สวัสดีค่ะอยากมาแชร์ประสบการณ์ ท้องไม่เคยได้เลี้ยงลูก
เราแต่งงานกับแฟนตอนอายุ 16 ปี แล้วตั้งครรภ์
ลูกคนแรกตอนอายุ 17 ปี
ตอนนั้นเราฝากครรภ์คลีนิคแถวบ้านไม่เคยได้ยาบำรุงอะไรเลยตรวจเลือดที่โรงบาล
ผลออกมาว่าเป็นพาหะธาลัสซีเมีย แต่ก็ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าเป็นแต่พาหะ
จนอายุครรภ์ประมาน 7 เดือนเราตื่นมาขาบวมมากแทบปริ ตอนนั้นรู้สึกไม่สบาย
เป็นไข้ไปหาหมอ หมอให้กลับมานับเด็กเิ้นกี่ครั้ง คืนนั้นมีน้ำเปียกที่นอนแต่เราก็ไม่รู้
ว่ามันคือน้ำคร่ำ เช้ามาแม่สามีตัดสินใจพาเรามาที่คลีนิคหมอชูเดช ในตัวเมืองสุพรรณบุรี
หมออัลตร้าซาวด์พบว่า เด็กหัวใจโต ม้ามโต รกหนา 7 ซม คือผิดปกติและน้ำคร่ำเหลือน้อย
จึงส่งเรามาแอดมิทที่ รพ.เจ้าพระยายมราช ส่งผ่าคลอดฉุกเฉิน เราตื่นขึ้นมา คำแรกที่ได้ยิน
คือ น้องไม่อยู่น้องเสียแล้ว ผ่านมาได้ 7 วันเราปวดหัวมากๆ ตื่นมาตามองไม่เห็น
กลายเป็นคนตาบอด เรากลับมาหาหมอที่ รพ.เจ้าพระยายมราช รักษา 3-4 วัน ถึงกลับมา
มองเห็น น่ากลัวมากๆเกิดจากครรภ์เป็นพิษ ท้องครั้งนี้ยังไม่รู้สาเหตุว่าเด็กเป็นอะไร
ท้องที่ 2 ท้องได้ 6 w เลือดออกหัวใจเด็กหยุดเต้น ต้องขูดมดลูก
ท้องที่ 3 ท้องได้ 12 w เลือดออกหัวใจเด็กหยุดเต้น ขูดมดลูกอีกครั้ง
หลังขูดมดลูกได้ 13 วันปวดท้อง รกออกไม่หมดต้องขูดซ้ำรอบ2 ซวยมากๆ
ท้องที่ 4 เราทะนุถนอมบำรุงทุกสิ่งอย่างฝากท้องกับ นพ.นิพนธ์ ตั้งแต่4w
ฉีดยากันแท้งทุกอาทิตย์ อัลตร้าซาวด์เด็กปกติทุกอย่าง จนเข้า 30 w
หมอบอกว่าเด็กเหมือนมีศรีษะผิดปกติให้เราไปรพ.ใหญ่ เราเลยตัดสินใจไป
รพ.ธรรมศาสตร์ เราเลยรีบไปวันรุ่งขึ้น ได้ตรวจกับหมอณัฐวดี ผลตรวจ
หมอเห็นน้ำในหัวใจ ปอด ตับมีหินปูน หัวใจลูกไม่ดีนักหมอบอก 50/50
โดนผ่าคลอดฉุกเฉินวันนั้นเลย ถ้าจำไม่ผิด 28.12.64 สรุปเด็กไม่รอด
ผลชันสูติ พบว่าเด็กบวมน้ำ Homozygous alpha thal 1 (SEA deletion) **
เรียกสั้นๆ bart hydorp คือธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง
ท้องที่ 5 เราตัดสินใจท้องครั้งสุดท้ายเพราะยังคาดหวังว่า
1ใน 4 ท้องนี้เรารีบฝากครรภ์เจาะน้ำคร่ำที่ รพ.ธรรมศาสตร์
หมอนัดเจาะน้ำคร่ำตอน 17w ช่วงรอผลเป็นช่วงที่ทรมานใจมากๆ
และแล้วหมอก็โทรมาแจ้งให้เราไปฟังผลธาลัสซีเมียซึ่งเร็วกว่าที่แจ้งไว้
เราก็คิดในใจแล้วว่าต้องมีอะไรแน่ๆถึงรีบให้เราไปฟังผลเอง
และแล้วก็เป็นแบบที่คิดไว้จริงๆผลออกมาเด็กเป็นธาลัสซีเมีย
ชนิดรุนแรงต้องยุติตอน 19wใจแม่สลายแล้วสลายอีกความหวังของแม่
