JJNY : ติดเชื้อ2,532 เสียชีวิต31│WHOแนะผู้มีปัญหาสุขภาพฉีด"โนวาแวกซ์"เข็ม3│ผัก-ผลไม้จีนติดล็อกด่านลาว│งานช้างแฟร์คนบางตา

โควิดวันนี้หายป่วย 3,191 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 2,532 ราย เสียชีวิต 31 ราย
https://www.dailynews.co.th/news/594611/

ยอด 'โควิด-19' วันนี้ พบเสียชีวิตเพิ่มอีก 31 ราย ขณะที่พบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มอีก 2,532 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,170,198 ราย 
 
สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ล่าสุด วันที่ 22 ธ.ค. 64 พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 2,532 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 2,484 ราย และผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 48 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ 1 เมษายน 2564 มีจำนวน 2,170,198 ราย หายป่วยกลับบ้าน 3,191 ราย หายป่วยสะสม 2,111,962 ราย กำลังรักษา 38,202 ราย
 
โดยวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 31 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 มียอดสะสมสูงถึง 21,471 ราย
 


WHO แนะผู้มีปัญหาสุขภาพฉีดวัคซีนของ"โนวาแวกซ์"เป็นเข็ม 3
https://www.tnnthailand.com/news/covid19/100030/

องค์การอนามัยโลก แนะนำผู้มีปัญหาสุขภาพ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ฉีดวัคซีนโควิดของ "โนวาแวกซ์" เป็นเข็ม 3

วันนี้ (22 ธ.ค. 64) บริษัทโนวาแวกซ์ อิงค์เปิดเผยว่า กลุ่มที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ด้านการสร้างภูมิคุ้มกันโรค (SAGE) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แนะนำให้ฉีดวัคซีน NVX-CoV2373 ของโนวาแวกซ์เป็นเข็ม 3 สำหรับบุคคลที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องเพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19
 
ทั้งนี้ SAGE ได้ออกคำแนะนำต่าง ๆ รวมถึง การใช้วัคซีนกับบุคคลที่มีโรคประจำตัว สตรีให้นมบุตรและบุคคลที่ติดเชื้อเอชไอวี โดยหลังการพิจารณาข้อมูลของโนวาแวกซ์แล้วนั้น SAGE ระบุว่า วัคซีนดังกล่าวสามารถใช้กับสตรีตั้งครรภ์ หากประโยชน์ที่ได้จากการฉีดวัคซีนสูงกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา WHO ได้ขึ้นทะเบียนเพื่อใช้วัคซีนของโนวาแวกซ์ในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งปูทางให้สามารถใช้วัคซีนชนิดนี้ในประเทศรายได้ต่ำและรายได้ปานกลางซึ่งมีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนช้ากว่าในยุโรปอย่างมาก โดยวัคซีนของโนวาแวกซ์ผลิตโดยสถาบันเซรุ่มอินเดีย (SII) ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก
 
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โนวาแวกซ์ได้เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (20 ธ.ค.) ว่า ได้รับอนุมัติการใช้งานวัคซีนในกรณีฉุกเฉินจาก WHO แล้ว ซึ่งทางบริษัทจะกระจายวัคซีนดังกล่าวในยุโรปและตลาดอื่น ๆ และเมื่อวานนี้ (21 ธ.ค.) โนวาแวกซ์ระบุว่าได้เริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นครั้งแรกในการทดลองขั้นสุดท้าย
 
สำหรับสถานการณ์โควิดในปัจจุบันยังคงน่าเป็นห่วงเนื่องจากไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนแพร่กระจายไปทั่วโลก โดยหลายประเทศมุ่งเป้าไปที่การฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 โดยล่าสุดเมื่อคืนนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต
 


ผัก-ผลไม้จีนติดล็อกด่านลาว ต่อลมหายใจ “ตลาดไท”
https://www.prachachat.net/economy/news-826426

ผักผลไม้จีนขนผ่านรถไฟลาว-จีนชะงัก นำร่องทดลองเข้าไทยได้แค่ 33 ตู้ ด่าน สปป.ลาวไม่พร้อม ต่อลมหายใจพ่อค้า-แม่ค้าตลาดไทชั่วคราว ข่าวร้ายลาวเร่งแผนสร้างทางรถไฟเชื่อมท่าหวุ่นอ๊าง ในเวียดนามกลายเป็นโครงข่ายโลจิสติกส์ 3 ประเทศให้ลาวมีทางออกทะเลเพิ่ม ไม่ต้องพึ่งท่าเรือแหลมฉบัง
 
การเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน (เวียงจันทน์-คุนหมิง) กว่าครึ่งเดือนที่ผ่านมา พร้อมกับการทะลักเข้ามาของผักผลไม้-ไม้ตัดดอกจากจีนผ่าน สปป.ลาว เข้าสู่ประเทศไทยภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ได้แสดงให้เห็นถึง “ศักยภาพ” ในการขนส่งสินค้าผ่านแดนช่องทางใหม่
 
จากเดิมที่จะต้องขนส่งผ่านเส้นทางรถยนต์หรือทางแม่น้ำโขงเพียงอย่างเดียว โดยปรากฏการณ์สินค้าผักจากคุนหมิงมาถึง “ตลาดไท” ด้วยการใช้เวลาไม่เกิน 2 วัน ได้สร้างความกังวลให้กับเกษตรกรไทย รวมถึงผู้ประกอบการ หากจะใช้เส้นทางรถไฟลาว-จีนขนส่งสินค้าประเภทอื่น ๆ ข้ามแดนเข้ามาด้วย
ล่าสุดมีรายงานเข้ามาว่า สปป.ลาวเริ่มที่จะวางแผนก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมต่อไปยังท่าเรือในเวียดนามเพื่อขยายเส้นทางออกทะเล จากเดิมที่จะต้องพึ่งพาท่าเรือแหลมฉบังแห่งเดียว จนกลายเป็นระบบโครงข่ายโลจิสติกส์เชื่อมโยงลาว-จีน-เวียดนามที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะส่งผลกระทบต่อการค้าไทยในที่สุด
 
ขนผักล่าช้าด่านลาวติดขัด
  
“ประชาชาติธุรกิจ” ส่งทีมลงพื้นที่ “ตลาดไท” ซึ่งเป็นตลาดศูนย์กลางการค้าส่ง-ค้าปลีกผักสดและผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่จังหวัดปทุมธานี โดยพ่อค้า-แม่ค้าหลายรายกล่าวตรงกันว่า หลังจากรถไฟลาว-จีนเปิดให้บริการ มีแนวโน้มในอนาคตจะมีผัก-ผลไม้จากจีนทะลักเข้ามาในประเทศไทยแน่นอน และจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการผักผลไม้ไทยในอนาคต
 
นายประหยัด เจริญ เจ้าของร้านผักสดสันกำแพง ร้านขายผักเมืองหนาวในตลาดไท กล่าวว่า โดยปกติตลาดผักในตลาดไทจะมีมาจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจีน-เวียดนาม แบ่งออกเป็นโซนตามความต้องการของผู้บริโภค
 
โดยผักเมืองหนาวส่วนใหญ่มักจะมาจากประเทศจีนเป็นหลัก แต่ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน การนำเข้าผักจากจีนราคาพุ่งสูงเกือบเท่าตัว เช่น บล็อกโคลีจากราคา 60 บาท/กก. พุ่งขึ้นเป็น 170 บาท/กก., ผักกาดแก้วปกติราคา 60-70 บาท/กก. เป็น 160 บาท/กก., ผักสลัดราคาปกติ 80-90 บาท/กก. ราคาเพิ่มขึ้นเป็น 100 บาท/กก. แต่ผักบางประเภทอย่างเห็ดเข็มทอง-เห็นออรินจิ กลับมีราคาถูกลงอยู่ที่ 50 บาท/กก.
 
“แต่ตอนนี้ผักจีนที่เข้ามามีต้นทุนค่อนข้างสูงจากค่าขนส่ง แม้จะมีการนำเข้าผักผ่านทางรถไฟลาว-จีนที่ช่วยร่นระยะเวลาการเดินทางไม่เกิน 3 วัน แต่เกิดความล่าช้าที่ด่านฝั่งลาว จากใช้เวลาไม่เกิน 3 วันกลายเป็น 10-15 วัน ทำให้ผักจีนแพงขึ้น” นายประหยัดกล่าว
 
ประกอบกับผักเมืองหนาวของประเทศไทยมีผลผลิตค่อนข้างน้อย ทั้งยังปลูกได้น้อยตามสภาพภูมิอากาศของประเทศ ทำให้ต้องอาศัยผลผลิตผักจีน ดังนั้นแนวโน้มในอนาคตคาดว่าผักจีนจะเข้ามาตีตลาดไทย มากขึ้นอย่างแน่นอน
 
