คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
เราเข้าใจ จขกท นะคะ เราเป็นปัญหาคล้ายๆกันเลยค่ะ คิดมาก คนอื่นไม่ว่าจะเป็นใครพูดอะไรมาเอาเก็บมาคิดหมด ยิ่งเป็นคำพูดหรือการกระทำแย่ๆยิ่งเก็บมาคิด เครียด แล้วก็ฝังใจกับมันอยู่คนเดียว หาอะไรทำมันก็สบายใจได้แค่แปปเดียว ยิ่งเวลาอยู่นิ่งๆหรือหลับตานอนความรู้สึกแย่ๆพวกนั้นก็จะยิ่งถาโถมเข้ามา จนคนรอบข้างเราบอกว่าเราแคร์สายตา/คำพูดของคนอื่นมากเกินไป จนเราลืมคนที่เราควรแคร์มากที่สุด ก็คือตัวเราเอง เราสามารถร้องไห้กับเรื่องเล็กน้อย เรื่องเดิมๆได้นานหลายชั่วโมงเลยค่ะ ร้องไห้เสียใจมากๆจนรู้สึกเจ็บแปล๊บที่หัวใจเลยค่ะ
ช่วงนี้เราดีขึ้นหน่อยค่ะ แต่ก็ยังไม่หายหมดหรอกนะคะ เพราะกับฝ่ายตรงข้ามที่เป็นคนที่เราแคร์หรือรักมากๆ เราก็ยังมีพฤติกรรมเหมือนเดิมค่ะ แก้ไม่หายสักที
สิ่งที่เราทำนะคะ
1.ลดความสำคัญของคนที่อื่นที่ไม่สำคัญ/ที่ไม่จำเป็นต้องแคร์ลงค่ะ แคร์เฉพาะคนที่เราควรจะแคร์ ถ้าเป็นคำพูด/การกระทำใดๆจากคนที่ไม่สำคัญกับเรา เราก็จะใส่ใจกับมันให้น้อยลงค่ะ เปิดใจรับฟัง ไม่ใช่ปิดหูปิดตา ไม่ฟังอะไรเลย ฟังแล้วคิดค่ะ ถ้ามันเป็นเรื่องจริง แล้วเราผิด/ไม่ดีจริง ก็จะรับมาปรับแก้ แต่ถ้ามันไม่ใช่ เราจะตัดมันออกไปค่ะ ต้องจัดการกับความคิดและอารมณ์ของตัวเองให้ได้ก่อน
ตอนแรกก็ตัดทิ้งไม่ใส่ใจเลย เราก็ทำไม่ได้นะคะ มันยากมากสำหรับเราเหมือนกัน แต่เราจะบอกตัวเองทุกครั้งว่าเก็บมาทุกข์ได้ แต่เมื่อถึงเวลาเราต้องรู้จักปล่อยมันทิ้งไป ถ้าเราเก็บกำมันไว้อย่างนั้น คนที่เจ็บก็คือเราค่ะ
2.รักตัวเองให้มากขึ้น การที่เราเก็บทุกอย่างมาคิด แล้วทุกข์อยู่คนเดียวเป็นการทำร้ายตัวเองอย่างร้ายแรงค่ะ ถึงคนอื่นจะใจร้ายกับเรา แต่เราอย่าใจร้ายกับตัวเองมากนักเลยนะคะ เพราะงั้นพยายามเตือนตัวเองค่ะ ให้ใจดีกับตัวเราเองขึ้นบ้าง บอกรักตัวเองบ่อยๆ และให้สิ่งดีๆกับตัวเองบ้างค่ะ
3.หาจุดยืนของตัวเองค่ะ มั่นใจในตัวเองให้มากขึ้น ถ้าเราถูกแล้ว ใครจะว่ายังไงก็ทำหูทวนลมไปค่ะ หรือถ้าเราไม่มั่นใจ ลองพูดคุยกับคนที่เราสบายใจ แล้วถามความคิดเห็นดูค่ะ เราอาจจะได้ข้อคิด ได้เห็นหลายๆมุมมอง และถ้าเราคิดถูกทางแล้วเราก็จะยิ่งมั่นใจในจุดยืนของเรามากขึ้นค่ะ
