30/12/2564 
วันที่ 7 ของการเดินทาง

เช้านี้ตื่นมาเก็บของ check out เดินทางมุ่งหน้ากลับบ้าน ลงมาถึงที่จอดรถหลังโรงแรมถึงได้รู้ว่าฝนตก และวันนี้การเดินทางของเราก็มีฝนตกลงมาตลอดทาง นับว่าโชคดีมากที่เมื่อวานไม่เป็นแบบนี้ ถ้าเมื่อวานตกแบบนี้เราคงอดเที่ยว หรือเที่ยวกันไม่สนุกแน่เลย เราคิดว่าจะออกจากเบตง แล้วไปหาอะไปกินเมื่อขับรถออกจากเขาได้แล้ว เมื่อแผนเราเป็นแบบนั้น gps ก็ถูกตั้งไปยังต่ำแหน่งบ้านของเราที่ กทม. ขับรถมากสักพักเราก็ถึงสะพานข้ามทะเลสายฮารา-บารา วันนี้แทบไม่มีคนเลย มีรถนักท่องเที่ยวจอดถ่ายรุปกันอยู่ 2 คัน อาจจะด้วยตอนนี้ฝนก็ยังพรำๆ อยู่ตลอดเวลา แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังแวะจอดสักหน่อย ไหนๆ ก็มาแล้ว ถ่ายได้ 2-3 รูป ก็รูปขึ้นรถกลับ เพราะฝนดูเหมือนว่าจะไม่เป็นไจสักเท่าไร เริ่มแรงขึ้นอีกแล้ว

ขับต่อมาเรื่อยๆ อีกสักพักใหญ่ๆ เราก็ดูเหมือนว่าจะลงมาถึงถนนใหญ่แล้ว ก็เลยหาปั๊มแวะจอดพักเติมทั้งน้ำมันคน และน้ำมันรถกันสักหน่อย ก่อนออกเดินทางกันต่อ เมื่อทั้งคนทั้งรถได้รับพลังงานกันเรียบร้อยแล้วก็พร้อมจะลุยต่อ มุ่งหน้าสู่ กทม. ถ้าเราขับยาวๆ ก็ประมาณ 15-16 ชั่วโมงก็จะถึงบ้าน แต่คิดว่าคงไม่ไหว ถ้ามืดที่ไหนก็จะหาที่นอนพักกัน  เช้าค่อยว่ากันต่อ ระหว่างทางก็มีรถติดอยู่ 2-3 ช่วงเพราะเป็นช่วงที่ทำถนน ต้องใช้ทางเบี่ยง และเราก็คุยถึงเรื่องแต่ละจังหวัดที่เราไปเที่ยวมา และมีจังหวัดไหนบ้างที่เรายังไม่เคยไป ซึ่งก็เหลืออยู่ 3 จังหวัด นั่นก็คือ นาราธิวาส ตรัง และระนอง ซึ่งก็น่าเสียดายอยู่หน่อย ที่รอบนี้เราตั้งใจว่าจะไปให้ครบแต่ก็ไม่ครบ

แต่เมื่อดูแล้วความจริงจังหวัดตรังก็เป็นทางผ่านของเราตอนกลับบ้านนะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว แวะนอนที่นี่กันสักคืนก่อนก็ได้ แล้วพรุ่งนี้สัญญาว่าจะยิงยาวทีเดียวให้ถึงบ้านเลย ว่าแล้วก็หาที่พักสิรออะไรหละ ไม่ถึง 10 นาทีเราก็ได้ที่พัก รวดเร็วทันใจ เรื่องแวะเที่ยวไว้ใจเราได้เลย 555+ เป็นที่พักเหมือนเป็นกระโจม คล้ายๆกางเต็นท์ แบบนี้แหละใช่เลย ซึ่งก็เหลืออยู่ห้องสุดท้ายพอดี เราเลยรีบกดจองทันที และตั้งแผนที่ใหม่ให้นำทางไปยัง "Kachong Hills Tented Resort" ซึ่งก็อยู่ไม่ห่างจากตำแหน่งที่เราอยู่ในตอนนี้สักเท่าไร และแล้วอยู่ดีๆ ก็มีคำถามจากคนข้างๆ ว่ารอบนี้ตั้งแต่ไปพักมาที่ไหนคือ The Best คำตอบก็คือยังบอกไม่ได้ ต้องรอไปพักให้ครบทุกที่ก่อน แต่ที่แน่ๆ The Bod มีแล้วแน่นอน (เดอะบอดก็คือความหมายตรงกันข้ามกับ The best) ถ้าอ่าน EP ก่อนๆ ก็คงพอจะเดากันได้ว่าคือที่ไหน

