JJNY : 4in1 เปิดไทม์ไลน์ตรวจสต๊อกหมูหลังโทนี่แฉ│จำนำหมด!!หม้อ-ครก-ผ้าไหม│อาหารสัตว์พุ่ง!ตัดใจขายทิ้งเป็ด-ไก่│ชาวนาอ่วม

เปิดไทม์ไลน์ตรวจสต๊อกหมู 2 แสนกิโล จ.สงขลา หลังโทนี่แฉในคลับเฮาส์
https://www.prachachat.net/breaking-news/news-846608
 
 
เปิดไทม์ไลน์ตรวจสต็อกหมูในห้องเย็นเอกชน 2 แสนกิโลกรัม จ.สงขลา โซเชียลตั้งข้อสังเกต “โทนี่” เปิดประเด็นในคลับเฮาส์ ก่อนเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
 
วันที่ 20 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมชุดเฉพาะกิจกรมปศุสัตว์ โดยด่านกักกันสัตว์สงขลา ได้เข้าตรวจสอบห้องเย็นแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลา พบซากสุกรคงเหลือในคลัง 201,650.90 กิโลกรัม ซึ่งไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ จึงได้อายัดซากสุกรดังกล่าวไว้เพื่อรอตรวจสอบ
 
โดยในวันพรุ่งนี้ (21 ม.ค. 65) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) จะลงพื้นที่เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
 
จากประเด็นใหญ่ที่ได้รับความสนใจจากสังคมในวันนี้ “ประชาชาติธุรกิจ” สรุปเหตุการณ์ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ก่อนการลงพื้นที่ตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ดังนี้
 
มหาดไทยสั่งทุกจังหวัดแก้หมูขาดแคลน
 
ย้อนไปเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2565 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือด่วนถึงผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดให้ช่วยกันแก้ปัญหาเนื้อหมูมีราคาแพงขึ้นอย่างเร่งด่วน และขอให้ช่วยกันป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ด้วย
 
โดยให้เข้าควบคุมดูแลเพื่อเป็นการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการฉวยโอกาสของผู้ประกอบการ หรือผู้ค้าเนื้อสุกรกักตุนเนื้อหมู เพื่อให้เนื้อหมูขาดแคลนในท้องตลาด จะได้นำออกจำหน่ายในราคาสูง จึงขอให้ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด สั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งคณะกรรมการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ ที่ 1/2563
 
เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.สำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ.2497 ลงวันที่ 10 เม.ย. 2563 พิจารณาให้ความสำคัญ ออกสำรวจการกักตุนเนื้อสุกรในพื้นที่ และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.สำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ อย่างเคร่งครัด
พร้อมกันนี้ ได้มีข้อสั่งการไปยังทุกจังหวัดต้องปฏิบัติตาม ดังนี้
 
1. ให้ทุกจังหวัดจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังและควบคุมโรค ASF โดยมอบหมายปศุสัตว์จังหวัดเป็นเลขานุการ
2. เร่งสำรวจข้อมูลฟาร์ม/จำนวนหมู/ผู้เลี้ยงหมู ทั้งรายย่อยและรายใหญ่ที่ได้รับความเสียหายจากการระบาดของโรค ASF ให้ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นปัจจุบัน และเตรียมมาตรการเยียวยาตามระเบียบของทางราชการที่เกี่ยวข้อง
3. กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เฝ้าระวัง ควบคุม กำกับ การเคลื่อนย้ายสุกรและซากให้เป็นไปตามมาตรการที่กรมปศุสัตว์กำหนดอย่างเคร่งครัด
4. มอบหมายสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตรวจตราป้องกันการกักตุนเนื้อสุกร และกำกับดูแลร้านจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ ให้ติดป้ายราคาสินค้าอย่างชัดเจน
5. ขอให้อำเภอกำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเครือข่ายประชาชนในพื้นที่ เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากพบสุกรป่วยหรือตายผิดปกติให้แจ้งอาสาปศุสัตว์ประจำหมู่บ้าน หรือเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทันที
6. ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารและช่วยเฝ้าระวัง และแจ้งเหตุให้ทราบผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ผ่านหมายเลขโทรศัพท์ 1567 ทันที

