ถ้าพูดถึงร้านเบเกอรี่แบบญี่ปุ่น ที่มาจากญี่ปุ่น ร้านแรกที่ผู้คนมักนึกถีงเป็นร้านแรก คือ ร้าน Custard Nakamura
ร้านเบเกอรี่สัญชาติญี่ปุ่นที่เปิดในไทยมานานกว่า 40 ปี (1970) ในย่าน Little Japan ซอยสุขุมวิท 33/1
มีเบเกอรี่ทั้งคาวหวานให้เลือกซื้อกว่าร้อยชนิดในแต่ละวัน มีลูกค้าทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่นตลอดทั้งวัน
อยู่ย่านสุขุมวิทมากว่า 50 ปี ได้ยินชื่อเสียงของร้านนี้มานาน แต่ไม่เคยแวะร้านนี้เลย แม้ว่าจะเดินผ่านหลายครั้ง
วันเสาร์ที่ 18-12-21 ไปเดินหาซื้อชามไมโครเวฟพร้อมฝาปิดที่ ดิ เอ็มโพเรียม
เดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสไปที่สถานีพร้อมพงศ์ จากนั้นเดินผ่านทางเชื่อมเข้าห้าง
ขึ้นไปที่แผนกเครื่องครัวที่ชั้นสาม
แบบที่ต้องการมีแต่ใบใหญ่ ต้องการสองใบ แต่เหลือแค่ใบเดียว
ป้ายราคาติดไว้ 60 บาท เดินไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์เหลือ 45 บาท
ออกจาก ดิ เอ็มโพเรียม ข้ามไปลงบันไดเลื่อนฝั่ง ดิ เอ็มควอเทียร์
ลงบันไดเลื่อนเดินไปทางซอยสุขุมวิท 33/1
เป็นซอยย่อยจากซอยสุขุมวิท 33 หรือซอยแดงอุดม
เป็นซอยไม่มีชื่อ แต่เรียกกันว่า "Little Japan" เพราะเป็นย่านที่คนญี่ปุ่น ที่พักอยู่ในอพาร์ทเมนท์ย่านสุขุมวิท
นิยมมาจับจ่ายซื้อของ ทั้งของใช้ที่ร้าน Watts และของกินจากญี่ปุ่นที่ UFM Fuji Super
และกินอาหารญี่ปุ่นซึ่งมีอยู่หลายร้านให้เลือก ทั้งในซอยนี้และรอบ ๆ
13.35 น.จากปากซอยเข้ามาประมาณ 50 เมตร ทางขวามือก่อนเข้าที่จอดรถของบริษัท UFM
ติดกับ 7-11 คือ ร้าน Custard Nakamura เป็นร้านขนาดหนึ่งห้องแถว เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1970
การตกแต่งหน้าร้านจะเปลี่ยนไปตามเทศกาล ทั้งของสากลและของประเทศญี่ปุ่น
ช่วงนี้ใกล้เทศกาลคริสต์มาส แม้จะไม่มีต้นคริสต์มาส แต่ตกแต่งด้วยดอกไม้ใบไม้สีเขียวและสีแดง
ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม รับแต่เงินสด และไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าร้าน
หน้าทางเข้าร้านมีจุดวัดอุณหภูมิที่ปราศจากพนักงานคัดกรอง มีเจลแอลกอฮอลตั้งไว้หนึ่งขวด
ไม่มีการจำกัดจำนวนคนเข้าร้าน แต่ลูกค้าต่างเว้นระยะห่างกันเอง ไม่ยืนเบียดกัน
เดินดูเบเกอรี่ในร้านหนึ่งรอบ ของละลานตามาก มีให้เลือกเป็นร้อย
