สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
อยากเล่าอะไรให้คุณฟัง
ตอนเราทำงานที่แรก บริษัทเพิ่งก่อตั้งเลย ทุกอย่างมันจึงเป็นเรื่องใหม่ไปหมด
แม่บ้านก็เข้ามาพร้อมเราค่ะ เขาอายุเยอะแล้วตอนนั้นแต่มีลูกเล็กคนหนึ่งคล้ายลูกหลง
แกเลยต้องมาทำงานแม่บ้าน ส่วนสามีแกก้อายุมากแล้วทำงานที่บ้านก๊อกแก๊กไปตามเรื่อง
เราทำงานด้วยกัน และด้วยบริษัทมันเล็กและเพิ่งเริ่มต้นอะไรๆเลยช่วยกันทุกอย่าง
แม่บ้านก็มาช่วยงานเอกสารได้ด้วย เราเริ่มเห็นสกิลของแกคือทำงานบัญชีได้ คิดเลขเก่ง
เราก็เริ่มมองตั้งแต่ตอนนั้นว่าป้ามีความรู้ แล้วแต่ด้วยความที่เราก็ไม่ยุ่งเรื่องคนอื่นจนกว่าเขาจะเล่าออกมาเอง
วันหนึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาถามทาง (คือที่ทำงานเรามันอยู่แถวย่านท่องเที่ยวพอดีจะมีนักท่องเที่ยวผ่านมาบ้าง)
ป้าแม่บ้านก็เดินมาคุยกับนักท่องเที่ยวและชี้บอกทาง ในขณะที่ผู้จัดการตอนนั้นที่ยืนอยู่บริเวณเดียวกันยังงมภาษาอังกฤษอยู่เลย
วันหนึ่งเราได้นั่งคุยสบายๆกับป้าแม่บ้าน เราได้มีโอกาสฟังเรื่องของแกจริงจัง
แกเล่าว่าจริงๆเป็นสาวออฟฟิศฝ่ายบัญชี แต่มีวันนึงลุงมาจีบและแต่ก่อนลุงก็มีธุรกิจตัวเองป้าจึงลาออกมาทำธุรกิจด้วยกัน
แต่วันหนึ่งชีวิตไม่แน่นอน ทุกอย่างล้มลงและป้าเองก็เพิ่งมีลูกคนแรกกับลุง
ป้าตัดสินใจว่า มาสมัครเป็นแม่บ้านโดยที่ไม่ได้คิดอะไรเลยแค่อยากได้เงินและฐานเงินเดือนที่นี่มันดี
ดังนั้นเราจึงรู้ว่าป้าไม่ใช่แม่บ้านธรรมดา
จริงแล้วชีวิตป้าเขาสอนเราหลายอย่าง เรามองแกแบบชื่นชม
ในวันที่ชีวิตเราไม่แน่นอนช่วงหนึ่งเราจะนึกถึงแม่บ้านคนนี้เสมอ
เราไม่ควรยึดติดกับเรื่องในอดีต และงานทุกงานล้วนมีคุณค่าและถ้ามันได้เงินมาอย่างสุจริตก็ไม่จำเป็นต้องอาย
คนจะดูถูกเรามันคือปัญหาของเขา และการวางตัวของคุณมันจะเป็นเกราะป้องกันให้ใครทำอะไรคุณไม่ได้
คนดูถูกไม่เป็นไร แต่เราต้องไม่ดูถูกตัวเอง
คุณไปเป็นแม่บ้านแต่แม่บ้านคืออาชีพที่มีคุณค่าค่ะ
ตอนเราทำงานที่แรก บริษัทเพิ่งก่อตั้งเลย ทุกอย่างมันจึงเป็นเรื่องใหม่ไปหมด
