28/12/2564
วันที่ 5 ของการเดินทาง
เป้าหมายของการเดินทางของเราในวันนี้ก็คือ “เขาคูหา” เพราะตอนระหว่างทานอาหารเช้าเมื่อเช้าเราได้นั่งหาที่เที่ยวกันมาก่อนแล้ว เมื่อเรามีเป้าหมายแล้ว เราก็บอกผู้ช่วยแนะนำเส้นทางส่วนตัวของเรา นั่นก็คือ google map ให้พาเราไปยังเขาคูหาทันที ขับรถไปตามทางหลักเรื่อยๆ เมื่อไปถึงทางเข้าเขาคูหา อาจจะดูซับซ้อนอยู่บ้าง แต่ในที่สุดเราก็มาถึงจนได้ และที่น่าแปลกใจก็คือที่นี่ไม่มีใครอยู่เลย มีแต่ลานจอดรถ กับร้านค้า 3-4 ร้าน แต่ก็ไม่ได้เปิดบริการ เราก็เลยดูท่าทีแล้วก็มองหาที่ถ่ายรูปเล่นด้านล่างสักพัก
ทางเข้าครับ 2 ข้างทางเป็นต้นไม้
ไม่มีใครเลยจริงๆ ครับ มีแค่เรา 2 คน กับหนูดำ
พาหนูดำมาเป็นนายแบบซะหน่อย
ทางเดินด้านบน ยังไม่ได้ขึ้นไป แต่แอบไปส่องก่อน
จากนั้นก็ตัดสินใจเข้าไปจอดในลานจอดรถ และเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวด้านบน มาเที่ยวช่วงสายๆ แบบนี้แดดก็จะแรงหน่อย ดูแล้วถ้ามาตอนเช้าหรือตอนเย็นน่าจะเหมาะกว่า แต่เราก็ยังเดินตามป้ายขึ้นไปเรื่อยๆ
นี่คือทางขึ้นครับ ถ้าใครมาใส่รองเท้าผ้าใบมาก็ดีนะครับ
เดินขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่นานเท่าไร
เราก็ถึงจุดพักครึ่งทาง นั่นก็คือผาหอบ ชื่อนี้ไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วยจริงๆ
เดินไปอีกชั้นเดียวก็จะถึงแล้ว แต่เราตัดสินใจลงกันก่อน (ความจริงมันก็ไม่ได้สูง และไม่ได้เดินยากเลย) แต่เนื่องจากเราเหนื่อย และอากาศค่อนข้างร้อน เราก็เลยนั่งพัก และถ่ายรูปกันอยู่ตรงนั้น พอหายเหนื่อยเราก็เดินกลับลงมาด้านล่าง
ถึงเราไม่ได้ขึ้นไป แต่ก็ส่งตัวแทนขึ้นไปถ่ายรูปมาครับ
มองผ่านช่องเขาออกไปเห็นทุ่งนากับลังเขียวขจี สวยเลย
ถ้าได้ขึ้นมายืนบนยอดนี้คงเห็นวิว 360 องศาแน่เลย
เมื่อลงมาด้านล่าง ก็พบว่าร้านค้าด้านล่างเปิดแล้ว 1 ร้าน เลยเข้าไปซื้อน้ำ แล้วก็สอบถามคุณป้าคนขาย ได้ความว่าส่วนใหญ่ เค้ามาเที่ยวตอนเช้าๆ กับช่วงเย็นๆ กัน กลางวันไม่ค่อยมีคนมาหรอก มันร้อน (จริงอย่างที่เราคิดไว้ตอนแรกเลย 555+) ตอนนี้เราก็เข้าใจถึงเหตุผลแล้วว่าทำไม่มีคนเลย แต่ความจริงมันก็ดีไปอีกแบบนะ ดูเป็นส่วนตัวดี เขานี้เป็นของเรา มีเพียงเรา 2 คนเท่านั้น 555+ ซึ่งเราชอบการเที่ยวแบบเงียบๆ แบบนี้อยู่แล้วด้วย หลังจากนั่งพักเหนื่อย กินน้ำกินท่า เรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางกันต่อ แต่ระหว่างนี้ยังไม่รู้ว่าจะไปไหน เลยตั้ง GPS ไว้ที่เบตงก่อน ขับรถกันไปเรื่อยๆ ค่อยๆหาที่ไปกันเรื่อยๆ ระหว่างทางมันต้องมีป้ายสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำอยู่แล้ว และแล้วเมือขับรถมาอีกสักพักเราก็ได้ที่หมายใหม่นั่นคือ “หมู่บ้านคีรีวง” ที่เค้าว่ากันว่าเป็นหมู่บ้านที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทย แต่จากที่ลองเปิดดูรีวิวแล้ว เค้าก็บอกว่าสวย และบางคนก็บอกว่าเหมือนที่สะปัน เนื่องจากเราเคยไปสะปันแล้ว ก็เลยคิดว่าจะไม่แวะเข้าไปที่นี่ แต่ก็อย่างว่าไหนๆ ก็มาแล้ว เข้าไปดูให้เห็นกับตาสักครั้ง สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ซึ่งความจริงแล้วที่นี่ก็อยู่นอกเส้นทางของเราไปอีกร้อยกว่ากิโลเมตร แต่เราก็เลือกที่จะไป เพราะคิดว่าถ้ารอบนี้ไม่ได้ไปก็คงหาโอกาสมาเที่ยวยากแล้ว
ระหว่างทางก็วิวดีครับ ถนนสวย
