9 เดือนเต็มกับการ WFH 100% อยู่แต่บ้าน ทำงาน สั่งของมากิน ช้อปปิ้งออนไลน์ ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตเดือนละครั้ง.... เชื่อว่าหลายคนก็คงมีวิถีชีวิตคล้ายๆ เราบ้างหล่ะ ช่วงปลายๆ ปี พอยอดคนติดโควิดเริ่มลดลง หวังใจว่าสถานการณ์คงดีขึ้น...ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่แล้ว...น้องโอมิครอน...ก็มาอีกจ้า

เอาไง...เอาไงดี (ถามใจตัวเอง)

คำตอบคือ.....ก็เที่ยวสิคะ รออะไร เที่ยวทิพย์ต่อไปไม่ไหวแล้วจ้า ขอเปลี่ยนเป็นให้เป็นทริปเที่ยว ชาร์จใจให้มันฟูขึ้นมาบ้าง

...ไปคะ ไปเที่ยวกัน....😊😊😊

ทริปนี้เมนหลักเราเที่ยวชะอำ แต่พักที่หัวหิน เลือกที่พักก็ไม่ยากเพราะมีในใจแล้ว คือ เทวาศรม หัวหิน จากที่เคยได้ไปพักที่เขาหลัก จ.พังงา แล้วติดใจ ครั้งนี้เลยมาลองใช้บริการที่หัวหินดูบ้าง

ที่แรกที่เราแวะคือ จันทร์จ้าว Cafe & Restuarant เรามาถึงประมาณ 11 โมง มีรถจอดอยู่ 3 คัน เราเป็นคันที่ 4 ....ดีเลย คนยังมาไม่เยอะ เรารวบมื้อเช้ากับมื้อกลางวัน ฝากท้องที่นี่ไปเลย

ที่จันทร์จ้าวเป็น คาเฟ่เรียบๆ ตกแต่งแบบมินิมอล... หน้าร้านดีไซน์เก๋เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว ส่วนด้านในมีพระจันทร์เต็มดวง มองผ่านไปจากซุ้มประตูสีขาว และซุ้มปูนทรงโค้ง รับกับความเป็นทรงกลมของพระจันทร์ จุดนี้ถือเป็นมุมถ่ายรูปที่ต้องมาโดน ย้ำๆๆ เลยว่า...สายถ่ายรูปต้องไม่พลาดมุมมหาชนมุมนี้นะ จริงๆ ร้านนี้ตอนเย็นไปจนถึงหลังพระอาทิตย์ก็สวย จะได้ภาพ Silluette ที่เป็นเงาคนอยู่ด้านหน้าดวงจันทร์  ลองตัดสินใจดูว่าอยากได้ภาพแบบไหน พระจันทร์กลางวัน หรือพระจันทร์กลางคืน

เรานั่งทานอาหารไปสักพัก เงยหน้ามาอีกทีคนเต็มร้าน โต๊ะด้านในห้องแอร์เต็มแล้วจ้า ช่วงสักเที่ยงถึงบ่ายโมงกว่าๆ คือพีคจริง วันที่เราไปตรงกับวันเสาร์ ถ้าใครตั้งใจมาทานมื้อกลางวันด้วย แนะนำมาก่อนเที่ยงจะดีกว่า จะได้รออาหารไม่นาน และถ่ายรูปได้สบายๆ ด้วย

เมนูที่เราสั่งมาทาน มีสลัดไก่กรอบ รสชาติไก่หมักมาได้จัดจ้านเข้าเนื้อ สเต็กหมูสันนอกจานนี้คือดี น้ำซอสที่ราดมาด้านบนคือเราแบบไม่ต้องใช้ซอสมะเขือเทศเลย จิ้มน้ำเกรวี่ก็อร่อยเลิศแล้ว เฟรนซ์ฟรายทอดได้กรอบดี เครื่องดื่มเราสั่งเป็นลาเต้เย็น กับชามะนาว ใครชอบชามะนาวที่ชงแบบโบราณ รสชาเข้มข้น คงจะถูกใจแบบเราแน่นอน

อิ่มท้องแล้ว...เข้าที่พักกันจ้า 

เทวาศรมหัวหิน เป็นรีสอร์ทขนาดเล็ก ตกแต่งสไตล์วินเทจ   ห้องพักที่จองมาครั้งนี้ คือ Seaside Suite ใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกัน เราไม่ได้หาข้อมูลห้องพักก่อนไป ตอนพนักงานเดินมาส่งที่ห้อง เปิดห้องมาคือว้าว...เลยจ้า ห้องใหญ่จัง มีแบ่งสัดส่วนพื้นที่การใช้งานเป็นโซนๆ เปิดเข้ามาสิ่งแรกที่เจอคือ โซนนั่งเล่นดูทีวี มีโซฟาขนาดใหญ่ และชอบมากคือที่วางขา 