สักพักเราก็ถึงที่พักของเรา เมื่อเข้าไป Check in สิ่งแรกที่พนักงานกล่าวทักทายก็คือ สวัสดีครับ คุณ .... ใช่ไหมครับ ฟังจากน้ำเสียง และท่าทีก็พอจะรู้แล้วว่าต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน 555+ ต้องบอกว่าการจองของเราจองผ่าน Agoda ซึ่งแทบทุกที่ที่เราไปพักก็จองผ่าน Agoda เกือบทั้งหมด ปัญหาที่พนักงานแจ้งมาก็คือ มีการจองชนกัน เนื่องจากมีลูกค้าอีกท่านจองตรงผ่านกับทางโรงแรมมา นั่นไง... เอาไงดี ??? แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ พนักงานบอกว่าถ้าดูจากเวลาที่จองมาแล้วเราได้ทำการกดจองมาก่อนเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ทางโรงแรมเลยแก้ปัญหาให้โดยการอัพเกรดห้องให้เรา ว้าววว คืนนี้มีที่นอนแล้ว และห้องยังใหญ่ขึ้นอีกด้วย จากนั้นพนักงานก็พาเราไปยังที่พักของเรา ไม่อยากจะเรียกว่าห้องพักเพราะมันดูแล้วจะได้อารมณ์เต็นท์มากกว่า เมื่อพนักงานยกกระเป๋ามาจัดการให้เราเรียบร้อย ยังบอกทิ้งท้ายไว้อีกว่าถ้าคืนนี้เสียงดังจากผ้าใบเต็นท์ทำให้นอนไม่หลับสามารถมาขอ Ear plug ได้นะครับ ซึ่งดูจากอาศ และลักษณะของที่พักของเราแล้วคิดว่าเสียงคงไม่ดังขนาดนั้น เมื่อเห็นที่พักต้องบอกเลยว่าที่นี่เป็นที่พักที่ถูกใจเรามาก บอกเลยว่าที่นี่แหละคือ The Best ในทริปนี้ อาจจะด้วยเพราะว่าเป็นแนว Camping ที่เราอยากได้ด้วย
และอีกอย่างที่ต้องบอกว่าที่นี่ดีกว่าหลายๆ ที่เลยก็คือ ห้องพักดูไม่เยอะเกินไป ทั้งๆ ที่มีสถานที่ใหญ่ และสามารถสร้างที่พักได้เยอะกว่านี้ ทำให้ทุกอย่างดูเป็นส่วนตัว เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย เมื่อเก็บของเข้าที่พัก ล้างหน้าล้างตา ก็ออกมานั่งถ่ายรูปเล่นหน้าห้อง
พอเริ่มตกเย็นก็เริ่มหิวแล้ว ก็เดินขึ้นมาด้านบนเพื่อทานอาหารเย็น
ด้วยความที่เราชอบที่นี่มาก จึงเดินไปถามว่าคืนพรุ่งนี้ห้องว่างไหม เพราะอยากอยู่ต่ออีกคืน แต่คำตอบที่ได้คือเต็มหมดแล้ว และเต็มยาวไปอีกหลายวันเลย T_T แอบเสียดายอยู่ เราเลยเดินเข้าไปหาที่นั่งแล้วสั่งอาหารแก้เศร้า พร้อมกับมาถ่ายรูปเล่นด้านหน้าโรงแรม ที่นี่เค้าก็มีน้องแกะเดินไปเดินมาคอยต้อนรับแขกอยู่ด้วย เราเลยสั่งอาหารไว้แล้วไปเล่นกับน้องแกะสักหน่อย

กลับเข้ามาอาหารก็เสร็จพอดี ดนตรีก็กำลังเริ่ม มื้อเย็นกับดนตรีเพราะๆ นุ่มๆ กินไปฟังเพลงไฟชิวๆ มันก็ช่วยให้ความล้าของเราลดลงไปได้บ้างอยู่เหมือนกันนะ  นั่งกินข้าวไปมองสาวสวยที่มายืนร้องเพลงอยู่ตรงหน้า แถมยังเสียงดีอีกต่างหาก บอกได้เลยว่าอาหารที่นี่เสียงดี ดนตรีอร่อย 555+ แต่เสียดายมองนานไม่ได้ เกรงใจคนร่วมโต๊ะครับ 555+ และแล้วเวลาแห่งความสุขก็จบลง ดนตรีที่นี่มีไม่นานครับ ประมาณชั่วโมงหน่อยๆ เราก็สั่งของหวานมาอีกนิดหน่อย

จากนั้นก็กลับที่พัก แล้วก็ไปถ่ายรูปหน้าที่พักของเราต่อ ตอนเย็นว่าสวยแล้ว กลางคืนยิ่งสวย แสงไฟมันได้เลย ไฟตามทางเดินก็เข้ากับบรรยากาศสุดๆ เราก็นั่งถ่ายรูป แล้วก็นั่งเล่น นั่งคุยกันอยู่หน้าห้อง เพื่อเสพบรรยากาศของที่นี่ให้ได้มากที่สุด สักพักฝนก็เริ่มตกลงมาทำให้เราต้องเข้าห้อง

เดี๋ยวมาต่อใน Comment ครับ เนื่องจากความยาวเกินครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้*** การบอกว่าที่ไหนดีหรือไม่ดีอย่างไร เป็นความเห็นส่วนตัวของเรา และขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของเราด้วย สำหรับเราว่าไม่ดีคนอื่นอาจจะว่าดีก็ได้ หรือเราว่าดีคนอื่นอาจจะว่าไม่ดีก็ได้ นี่เป็นเพียงการเล่าเรื่องราวการเดินทางของเราเท่านั้น มีดี มีไม่ดี มีสนุก มีไม่สนุกปนกันไป แต่โดยรวมแล้วมันคือรสชาติของชีวิตที่ลงตัว และประสบการณ์ที่หาซื้อไม่ได้

https://www.facebook.com/lifeforfuntravel
ฝากติดตาม Fanpage เราด้วยนะครับ
  

EP. 0
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/41201125
EP. 1
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/41203228
EP. 2
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/41207049
EP. 3
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/41210744
EP. 4
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/41211767
EP. 5
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/41212608
EP. 6
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/41214606
EP. 8
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/41220423