บทที่4
ผ่านไปอีกวันสำหรับการเข้ามาเป็นคุณหญิงของบ้านพิชาญชัยณรงค์ แล้วก็มาถึงวันนี้ วันที่ห้องซึ่งถูกปิดไว้จะได้เผยตัวออกมา
สุดารอเวลาให้ลำเจียกออกไปจ่ายตลาดเสียก่อน จากนั้นจึงขอตัวจากเจ้าคุณออกมาทำธุระส่วนตัวนอกห้อง ความมุ่งหมายของเธออยู่ที่ห้องเก็บของชั้นล่าง ไม่นานเธอก็มาปรากฏตัวอยู่หน้าห้อง
บานประตูไม้แบบสองบานปิดเข้าหากันถูกคล้องไว้ด้วยแม่กุญแจตัวใหญ่แน่นหนา บัดนี้สุดาที่แต่งกายทะมัดทะแมงด้วยเสื้อเชิร์ตแบบผู้ชายกับกางเกงทรงตรง ก็ลงมายืนมองดูมันด้วยความมุ่งหมายในใจ และดูเหมือนมันก็ประหนึ่งเชิญชวนให้เธอเข้าไปดูข้างใน ขยับลูกกุญแจในมือ เธอเพิ่งได้มันมาจากแม่บ้านชรา ผู้มีท่าทางหยิ่งผยองอวดดีเมื่อวานนี้เอง และเธอกำลังจะไขประตูเข้าไป
เมื่อบานประตูไม้ถูกเปิดออก อากาศเย็นยะเยือกภายในก็พุ่งออกมาปะทะร่างจนผงะ สุดาชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวเข้าไป เพราะปรากฏว่าข้างในห้องนอกจากความเย็นยะเยือกแบบแปลก ๆ แล้ว ยังมืดสนิท คลำหาสวิทซ์ไฟที่ปกติจะอยู่ที่ผนังใกล้กับประตูก็ไม่พบแต่อย่างใด เธอจึงงัดเอาไฟฉายกระบอกเล็กซึ่งเตรียมมา ออกจากกระเป๋ากางเกง กดแสงสว่างจากไฟฉายสาดส่องให้เห็นภายในห้อง ที่เต็มไปด้วยข้าวของมากมายหลายอย่าง มีตั้งแต่โต๊ะ เก้าอี้ ที่ยังอยู่ในสภาพดีใช้งานได้ ของใช้ผู้หญิงวางตั้งอย่างเป็นระเบียบ โต๊ะเครื่องแป้งแกะสลักด้วยลวดลายสวยงามวางชิดผนัง ลังกระดาษหลายลังซึ่งอาจเป็นลังใส่เสื้อผ้าของคุณหญิงอนงค์วางซ้อนเป็นชั้น ๆ มีกล่องหวายสานอีกหลายกล่อง หญิงสาวแง้มออกดูทีละกล่องด้วยความใคร่รู้ ซึ่งก็เป็นไปตามคาด มันเป็นเพียงลังกระดาษและกล่องหวายสานที่บรรจุเสื้อผ้าเครื่องใช้ของสตรีทั้งสิ้น....ไม่เห็นมีของมีค่า เช่น เครื่องประดับมีราคาอะไรเลย หญิงสาวแอบผิดหวังเล็กน้อย
หมดความสนใจต่อสิ่งเหล่านั้น เธอค่อย ๆ เดินอย่างระมัดระวังไปตามช่องว่างระหว่างข้าวของ ลึกเข้าไปในห้อง ถือไฟฉายกราดไปตามผนังห้อง เพื่อดูว่าสวิทซ์ไฟอยู่ตรงไหน แต่กลับไม่เจอสวิทซ์ไฟ หรือแม้แต่หลอดไฟฟ้าสักหลอดเดียว หรือห้องนี้จะไม่ได้ติดตั้งหลอดไฟฟ้าเอาไว้ เป็นไปได้ยังไง!
และเมื่อส่องไฟฉายดูจนทั่วห้อง เธอก็ต้องอึ้งไปอีกรอบ เมื่อพบว่าห้องนี้ก็ไม่มีหน้าต่าง...
