แชร์ประสบการณ์ ยุติการตั้งครรภ์ 23W เนื่องจากทารกไม่สมบูรณ์

แชร์ประสบการณ์ ยุติการตั้งครรภ์ 23W เนื่องจากทารกไม่สมบูรณ์
สวัสดีค่ะ เราอายุ29 และเป็นท้องแรก ก่อนจะท้องเราปล่อยมาเป็นเวลา7เดือน ในช่วงแรกของการท้องเราลุ้นทุกเดือนค่ะ แต่ไม่เคยสมหวัง จนเมื่อช่วงเดือน ก.ค-ส.ค. 64 ช่วงนั่นมีปัญหากับแฟนค่ะ มีอาการน้อยใจที่แฟนแทบไม่มีเวลาให้เลย ตรวจไข่ตก นัดวันกันไว้ก็พลาดทุกที เนื่องจากเขาเหนื่อยงาน เราก็ทำใจว่าคงยังไม่มีแน่ๆ แต่ก็ไม่ได้ละเลยยังมีอะไรบ้าง อาทิตย์ละ1-2ครั้ง สุดท้ายประจำเดือนหายไป14วัน พอลองตรวจสรุปว่าท้อง ดีใจมากค่ะ ทั้งที่บ้านที่ทำงาน เราฝากท้องมาเรื่อยๆ จนอายุครรภ์ได้16W เราตรวจเจอเบาหวาน ไม่ใช่เบาหวานขณะตั้งครรภ์นะคะ หมอสันนิฐานว่าเป็นเบาหวานชนิดถาวร เราก็เริ่มคุมอาหาร เจาะน้ำตาลทุกวัน และฉีดยาผ่านหน้าท้อง พออายุครรภ์ได้18W ตรวจคัดกรองดาวน์ ผลออกมาคือเสี่ยงต่ำมาก 1:20,000 เด็กในท้องปกติแต่น้ำหนักแม่ไม่ขึ้น ตั้งแต่ท้องจน18Wน้ำหนักขึ้น1โล พอได้ 20W ไปตรวจท้องตามปกติค่ะ แต่ครั้งนี้หมอซาวน์ดูโครงสร้างเด็ก และหมอพบว่าเส้นเลือดหัวใจของน้องมีขนาดเล็กมาก และหมอขอให้เจาะน้ำคร่ำเพื่อตรวจอีกครั้ง ครั้งแรกที่ได้ยินหมอกับพยาบาลคุยกันว่าอาจต้องยุติการตั้งครรภ์สมองตอนนั้นเบลอหมดแล้วค่ะ ฟังอะไรไม่เข้าใจอีกแล้ว สุดท้ายก็เจาะน้ำคร่ำตรวจวันนั้นเลย หมออธิบายให้ฟังว่าน้องผิดปกติเรื่องเส้นเลือดที่จะเข้าไปเลี้ยงหัวใจ ถ้าคลอดออกมาน้องจะมีโรคหัวใจตามมาด้วย ให้ทางแม่ลองไปปรึกษากับทางสามีและญาติว่าจะเอายังไงถ้าผลน้ำคร่ำออกมาว่าน้องผิดปกติจริง เราใช้เวลาในการรอผลน้ำคร่ำ2อาทิตย์เต็มๆ ร้องไห้ทุกวันเพราะกลัวจะเป็นอะไรร้ายแรงจนต้องเสียน้องไป แฟนกับแม่ให้ความเห็นว่าถ้าเป็นโรคหัวใจแล้วมีแนวทางการรักษาให้เอาไว้ แล้วเลี้ยงเขาให้พิเศษขึ้นก็เท่านั่น แต่ถ้าผลออกมาน้องพิการหรือในอนาคตหลังจากไม่มีพ่อแม่แล้วเขาต้องใช้ชีวิตลำบาก ก็ให้ปล่อยเขาไป วันที่ 6ม.ค.65 เราไปฟังผล ผลน้ำคร่ำปกติดีทุกอย่าง เราคุยกับหมอแล้วว่าถ้าเป็นเรื่องโรคหัวใจเราจะเอาน้องไว้ หมอก็รับทราบ แต่วินาทีที่หมอขอตรวจดูเส้นเลือดของน้องอีกครั้ง หมอนิ่งและเงียบไปสักพักก่อน เสียงหมอเบา เบาจนรู้ว่าหมอเองก็ตกใจ หมอแจ้งว่าพบว่าแขนข้างขวาข้องน้องผิดรูป กระดูกแขนที่ต้องมี2ท่อน มันมีแค่ท่อนเดียว และข้อมือน้องก็พับขึ้นในลักษณะผิดรูป เป็นช่วงเวลาที่เงียบ เงียบจนได้ยินเสียงร้องไห้ของตัวเอง หมอบอกว่าหมอให้ทางเลือกกับคุณแม่นะ ว่าจะยุติการตั้งครรภ์ไหม เราฟังไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่อง พูดไม่ออก หน้าชาตัวเย็นไปหมด เรานั่งพักเกือบชั่วโมงกว่าจะหาเสียงตัวเองเจอ เรากับแฟนตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์เพราะไม่อยากให้น้องต้องมาลำบากในอนาคต 