ส่วนแม่ค้าแผงผักพื้นบ้าน กล่าวว่า ผักไทยส่วนใหญ่จะมีราคาตามฤดูกาล ยกขายเป็นถุง 15-20 กก.แล้วแต่ประเภทผักแต่ละชนิด ล้วนมาจากในประเทศทั้งหมด เช่น ราชบุรี, กำแพงเพชร, เชียงใหม่ อย่างพริกเฉลี่ยราคา 50-120 บาท/กิโลกรัม ก็มีราคาใกล้เคียงกันตามเกรด “ตอนนี้ยังไม่เห็นผลผลิตจากต่างประเทศเข้ามาในโซนผักพื้นบ้านเท่าไหร่”
 
ผลไม้จีนครองตลาดช่วงเทศกาล
 
ด้านพ่อค้าร้านขายหัวหอมรายใหญ่ กล่าวว่า สถานการณ์โดยภาพรวมตลอดปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน “ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก” ตลาดหัวหอมในตลาดไทจะมีผลผลิตจากจีนเข้ามาทุกปี โดยเฉพาะช่วงฤดูกาลที่สินค้าไทยขาดตลาด อย่างหัวหอมใหญ่จะอยู่ที่ 35 บาท/กก. หอมแดง 45 บาท/กก. ราคาทั้งหอมไทยและจีนจะไม่ต่างกันมากนัก เมื่อถึงฤดูกาลหากมีสินค้าไทยสินค้าจากจีนก็จะเข้ามาน้อย
 
สำหรับตลาดผลไม้ ผู้ประกอบการค้าร้านเฉลิมชัย แอปเปิล ผลไม้ และผลไม้ต่างประเทศทุกชนิด กล่าวว่า ตลาดผลไม้ต่างประเทศค่อนข้างคึกคัก ช่วงนี้มีผลไม้จีนทะลักเข้ามาในไทยเป็นจำนวนมาก ทั้งยังตรงกับช่วงเทศกาลปีใหม่พอดี รวมถึงอยู่ในช่วงรอยต่อเดือนกุมภาพันธ์ที่เป็นช่วงเทศกาลตรุษจีนด้วย
 
“ผลไม้ที่ขายดีในช่วงนี้คือ ส้ม เนื่องจากมีการตีแบรนด์มาจากต้นทาง ลูกค้าส่วนใหญ่จึงให้ความสนใจซื้อไปรับประทาน สินค้าค่อนข้างขาดตลาด ส่วนผลไม้ชนิดอื่นก็มีเข้ามาให้เลือกซื้อกันอย่างคึกคักยิ่งช่วงนี้รถไฟลาว-จีนเปิดให้บริการ คาดว่าในอนาคตจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยมาก เพราะพืชผัก ผลไม้ จะทะลักเข้ามาในประเทศเป็นจำนวนมาก ด้วยราคาก็ไม่ต่างกันกับผลไม้ไทยเลย พ่อค้าแม่ค้าคนจีนที่อยู่ในไทยก็ค่อนข้างเยอะ การสวมสิทธิเป็นผลไม้ไทยเพื่อการส่งออกก็น่าจะเพิ่มมากขึ้น และจะส่งผลกระทบให้ตลาดผลไม้ไทยแย่ลง”
 
จีนแค่ทดลองนำเข้า 33 ตู้
 
พ.ต.อ.ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสร์ นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า หลังจากมีการเปิดให้บริการรถไฟลาว-จีนอย่างเป็นทางการปรากฏ มีการทดลองนำเข้าผักผ่านทางรถไฟสายนี้เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2564 จำนวน 33 ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวเท่านั้น
 
เพราะจนถึงวันนี้ยังไม่มีการนำเข้าผักและผลไม้ผ่านทางรถไฟเข้ามาอีก เนื่องจากสถานีรถไฟของจีนและ สปป.ลาวยังไม่มีความพร้อมในการให้บริการมากนัก ประกอบกับรูปแบบการขนส่งผักที่เข้ามาตามเส้นทางรถไฟลาว-จีนยังไม่มีการเชื่อมต่อกับฝั่งไทย
 