ขายดีทุกตัว สังเกตุได้จากที่พนักงานสวมหมวกคริสต์มาสเข้ากับเทศกาล
เดินถือถาดใส่เบเกอรี่ใหม่ออกมาเติมตามชั้นตลอดเวลา
เบเกอรี่ของคาวส่วนใหญ่ จะอยู่บนโต๊ะกลางร้าน
ส่วนเบเกอรี่ของหวานวางสลับกับเบเกอรี่ของคาว ตามชั้นทั้งสองฝั่งของร้าน
เคยนึกว่าของในร้านน่าจะแพง แต่ราคากลับไม่แพงอย่างที่คิด
ราคาเริ่มต้นที่ 21 บาท (บันเนยสด) ทุกชิ้นบรรจุกล่อง หรือถุงพลาสติก
เพิ้มความสะอาดกันละอองฝอย ไม่วางเปิดโล่งบนถาดให้คีบหยิบ ลดการจับต้องตัวเบเกอรี่โดยตรง
แต่ที่เป็นปัญหาอย่างมาก คือ มันน่าซื้อไปหมดทุกอย่าง
อันนี้ก็ดี อันนั้นก็ดี อันโน้นก็น่ากิน ถ้าชวนแฟนมาด้วย คงหิ้วกลับเต็มคนละสองมือ
เบเกอรี่ของคาวบนโต๊ะกลางร้าน
Choux Pie รสต่าง ๆ
เบเกอรี่ของคาวและของหวานวางสลับกันบนชั้นทั้งสองฝั่งของร้าน
สนใจตัวมุมบนซ้ายแปะด้วยใบชิโซะ
ป้ายเขียนกำกับไว้ว่า ปังซากุระแยมถั่วขาวใบชิโซะ 30 บาท
ตัวขวาน่าสนใจ Yakisoba Bun โรยหน้าด้วยของที่ดูเหมือนปลาโอแห้ง ชิ้นละ 29 บาท
กลุ่มเคลือบช็อกโกแลต
โครเกต์ (Croquette) และบัน (Bun) หน้าต่าง ๆ
โฮคุโอปัง 55 บาท ป้ายเขียนว่าเป็นขนมปังจากการหมักแป้ง 24 ชั่วโมง
พร้อมทั้งส่วนผสมของเนยและนมสด ที่ใส่อย่างเต็มที่
ทำให้ได้ขนมปังที่นุ่มละมุน และมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน
ตู้เค้ก ไม่มีชิ้นไหนเกินร้อย
ชื่อร้านขึ้นต้นด้วยคำว่า "Custard" ต้องมีดีที่คัสตาร์ด
ปกติชอบกินคัสตาร์ดอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องอัญเชิญรสดั้งเดิมกลับบ้านไปลองหนึ่งถ้วย
ซื้อทั้งหมด 9 ชิ้นเพราะยังต้องไปที่อื่นต่อ
แต่ก่อนจ่ายเงินยังหยิบขาไก่หน้าแคชเชียร์
ใส่ไปในถาดอีกหนึ่งถุงเป็น 10 ชิ้นรวม 401 บาท
ได้ของกินมาหนึ่งถุงใหญ่ อยากซื้อมากกว่านี้
แต่ยังมีอย่างอื่นต้องซื้อ และไม่ได้ถามว่าเก็บได้กี่วัน
13.51 น.ออกจากร้าน Custard Nakamura
ข้ามไปร้าน Watts ร้านขายของราคาเริ่มต้น 60 บาทที่อยู่เยื้องกัน
ไม่มีชามไมโครเวฟแบบที่ต้องการ
ติดกัน คือ ร้าน The Tang ร้านอาหารเกาหลีในดงญี่ปุ่น
ขายซัมแกทัง หรือไก่ตุ๋นโสม แต่กำกับคำแปลว่าซุปหมู
แวะ UFM Fuji Super
เพื่อมาที่ร้านเบเกอรี่ของ UFM Bakery House
ขนมปังครีมมี่ไม่มีไส้ครีมมี่ที่ต้องการ
ชอบบริโอชถั่วแดงแปะก๊วย ที่ซื้อตอนกินเจ ซื้อกลับบ้านหนึ่งกล่อง