4.ถ้าทำสำเร็จแม้จะเล็กน้อย ก็ให้ชื่นชมและให้กำลังใจตัวเองค่ะ บางครั้งเราอาจจะนึกไม่ออกว่าอะไรที่จะช่วยให้เราดีขึ้นได้ สำหรับเราแล้วเราอยากได้ยินคำที่ดีๆต่อใจเราบ้างค่ะ หลายๆครั้งที่เราต้องเจอปัญหาคนเดียว เพราะบางเรื่องครอบครัวก็ไม่ใช่ที่พึ่งที่ดีที่สุดของเรา เราผ่านช่วงเวลานั้นมาอย่างยากลำบากมากค่ะ ทุกครั้งเราจะพยายามยืนด้วยตัวเอง ล้มลงไป ก็ลุกขึ้นมาใหม่ เหนื่อยก็พัก พยายามยิ้มกับตัวเอง กอดตัวเองบ่อยๆ ถ้าเราทำสำเร็จไปแล้วสักครั้งก็จะชื่นชมตัวเองว่าเก่งขึ้นนะ ทำได้ดีแล้ว ถึงจะไม่สำเร็จก็บอกตัวเองว่า ไม่เป็นไรนะ ทำได้เท่านี้ก็เก่งแล้ว ไว้ลองทำใหม่นะ มันก็จะรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาหน่อยค่ะ
ปัจจุบันเราค่อยๆดีขึ้น จนตอนนี้เรา sensitive กับแค่ครอบครัว เพื่อนสนิท แล้วก็แฟนค่ะ (บุคคลกลุ่มนี้เป็นเหมือน last boss ที่จัดการยากมากที่สุด)
ลองเอาไปปรับดูนะคะ ลองทำแบบสอบถามเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าด้วยค่ะ ถ้าเป็นจริงๆถึงจะปรับยังไงก็จะยากนะคะ เพราะจะมีความผิดปกติของฮอร์โมน,สารสื่อประสาท ต้องใช้ยาช่วยร่วมกับปรับที่ตัวเรา คนรอบข้าง และสภาพแวดล้อมหลายๆอย่างรวมกันค่ะ ถ้าลองทำแบบทดสอบแล้วเสี่ยงให้รีบไปพบจิตแพทย์นะคะ อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน
หวังว่าจะช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ช่วงนี้เราดีขึ้นหน่อยค่ะ แต่ก็ยังไม่หายหมดหรอกนะคะ เพราะกับฝ่ายตรงข้ามที่เป็นคนที่เราแคร์หรือรักมากๆ เราก็ยังมีพฤติกรรมเหมือนเดิมค่ะ แก้ไม่หายสักที
สิ่งที่เราทำนะคะ
1.ลดความสำคัญของคนที่อื่นที่ไม่สำคัญ/ที่ไม่จำเป็นต้องแคร์ลงค่ะ แคร์เฉพาะคนที่เราควรจะแคร์ ถ้าเป็นคำพูด/การกระทำใดๆจากคนที่ไม่สำคัญกับเรา เราก็จะใส่ใจกับมันให้น้อยลงค่ะ เปิดใจรับฟัง ไม่ใช่ปิดหูปิดตา ไม่ฟังอะไรเลย ฟังแล้วคิดค่ะ ถ้ามันเป็นเรื่องจริง แล้วเราผิด/ไม่ดีจริง ก็จะรับมาปรับแก้ แต่ถ้ามันไม่ใช่ เราจะตัดมันออกไปค่ะ ต้องจัดการกับความคิดและอารมณ์ของตัวเองให้ได้ก่อน
ตอนแรกก็ตัดทิ้งไม่ใส่ใจเลย เราก็ทำไม่ได้นะคะ มันยากมากสำหรับเราเหมือนกัน แต่เราจะบอกตัวเองทุกครั้งว่าเก็บมาทุกข์ได้ แต่เมื่อถึงเวลาเราต้องรู้จักปล่อยมันทิ้งไป ถ้าเราเก็บกำมันไว้อย่างนั้น คนที่เจ็บก็คือเราค่ะ
2.รักตัวเองให้มากขึ้น การที่เราเก็บทุกอย่างมาคิด แล้วทุกข์อยู่คนเดียวเป็นการทำร้ายตัวเองอย่างร้ายแรงค่ะ ถึงคนอื่นจะใจร้ายกับเรา แต่เราอย่าใจร้ายกับตัวเองมากนักเลยนะคะ เพราะงั้นพยายามเตือนตัวเองค่ะ ให้ใจดีกับตัวเราเองขึ้นบ้าง บอกรักตัวเองบ่อยๆ และให้สิ่งดีๆกับตัวเองบ้างค่ะ
