เครือข่ายแรงงาน จี้ฟื้นฟูศก.-ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_275297/
 
 
เครือข่ายแรงงาน กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย บุกทำเนียบ ปราศรัยโจมตีนายกฯ ปะทะเจ้าหน้าที่เล็กน้อย จี้ฟื้นฟูเศรษฐกิจและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม
 
เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชนกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยและกลุ่มทะลุฟ้า กว่า 50 คน นำโดยนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข, นายเซีย จำปาทอง เครือข่ายด้านแรงงาน บุกทำเนียบรัฐบาล ที่บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ พร้อมกล่าวปราศรัยกล่าวโจมตีการบริหารงานของนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล โดยก่อนการเริ่มกิจกรรมมีเหตุชุลมุนเล็กน้อยเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ปิดถนนบริเวณแยกพาณิชยการเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ ไม่ให้รถเครื่องเสียงเข้ามาบริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ทางมวลชนบางส่วนไม่พอใจมีการฉุดกระชากกันเล็กน้อย โดยทางมวลชนยืนยันจะทำกิจกรรมบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ และมีการปราศรัยถึงปัญหาที่รัฐบริหารงานผิดพลาด ซึ่งประชาชนได้รับผลกระทบอย่างมาก
 
สำหรับข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม คือ ขอให้มีการฟื้นฟูเศรษฐกิจและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ทั้ง
ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม Vat จาก 7% ให้เหลือ 5%, 
ลดค่าบำรุงการศึกษาหรือค่าเทอมนักเรียนตั้งแต่ระดับประถมจนถึงมหาลัยเป็นเวลา3 ปี, 
ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสาธารณะ BTS / MRT เหลือครึ่งราคา, 
เพิ่มเงินยังชีพผู้สูงอายุและผู้พิการจาก 600 บาท เป็น 3000 บาทต่อเดือน 
เพิ่มเงินค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 425 บาท 
ปริญญาตรีเดือนละ 20,000 บาท อาชีวะเดือนละ 18,000 บาท 
 
ตามที่พรรคพลังประชารัฐเคยหาเสียงไว้
  
ขณะที่การรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล มีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล รวมไปถึงสนธิกำลังจากนครบาล ตรึงกำลังโดยรอบพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ปิดประตูทางเข้าประตูหนึ่ง ซึ่งเป็นทางเข้าออกหลักของนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการนำรั้วเหล็กมาปิดบริเวณด้านหน้า
 

---

 
ส.ส.เพื่อไทย แนะประยุทธ์เลิกฟังปัญหาของแพงจากห้องแอร์ ชวนมาเชียงใหม่ เดี๋ยวพาไปเดินตลาด
https://www.matichon.co.th/politics/news_3137189
  
เมื่อวันที่ 18 มกราคม น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความแสดงความเห็นกรณีปัญหาสินค้าแพง พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลหามาตรการเร่งด่วนแบ่งเบาภาระประชาชน โดยระบุว่า
 
แพงทั้งแผ่นดิน ของขึ้นราคาทั้งตลาด ประยุทธ์เลิกโทษพ่อค้าแม่ขายเห็นแก่ตัว แล้วมาเดินตลาดดูความจริง ดิฉันยินดีพาประยุทธ์เดินตลาด ฟังความเดือดร้อนประชาชนด้วยตัวเอง
 
กุ้งได้มีโอกาสลงพื้นที่ตลาดบ้านท่อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อพูดคุยและสอบถามปัญหาความเดือดร้อนจากภาวะข้าวยากหมากแพง จากพี่น้องประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าในตลาด พบเป็นเสียงเดียวกันว่าสินค้าแทบจะทุกอย่างในตลาดได้ปรับราคาสูงขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ถุงขยะ ถุงใส่แกง แก้วพลาสติกใส่กาแฟ
 
ภาวะของแพงกระทบกับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านขายแกงถุง ที่ปรับราคาขายได้เพียงแค่ครั้งเดียว แต่ราคาสินค้ากลับพุ่งสูงขึ้นทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ทำให้พ่อค้าแม่ค้าร้านแกงถุงต้องปรับลดปริมาณอาหารลง เพื่อให้ยังคงสามารถขายราคาเดิมต่อไปได้ และตอนนี้ข้าวสวยและข้าวเหนียวก็ได้กับราคาสูงขึ้นอีกแล้ว ภาวะเช่นนี้ประชาชนจะอยู่ได้อย่างไรคะ?
 