ถัดมาเป็นทางเดินเข้าโซนห้องน้ำ และตู้เก็บสัมภาระ ที่ดีไซน์มาให้เป็นผนังห้องน้ำไปในตัว มีช่องประตูบานเล็กๆ 2 บาน เปิดเข้าสู่ห้องน้ำ พื้นที่ในห้องน้ำกว้างมาก และแบ่งสัดส่วนใช้งานลงตัว ส่วนโซนด้านในสุดจะเป็นห้องนอน และระเบียงที่เห็นวิวสวนและวิวทะเลนิดๆ 

นอกเหนือจาก Welcome Drink น้ำอัญชัญมะนาว ขนมครก และขนมอาลัว พวกผลไม้และของในตู้เย็นทั้งหมด หยิบทานได้ ไม่มีชาร์จเพิ่ม....อันนี้คือดีมาก เวลาเรามาพักโรงแรมดีๆ แบบนี้ เราจะใช้เวลาให้คุ้มค่ากับกิจกรรมหรือสิ่งที่โรงแรมเตรียมไว้ให้เรา  ช่วงบ่ายที่เช็คอิน มีคลาสขนมไทยให้ได้ลองทำกันนะ ช่วงเช้า 7-8 โมง มีคลาสโยคะสำหรับผู้เริ่มต้น และใครสนใจนวดไทย มีบริการที่ห้องพักเลยจ้า สามารถแจ้งนัดเวลาที่ล้อบบี้ได้

...พอตกเย็นที่ชายหาดหน้าโรงแรมคนจะคึกคักหน่อย เด็กๆ มาเล่นทราย และขี่ม้า ที่มีให้บริการอยู่หลายเจ้า อันนี้สนใจเข้าไปทักพี่ๆ เค้าได้เลยนะ

ส่วนเราก็หยิบขนมและเครื่องดื่มในตู้เย็น ใส่ตะกร้าปิคนิคที่เตรียมมา ถือมาทานตรงเก้าอี้ริมหาด นั่งรับลม ชมวิว ชิลๆ ไปจนฟ้ามืด...

ส่วนใครชอบชมพระอาทิตย์ขึ้น ตื่นเช้ามาชมได้ที่หน้าหาดเลย บรรยากาศดีมากๆ เลย....

เรื่องอาหารที่นี่ ก็อร่อยตามมาตรฐานของเทวาศรม ไม่ว่าจะมื้อไหนก็ทานที่ห้องอาหาร Deva Bistro มื้อเย็นวันเสาร์ที่เราไปถึงนั้น มี Seafood Grill จะแบบเลือกชั่งตามน้ำหนักแล้วให้พ่อครัวย่างให้ หรือสั่งเป็นเซ็ทในเมนูก็ได้ เราสั่งเป็นเซ็ททาน 2 คน แล้วก็ซุปปูกับซุปเห็ด ออเดิรฟเป็นข้าวเกรียบกุ้งที่ รร. ให้ทุกโต๊ะอยู่แล้ว ส่วนของหวานเราได้ฟรีคูปองจากโรงแรม เมื่อทานอาหารครบ 500 บาท ก็ขอรับสิทธิ์ได้เลย อร่อยใช้ได้เลยนะ เครฟนิ่มราดด้วยซอสส้ม ไม่หวานมาก ทานกับไอศครีมวนิลา เข้ากันดีมาก

สำหรับอาหารเช้าก็เป็นบุฟเฟ่ มี ABF พวกไส้กรอก แฮม สลัด ไข่ประเภทต่างๆ และอาหารไทย เช่น ข้าวต้มปลา ข้าวผัด ข้าวเหนียวหมูปิ้ง น้ำเต้าหู้+ปาท่องโก๋ หมวดขนมปังและเบเกอรี่ก็มี โยเกิร์ตและแยมแบบโฮมเมด 2 อันนี้เราปลื้มมาก โดยรวมอาหารอาจจะไม่เยอะหลากหลายมาก แต่ทานแล้วรู้สึกได้ถึงการใช้วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ และอร่อยทุกอย่าง  

ทานมื้อเช้าเสร็จก็ไปเดินย่อยกันหน่อย.... ได้รูปมา 1 กรุบ