JJNY : ติดเชื้อ7,422 เสียชีวิต12│จับตาโอมิครอน"BA.2"แทนที่"BA.1"│นทท.ผวาทะเลระยอง│จับตา!ชงครม.เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.

ยอดติดเชื้อโควิดวันนี้ 7,422 คน ป่วยสะสม 2.2 แสน เสียชีวิต 12
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3160496

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 จำนวน รวม 7,422 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 7,161 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 261 ราย ผู้ป่วยสะสม 224,529 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
 
หายป่วยกลับบ้าน 8,715 ราย หายป่วยสะสม 174,271 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 83,014 ราย และเสียชีวิต 12 ราย
 


นักวิทยาศาสตร์จับตาโอมิครอน สายพันธุ์ "BA.2" แทนที่ "BA.1" ในเอเชียและยุโรป
https://www.tnnthailand.com/news/covid19/103563/

นักวิทยาศาสตร์กำลังจับตาไวรัสโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย “BA.2” สายพันธุ์พี่น้องของ BA.1 ซึ่งมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เริ่มจะแซงสายพันธุ์ BA.1 ในหลายพื้นที่ของยุโรปและเอเชีย และยังพบเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยอื่น ๆ อีก คือ BA.1.1.529 และ BA.3

วันนี้ (1 ก.พ.65) สื่อต่างประเทศรายงานว่า ตามฐานข้อมูลติดตามไวรัสของหน่วยงานที่ชื่อว่า GISAID จนถึงวันที่ 25 ม.ค.65 พบว่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เชื้อไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์หลัก BA.1 ได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก และทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นมากในหลายประเทศ คิดเป็นอัตราส่วนราวร้อยละ 98.8 ของจำนวนผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสรายใหม่ทั้งหมด
 
แต่จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่า ในหลายประเทศมีรายงานว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ BA.2 กำลังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และนักวิทยาศาสตร์กำลังกังวลว่า เชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 อาจกำลังเข้ามาแทนที่สายพันธ์ BA.1 ในทวีปยุโรปและเอเชีย
 
เทรเวอร์ เบดฟอร์ด นักไวรัสวิทยาแห่งศูนย์มะเร็ง Fred Hutchinson ผู้ติดตามตรวจสอบการกลายพันธุ์ของโคโรนาไวรัส ระบุในทวิตเตอร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เวลานี้เชื้อโอมิครอน BA.2 มีอัตราส่วนราวร้อยละ 82 ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเดนมาร์ก ร้อยละ 9 ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอังกฤษ และร้อยละ 8 ในสหรัฐฯ โดยอ้างอิงจากข้อมูลของ GISAID และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (University of Oxford)
 
รายงานวิจัยบางชิ้นก่อนหน้านี้ชี้ว่า เชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ BA.2 อาจสามารถติดต่อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ BA.1 ซึ่งก็แพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วอยู่แล้ว โดยนักวิจัยในเดนมาร์กระบุว่า เชื้อ BA.2 อาจสามารถแพร่เชื้อได้ง่ายกว่า BA.1 ราว 1.5 เท่า
 
ส่วนงานวิจัยของสำนักงานความมั่นคงด้านสาธารณสุขของอังกฤษ หรือ HSA ชี้ว่า เชื้อ BA.2 มีอัตราการแพร่เชื้อภายในครอบครัว ประมาณร้อยละ 13.4 ขณะที่สายพันธุ์ BA.1 มีอัตราการแพร่เชื้อร้อยละ 10.3
 
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานว่า BA.2 จะสามารถหลบเลี่ยงวัคซีนได้มากกว่าหรือไม่ และก่อให้เกิดอาการโควิดรุนแรงมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งคำถามที่ว่าผู้ที่เคยติดเชื้อไวรัสโอมิครอน BA.1 มาแล้วยังสามารถติดเชื้อ BA.2 ด้วยได้หรือไม่
 
ด้าน องค์การอนามัยโลก ระบุว่า นอกจากเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ BA.1 และ BA.2 แล้ว ขณะนี้ยังพบเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยอื่น ๆ ได้แก่ BA.1.1.529 และ BA.3 ซึ่งทั้งหมดมีรหัสพันธุกรรมที่คล้ายกัน แต่ก็มีลักษณะบางอย่างที่กลายพันธุ์ไปจนอาจส่งผลให้เกิดความแตกต่างกันเช่นกัน.


