ใครมีประสบการณ์เลิกกันแล้วแต่ยังอยู่ด้วยกันบ้างไหมครับ ? มาแชร์เหตุผลและวิธีรับมือกันเถอะ

       สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิพย์    ผมมีประสบการณ์เลิกกับแฟนแล้วแต่ยังอยู่ด้วยกันมาเล่าให้ฟังครับ  จริงๆอยากขอคำปรึกษาจากเพื่อนๆด้วยแหละ  555     คืองี้นะ  เราทั้งคู่อยู่คนละจังหวัดซึ่งไกลกันพอสมควรถ้าขับรถไปก็ใช้เวลาประมา5-6ชั่วโมงกว่าจะไปถึง  ด้วยความที่ตอนนั้นผมเดินทางไปหาเค้าบ่อยมาก  ประมาณเดือนล่ะ2ครั้งอ่ะครับ  แล้วทีนี้หลังจากคบกันได้ครึ่งปีผมก็ชวนเค้าย้ายมาเรียนที่กรุงเทพแล้วมาพักอยู่บ้านผมโดยสัญญาว่าจะให้อยู่จนเรียนจบเลย  เค้าก็ดูคิดหนักมากนะครับ  ใช้เวลาตัดสินใจนานเลย  ในใจผมก็ลุ้นนะว่าเค้าจะยอมมาไหม  แต่ทุกคนก็น่าจะเดาออกเนอะว่าเค้าจะมามั๊ย ดูจากชื่อกระทู้ก็คงรู้แล้ว  5555   ใช่ครับ สุดท้ายเค้าก็ตัดสินใจย้ายมาอยู่กับผม   ยอมรับเลยว่าช่วงแรกๆที่อยู่ด้วยกันมีความสุขมาก  แม่ผมก็ต้อนรับเค้าอย่างอบอุ่น รักเค้าเหมือนลูกชายอีกคนเลย  เค้าเองก็ดูมีความสุข  น่าเสียดายที่ชีวิตรักมันไม่สามารถเลือกความสุขได้เพียงอย่างเดียว . . .   

       เชื่อว่าคู่รักทุกๆคู่คงจะผ่านทั้งสุขและทุกข์มาร่วมกันมากมายใช่ไหม   คู่ผมเองก็เช่นกัน   แรกๆเราก็ผ่านมันไปได้  แต่พอเรามาทะเลาะกันบ่อยๆด้วยปัญหาเดิมๆ มันโคตรจะบั่นทอนจิตใจเลยครับ  พอทะเลาะกันไปบ่อยๆเค้าก็ขอเลิก  แต่เค้าเองก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะย้ายออกหรือจะไปไหนเลยนะครับ  ยังใช้ชีวิตเหมือนทีผ่านมาทุกอย่างเว้นแต่เราเลิกกันแล้ว ที่เค้ายังทนอยู่กับผมก็เพราะว่าเค้าจะเรียนให้จบก่อนจากนั้นเค้าก็คงไปตามทางของเค้า  ช่วงแรกๆผมเสียใจมากๆ  ทรมานสุดๆที่ต้องอยู่กับคนที่หักอกเราโดยที่ผมเองก็ไม่ได้บอกคนรอบตัวด้วยนะว่าเลิกกันแล้ว  ผมมีเหตุผลง่ายๆ2ข้อเองครับ 

1. ผมไม่อยากให้ใครมองเค้าไม่ดี ไม่อยากให้ใครๆมองเค้าว่าเห็นแก่ตัวที่ยังอยู่กัยผมเพื่อแค่ให้ตัวเองเรียนจบก่อนค่อยย้ายออก

2. ผมไม่อยากให้แม่ผมอึดอัดและลำบากใจกับการที่ต้องอยู่กับเค้า  เพราะแม่ผมก็เอ็นดูเค้ามาก  แม่คงทำตัวไม่ถูกแน่ถ้ารู้เรื่องที่เราเลิกกัน อีกอย่างเค้าเองก็คงวางตัวไม่ถูกถ้าต้องอยู่ด้วยกันโดยไม่มีสถานะที่ชัดเจนแบบนี้