นอกจากภาวะข้าวยากหมากแพงแล้ว พ่อค้าแม่ค้าต่างบ่นถึงภาวะเศรษฐกิจซบเซา โดยระบุว่าผู้บริโภคที่มาจับจ่ายใช้สอยในตลาดบ้านท่อมีจำนวนลดลง ส่งผลให้รายได้ของพวกเขาลดลงตามไปด้วย
 
นี่คือสภาวะจริงที่พ่อค้าแม่ค้ากำลังประสบอยู่ ต้นทุนของพวกเขาสูงขึ้นจึงจำเป็นต้องปรับราคาขาย แต่ประยุทธ์กลับก่นด่าพวกเขาว่าเห็นแก่ตัวที่ปรับราคาสินค้าสูงขึ้น
 
หากประยุทธ์คอยอยู่แต่ในห้องแอร์แล้วรับรายงานจากลูกน้อง ไม่เข้าใจสภาวะปัญหาที่แท้จริงที่ประชาชนกำลังประสบอยู่ ท่านจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ห่วยที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย และจะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนทุกหย่อมหญ้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
 
ดิฉันขอวิงวอนให้ประยุทธ์เร่งลงพื้นที่ตลาดสำรวจปัญหาที่แท้จริงที่กำลังเกิดขึ้นกับประชาชน เลิกอ่านเสียทีเถอะค่ะ รายงานที่มาจากลูกน้องของท่าน ที่ผ่านการตกแต่งให้สวยงามมาแล้วหลายชั้น มาดูปัญหาจริงดีกว่านะคะ
 
ดิฉันพร้อมพาท่านเดินสำรวจตลาดด้วยตนเอง หากท่านพร้อมก็นัดวันและเวลามาได้เลยค่ะ ดิฉันยินดีพาท่านรับฟังปัญหาจากปากของพี่น้องประชาชน เพื่อให้ท่านมีความเข้าใจที่ถูกต้อง และปัญหาของพวกเขาจะได้รับการแก้ไขสักที
 
ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเชียงใหม่ เขต 1 พรรคเพื่อไทย
 
https://www.facebook.com/TussaneeBuranupakorn/posts/2367213036778373
  

---

 
เดือดร้อนทั้งแผ่นดิน! เกษตรกรฟาร์มไก่ไข่ โอดแบกต้นทุนหนัก ชี้ ‘ไข่แพง’ เพราะนายทุน
https://www.dailynews.co.th/news/677099/
 
เกษตรกรฟาร์มไก่ไข่ ต.บ้านกลาง อ.เมืองนครพนม ยันไม่ขึ้นราคา ต้นเหตุ 'ไข่แพง' มาจากนายทุน พ่อค้าคนกลางเก็งกำไร เดือดร้อนหนักแบกต้นทุนสูง วอนรัฐบาลควบคุมวัตถุดิบหัวอาหาร แม่พันธุ์ อย่าแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
 
เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ จ.นครพนม ภายหลังมีข่าวการขึ้นราคาไข่ไก่ จากปกติฟองละ 3-4 บาท เพิ่มเป็น 5 บาท ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงความเป็นอยู่ค่าครองชีพของชาวบ้าน ทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ปัญหาราคาไข่ไก่ในพื้นที่ ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.นครพนม เนื่องจากเป็นพื้นที่มีเกษตรกรเลี้ยงไก่ไข่มากที่สุดของ จ.นครพนม กว่า 20 ฟาร์ม รวมกว่า 1 แสนตัว โดยมีผลผลิตไข่ไก่ออกสู่ตลาดวันละกว่า 1 แสนฟอง โดยจากการสอบถามเกษตรกรส่วนใหญ่ ยังยืนยันว่าขายในราคาเดิมไม่ปรับขึ้นราคา
 
ส่วนการปรับขึ้นราคามาจากพ่อค้าคนกลางที่เป็นนายทุนกำหนดเอง และมีการกดราคาเกษตรกรเพื่อขายเก็งกำไร ส่วนเจ้าของฟาร์มยังขายส่งราคาเดิมเพราะไม่สามารถปรับขึ้นราคาได้ เนื่องจากมีการควบคุมจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทั้งนี้อยากสะท้อนไปยังรัฐบาลให้มีการแก้ไขปัญหาราคาวัตถุดิบ หัวอาหาร แม่พันธุ์ที่มีราคาแพง แทนการควบคุมราคาไข่ไก่ให้เกษตรกรอยู่ได้เป็นการแก้ปลายเหตุ เพราะปัจจุบันเกษตรกรหลายรายต้องหยุดเลี้ยงไก่ไข่เพราะแบกภาระต้นทุนไม่ไหว แต่ไม่สามารถปรับขึ้นราคาไข่ไก่ได้ตามกลไกของตลาด
 