แล้วก็รู้สึกผิดมากๆด้วยที่ทำเขาเกิดมาเป็นแบบนี้
รอบนี้เราไปยุติที่ยมราช หมอใช้วิธีเหน็บยาให้เด็กคลอดเอง
เราแอดมิทตอน 11:30 เหน็บยาเม็ดแรก บ่าย 2 ยังไม่รู้สึกแค่หน่วงๆ
เม็ดที่ 2 ตอน 6 โมงเย็น เริ่มปวดบีบๆ แต่ทนได้ เม็ดที่ 3 ตอน 5 ทุ่ม
ปวดเป็นพักๆ เริ่มปวดแบบไม่รู้จะอยู่ท่าไหนเราเลยลุกมานั่งท่า
ผีเสื้อดีขึ้นนิดหนึ่งเข้าห้องน้ำมีมูกเลือด เริ่มปวดมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ปวดๆหายๆ ท้องแข็งปั้นเป็นก้อน เรานอนปวดถึง6โมงเช้า ไม่ไหวปวดจนร้องไห้
ให้แฟนไปบอกพยาบาล พยาบาลบอกน้อยใกล้อออกมาแล้ว
เหน็บยาให้เราเม็ดที่ 4 ไม่ถึง 5 นาทีเราปวดมากๆ จนรู้สึกว่า
ต้องเบ่งและแล้วน้องก็ออกมา ที่เสียใจและทรมานใจมากที่สุด
ลูกเรายังหายใจ น้องยังดิ้นยังเล่นลิ้น กำมือ แม่ขอโทษนะลูกรัก
ปวดใจมากที่ทำให้เขาเกิดมา และมาทำร้ายเขาแบบนี้
ปล.เรามีลูกห่างกันคนละ2-3ปีตอนนี้เราอายุ 29 แล้ว
เราเป็นซึมเศร้า ตั้งแต่ปี64 ตอนท้องลูกคนที่4เราเสียใจ
มาก จนไม่มีความสุขกับอะไรเลย ไม่อยากเจอใคร
ไม่มีเป้าหมายแล้ว ตอนนี้คิดว่า ไม่ต่างกับการทำแท้ง
มันบาป รู้สึกว่าตัวเองบาปมากๆ
หมดหวัง สิ้นหวัง ทำไมเราโชคร้ายขนาดนี้
ธาลัสซีเมียชนิดอัลฟ่า ทั้งคู่ กับการตั้งครรภ์
เราแต่งงานกับแฟนตอนอายุ 16 ปี แล้วตั้งครรภ์
ลูกคนแรกตอนอายุ 17 ปี
ตอนนั้นเราฝากครรภ์คลีนิคแถวบ้านไม่เคยได้ยาบำรุงอะไรเลยตรวจเลือดที่โรงบาล
ผลออกมาว่าเป็นพาหะธาลัสซีเมีย แต่ก็ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าเป็นแต่พาหะ
จนอายุครรภ์ประมาน 7 เดือนเราตื่นมาขาบวมมากแทบปริ ตอนนั้นรู้สึกไม่สบาย
เป็นไข้ไปหาหมอ หมอให้กลับมานับเด็กเิ้นกี่ครั้ง คืนนั้นมีน้ำเปียกที่นอนแต่เราก็ไม่รู้
ว่ามันคือน้ำคร่ำ เช้ามาแม่สามีตัดสินใจพาเรามาที่คลีนิคหมอชูเดช ในตัวเมืองสุพรรณบุรี
หมออัลตร้าซาวด์พบว่า เด็กหัวใจโต ม้ามโต รกหนา 7 ซม คือผิดปกติและน้ำคร่ำเหลือน้อย
จึงส่งเรามาแอดมิทที่ รพ.เจ้าพระยายมราช ส่งผ่าคลอดฉุกเฉิน เราตื่นขึ้นมา คำแรกที่ได้ยิน
คือ น้องไม่อยู่น้องเสียแล้ว ผ่านมาได้ 7 วันเราปวดหัวมากๆ ตื่นมาตามองไม่เห็น
กลายเป็นคนตาบอด เรากลับมาหาหมอที่ รพ.เจ้าพระยายมราช รักษา 3-4 วัน ถึงกลับมา
มองเห็น น่ากลัวมากๆเกิดจากครรภ์เป็นพิษ ท้องครั้งนี้ยังไม่รู้สาเหตุว่าเด็กเป็นอะไร
ท้องที่ 2 ท้องได้ 6 w เลือดออกหัวใจเด็กหยุดเต้น ต้องขูดมดลูก
ท้องที่ 3 ท้องได้ 12 w เลือดออกหัวใจเด็กหยุดเต้น ขูดมดลูกอีกครั้ง