สงขลาประเดิมทลายก่อน 2 แสนกิโล

หลังจากนั้น วันที่ 20 มกราคม 2565 มีรายงานข่าวตั้งแต่ช่วงเช้าว่า นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มอบหมายให้ นายอำพล พงศ์สุวรรณ รองผู้ว่าฯ เป็นประธานในการร่วมวางแผนการปฏิบัติงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ในการตรวจสอบห้องเย็น
 
เนื่องจากกรมปศุสัตว์เข้าตรวจสอบห้องเย็นบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง พบว่าในระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา มีการนำเนื้อหมูจากบริษัทผลิตและจำหน่ายเนื้อสัตว์แห่งหนึ่ง เข้าเก็บรักษาไว้ที่ห้องเย็นดังกล่าว จำนวน 211,361 กิโลกรัม และวันที่เข้าตรวจสอบ (19 ม.ค.2565) พบว่ามีเนื้อสุกรคงคลัง 201,650 กิโลกรัม กรมปศุสัตว์ จึงได้อายัดไว้เพื่อรอการตรวจสอบ
 
พร้อมกับสั่งให้ กำหนดแผนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบห้องเย็นทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 21-31 ม.ค. 2565 นี้ และขยายผลเพื่อลดปัญหาการกักตุนสินค้าประเภทเนื้อหมูต่อไป

โทนี่เปิดประเด็น ?
 
อย่างไรก็ตาม ชาวโซเชียลบางส่วนตั้งข้อสังเกตว่า คำสั่งของกระทรวงมหาดไทยมีขึ้นหลังจาก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือชื่อในวงการคลับเฮ้าส์ “โทนี่ วู้ดซัม” ออกมาพูดถึงปัญหาหมูแพง เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา ใจความตอนหนึ่งระบุว่า
 
ปัญหาหมูแพงไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าคิดจะแก้จริง ๆ ปัญหาคือเรารู้ปัญหาแต่ไม่แก้ปัญหา ดังนั้น มี 2 อย่าง 
1. ระยะสั้น ต้องยอมนำเข้าหมู 
2. ระยะยาว เร่งเอาแม่พันธุ์หมู และมาส่งรายเล็กรายกลางอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ทั้งเรื่องการเยียวยา และให้สินเชื่อเพื่อมาขุนลูกหมูใหม่ก็ให้เสีย เพื่อให้เกษตรกรเดินต่อไปได้
 
โทนี่ยังกล่าวด้วยว่า เมื่อราคาหมูดีขึ้น จึงมีการกักตุนโดยระบบห้องเย็น มี 4-5 เจ้า ที่เก็บหมูได้ 3-4 แสนกิโล เก็บได้ถึง 6 เดือน ตรงนี้น่าจะมีการคุยกัน ขอให้ปล่อยของออกมาในขณะที่เรารอนำเข้า และรอเลี้ยงรุ่นใหม่ จึงแบ่งเป็น 3 เฟส 
เฟสที่ 1 ห้ามส่งออก 
เฟสที่ 2 ให้ห้องเย็นปล่อยหมูออกมา 
เฟสที่ 3 เอาแม่หมูมาให้รายเล็ก รายย่อย ช่วยเหลือให้เขาพอใช้ ขณะเดียวกันต้องลดต้นทุนไว้ด้วย
 


จำนำหมด !! หม้อก๋วยเตี๋ยว-ครกหิน-ผ้าไหม ด้านโรงจำนำ ช่วยไม่คิดดอก 2 เดือนแรก
https://ch3plus.com/news/category/275405
 
วันนี้ (20 ม.ค.) ที่สถานธนานุบาลเทศบาลนครขอนแก่นแห่งที่ 1 ครกหินอ่างศิลา หม้อก๋วยเตี๋ยว ได้มีลูกค้าของสถานธนานุบาลเทศบาลนครขอนแก่น ได้นำมาจำนำไว้ เช่น เดียวกับผ้าไหม นาฬิกาจำนวนมาก มีลูกค้าเข้าจำนำไว้เช่นกัน โดยที่สถานธนานุบาลเทศบาลนครขอนแก่นแห่งที่1 และแห่งที่2 ได้มีมาตรการช่วยเหลือประชาชน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากที่มีผู้นำทรัพย์สินมีค่า นำมาจำนำกับโรงจำนำมากขึ้น โดยทองรูปพรรณเป็นสิ่งที่นำมาจำนำมากที่สุด รองลงมาคือเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งครกหิน โดยจะรับในราคา 100-200 บาท
 
นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า ในช่วงนี้มีผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้มีประชาชนเข้าใช้บริการวันละมากกว่า 100 ราย มียอดเงินหมุนเวียนวันละ 1 ล้านบาท โดยสถานธนานุบาลแห่งที่ 1 มีเงินทุนหมุนเวียน 139 ล้านบาท ส่วนแห่งที่ 2 มีเงินหมุนเวียน 25 ล้านบาท ซึ่งทำให้ทางเทศบาลนครขอนแก่น ได้มีมาตรการช่วยเหลือให้กับลูกค้าจนถึงสิ้นเดือนนี้ โดยเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท 2 เดือนแรก ไม่คิดดอกเบี้ย จากนั้นจะคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 บาท/เดือน ส่วนเงินต้นเกิน 5,000 บาท คิดอัตราร้อยละ 1 บาทต่อเดือน
 
ส่วนในเดือนกุมภาพันธ์ จะคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 บาท/เดือน เงินต้นเกิน 5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ1บาท/เดือน พร้อมยังกำชับให้ทางผู้จัดการสถานธนานุบาลทั้ง 2 แห่ง ได้พิจารณาสิ่งที่ลูกค้านำมาจำนำด้วย เพราะช่วงนี้ประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบ จากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้อาจมีสิ่งของมีค่าไม่มากมาจำนำกขอให้รับพิจารณาช่วยเหลือ
 

 
อาหารสัตว์พุ่ง! เกษตรกรตัดใจขายทิ้ง ‘เป็ด-ไก่‘
https://www.nationtv.tv/news/378861102

            ปัญหาราคาอาหารสัตว์ที่ปรับตัวสูงขึ้น นอกจากจะทำให้ราคาเนื้อสัตว์ต่างๆปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย ยังคงส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงด้วยเช่นกัน
 
เกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ดและไก่ไข่ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ทิฆัมพร ชัยคีรี บอกว่า ประกอบอาชีพนี้มานานแล้วเพื่อเป็นอาชีพเสริมของครอบครัว แต่ปัจจุบันได้นับผลกระทบจากราคาอาหารสัตว์ที่สูงขึ้นมาก จึงต้องทยอยขายเป็ดและไก่ตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา เพราะไม่สามารถแบกรับต้นทุนค่าอาหารสัตว์ได้ เดิมเลี้ยงเป็ดไว้กว่า 2,500 ตัว และทยอยขายไปแล้วกว่า 2,400 ตัว ในราคาตัวละ 60 บาท ปัจจุบันเหลือเพียง 30 ตัว ซึ่งทั้ง 30 ตัวออกไข่ทุกวัน สามารถเก็บไข่ได้วันละ 1 แผงเท่านั้น
     
โดยปกติไข่เป็ดจะเป็นที่ต้องการของตลาดมาก โดยเฉพาะร้านขนมจีบ จะต้องซื้อไข่เป็ดไปทำไส้ขนม โดยราคาอาหารเป็ดเดิมกระสอบละ  430 บาท แต่ล่าสุดเพิ่มเป็นกระสอบละ 480 บาท ขณะที่ราคาไข่เป็ดปรับขึ้นมาแผงละ 10 บาท ราคาขายขณะนี้คือแผงละ 125 บาท แต่มีผลผลิตเหลือเพียงวันละ 1 แผงเท่านั้น
     
ส่วนไก่ไข่เดิมมีประมาณ 400 ตัว ปัจจุบันเหลือ 260 ตัว โดยทยอยขายทิ้งในราคาตัวละ 60 บาทเช่นกัน โดยราคาไข่ไก่ขณะนี้อยู่ที่แผงละ 110 บาท ซึ่งทั้งเป็ดและไก่นอกจากขายส่งให้พ่อค้าคนกลาง ส่วนหนึ่งได้ขายให้กับชาวบ้าน ซึ่งสู้ราคาเนื้อหมูไม่ไหวและหันมาบริโภคเนื้อเป็ดเนื้อไก่แทน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่