เมื่อมาถึงที่นี่ก็ไม่ผิดหวังครับ เหมือนกับที่เค้ารีวิวจริงๆ สวย และสำหรับเรามันก็ดูเหมือน หรือคล้ายๆ กับที่สะปัน อย่างที่เค้าว่าจริงๆ มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาไม่ขาดสาย และก็มีคนยืนถ่ายรูปอยู่บนสะพาน แต่ตอนนี้แดดยังร้อนอยู่ เราเลยเลือกที่จะลงมานั่งเอาเท้าแช่น้ำหลบเงาร่มที่ใต้สะพานก่อน ช่วงนี้น้ำไม่เยอะครับ ผ่านอากาศร้อนๆ มา ได้นั่งบนก้อนหินเอาเท้าแช่น้ำเย็นๆ มันก็สบายดีเหมือนก้นนะ
วิวดี ดูแล้วสบายตา
ไม่ได้เอาขาตั้งกล้องมา เลยผลัดกันถ่ายคนละทีแล้วกัน
ขนาดน้องหมายังมาคลายร้อนเลย
แล้วเราก็คิดว่าจะขึ้นไปถ่ายรูปบนสะพานดีไหม แต่เราก็เลือกที่จะไม่ไปครับ เพราะแดดร้อนมากจริงๆ เมื่อนั่งเล่น นั่งพักอยู่ที่นั่นได้ไม่นานเท่าไร เราก็ตัดสินใจเดินทางออกจากที่นั่น ซึ่งกำลังคิดว่าจะขับรถยาวเข้าเบตงเลยดีไหม แต่เราคิดว่าคืนนี้เราจะหาที่นอนกันที่ปัตตานีก่อน เพราะถ้าเข้าเบตงตอนนี้ไปถึงก็คงจะมืดพอดี เมื่อตกลงได้ตามนั้นเราก็เริ่มหาที่เที่ยวที่ตัวเมืองปัตตานีก่อน และก็ได้มาที่หนึ่งนั้นก็ก็คิอ sky walk ปัตตานี คิดว่าจะไปเที่ยวที่นี่ก่อน แล้วค่อยหาที่พักสำหรับคืนนี้ เมื่อได้ที่ไปแล้วก็ปักหมุด และมุ่งหน้าไปทันที พอเริ่มเข้าเมืองที่นี่ก็เริ่มแปลกตาไป มีด่านทหารเยอะขึ้น และอีกอย่างที่เห็นได้ชัดเลย นั่นก็คือ “แพะ” ซึ่งจะอยู่ตามริมถนน และกลางถนน ถ้านึกภาพไม่ออก เหมือนกับเราขับรถแล้วเห็นน้องหมาอยู่ตามที่ต่างๆ แต่ที่นี่เปลี่ยนจากน้องหมาเป็นน้องแพะแทน
ด่านตรวจแบบนี้ก็จะเยอะขึ้น
ภาพที่เห็นข้างทางอาจจะเป็นเรื่องแปลกตาสำหรับเรา แต่สำหรับที่นั่นคงเป็นเรื่องปกติ
ขับรถต้องระวังน้องแพะกันให้ดี เพราะน้องไม่ค่อยหลบรถเท่าไร 555+
แพะเต็มไปหมดเลย
หลังจากขับรถผ่านเมืองมาได้สักพักเราก็มาถึงยัง sky walk ตามที่เราตั้งใจแล้ว แต่แล้วส่ิงที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นปรากฏว่าช่วงนี้ปิดครับ ไม่เปิดให้บริการ ทำให้เราต้องหาที่หมายใหม่กันอีกแล้ว ตอนนี้ก็บ่ายสามกว่าๆ คิดว่าถ้าจะหาที่พักก็รู้สึกเสียดายเวลาที่เหลืออยู่ เราจึงตัดสินใจกันว่า ถ้าอย่างนั้นก็เข้าเบตงเลยแล้วกัน จึงปักหมุดหมดแผนที่ไปยังเบตงอีกรอบ ตามแผนที่บอกว่าเราจะถึงประมาณ 18.00 น. ดูเวลาแล้วก็พอได้อยู่
เดินทางออกจากปัตตานีแล้ว ไม่ได้นอนที่นี่เลย
เราเลยมุ่งหน้าไปยังเบตงทันที ระหว่างทางไปก็จะมีด่านตรวจของพี่ๆ ทหารเป็นระยะๆ เราเลยสอบถามว่าถ้าจะขับรถไปเบตงตอนนี้เลยจะได้ไหม พี่ที่ด่านเค้าบอกว่าได้ ให้ขับไปเรื่อยๆ เมื่อได้คำแนะนำตามนั้นก็อุ่นใจเพิ่มขึ้นมา
และแล้วก็เดินทางเข้าสู่จังหวัดยะลา
จากนั้นมุ่งหน้ายาวไปเบตง ทางที่จะมุ่งหน้าไปยังเบตงก็เป็นภูเขา ถนนเป็นเลนส์สวน คือถ้าไม่บอกว่านี่คือทางไปเบตงที่เป็นดินแดนใต้สุดของประเทศไทย เมื่อเห็นทางแล้วก็ต้องบอกได้คำเดียวเลยว่าที่นี่คือเส้นทางภาคเหนืออย่างแน่นอน อารมณ์คล้ายๆ กับทางจากเชียงใหม่ขึ้นไปเชียงราย แต่เหมือนจะโค้งเยอะกว่าหน่อย
ถนนที่จะเข้าไปเบตง
ถ้าผ่านเขตชุมชนมาแล้วรถไม่เยอะ นานๆ จะมีสวนมาสักคัน