 
นทท.ผวาทะเลระยอง ยกเลิกที่พักกว่า 70% - ทัพเรือแจงไม่พบคราบน้ำมันที่ชายหาด ชี้อาจมีเล็ดลอดบ้าง
https://ch3plus.com/news/program/277019
 
เมื่อเวลา 17.00 น.วานนี้  (31 ม.ค. 65) ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์น้ำมันรั่วจังหวัดระยอง หมู่บ้านสบาย สบาย หาดแม่รำพึง  พล.ร.ต.อภิชาต วรภมร รองโฆษกกองทัพเรือ และ พล.ร.ต.อาทร ชะระภิญโญ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมแถลงข่าว สถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหล บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล บ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน)
 
โดย พล.ร.ต.อาทร ชะระภิญโญ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 กล่าวว่า ขณะนี้ไม่พบคราบน้ำมันแล้ว  และภาพถ่ายทางอากาศจาก GISTDA และภาพถ่ายทางอากาศของกองทัพเรือ ก็ไม่พบคราบน้ำมันเช่นกัน
 
ยืนยันว่าไม่พบคราบน้ำมันที่เป็นกลุ่มก้อน และแผ่นฟิล์มบางๆ ตลอดแนวชายฝั่งอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด แต่อาจจะมีคราบน้ำมันเล็ดรอดไปได้ แต่มีจำนวนน้อยมาก ซึ่งยังติดตามและตรวจสอบในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ส่วนระยะยาวจะดำเนินการฟื้นฟูในส่วนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวและประชาชน
 
ด้านนายสุพจน์ ต่ออาจหาญ ปลัดจังหวัดระยอง กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เป็นต้นมา จ.ระยอง ยังไม่เคยมีคำสั่งห้ามปิดสถานที่ใดๆ แต่ได้ขอความร่วมมือ งดลงเล่นน้ำบริเวณชายหาดที่พบคราบน้ำมัน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยว ส่วนแหล่งท่องเที่ยวและชายหาดอื่น ยังสามารถลงเล่นน้ำได้ตามปกติ
 
นายธวัช เจนการ หัวหน้าอุทยานฯ เขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด กล่าวว่า ในส่วนพื้นที่ของอุทยานฯ พบว่า หาดแม่รำพึงได้รับผลกระทบ เบื้องต้นได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง เอาผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานฯแห่งชาติ และ พ.ร.บ.ส่งเสริมรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พร้อมกับจะมีการประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อแจ้งความเอาผิดเพิ่มเติมต่อไป
 
ส่วน นางสริญทิพญ ทัพมงคลทรัพย์ นายกสมาคมท่องเที่ยวเกาะเสม็ด บอกว่า ภาคธุรกิจท่องเที่ยวเกาะเสม็ด ในช่วงที่ผ่านมาประเมินเบื้องต้นสูญเสียรายได้ ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 500 ล้านบาท หากไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามทุกอาชีพหยุดชะงัก ทางผู้ประกอบการอยากให้ภาครัฐ ส่งเสริมเเหล่งเงินทุนเม็ดเงินที่จะมาฟื้นฟูกิจการ ให้ผู้ประกอบการเกาะเสม็ดเดินหน้าต่อไปได้
 
ผู้ประกอบการทุกคนอยากให้มีมาตรการป้องกันเเก้ไขปัญหาที่ดีกว่านี้ เพราะครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้รับผลกระทบ ไม่ใช่เเค่ภาคการท่องเที่ยวอย่างเดียว กระทบภาคธุรกิจ กระทบทรัพยกรธรรมชาติ ที่เราไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ จะต้องคุยกันว่าทำอย่างไร
 
ภาครัฐต้องเข้มงวดจริงจัง ต้องวางกฎออกมาอีกหนึ่งฉบับ เพราะเเต่ละกระทรวงกฎหมายต่างกัน ทำอย่างไรก็ได้ ให้ได้รับความผิดให้ได้ ไม่ใช่ปล่อยปะละเลย เราเข้าใจอุบัติเหตุเกิดไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ถ้าเกิดขึ้นเเล้ว บริษัทต้นเหตุก็จะต้องรับผิดชอบที่ทำให้เกิดผลกระทบ ไม่มีใครอยากฟ้องร้องเเละร้องเรียน ต้องเข้ามาเร่งฟื้นฟู เยียวยา อย่างเร่งด่วน ตอนนี้ยังให้โอกาสที่จะเร่งเก็บกู้คราบน้ำมัน
 
เพราะนักท่องเที่ยวไม่มั่นใจ ว่าน้ำทะเลเล่นได้ไหม อาหารทะเลกินได้หรือไม่ ก่อนหน้านี้ลงวัตถุดิบไว้จำนวนมาก พอถึงเวลาขายไม่ได้เลย ได้รับผลกระทบ ขณะนี้ไม่ว่าคราบน้ำมั่นดิบจะเข้าชายหาดหรือไม่เข้าชายหาด บนเกาะเสม็ด ก็ได้รับผลกระทบหนัก
 
ล่าสุดห้องพักถูกยกเลิกไปแล้ว 70% พร้อมเรียกร้องเปิดเผยความจริง ปริมาณน้ำมันเท่าไหร่ ปริมาณสารเคมีที่ใช้ในการเก็บกู้ ใช้ไปมากขนาดไหน สารเคมีจะตกค้างนานแค่ไหน สำหรับเรื่องการชดเชยเยียวยาเป็นสิ่งที่บริษัทน้ำมันที่เป็นต้นเหตุ ต้องทำอยู่เเล้ว เเต่ต้องไปหาวิธีการเเก้ไขระยะยาวไม่ให้เกิดขึ้นอีก 
 
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/oh26Zoelp2Y
 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่