ใจจริงๆตอนแรกอ่ะยอมรับเลยว่าลังเลใจมากๆว่าจะไล่เค้าไปให้พ้นๆหรือจะให้อยู่ต่อดี  เพราะถ้าไล่ไปเค้าก็คงไม่รู้จะไปอยู่ไหนในกทม.เพราะว่าเค้ายังต้องเรียนอยู่ที่นี้  ถ้าไม่ได้อยู่บ้านนี้คงลำบากมาก เพราะเค้าเองก็ยังไม่มีรายได้ประจำ  แต่อีกใจก็อยากให้เค้าออกไปมากเพราะผมทรมานใจเหลือเกินที่ต้องอยู่ด้วยกันทั้งๆเลิกกันแล้วแต่เราก็ยังรักเค้าอยู่   จนมาเกิดเรื่องให้เราทะเลาะกันหนักมากๆ  หนักกว่าตอนที่เป็นแฟนกันอีก ตอนนั้นเค้ามีอะไรในใจก็พูดหมดเลย  ด่าว่าผมสารพัด ผมก็ได้แต่ฟังแล้วก็ร้องไห้ จนเค้าพูดจบผมก็บอกให้เค้าไปเก็บของแล้วออกจากบ้านผมไปซะ   เค้าก็ดูช๊อคอยู่เหมือนกันแต่ก็ยอมไปเก็บของนะครับ  ตอนที่เค้ากำลังเก็บของอยู่ผมกระวนกระวายใจมาก  ตอนนั้นรู้สึกเหมือนตัวเองพูดอะไรที่ไม่ควรออกไป ผมก็เลยตัดสินใจไปคุยกับเค้าแบบใจเย็นๆอีกรอบ   คุยกันไปมาจนสุดท้ายผมก็ยอมให้เค้าอยู่บ้านผมต่อไป  เพราะผมรู้ว่าเค้าเป็นคนให้ความสำคัญกับการเรียนแค่ไหน  ที่เค้ายงย้ายมาอยู่ที่นี้ก็เพราะเรื่องเรียน  ถ้าจะให้ผมทำลายอนาคตเค้ามันคงใจร้ายเกินไปหน่อยอ่ะเนอะ   ตอนรักกันเคยสัญญาว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะให้อยู่นี่เนอะ  ถ้าทำผิดสัญญาเดี๋ยวจะโดนมองว่านิสัยไม่ดี 55555

      ทุกวันเราก็อยู่กันแบบเงียบๆครับ  บางทีผมก็แหย่ๆเค้าบ้างเค้าก็จะลำคาญๆหน่อย  เวลาไปใกล้ๆเค้าก็เขยิบหนีบ้าง ยอมอยู่ใกล้ๆบ้างแล้วแต่อารมณ์เค้า  แต่มันก็ไม่ได้แย่ไปซะทั้งหมดนะครับ  ยังมีบางครั้งนานๆทีเค้าก็มากอดผม  มานอนบนตัวผมบ้าง  ทำตัวน่ารักๆกับผมให้ผมมีความสุขอยู่บ้างเหมือนกัน ถึงจะนานๆ ครั้งก็เถอะ5555

เรื่องที่อยากปรึกษาจริงๆก็คือผมควรจัดการความรู้สึกตัวเองอย่างไรดีครับ  จะทำอย่างไรเพื่อที่จะให้จิตใจเศร้าน้อยลง  เมตตาตัวเองมากขึ้น   ถ้าวันนึงเกิดเค้าไปเจอคนใหม่ๆที่ถูกใจจะพลอยยินดี  ร่วมสุขใจกับเค้าได้มั๊ย  ถ้าไม่ได้จะวางอุเบกขาปล่อยวางยังไง อยากได้คำปรึกษาจากเพื่อนๆมากเลยครับ  

มีเพื่อนๆคนไหนมีประสบการณ์ทำนองนี้และรับมือกับมันยังไงบ้างหรอครับ?  มาช่วยแชร์เรื่องราวเพื่อเป็นวิทยาทานให้ผมและคนที่ผ่านมาอ่านกระทู้นี้เผื่อจะมีวิธีดีๆไว้รับมือกับเรื่องนี้กันด้วยน้าาา

ปล.ขออนุญาตแท็กห้องศาสนาพุทธด้วยนะครับ  อยากได้ความเห็นเชิงธรรมะด้วย
ปล.2  ขอบคุณทุกๆท่านที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะครับ   
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่