นางพรพิมล พิมพ์พงษ์ อายุ 57 ปี เจ้าของบุญเรียนฟาร์ม ต.บ้านกลาง อ.เมือง นครพนม เปิดเผยว่า ชาวบ้าน ต.บ้านกลาง อ.เมืองนครพนม ยึดอาชีพเลี้ยงไก่ไข่มานานกว่า 20 ปี เดิมมีฟาร์มไก่ไข่มากกกว่า 20-30 ฟาร์ม รวมไก่ไข่มากกกว่า 4-5 แสนตัว ปัจจุบันต้องทยอยเลิกทำอาชีพเลี้ยงไก่ไข่เพราะได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ เหลือแค่ประมาณ 10 ฟาร์ม รวมแม่พันธุ์ประมาณแสนตัว ปัญหาสำคัญที่สุดคือ ราคาต้นทุนวัตถุดิบหัวอาหาร ปัจจุบันราคาแพงขึ้นกว่า 20-30 เปอร์เซ็นต์ จากราคา 400 บาท เพิ่มเป็น 450-500 บาท รวมถึงแม่พันธุ์ ตกตัวละ 40-50 บาท จากปกติ ตัวละ 20-13 บาท ในฟาร์มของตนปัจจุบันมีแม่พันธุ์ไก่ประมาณ 17,000 ตัว ออกไข่วันละประมาณ 15,000 ฟอง ต้องแบกต้นทุนค่าอาหารวันละประมาณ 25,000 บาท เฉลี่ยไข่ไก่ที่ขายออกไปตกฟองละ 3 บาท ได้กำไรฟองละไม่ถึง 5 สตางค์ ต้องอาศัยจำนวนมาก วันไหนไก่ออกไข่น้อย ขาดทุนเพราะกินเท่าเดิม ต้นทุนอาหารสูง
 
นางพรพิมล กล่าวอีกว่า สำคัญที่สุดปัญหาหนักปัจจุบันคือต้นทุนหัวอาหาร เกษตรกรต้องแบกต้นทุนสูงแต่ไม่สามารถปรับขึ้นราคาไข่ไก่ได้ ยังขายราคาปกติเฉลี่ยฟองละ 3-4 บาท ส่วนกรณีที่มีการปรับขึ้นราคาเพราะนายทุน พ่อค้าคนกลางที่มารับซื้อกำหนดราคาเอง หนำซ้ำยังกดราคาเกษตรกร อยากเรียกร้องให้รัฐบาลหาทางช่วยเหลือเรื่องต้นทุนหัวอาหาร ต้องมีการควบคุมราคาไม่ให้สูงเกินไป ไม่ใช่มาควบคุมราคาไข่ไก่ อยากให้เป็นไปตามกลไกของตลาด เมื่อต้นทุนสูงไข่ต้องปรับขึ้นราคาเป็นธรรมดา เพราะหากไม่ปรับราคาไข่ปัญหาขาดทุนตามมา ไม่อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาปลายเหตุ สุดท้ายผลประโยชน์ตกที่นายทุน วอนช่วยเหลืออุดหนุนไข่ไก่เกษตรกรบ้านกลาง ชาวบ้านจะได้บริโภคไข่ไก่สดทุกวันสะอาด ปลอดภัย
 

---

 
ตลาดเขียงหมูนนท์ โอดราคาหมูพุ่ง กิโลละ 250 บาท ลูกค้า-ยอดขายหายกว่า 60%
https://www.thairath.co.th/news/local/central/2290306
 
แม่ค้าตลาดสดเทศบาลนครนนทบุรี โอด ราคาหมูพุ่งต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายหายไปกว่า 50-60% วอนรัฐบาลแก้ไขด่วน
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 มกราคม 2565 ที่ตลาดสดเทศบาลนครนนทบุรี อ.เมืองนนทบุรี ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสอบถามราคาหมู หลังจากมีราคาเพิ่มสูงขึ้น เกิดปัญหาหมูแพงส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค
 
นางสุรีรัตน์ กิ่งแก้ว พนักงานร้านขายหมูเจ้รุน กล่าวว่า ราคาหมูขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว และขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงเดือนมกราคม ปี 65 ราคาแพงสูงสุด ราคาหมูสามชั้นอยู่ที่กิโลฯ ละ 250 บาท สันนอก 220 บาท สันใน 234 บาท ซี่โครง 180 บาท ซี่โครงอ่อน 200 บาท ทำให้ยอดขายหายไปกว่า 50-60 เปอร์เซ็นต์ ลูกค้าที่มาซื้อหมูไปขายส่งต่อร้านอาหารต่างๆ เคยสั่งก็น้อยลง บางเจ้าก็เลิกซื้อหมูไปขายเลย ตอนนี้ยอดขายวันนึงไม่ถึง 100 กิโลกรัม อยากให้รัฐบาลช่วยดูต้นทาง ตั้งแต่ผู้เลี้ยง เพราะผู้บริโภคก็แย่ราคาหมูสูงขนาดนี้