จากหัวข้อกระทู้   :  เมื่อลองสำรวจพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มสำเร็จรูปของคนไทยเหมือนคนไทยจะเป็นคนมีเงินอยู่นะ  เท่าที่เข้าร้านสะดวกซื้อไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อไหนก็ตามในเชลฟ์จะมีเครื่องดื่มบำรุงร่างกาย ความงามอยู่เกินครึ่งหรือเกิน 50% ไม่แน่ใจว่าคนที่ซื้อได้อ่านฉลากอย่างละเอียดหรือไม่!!! แต่จากโฆษณาของบางยี่ห้อประมาณว่ากินแล้วจะ สวย หล่อ ขาว ใส ดูดี มีออร่า  ซึ่งอาจจะจริงถ้ากินในปริมาณที่มากและเพียงพอต่อโดสที่สามารถเปลียนแปลงตามที่โฆษณาได้  แต่ซึ่งหากอ่านฉลากดี ๆ บางบี่ห้อผสมสารให้ความหวาน  หรือน้ำตาลประกอบไปด้วยเพื่อเพิ่มรสชาติ บางยี่ห้อก็ใส่สารกันเสียถึงแม้จะเป็นปริมาณที่ อย.อนญาตก็ตาม เดี๋ยวนี้ก็มีน้ำที่โฆษณาว่ากินแล้วจะผิวใส ผิวดี โดยอ้างว่าเพิ่มวิตามินต่าง ๆ เข้าไปเรียกว่า "น้ำวิตามิน" ซึ่งอ่านฉลากกันดี ๆ ว่า มีปริมาณกี่มิลลิกรัมและร่างกายคนเราต้องการวันละกี่มิลลิกรัม  และปริมาณเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอต่อการทำให้ได้ประโยชน์จริงๆ  

ราคาส่วนใหญ่ประมาณ 20-30 บาท มาพร้อมกับขวดพลาสติกที่ไม่สามารถรีไซเคิลยูสหรือมาใส่เครื่องดื่มอื่น ๆ ได้ เพราะไม่ใช่พลาสติกชนิดดี  แต่
คนไทยบางกลุ่มยังคงยอมควักเงินเพื่อซื้อน้ำดื่มเหล่านี้ และมีขายหลากหลายยี่ห้อมาก ณ ปัจจุบัน อยากสัมภาษณ์คนที่เค้าซื้อไปกินเหมือนกันว่า เค้าหวังผลอะไรหรือ แค่ "อร่อย"  และที่สำคัญเค้าพร้อมจะจ่ายเงินจำนวนนี้เพื่อแลกกับความอยากกินของตนเอง และไม่ได้เดือดร้อนใคร 

ประมาณว่าคนผลิตก็หวังผลกำไร เพราะต้นทุนต่ำแต่กำไรสูง  โดยแฝงด้วยการโฆษณาว่าดี  บำรุง สวย หล่อ เพราะกินน้ำดื่มที่เค้าตั้งใจผลิตขึ้นมา  
คือ ไม่มีหน่วยงานไหนที่เข้าตรวจสอบว่ามันมีประโยชน์ตามโฆษณาจริงหรือไม่  เพราะ หน่วยงานที่เข้าตรวจสอบหรือผู้ผลิตต้องขออนุญาตนั้น จะเป็นเพียงการตรวจประเมินวัตถุดิบและสิ่งเจอปนอาหารว่ามีปริมาณที่ถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร  ซึ่งบางครั้งการโฆษณาก็เกินขอบเขตความจริงไปแต่ไม่ผิดกฎหมาย เพราะยังไม่ได้เกินลิมิตที่กฎหมายกำหนด 

ถามว่ากินแล้วเป็นอะไรไหม  ไม่รู้!!!  เพราะถ้ากินในปริมาณพอดีๆ ตามใจปาก อยากกินก็กิน และมีการดูแลร่างกาย อออกำลังกาย แต่อย่าไปหวังผลจากการกินน้ำอะไรพวกนี้เลยจะดีกว่า   น้ำเปล่านั้นดีที่สุดแต่ต้องเป็นน้ำเปล่าที่สะอาดจริงๆ เท่านั้น 

ก็ยอมรับเลยว่า คนไทยบางกลุ่ม "รวย" เพื่อแลกกับความสุขกับการได้กินเครื่องดื่มเหล่านี้  เครื่องดื่มที่ประโยชน์น้อยนิดมากเมื่อเทียบกับราคาที่จัดว่าแพง 

ก็อย่างว่าแหละเงินใครเงินมัน  อยากกินอะไรเรื่องของเค้าจริงไหม แต่บางครั้งก็น่าคิดนะผู้บริโภคมีหลากหลายกลุ่ม  คนที่รู้ถึงข้อดีข้อเสียก็จะเลือกก่อนกินอะไรเข้าร่างกายเข้าไป แต่บางกลุ่มก็ยังขาดทักษะความรู้เชื่อแต่คำโฆษณา  ก็กลายเป็นเหยื่อของเค้าเพื่อกำไรมหาศาล 

กำไรมากอยู่นะเพราะมันมีผุดมาเรื่อยๆ  จนกลายเป็นส่วนนึงที่หาซื้อง่ายและมีหลากหลายย่ี่ห้อ  รสชาติ  

ฝากไว้ให้คิด  แต่ไม่ได้ห้ามนะ  แต่สำหรับจขกท. ไม่กินพวกนี้อยู่แล้ว  ไม่ใช่ไม่ได้มีเงินนะแต่แค่เลือกจะใช้เงินให้คุ้มค่าเท่านันเอง