ตอบในฐานะหัวหน้างานที่ดูแลพนักงาน80ชีวิต ในองค์กรขนาดใหญ่แห่งหนึ่งนะคะ

ตามปกติทั้งตึกมีคน 8500คนค่ะ  ในช่วงที่ระบาดหนักๆ ที่ตึกมีคนติดกันวันละ 3-5คน มันเสี่ยงมากในการดูแลคนจำนวนเยอะขนาดนี้ที่ถ้าหย่อนยานวินัยเมื่อไรมีสิทธิติดต่อกันจนกลายเป็นคลัสเตอร์ได้ทันที  เคสหนักที่สุดของตึกเราคือเดือนมิถุนายนปีที่แล้วที่ในชั้นทำงานนึงมีคนป่วย 2คนมาทำงานและบางช่วงไม่ใส่หน้ากาก ทำให้คนเกือบร้อยคนต้องกักตัว14วัน  จนช่วงกลางปีที่ผ่านมาต้องประกาศ WFH 100% และขอให้พนักงานเร่งฉีดวัคซีน2เข็มจึงค่อยๆกลับมาทำงานแต่ก็จำกัดจำนวนแค่ 50% ใครไม่ยอมฉีดก็คือไม่มีสิทธิเข้าตึกค่ะ เพื่อลดความเสี่ยงของพนักงานคนอื่นในตึกและลูกค้าที่มาใช้บริการ   ตะนี้ถ้าพนักงานไม่ยอมฉีดด้วยเหตุใดๆก็ตาม หัวหน้างานมีหน้าที่ต้องเจรจาทำความเข้าใจ ถ้าฉีดไม่ได้จริงๆ ก็ต้องจัดให้พนักงานคนนั้น WFH ต่อไปให้ได้  ซึ่งแน่นอนว่า 1.บางงานอาจจะทำ WFH ไม่ได้  หรือ 2.เกิดความรู้สึกเหลื่อมล้ำกับพนักงานคนอื่นที่ต้องกลับมาทำงานและรับกฎระเบียบเยอะแยะมากมาย ต้องตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ มาแล้วต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา ห้ามกินข้าวด้วยกันเกิน 2คน ฯลฯ

การอยู่ในสังคมหมู่มาก  จำเป็นต้องมีกฎระเบียบค่ะ  นี่คือเหตุผลที่องค์กรขอให้พนักงานฉีดวัคซีนค่ะ  แต่ถ้าคุณไม่อยากให้พี่ชายฉีดอีกแล้ว ต้องให้พี่ชายคุยกับหัวหน้าดูอธิบายเหตุผลความจำเป็นต่างๆ และหาวิธีที่พี่ชายคุณจะทำงานโดยไม่เข้าออฟฟิสหรือเข้าแล้วไม่เกิดความเสี่ยงกับคนอื่นค่ะ  มิฉะนั้น คือย้ายงานไปทำงานที่ไม่ต้องฉีดวัคซีนก็ไม่ว่า

ตอนนี้ที่บริษัทกำลังเร่งฉีดวัคซีนเข็มสามกันอยู่  บริษัทไม่บังคับแต่ survey ความสมัครใจและจ่ายเงินค่าโมเดิร์นน่าให้  แต่ถ้าใครกลลัวไม่อยากได้โมเดิร์นน่าหรืออยากได้ยี่ห้ออื่นก็หาเองได้   ถ้าไม่ฉีดก็วน loop กลับไปเงื่อนไขว่าเข้าตึกไม่ได้ ต้องคุยกับหัวหน้างานค่ะ....สำหรับตัวเอง จองวัคซีนไว้จะได้ฉีดสัปดาห์หน้าแล้ว เฝ่ารอด้วยความหวังเลยค่ะ อยากถึงกำหนดไวๆ เพราะที่บ้านมีคนแก่และเด็ก ก็อยากจะลดความเสี่ยงของตัวเองที่อาจจะนำเชื้อไปสู่พวกเขา