วันที่ 7 ม.ค.65 หมอทำเรื่องส่งตัวเราไปยุติการตั้งครรภ์ที่แผนกสูตินารี เราไปแบบ งงๆ เป็นการนอนโรงพยาบาลครั้งแรกตั้งแต่โตมา แถมต้องอยู่คนเดียว เฝ้าไม่ได้ เยี่ยมไม่ได้เพราะช่วงโควิด เราไปถึงห้องเตรียมคลอดตอน10.30 ครึ่ง นักเรียนพยาบาล คุณหมอ พยาบาล เข้ามาซักประวัติและให้กำลังใจเราตลอด จน 11.20 หมอเขามาเหน็บยาโดสแรก2เม็ด เราไม่มีอาการอะไรเลย ไม่เจ็บ ไม่ปวด ตอนนั้นรู้แค่ว่าร้องไห้ เสียใจ เป็นห่วงลูก เพราะเราไม่รู้ว่าเขาจะเอาเด็กออกมายังไง น้องยังดิ้น ยังแตะให้เรารู้สึกอยู่เลย จน14.30 หมอเข้ามาสอบถามอาการว่ารู้สึกยังไงบ้าง เราก็ตอบไปตามจริงว่าไม่รู้สึกอะไร หมอเลยเหน็บเพิ่มอีก1โดส 2เม็ด หมออธิบายให้ฟังว่า ยาจะทำให้หนาว ไข้ขึ้น ปวดท้อง มีเลือดออก ถ้าปวดจนทนไม่ไหวจะให้ยาแก้ปวด เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ หมอมาเหน็บยาเพิ่มอีก ตอน17.00 ก็ยังไม่รู้สึกอะไรมีแค่หนาวสั่น มีไข้ มันหนาวสั่นจนผูกเชือกเสื้อไม่ได้ 

เช้าวันที่ 8 ม.ค.65 06.30 หมอมาเหน็บยาให้เพิ่ม อาการก็ยังปกติ ไม่ปวดท้องแค่รู้สึกว่ามีไข้เหมือนเดิม และหมอก็เหน็บยาทุกๆ3ชั่วโมง ผ่านวันที่8ไปอย่างทรมาร มันเหงา มันรู้สึกโดดเดี่ยว แฟน พี่สาว แม่ โทรมาถามอาการทุกชั่วโมง แต่เราไม่อยากคุยกับใครเลย มันอยากอยู่เงียบๆอยากใช้สมาธิจับการเคลื่อนไหวของลูกว่าเขายังอยู่ดีไหม 

เช้าวันที่ 9 06.30 เวลาเดิม คุณหมอก็เข้ามาถามอาการว่ามีเลือดออกบ้างไหม ปวดท้องบ้างหรือยัง เราก็ตอบแบบเดิมไม่มีอาการอะไรเลย และก็เป็นแบบเดิมหมอเหน็บยาทุก3ชั่วโมง เม็ดสุดท้ายของวันเริ่มตอนเกือบ4ทุ่ม พอได้รับยาเรารู้สึกว่ามันหนาวกว่าเดิม ขิผ้าห่มเพิ่มเป็น2ผืน พยาบาลเฝ้าเตรียงเราเป็นพิเศษ อาการปวดท้องเริ่มมา เราลุกไปเข้าห้องน้ำแล้วก็เจอว่าเลือดเริ่มออก วินาทีนั่นน้ำตามาจากไหนไม่รู้ ร้องไห้จนคนห้องข้างๆมาดู เสียใจที่ทำหน้าแม่ได้ไม่ดีพอ เรากลับมานอนที่เตรียงบอกกับพยาบาลว่าปวดท้อง มีเลือด หมอรีบเข้ามาดูและขอตรวจปากมดลูก หมอแจ้งว่าเปิด2ซม.แล้ว ให้ย้ายเข้าไปห้องคลอดได้เลย แล้วคืนนั่นก็ปวดท้องไม่ได้เลย มาหลับไปตอนตี4 พยาบาลเข้ามาวัดไข้ วัดชีพจร หลังจากตื่นเรารู้สึกว่าเลือดมันไหลเยอะมาก เราพยามจับที่หน้าท้อง ด้านขวารู้สึกว่ามันแข็งที่นูนมาก อารมณ์ตอนนั่นคือสิ้นหวังแล้ว ลูกคงไม่อยู่แล้ว คงเหลือแค่รอให้เขาหลุดออกมา 