แม่บ้านก็เข้ามาพร้อมเราค่ะ เขาอายุเยอะแล้วตอนนั้นแต่มีลูกเล็กคนหนึ่งคล้ายลูกหลง
แกเลยต้องมาทำงานแม่บ้าน ส่วนสามีแกก้อายุมากแล้วทำงานที่บ้านก๊อกแก๊กไปตามเรื่อง
เราทำงานด้วยกัน และด้วยบริษัทมันเล็กและเพิ่งเริ่มต้นอะไรๆเลยช่วยกันทุกอย่าง
แม่บ้านก็มาช่วยงานเอกสารได้ด้วย เราเริ่มเห็นสกิลของแกคือทำงานบัญชีได้ คิดเลขเก่ง
เราก็เริ่มมองตั้งแต่ตอนนั้นว่าป้ามีความรู้ แล้วแต่ด้วยความที่เราก็ไม่ยุ่งเรื่องคนอื่นจนกว่าเขาจะเล่าออกมาเอง
วันหนึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาถามทาง (คือที่ทำงานเรามันอยู่แถวย่านท่องเที่ยวพอดีจะมีนักท่องเที่ยวผ่านมาบ้าง)
ป้าแม่บ้านก็เดินมาคุยกับนักท่องเที่ยวและชี้บอกทาง ในขณะที่ผู้จัดการตอนนั้นที่ยืนอยู่บริเวณเดียวกันยังงมภาษาอังกฤษอยู่เลย
วันหนึ่งเราได้นั่งคุยสบายๆกับป้าแม่บ้าน เราได้มีโอกาสฟังเรื่องของแกจริงจัง
แกเล่าว่าจริงๆเป็นสาวออฟฟิศฝ่ายบัญชี แต่มีวันนึงลุงมาจีบและแต่ก่อนลุงก็มีธุรกิจตัวเองป้าจึงลาออกมาทำธุรกิจด้วยกัน
แต่วันหนึ่งชีวิตไม่แน่นอน ทุกอย่างล้มลงและป้าเองก็เพิ่งมีลูกคนแรกกับลุง
ป้าตัดสินใจว่า มาสมัครเป็นแม่บ้านโดยที่ไม่ได้คิดอะไรเลยแค่อยากได้เงินและฐานเงินเดือนที่นี่มันดี
ดังนั้นเราจึงรู้ว่าป้าไม่ใช่แม่บ้านธรรมดา
จริงแล้วชีวิตป้าเขาสอนเราหลายอย่าง เรามองแกแบบชื่นชม
ในวันที่ชีวิตเราไม่แน่นอนช่วงหนึ่งเราจะนึกถึงแม่บ้านคนนี้เสมอ
เราไม่ควรยึดติดกับเรื่องในอดีต และงานทุกงานล้วนมีคุณค่าและถ้ามันได้เงินมาอย่างสุจริตก็ไม่จำเป็นต้องอาย
คนจะดูถูกเรามันคือปัญหาของเขา และการวางตัวของคุณมันจะเป็นเกราะป้องกันให้ใครทำอะไรคุณไม่ได้
คนดูถูกไม่เป็นไร แต่เราต้องไม่ดูถูกตัวเอง
คุณไปเป็นแม่บ้านแต่แม่บ้านคืออาชีพที่มีคุณค่าค่ะ
ความคิดเห็นที่ 25