ชื่อสินค้า: เบเกอรี่คาวหวาน
[CR] เที่ยวไปกินไป by laser @ Custard Nakamura
ร้านเบเกอรี่สัญชาติญี่ปุ่นที่เปิดในไทยมานานกว่า 40 ปี (1970) ในย่าน Little Japan ซอยสุขุมวิท 33/1
มีเบเกอรี่ทั้งคาวหวานให้เลือกซื้อกว่าร้อยชนิดในแต่ละวัน มีลูกค้าทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่นตลอดทั้งวัน
อยู่ย่านสุขุมวิทมากว่า 50 ปี ได้ยินชื่อเสียงของร้านนี้มานาน แต่ไม่เคยแวะร้านนี้เลย แม้ว่าจะเดินผ่านหลายครั้ง
วันเสาร์ที่ 18-12-21 ไปเดินหาซื้อชามไมโครเวฟพร้อมฝาปิดที่ ดิ เอ็มโพเรียม
เดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสไปที่สถานีพร้อมพงศ์ จากนั้นเดินผ่านทางเชื่อมเข้าห้าง
ขึ้นไปที่แผนกเครื่องครัวที่ชั้นสาม
แบบที่ต้องการมีแต่ใบใหญ่ ต้องการสองใบ แต่เหลือแค่ใบเดียว
ป้ายราคาติดไว้ 60 บาท เดินไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์เหลือ 45 บาท
ออกจาก ดิ เอ็มโพเรียม ข้ามไปลงบันไดเลื่อนฝั่ง ดิ เอ็มควอเทียร์
ลงบันไดเลื่อนเดินไปทางซอยสุขุมวิท 33/1
เป็นซอยย่อยจากซอยสุขุมวิท 33 หรือซอยแดงอุดม
เป็นซอยไม่มีชื่อ แต่เรียกกันว่า "Little Japan" เพราะเป็นย่านที่คนญี่ปุ่น ที่พักอยู่ในอพาร์ทเมนท์ย่านสุขุมวิท
นิยมมาจับจ่ายซื้อของ ทั้งของใช้ที่ร้าน Watts และของกินจากญี่ปุ่นที่ UFM Fuji Super
และกินอาหารญี่ปุ่นซึ่งมีอยู่หลายร้านให้เลือก ทั้งในซอยนี้และรอบ ๆ
13.35 น.จากปากซอยเข้ามาประมาณ 50 เมตร ทางขวามือก่อนเข้าที่จอดรถของบริษัท UFM
ติดกับ 7-11 คือ ร้าน Custard Nakamura เป็นร้านขนาดหนึ่งห้องแถว เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1970
การตกแต่งหน้าร้านจะเปลี่ยนไปตามเทศกาล ทั้งของสากลและของประเทศญี่ปุ่น
ช่วงนี้ใกล้เทศกาลคริสต์มาส แม้จะไม่มีต้นคริสต์มาส แต่ตกแต่งด้วยดอกไม้ใบไม้สีเขียวและสีแดง
ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม รับแต่เงินสด และไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าร้าน
หน้าทางเข้าร้านมีจุดวัดอุณหภูมิที่ปราศจากพนักงานคัดกรอง มีเจลแอลกอฮอลตั้งไว้หนึ่งขวด
ไม่มีการจำกัดจำนวนคนเข้าร้าน แต่ลูกค้าต่างเว้นระยะห่างกันเอง ไม่ยืนเบียดกัน
เดินดูเบเกอรี่ในร้านหนึ่งรอบ ของละลานตามาก มีให้เลือกเป็นร้อย
ขายดีทุกตัว สังเกตุได้จากที่พนักงานสวมหมวกคริสต์มาสเข้ากับเทศกาล