3.หาจุดยืนของตัวเองค่ะ มั่นใจในตัวเองให้มากขึ้น ถ้าเราถูกแล้ว ใครจะว่ายังไงก็ทำหูทวนลมไปค่ะ หรือถ้าเราไม่มั่นใจ ลองพูดคุยกับคนที่เราสบายใจ แล้วถามความคิดเห็นดูค่ะ เราอาจจะได้ข้อคิด ได้เห็นหลายๆมุมมอง และถ้าเราคิดถูกทางแล้วเราก็จะยิ่งมั่นใจในจุดยืนของเรามากขึ้นค่ะ
4.ถ้าทำสำเร็จแม้จะเล็กน้อย ก็ให้ชื่นชมและให้กำลังใจตัวเองค่ะ บางครั้งเราอาจจะนึกไม่ออกว่าอะไรที่จะช่วยให้เราดีขึ้นได้ สำหรับเราแล้วเราอยากได้ยินคำที่ดีๆต่อใจเราบ้างค่ะ หลายๆครั้งที่เราต้องเจอปัญหาคนเดียว เพราะบางเรื่องครอบครัวก็ไม่ใช่ที่พึ่งที่ดีที่สุดของเรา เราผ่านช่วงเวลานั้นมาอย่างยากลำบากมากค่ะ ทุกครั้งเราจะพยายามยืนด้วยตัวเอง ล้มลงไป ก็ลุกขึ้นมาใหม่ เหนื่อยก็พัก พยายามยิ้มกับตัวเอง กอดตัวเองบ่อยๆ ถ้าเราทำสำเร็จไปแล้วสักครั้งก็จะชื่นชมตัวเองว่าเก่งขึ้นนะ ทำได้ดีแล้ว ถึงจะไม่สำเร็จก็บอกตัวเองว่า ไม่เป็นไรนะ ทำได้เท่านี้ก็เก่งแล้ว ไว้ลองทำใหม่นะ มันก็จะรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาหน่อยค่ะ
ปัจจุบันเราค่อยๆดีขึ้น จนตอนนี้เรา sensitive กับแค่ครอบครัว เพื่อนสนิท แล้วก็แฟนค่ะ (บุคคลกลุ่มนี้เป็นเหมือน last boss ที่จัดการยากมากที่สุด)
ลองเอาไปปรับดูนะคะ ลองทำแบบสอบถามเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าด้วยค่ะ ถ้าเป็นจริงๆถึงจะปรับยังไงก็จะยากนะคะ เพราะจะมีความผิดปกติของฮอร์โมน,สารสื่อประสาท ต้องใช้ยาช่วยร่วมกับปรับที่ตัวเรา คนรอบข้าง และสภาพแวดล้อมหลายๆอย่างรวมกันค่ะ ถ้าลองทำแบบทดสอบแล้วเสี่ยงให้รีบไปพบจิตแพทย์นะคะ อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน
หวังว่าจะช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ทำยังไงให้เลิกเป็นคน Sensitive
มันกลับกลายมาเป็นความเศร้า หรือไม่ก็ความเครียดที่ถ้าเผลอบ้างก็จะลืมได้ชั่วขณะ แต่ไม่ได้ทำให้เราสุข ตลอดเวลามันมักจะกลับเข้ามาหาเราอยู่เรื่อยๆ คิดและจมอยู่กับมันซ้ำๆ บางทีก็มีน้ำตา บางทีก็เครียดจนเจ็บป่วยทางกาย กระทบกับการมองโลกของเรามาก จะหันไปหาใครเพื่อพูดทุกสิ่งทุกอย่างที่เราอยากพูดก็ไม่มีใครที่เรารู้สึกว่าเราจะทำได้ พูดไปก็ไม่รู้จะได้ประโยชน์อะไร เพราะสุดท้ายก็เป็นที่ตัวเอง ทั้งเบื่อ ทั้งท้อ สรุปแล้วโลกนี้มันสวยงามหรือมันโหดร้ายกันแน่ ใครพอมีคำแนะนำอะไรดีๆมั้ยครับ