ดังนั้นผักที่นำเข้ามาจะต้องลงรถไฟที่สถานีเวียงจันทน์ หลังจากนั้นจะนำขึ้นรถบรรทุกวิ่งข้ามด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ส่วนวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมาก็มีการนำเข้าดอกไม้ แต่มีปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
 
“เป็นความตื่นตระหนักและเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกันมากกว่าว่า จะมีผักจากจีนทะลักเข้ามา เพราะตอนนี้ทดลองเข้ามาครั้งเดียว ยังไม่มีเข้ามาอีก สินค้าผักผลไม้ที่มาจากจีนเพื่อส่งไปที่ตลาดไทก็ยังไม่ได้รับแจ้งว่าจะมีการนำเข้ามา” พ.ต.อ.ณรัชต์พลกล่าว

ด้าน นายอภิวัฒน์ สุขพันธ์ ผู้อำนวยการสายงานบริหารพื้นที่ บริษัท ดอนเมืองพัฒนา จำกัด ผู้บริหารตลาดสี่มุมเมือง จังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ที่ผ่านมาตลาดสี่มุมเมืองจะนำเข้าเฉพาะผักจากจีน ซึ่งปัจจุบันเท่าที่ติดตามตัวเลขนำเข้าก็ยังมีปริมาณปกติประมาณวันละ 30 ตู้คอนเทนเนอร์ ด้านภาวะราคาก็ยังปกติเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา
 
แผนเชื่อมท่าเรือเวียดนาม
 
ดร.จตุรงค์ บุนนาค ประธานสภาธุรกิจไทย-ลาว กล่าวว่า รัฐบาล สปป.ลาวกำลังพัฒนาระบบสาธารณูปโภคฝั่ง “ท่าบก-ท่านาแล้ง” ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับจังหวัดหนองคายอย่างมาก โดยเฉพาะการเตรียมขยายเส้นทางรถไฟเชื่อมต่อรถไฟลาว-จีนจากสถานีท่านาแล้ง (เวียงจันทน์) ไปสู่ “ท่าเรือหวุ่นอ๊าง”ประเทศเวียดนาม เพื่อเพิ่มช่องทางการส่งออกสินค้าทางทะเล จากเดิมที่สินค้าจากลาวจะต้องพึ่งพาการส่งผ่านมายังท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อหาทางไปออกทะเล
 
“ตอนนี้ลาวได้ทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างทางรถไฟไปยังเวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2568 แต่ถ้าจีนร่วมลงทุนในเส้นทางนี้ด้วยก็จะเร็วขึ้น”
 
ในขณะที่ยังไม่มีทางรถไฟก็สามารถใช้รถบรรทุกขนส่งเพื่อไปลงเรือทางด้านเวียดนามได้ แม้ตอนนี้ท่าเรือหวุ่นอ๊างสร้างเสร็จแล้ว แต่ก็ยังไม่เท่ากับที่แหลมฉบัง แต่การส่งผ่านท่าเรือนี้จะช่วยเปิดเส้นทางขนสินค้าไปยังตลาดญี่ปุ่น-อินโดนีเซีย-สหรัฐได้ จากปัจจุบันใช้เป็นเส้นทางการขนส่งแร่โพแทช
 
ไทยขาดดุล 6,000 ล้านบาท
 
ด้าน รศ.ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากรถไฟลาว-จีนเริ่มใช้เต็มรูปแบบในปี 2565 ประเทศไทยมีโอกาสจะ “ขาดดุลการค้ากับจีน” มากขึ้น ประมาณปีละ 6,000 ล้านบาท จากปกติที่ส่งออกไปจีนเฉลี่ย 13,000 ล้านบาท และนำเข้า 19,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มที่ไทยจะขาดดุลให้กับญี่ปุ่น-เวียดนามมากขึ้นอีก หลังจากความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภูมิภาค (RCEP) มีผลบังคับใช้ปี 2565 อีกด้วย
 
อย่างไรก็ตาม ในอีก 1-2 ปีนี้ จีนได้วางเป้าให้ลาวเป็น “ศูนย์กลางการผลิตสินค้าในอาเซียน” เพื่อส่งออกไปขายทั่วโลก เพราะการเชื่อมต่อเส้นทางโลจิสติกส์จากจีนไปลาว และเชื่อมต่อไปท่าเรือหวุ่นอ๊าง จังหวัดฮ่างติง ประเทศเวียดนาม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่