อากาศเมื่อตอนเดินเข้ามาว่าเย็นยะเยือกแล้ว กลับหนาวเย็นจับขั้วหัวใจขึ้นไปอีก หญิงสาวค่อย ๆ ก้าวเข้าไปข้างใน แต่แล้วก็ต้องแปลกใจ ที่พอพ้นลังกระดาษพวกนั้นเข้ามา ด้านหลังของห้องกลับดูโล่งกว่าที่คาด แต่ทั่วทั้งห้องก็มีของแค่นี้เอง สังเกตเห็นว่าตามพื้นห้องไม่ค่อยมีฝุ่นจับเท่าไหร่ แสดงว่าจะต้องมีใครเข้ามาทำความสะอาดในห้องนี้ให้ แม้จะไม่บ่อยครั้งนัก
กวาดแสงไฟฉายไปที่ผนังห้องด้านในสุด เห็นแขวนภาพวาดขนาดต่าง ๆ ติดผนังไว้เรียงราย มีภาพหนึ่งที่น่าสนใจหน่อย เป็นภาพวาดหญิงสาวขนาดใหญ่เท่าตัวคนจริง
สาดแสงไฟส่องดูรูปภาพ...ก็ไม่เห็นมีอะไรให้น่าตื่นใจ มันก็เป็นแค่ภาพวาดของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งคงเป็นภริยาคนก่อนของเจ้าคุณพิชาญนั่นเอง ถอนหายใจอย่างผิดหวัง ก่อนเบนแสงไฟส่องไปที่อื่นอีก พลันก็มีบางอย่างสะกิดใจให้ต้องหยุดชะงัก สุดาหันกลับไปฉายแสงไฟดูภาพขนาดใหญ่นั้นอีกที ทันใดนั้นหญิงสาวก็ใจหายวาบ สั่นสะท้านไปทั้งตัวและหัวใจ
ใบหน้าขาวของผู้หญิงในภาพวาด และดวงตาที่จ้องมองมา มันช่างคล้ายกับใบหน้าขาวโพลนของผู้หญิงในความฝันคนนั้น...โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นในภาพ เมื่อต้องกับแสงไฟฉายก็คล้ายมีจุดสีแดงขังอยู่ และทุกครั้งที่มือถือไฟฉายขยับ บนภาพก็ปรากฏเงาไหววูบวาบตามไปด้วย ริมผีปากของผู้หญิงในภาพ คล้ายจะเผยอออกน้อย ๆ สายตาจ้องมองตรงมาแน่แน่ว...ไม่มีอะไร มันต้องแค่เป็นอาการตาฝาดไปเท่านั้น...สุดาพยายามบอกกับตัวเอง ความกลัวทำให้หูตาของคนเราผิดเพี้ยนไปได้
ไม่…ต้องไม่มอง ถ้าเกิดภาพมันเคลื่อนไหวขึ้นมาได้จริง อาจทำให้กลัวจนเป็นบ้าไปได้ การที่ต้องมายืนดูภาพคนตายในสถานที่มืดสลัวเพียงลำพัง อาจทำให้สติแตกเอาได้ง่าย
(มีต่อ)
อาถรรพ์คนเล่นของ ตอน คาถาซ่อนวิญญาณ EP.5
ผ่านไปอีกวันสำหรับการเข้ามาเป็นคุณหญิงของบ้านพิชาญชัยณรงค์ แล้วก็มาถึงวันนี้ วันที่ห้องซึ่งถูกปิดไว้จะได้เผยตัวออกมา
สุดารอเวลาให้ลำเจียกออกไปจ่ายตลาดเสียก่อน จากนั้นจึงขอตัวจากเจ้าคุณออกมาทำธุระส่วนตัวนอกห้อง ความมุ่งหมายของเธออยู่ที่ห้องเก็บของชั้นล่าง ไม่นานเธอก็มาปรากฏตัวอยู่หน้าห้อง
บานประตูไม้แบบสองบานปิดเข้าหากันถูกคล้องไว้ด้วยแม่กุญแจตัวใหญ่แน่นหนา บัดนี้สุดาที่แต่งกายทะมัดทะแมงด้วยเสื้อเชิร์ตแบบผู้ชายกับกางเกงทรงตรง ก็ลงมายืนมองดูมันด้วยความมุ่งหมายในใจ และดูเหมือนมันก็ประหนึ่งเชิญชวนให้เธอเข้าไปดูข้างใน ขยับลูกกุญแจในมือ เธอเพิ่งได้มันมาจากแม่บ้านชรา ผู้มีท่าทางหยิ่งผยองอวดดีเมื่อวานนี้เอง และเธอกำลังจะไขประตูเข้าไป