เท่าที่อ่าน เราว่าคุณยังจมไม่ลงค่ะ ไม่มีใจบริการด้วย ถึงแม้เราจะไม่ได้กดขี่แม่บ้านอะไร ไม่ได้ให้นั่งพื้น นอนห้องเก็บของ แต่ให้แยกกันอยู่ เราไม่ชอบอยู่ในบ้านแล้วมีคนอื่นเดินไปเดินมา แต่ถ้าแม่บ้านมาแบบเริ่ดๆเชิดๆ ต้องกินหรูอยู่สบาย นี่เราก็ไม่เอาค่ะ แม่บ้านคนไทยเป็นแบบนี้หลายคนมาก งานเยอะไม่ทำ ห้องนอนไม่ส่วนตัวไม่ทำ ไม่มีแอร์ไม่ทำ อาหารไม่ถูกปากไม่ทำ คือการมีแม่บ้านเราจ้างให้เราสบาย แต่ถ้ามีแล้วเราต้องมาลำบากดูแลแม่บ้าน เราก็ไม่เอาค่ะ
ความคิดเห็นที่ 27
เพราะแม่บ้านตามบ้านก็คือคนทำงาน คือลูกจ้างมาทำงาน ไม่ใช่คนในครอบครัว
หลายบ้านเค้าเลยต้องวางตัวรักษาระยะ เพราะเค้าต้องการอยู่เป็นครอบครัวของเค้า แต่มีความจำเป็นต้องจ้างแม่บ้าน หลายครอบครัวยอมเหนื่อยทำเองเพราะความเป็นส่วนตัวนี่แหละ แม่บ้านบางคนพยายามจะมาเป็นญาติ พยายามเข้าไปในทุกกิจกรรมของเค้า พยายามไปสนิทกับผู้จ้างจนอึดอัด
ตอนนี้หลายบ้านใช้วิธีจ้างรายวันจากแอพ แก้ปัญหานี้ได้ดี
ส่วนคุณจขกท.เหมาะกับทำงานในออฟฟิศ
ต่อให้ทำงานแม่บ้าน ก็ควรเป็นแม่บ้านในออฟฟิศ
ยินดีด้วยที่ได้งานแล้วค่ะ
หลายบ้านเค้าเลยต้องวางตัวรักษาระยะ เพราะเค้าต้องการอยู่เป็นครอบครัวของเค้า แต่มีความจำเป็นต้องจ้างแม่บ้าน หลายครอบครัวยอมเหนื่อยทำเองเพราะความเป็นส่วนตัวนี่แหละ แม่บ้านบางคนพยายามจะมาเป็นญาติ พยายามเข้าไปในทุกกิจกรรมของเค้า พยายามไปสนิทกับผู้จ้างจนอึดอัด
ตอนนี้หลายบ้านใช้วิธีจ้างรายวันจากแอพ แก้ปัญหานี้ได้ดี
ส่วนคุณจขกท.เหมาะกับทำงานในออฟฟิศ
ต่อให้ทำงานแม่บ้าน ก็ควรเป็นแม่บ้านในออฟฟิศ
ยินดีด้วยที่ได้งานแล้วค่ะ
แสดงความคิดเห็น
จากใจคนตกงาน "จะไปทำงานแม่บ้าน" ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะ
แล้วก็มาตกงานกระทันหัน ช่วงโควิดระบาดหนัก ตอนนี้ก็ครบ 2 ปีเต็มแล้วค่ะ
พอว่างงานก็กลับมาอยู่ต่างจังหวัด และต้องดูแลพ่อแม่เหมือนกับตอนที่เราทำงาน
ตอนนั้นมีเงินเก็บหลักแสนต้นๆ และเงินชดเชยการว่างงานแค่นิดหน่อย ส่วนบริษัทไม่จ่ายค่ะ
เราแบ่งเงินออกมาลงทุนค้าขายออนไลน์ แต่ก็ขายไม่ค่อยได่ ทำอาหารขายหน้าบ้านก็ขายไม่ดี
รายรับไม่มี รายจ่ายเท่าเดิม เงินเก็บที่มีอยู่ก็ค่อยๆร่อยหรอลงเรื่อยๆ เราเครียดมาก อยากหางานใหม่
แต่เราอายุเยอะ แถมสาขาที่จบก็ไม่ใช่วิชาชีพ เป็นคณะที่คนตกงานเยอะที่สุดค่ะ