วันที่ 10 07.00 พยาบาลให้เรากินข้าว กินนม กินให้อิ่มและแจ้งเราว่าลูกจะออกวันนี้ ถ้าวันนี้ลูกยังไม่ออกคงต้องผ่าแล้วเพราะเราใช้ยาครบจำนวนโดสไปแล้ว แต่เรากินข้าวได้นิดเดียวเพราะมันยังปวดท้องอยู่และไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะกิน 08.30 หมอมาตรวจปากมดลูก ปากมดลูกเปิด3ซม.แล้ว จะให้ยาเร่งคลอดหลังจากนี้ห้ามลงจากเตียงโดยเด็ดขาด เราย้ายเข้าห้องคลอดอีกครั้งตอน08.30 ทั้งน้ำเหลือ ทั้งยาเร่งคลอดเจาะเข้ามาที่แขนเรา น้ำเกลือถูกเปลี่ยนเข้าออกหลายครั้งเพราะเดี่ยวน้ำตาลลด น้ำตาลขึ้น ตลอดเวลาที่นอน อาการปวดท้องเริ่มแรงขึ้น แรงขึ้นเรื่อยๆ ท้องก็แข็งถี่ขึ้น เราจำได้ว่าครั้งสุดท้ายนักศึกษาแพทย์มาจับท้องมันแข็งถี่มาก แล้วเราเริ่มทนไม่ไหวจนนักศึกษาแพทย์ไปตามหมอมาดู ปากมดลูกเปิดพร้อมคลอด ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก หมอมาทำคลอดให้สอนให้เราเบ่ง พยาบาลมาช่วยเชียร์ รอบเตียงเราคนเยอะมาก 23.26 น้องคลอดออกมา ได้ยินเสียงลูกร้อง แต่เขาร้องเบามาก เสียงเล็กๆเหมือนลูกแมว เป็นเด็กผู้ชาย ผมกำลังขึ้นเป็นตอ แขนขวาผิดรูปจริง ปากเล็กๆ ตายังไม่ลืม แล้วเขาก็เงียบเสียงไป เงียบไปแบบไม่ร้องให้ได้ยินอีกต่อไป วินาทีนั่นเข้าใจคำว่าแตกสลายร้องไห้ออกมาแบบไม่อายใครอีกแล้ว มันทรมานแผลที่ตัวไม่รู้สึกเจ็บหรือปวดเลย รู้แค่ว่าใจจะขาดร้องไห้แบบฟังใครไม่รู้เรื่องอีกแล้ว ได้ยินคำสุดท้ายคือให้ยานอนหลับ ฟื้นขึ้นมาอีกทีตอนเกือบ8โมงวันที่ 11

วันที่11 หมอที่เราฝากครรภ์เข้ามาเยี่ยม เขาถามเราว่าจำอะไรได้บ้าง แผลไม่ได้เย็บนะเพราะน้องตัวเล็กออกมาได้เอง เขาก็ตรวจร่างกายเราได้สักพักเขาก็เห็นว่าเราเริ่มร้องไห้อีกแล้ว หมอเลยบอกว่าบ่ายนี้หมอจะมาดูอีกครั้ง ถ้าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงจะให้ออกเลย เพราะห้องพักหลังคลอดไม่เหมาะกับเรา ยิ่งอยู่ยิ่งไม่สบายใจ แต่เราเป็นฝ่ายขอหมออยู่ต่อ และออกโรงพยาบาลวันที่12ตอน 11โมง มันอาจจะเป็นประสบการณ์ที่เลวร้าย แต่มันก็เคยเกิดขึ้นจริงครั้งหนึ่งในชีวิตเรา ยังมีอีกหลายคนที่บอกเราใจร้ายพิการแขนกับหัวใจแค่นี้ก็ต้องฆ่าลูก คนอื่นเขายังเลี้ยงมาจนโตได้เลย วัยรุ่นสมัยนี้ตัดช่องน้อยแต่พอตัว เราก็อยากบอกนะว่าเราตัดปัญหาก็จริงแต่เราคิดแล้วว่าถ้าปล่อยไปแบบนี้ถ้าสักวันเราหรือแฟนต้องจากเขาไปมันจะสร้างปัญหาให้กับเขา ประสบการณ์ของเราก็มีเท่านี้แหล่ะ รักและอาลัยลูกชายของแม่ (น้องเกรท ดช.ณัฐพันธ์)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่