เดินถือถาดใส่เบเกอรี่ใหม่ออกมาเติมตามชั้นตลอดเวลา
เบเกอรี่ของคาวส่วนใหญ่ จะอยู่บนโต๊ะกลางร้าน
ส่วนเบเกอรี่ของหวานวางสลับกับเบเกอรี่ของคาว ตามชั้นทั้งสองฝั่งของร้าน
เคยนึกว่าของในร้านน่าจะแพง แต่ราคากลับไม่แพงอย่างที่คิด
ราคาเริ่มต้นที่ 21 บาท (บันเนยสด) ทุกชิ้นบรรจุกล่อง หรือถุงพลาสติก
เพิ้มความสะอาดกันละอองฝอย ไม่วางเปิดโล่งบนถาดให้คีบหยิบ ลดการจับต้องตัวเบเกอรี่โดยตรง
แต่ที่เป็นปัญหาอย่างมาก คือ มันน่าซื้อไปหมดทุกอย่าง
อันนี้ก็ดี อันนั้นก็ดี อันโน้นก็น่ากิน ถ้าชวนแฟนมาด้วย คงหิ้วกลับเต็มคนละสองมือ
เบเกอรี่ของคาวบนโต๊ะกลางร้าน
Choux Pie รสต่าง ๆ
เบเกอรี่ของคาวและของหวานวางสลับกันบนชั้นทั้งสองฝั่งของร้าน
สนใจตัวมุมบนซ้ายแปะด้วยใบชิโซะ
ป้ายเขียนกำกับไว้ว่า ปังซากุระแยมถั่วขาวใบชิโซะ 30 บาท
ตัวขวาน่าสนใจ Yakisoba Bun โรยหน้าด้วยของที่ดูเหมือนปลาโอแห้ง ชิ้นละ 29 บาท
กลุ่มเคลือบช็อกโกแลต
โครเกต์ (Croquette) และบัน (Bun) หน้าต่าง ๆ
โฮคุโอปัง 55 บาท ป้ายเขียนว่าเป็นขนมปังจากการหมักแป้ง 24 ชั่วโมง
พร้อมทั้งส่วนผสมของเนยและนมสด ที่ใส่อย่างเต็มที่
ทำให้ได้ขนมปังที่นุ่มละมุน และมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน
ตู้เค้ก ไม่มีชิ้นไหนเกินร้อย
ชื่อร้านขึ้นต้นด้วยคำว่า "Custard" ต้องมีดีที่คัสตาร์ด
ปกติชอบกินคัสตาร์ดอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องอัญเชิญรสดั้งเดิมกลับบ้านไปลองหนึ่งถ้วย
ซื้อทั้งหมด 9 ชิ้นเพราะยังต้องไปที่อื่นต่อ
แต่ก่อนจ่ายเงินยังหยิบขาไก่หน้าแคชเชียร์
ใส่ไปในถาดอีกหนึ่งถุงเป็น 10 ชิ้นรวม 401 บาท
ได้ของกินมาหนึ่งถุงใหญ่ อยากซื้อมากกว่านี้
แต่ยังมีอย่างอื่นต้องซื้อ และไม่ได้ถามว่าเก็บได้กี่วัน
13.51 น.ออกจากร้าน Custard Nakamura
ข้ามไปร้าน Watts ร้านขายของราคาเริ่มต้น 60 บาทที่อยู่เยื้องกัน
ไม่มีชามไมโครเวฟแบบที่ต้องการ
ติดกัน คือ ร้าน The Tang ร้านอาหารเกาหลีในดงญี่ปุ่น
ขายซัมแกทัง หรือไก่ตุ๋นโสม แต่กำกับคำแปลว่าซุปหมู
แวะ UFM Fuji Super
เพื่อมาที่ร้านเบเกอรี่ของ UFM Bakery House
ขนมปังครีมมี่ไม่มีไส้ครีมมี่ที่ต้องการ
ชอบบริโอชถั่วแดงแปะก๊วย ที่ซื้อตอนกินเจ ซื้อกลับบ้านหนึ่งกล่อง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น