ท้อแท้มาก ถ้าอยู่แบบนี้ทั้งเราทั้งครอบครัวคงแย่แน่ๆ เราเลยกัดฟันลองสมัครงานแม่บ้านดู (คิดว่าน่าจะง่าย)
แต่เปล่าเลยค่ะ อาชีพแม่บ้าน เป็นอาชีพที่ต้องใช้ทักษะและความอดทนสูงมากๆ
ไม่ใช่ว่าใครก็เข้าไปทำตำแหน่งนี้ได้ง่ายๆ ยากตั้งแต่การสัมภาษณ์ในด่านแรกเลย
เราสมัครมาหลายที่ ส่วนใหญ่คนสัมภาษณ์จะไม่รับเรา ด้วยเหตุผลง่ายๆคือ บุคลิกเราไม่เหมาะ
พูดจาฉะฉาน ดูฉลาดเกินไป ดูไม่อ่อนน้อมถ่อมตน เค้าอยากได้คนหน้าตาเรียบร้อย ซื่อๆ
หงิมๆติ๋มๆ ดูเกรงอกเกรงใจ ทั้งๆที่เราพูดไม่กี่คำ และทำตัวปกติมากไม่ได้ทำมั่นใจอะไรเลยนะ
แถมนายจ้างส่วนใหญ่ จัดลำดับแม่บ้านไว้ต่ำสุดกว่าสัตว์เลี้ยงของตัวเอง (เกือบทุกคนเลยที่เป็นแบบนี้)
ยกตัวอย่างเช่น ให้เราไปนอนห้องเก็บของที่มีของวางไว้เต็มไปหมด ทั้งสกปรก ทั้งแคบ
หรือบางคนให้ไปนอนนอกตัวบ้าน ไม่มีเตียง ไม่มีหน้าต่าง ให้นอนต่ำกว่าสุนัขที่บ้าน
ให้คอยรับใช้ เอาใจสัตว์เลี้ยงอย่างดี แต่ไม่ให้ตีสนิทกับเค้า ทั้งๆที่เรารักสัตว์มาก
ทุกคนตีราคาแม่บ้าน เหมือนคนรับใช้ หรือบางคนให้ราคายิ่งกว่าทาสในละครทีวีที่เราเคยดูซะอีก
เราเคยดูสัมภาษณ์ครอบครัวนึง เป็นอดีตสามีของดาราชื่อดัง เค้าสอนลูกดีมากๆ ให้เกียรติแม่บ้านทุกคน
เรายังชื่นชมเลยค่ะ ทั้งๆที่ครอบครัวเค้าร่ำรวยล้นฟ้า แต่ให้เกียรติคนอื่นและสอนลูกได้ดีมากๆ
บางครอบครัวที่เราไปสมัครงาน ครอบครัวฐานะธรรมดาๆ แต่ตอนสัมภาษณ์ให้เรานั่งที่พื้น แล้วตัวเองกระดิกเท้าอยู่ข้างบน
เราลุกกลับบ้านทันที แล้วมาตั้งคำถามกับตัวเอง นี่ชั้นมาทำอะไรที่นี่ ไม่มีอาชีพอย่างอื่นดีกว่านี้แล้วเหรอ
นึกเห็นใจคนที่ทำอาชีพนี้อย่างมาก คงต้องใช้ความอดทนสูงมาก น่าเห็นใจสุดๆ
ใครเจอเจ้านายใจดีให้เกียรติแม่บ้านเหมือนมนุษย์คนนึง คนๆนั้นโชคดียิ่งกว่าถูกหวยซะอีก
จริงๆแล้วคำว่า แม่บ้าน ก็คือ คนรับใช้ แบบเดียวกับที่เราเห็นในทีวีเหรอคะ (เราเข้าใจถูกมั้ยคะ)
บ้านใครมีแม่บ้าน หรือ ใครที่ทำอาชีพนี้ ช่วยมาแชร์ประสบการณ์ และเปิดมุมมองใหม่ๆให้เราหน่อยเถอะค่ะ