เมื่อบานประตูไม้ถูกเปิดออก อากาศเย็นยะเยือกภายในก็พุ่งออกมาปะทะร่างจนผงะ สุดาชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวเข้าไป เพราะปรากฏว่าข้างในห้องนอกจากความเย็นยะเยือกแบบแปลก ๆ แล้ว ยังมืดสนิท คลำหาสวิทซ์ไฟที่ปกติจะอยู่ที่ผนังใกล้กับประตูก็ไม่พบแต่อย่างใด เธอจึงงัดเอาไฟฉายกระบอกเล็กซึ่งเตรียมมา ออกจากกระเป๋ากางเกง กดแสงสว่างจากไฟฉายสาดส่องให้เห็นภายในห้อง ที่เต็มไปด้วยข้าวของมากมายหลายอย่าง มีตั้งแต่โต๊ะ เก้าอี้ ที่ยังอยู่ในสภาพดีใช้งานได้ ของใช้ผู้หญิงวางตั้งอย่างเป็นระเบียบ โต๊ะเครื่องแป้งแกะสลักด้วยลวดลายสวยงามวางชิดผนัง ลังกระดาษหลายลังซึ่งอาจเป็นลังใส่เสื้อผ้าของคุณหญิงอนงค์วางซ้อนเป็นชั้น ๆ มีกล่องหวายสานอีกหลายกล่อง หญิงสาวแง้มออกดูทีละกล่องด้วยความใคร่รู้ ซึ่งก็เป็นไปตามคาด มันเป็นเพียงลังกระดาษและกล่องหวายสานที่บรรจุเสื้อผ้าเครื่องใช้ของสตรีทั้งสิ้น....ไม่เห็นมีของมีค่า เช่น เครื่องประดับมีราคาอะไรเลย หญิงสาวแอบผิดหวังเล็กน้อย
หมดความสนใจต่อสิ่งเหล่านั้น เธอค่อย ๆ เดินอย่างระมัดระวังไปตามช่องว่างระหว่างข้าวของ ลึกเข้าไปในห้อง ถือไฟฉายกราดไปตามผนังห้อง เพื่อดูว่าสวิทซ์ไฟอยู่ตรงไหน แต่กลับไม่เจอสวิทซ์ไฟ หรือแม้แต่หลอดไฟฟ้าสักหลอดเดียว หรือห้องนี้จะไม่ได้ติดตั้งหลอดไฟฟ้าเอาไว้ เป็นไปได้ยังไง!
และเมื่อส่องไฟฉายดูจนทั่วห้อง เธอก็ต้องอึ้งไปอีกรอบ เมื่อพบว่าห้องนี้ก็ไม่มีหน้าต่าง...
อากาศเมื่อตอนเดินเข้ามาว่าเย็นยะเยือกแล้ว กลับหนาวเย็นจับขั้วหัวใจขึ้นไปอีก หญิงสาวค่อย ๆ ก้าวเข้าไปข้างใน แต่แล้วก็ต้องแปลกใจ ที่พอพ้นลังกระดาษพวกนั้นเข้ามา ด้านหลังของห้องกลับดูโล่งกว่าที่คาด แต่ทั่วทั้งห้องก็มีของแค่นี้เอง สังเกตเห็นว่าตามพื้นห้องไม่ค่อยมีฝุ่นจับเท่าไหร่ แสดงว่าจะต้องมีใครเข้ามาทำความสะอาดในห้องนี้ให้ แม้จะไม่บ่อยครั้งนัก
กวาดแสงไฟฉายไปที่ผนังห้องด้านในสุด เห็นแขวนภาพวาดขนาดต่าง ๆ ติดผนังไว้เรียงราย มีภาพหนึ่งที่น่าสนใจหน่อย เป็นภาพวาดหญิงสาวขนาดใหญ่เท่าตัวคนจริง
สาดแสงไฟส่องดูรูปภาพ...ก็ไม่เห็นมีอะไรให้น่าตื่นใจ มันก็เป็นแค่ภาพวาดของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งคงเป็นภริยาคนก่อนของเจ้าคุณพิชาญนั่นเอง ถอนหายใจอย่างผิดหวัง ก่อนเบนแสงไฟส่องไปที่อื่นอีก พลันก็มีบางอย่างสะกิดใจให้ต้องหยุดชะงัก สุดาหันกลับไปฉายแสงไฟดูภาพขนาดใหญ่นั้นอีกที ทันใดนั้นหญิงสาวก็ใจหายวาบ สั่นสะท้านไปทั้งตัวและหัวใจ
ใบหน้าขาวของผู้หญิงในภาพวาด และดวงตาที่จ้องมองมา มันช่างคล้ายกับใบหน้าขาวโพลนของผู้หญิงในความฝันคนนั้น...โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นในภาพ เมื่อต้องกับแสงไฟฉายก็คล้ายมีจุดสีแดงขังอยู่ และทุกครั้งที่มือถือไฟฉายขยับ บนภาพก็ปรากฏเงาไหววูบวาบตามไปด้วย ริมผีปากของผู้หญิงในภาพ คล้ายจะเผยอออกน้อย ๆ สายตาจ้องมองตรงมาแน่แน่ว...ไม่มีอะไร มันต้องแค่เป็นอาการตาฝาดไปเท่านั้น...สุดาพยายามบอกกับตัวเอง ความกลัวทำให้หูตาของคนเราผิดเพี้ยนไปได้
ไม่…ต้องไม่มอง ถ้าเกิดภาพมันเคลื่อนไหวขึ้นมาได้จริง อาจทำให้กลัวจนเป็นบ้าไปได้ การที่ต้องมายืนดูภาพคนตายในสถานที่มืดสลัวเพียงลำพัง อาจทำให้สติแตกเอาได้ง่าย
(มีต่อ)