ช่วงที่เรากำลังมุ่งเหน้าสู่เบตง เป็นช่วงเวลาเย็นพอดี น่าจะเป็นช่วงเลิกงาน ช่วงกลับบ้านของชาวบ้าน รถมอเตอร์ไซด์เลยเยอะเป็นพิเศษ ทำให้การขับรถค่อนข้างยากนิดหน่อย และต้องระวังเป็นพิเศษ แต่ก็ดีนะถือว่าได้เห็นวิถีชีวิต และท้องถิ่นของเค้าไปในตัวด้วย ขับรถไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางที่คำเคี้ยว ตามแนวของภูเขา และระหว่างทางก็จะมีหมู่บ้าหรือชุมชนอยู่เป็นกลุ่มๆ เราก็มาถึงสะพานหนึ่งนั่นก็คือสะพานข้ามทะเลสาบฮารา - บารา ซึ่งในช่วงเย็นๆ แบบนี้ก็มีรถจอดถ่ายรูปชมวิวสวยๆ กันเต็มทั้งสองฝั่งซ้ายขวา แต่ดูแล้วส่วนใหญ่ก็จะเป็นวัยรุ่น หนุ่มสาว แถวๆนี้แหละ ที่มานั่งชมวิวยามเย็นกัน วันนี้เราเลยเลือกที่จะเลยผ่านเข้าเบตงก่อน คิดว่าวันกลับผ่านมาช่วงสายๆ คนน่าจะน้อยกว่านี้ แล้วค่อยแวะถ่ายรูป เราก็เลยขับรถผ่านไปก่อน
เดี๋ยวมาต่อใน Comment ครับ เนื่องจากความยาวเกินครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้*** การบอกว่าที่ไหนดีหรือไม่ดีอย่างไร เป็นความเห็นส่วนตัวของเรา และขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของเราด้วย สำหรับเราว่าไม่ดีคนอื่นอาจจะว่าดีก็ได้ หรือเราว่าดีคนอื่นอาจจะว่าไม่ดีก็ได้ นี่เป็นเพียงการเล่าเรื่องราวการเดินทางของเราเท่านั้น มีดี มีไม่ดี มีสนุก มีไม่สนุกปนกันไป แต่โดยรวมแล้วมันคือรสชาติของชีวิตที่ลงตัว และประสบการณ์ที่หาซื้อไม่ได้
https://www.facebook.com/lifeforfuntravel
ฝากติดตาม Fanpage เราด้วยนะครับ
EP. 0
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/41201125
EP. 1
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/41203228
EP. 2
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/41207049
EP. 3
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/41210744
EP. 4
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/41211767
EP. 6
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/41214606
EP. 7
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/41216188
EP. 8
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/41220423
[CR] Road Trip เที่ยวใต้ เป้าหมายคือเบตง EP.5
วันที่ 5 ของการเดินทาง
เป้าหมายของการเดินทางของเราในวันนี้ก็คือ “เขาคูหา” เพราะตอนระหว่างทานอาหารเช้าเมื่อเช้าเราได้นั่งหาที่เที่ยวกันมาก่อนแล้ว เมื่อเรามีเป้าหมายแล้ว เราก็บอกผู้ช่วยแนะนำเส้นทางส่วนตัวของเรา นั่นก็คือ google map ให้พาเราไปยังเขาคูหาทันที ขับรถไปตามทางหลักเรื่อยๆ เมื่อไปถึงทางเข้าเขาคูหา อาจจะดูซับซ้อนอยู่บ้าง แต่ในที่สุดเราก็มาถึงจนได้ และที่น่าแปลกใจก็คือที่นี่ไม่มีใครอยู่เลย มีแต่ลานจอดรถ กับร้านค้า 3-4 ร้าน แต่ก็ไม่ได้เปิดบริการ เราก็เลยดูท่าทีแล้วก็มองหาที่ถ่ายรูปเล่นด้านล่างสักพัก
เดี๋ยวมาต่อใน Comment ครับ เนื่องจากความยาวเกินครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
https://www.facebook.com/lifeforfuntravel
ฝากติดตาม Fanpage เราด้วยนะครับ
EP. 0
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
EP. 1
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
EP. 2
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
EP. 3
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
EP. 4
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
EP. 6
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
EP. 7
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
EP. 8
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้