หลังขูดมดลูกได้ 13 วันปวดท้อง รกออกไม่หมดต้องขูดซ้ำรอบ2 ซวยมากๆ
ท้องที่ 4 เราทะนุถนอมบำรุงทุกสิ่งอย่างฝากท้องกับ นพ.นิพนธ์ ตั้งแต่4w
ฉีดยากันแท้งทุกอาทิตย์ อัลตร้าซาวด์เด็กปกติทุกอย่าง จนเข้า 30 w
หมอบอกว่าเด็กเหมือนมีศรีษะผิดปกติให้เราไปรพ.ใหญ่ เราเลยตัดสินใจไป
รพ.ธรรมศาสตร์ เราเลยรีบไปวันรุ่งขึ้น ได้ตรวจกับหมอณัฐวดี ผลตรวจ
หมอเห็นน้ำในหัวใจ ปอด ตับมีหินปูน หัวใจลูกไม่ดีนักหมอบอก 50/50
โดนผ่าคลอดฉุกเฉินวันนั้นเลย ถ้าจำไม่ผิด 28.12.64 สรุปเด็กไม่รอด
ผลชันสูติ พบว่าเด็กบวมน้ำ Homozygous alpha thal 1 (SEA deletion) **
เรียกสั้นๆ bart hydorp คือธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง
ท้องที่ 5 เราตัดสินใจท้องครั้งสุดท้ายเพราะยังคาดหวังว่า
1ใน 4 ท้องนี้เรารีบฝากครรภ์เจาะน้ำคร่ำที่ รพ.ธรรมศาสตร์
หมอนัดเจาะน้ำคร่ำตอน 17w ช่วงรอผลเป็นช่วงที่ทรมานใจมากๆ
และแล้วหมอก็โทรมาแจ้งให้เราไปฟังผลธาลัสซีเมียซึ่งเร็วกว่าที่แจ้งไว้
เราก็คิดในใจแล้วว่าต้องมีอะไรแน่ๆถึงรีบให้เราไปฟังผลเอง
และแล้วก็เป็นแบบที่คิดไว้จริงๆผลออกมาเด็กเป็นธาลัสซีเมีย
ชนิดรุนแรงต้องยุติตอน 19wใจแม่สลายแล้วสลายอีกความหวังของแม่
แล้วก็รู้สึกผิดมากๆด้วยที่ทำเขาเกิดมาเป็นแบบนี้
รอบนี้เราไปยุติที่ยมราช หมอใช้วิธีเหน็บยาให้เด็กคลอดเอง
เราแอดมิทตอน 11:30 เหน็บยาเม็ดแรก บ่าย 2 ยังไม่รู้สึกแค่หน่วงๆ
เม็ดที่ 2 ตอน 6 โมงเย็น เริ่มปวดบีบๆ แต่ทนได้ เม็ดที่ 3 ตอน 5 ทุ่ม
ปวดเป็นพักๆ เริ่มปวดแบบไม่รู้จะอยู่ท่าไหนเราเลยลุกมานั่งท่า
ผีเสื้อดีขึ้นนิดหนึ่งเข้าห้องน้ำมีมูกเลือด เริ่มปวดมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ปวดๆหายๆ ท้องแข็งปั้นเป็นก้อน เรานอนปวดถึง6โมงเช้า ไม่ไหวปวดจนร้องไห้
ให้แฟนไปบอกพยาบาล พยาบาลบอกน้อยใกล้อออกมาแล้ว
เหน็บยาให้เราเม็ดที่ 4 ไม่ถึง 5 นาทีเราปวดมากๆ จนรู้สึกว่า
ต้องเบ่งและแล้วน้องก็ออกมา ที่เสียใจและทรมานใจมากที่สุด
ลูกเรายังหายใจ น้องยังดิ้นยังเล่นลิ้น กำมือ แม่ขอโทษนะลูกรัก
ปวดใจมากที่ทำให้เขาเกิดมา และมาทำร้ายเขาแบบนี้
ปล.เรามีลูกห่างกันคนละ2-3ปีตอนนี้เราอายุ 29 แล้ว
เราเป็นซึมเศร้า ตั้งแต่ปี64 ตอนท้องลูกคนที่4เราเสียใจ
มาก จนไม่มีความสุขกับอะไรเลย ไม่อยากเจอใคร
ไม่มีเป้าหมายแล้ว ตอนนี้คิดว่า ไม่ต่างกับการทำแท้ง
มันบาป รู้สึกว่าตัวเองบาปมากๆ
หมดหวัง สิ้นหวัง ทำไมเราโชคร้ายขนาดนี้