มต้นที่กระปุกละ 1,570-10,285 บาท คาเวียร์ขนาด 5 กรัม เสิร์ฟพร้อมอาหารทั้งหมด 3 เมนู ราคาเริ่มต้น 600-650 บาท หอยแมลงภู่และหอยกาบนึ่งไวน์ขาวราดซอสมะเขือเทศสดราคา 550-680 บาท ซีฟู้ดรวมปรุงสุกจานเล็กกับใหญ่ราคา 2,980-4,895 บาท หอยนางรมทานสดเสิร์ฟเป็นตัวราคา 200-380 บาท หอยนางรมแบบปรุงสุกราดซอสต่างๆราคาเมนูละ 220 บาท หอยนางรมสดแช่เย็นจากภูมิภาคต่างๆทั่วโลกทั้งหมด 8 ชนิด เลือกได้ว่าอยากทานแค่ตัวเดียว-ครึ่งโหล 6 ตัวหรือโหลนึง 12 ตัว ราคาเริ่มต้นที่ 160-3,220 บาท หากไม่ทานของสดก็มีซีฟู้ด-เนื้อย่างเสิร์ฟเป็นจานและต่อ 100 กรัมมาพร้อมซอส 5 ชนิด ราคาเริ่มต้นที่ 285-1,600 บาท เครื่องเคียงไว้ทานคู่กับจานหลักราคา 95-165 บาท เมนูโรล/ข้าวและก๋วยเตี๋ยวพร้อมทานราคา 450-1,070 บาท ซุปสลัดราคา 350-380 บาท จานซีฟู้ดเรียกน้ำย่อยราคา 280-1,070 บาท นอกนั้นเป็นเครื่องดื่มและแอลกอฮอล์ ส่วนใครที่ไม่สะดวกนั่งทานในร้านก็สั่งกลับบ้านหรือช็อปปิ้งสินค้าสำเร็จรูปพร้อมทานนำเข้าจากต่างประเทศได้ที่ตู้เย็นขนาดใหญ่ข้างๆกันก็ได้มีทั้งแยม/โยเกิร์ต/ปลาซาร์ดีนกระป๋องในซอสต่างๆ/Cold Cut/ซอสบรรจุใส่กระปุก/สลัดพร้อมทาน/ขนมปังและเครื่องดื่มแช่เย็น อยากกินอะไรก็หยิบแล้วเดินเข้าไปคิดเงินภายในร้าน "เอลมาร์" ที่อยู่ใกล้กันได้เลยครับ
ส่วนร้านที่ 5 นี้มีชื่อว่า "อิซาเบลล่า อิตาเลียน โรติสเซอรี บาย อันเดรีย" ร้านอาหารอิตาเลียนแห่งใหม่ของเชฟ "อันเดรีย โบนิฟาโช" เจ้าของร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดังระดับตำนานเมืองหัวหิน เน้นไปที่เมนูเด็ดอย่างพิซซ่าอบเตาถ่าน-โฮมเมดพาสต้าและไก่อบในเตาย่างสุดพิเศษนำเข้าราคาแพงจากประเทศอิตาลี โดยเน้นเป็นครัวเปิดโล่งเพื่อให้ลูกค้าสามารถมองเห็นการทำงานของเชฟได้อย่างชัดเจนในทุกมุม ส่วนบรรยากาศภายในเน้นความเป็นบิสโทรคล้ายกับกำลังนั่งทานข้าวภายในบ้านสไตล์ยุโรปย้อนยุคสบายๆ เน้นพื้นไม้สีเข้มกับผนังก่ออิฐแดงพร้อมเฟอร์นิเจอร์สุดหรูให้อารมณ์แบบเดียวกับร้าน Fine Dinning หากใครไม่สะดวกนั่งทานที่ร้านเขามีเมนูอร่อยด่วนอย่าง "พิซซ่าอบเตาถ่าน" เริ่มต้นเพียงชิ้นละ 80 บ. ส่วนรายการอื่นๆจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้นมาดูที่เล่มรายการอาหารฉบับเต็มกันครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น