โดยปกติ ปืน 1911 ที่สามารถตั้งราคาขายแพงกว่าปืนทั่วไปหลาย ๆ เท่า จะเป็นปืน “คัสตอม” แต่งพิเศษโดยช่างปืนที่มีความชำนาญสูง ต่อมาช่างปืนฝีมือดีบางราย ลงทุนซื้อเครื่องมือการผลิตสมัยใหม่ที่เที่ยงตรงแม่นยำ ลดความจำเป็นในการแต่งทีละชิ้นก่อนประกอบลงไปบ้าง แต่ผลงานยังจัดอยู่ในระดับปืนสั่งทำ ผลิตไม่มาก แต่งละเอียดขั้นสุดท้ายทีละกระบอก รักษาชื่อเสียงว่าเป็นปืนคุณภาพสูง เหนือกว่าปืนตลาด
แต่สำหรับ Cabot Guns (ออกเสียงแบบอเมริกัน : แค็บ-บัด) น้องใหม่อายุยังไม่ครบสิบปี มีจุดกำเนิดแตกต่างจากปืนระดับ “เหนือตลาด” ทั้งหลาย คือมีบริษัทแม่ (Penn United Technology, Inc.) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตชิ้นส่วนโลหะคุณสมบัติพิเศษ ความละเอียดเที่ยงตรงสูงสุดสำหรับใช้งานระดับอากาศยาน เมื่องานจากภาครัฐลดลง มองหาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะใช้จุดแข็งของตัวเป็นจุดขายได้ เห็นว่า “เหล็กกิโลละแสน” คือปืนพก 1911 นี้ ทำได้ง่ายมากด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้ว ไม่ต้องอาศัยฝีมือหรือชื่อเสียงช่างแต่งปืนแต่อย่างใดทั้งสิ้น
Cabot ผลิตชิ้นส่วนเองเกือบทั้งหมด มีที่สั่งซื้อคือ ลำกล้องจาก Kart และศูนย์หลัง Novak แม้แต่ซองกระสุนที่เดิมเคยซื้อจาก Chip McCormick ก็เปลี่ยนเป็นทำเองโดยจ่ายค่าสิทธิบัตรการออกแบบแทน ชิ้นส่วนของปืน Cabot ขัดผิวด้วยเครื่อง CNC ระดับความละเอียด .0001 มิลลิ เมตร ถ้าตรวจวัดด้วยไมโครมิเตอร์ อ่านได้ .001 มิลลิเมตร จะไม่พบความแตกต่างชิ้นต่อชิ้น ออกจากสายการผลิตแล้วประกอบเข้าเป็นปืนทั้งกระบอกได้เลยไม่ต้องแต่งอีก ซึ่งทางบริษัทจดลิขสิทธิ์ชื่อเรียกว่า “Clone Technology” ทุกชิ้นเท่ากันพอดีไม่มีเผื่อเหลือเผื่อขาด ได้ปืนที่ประณีตสูงสุดที่คุยว่าเป็น “Post Custom” หลุดพ้นจากการแต่งทีละกระบอกแล้ว
สำหรับปืนนายแบบสัปดาห์นี้ Cabot S103 เป็น 1911 ลำกล้อง 4.25 นิ้วคือระดับ “คอมมานเดอร์” สั้นกว่า “กัฟเวิร์นเม้นท์” ลำกล้อง 5 นิ้วของปืนทหารเดิม แต่ยังใช้ซองกระสุนจุ 8 นัดมาตรฐาน, โครงปืนและลำเลื่อนผลิตจากแท่งเหล็กสเตนเลส รหัสวัสดุ 416 กัดขึ้นรูปด้วยเครื่อง CNC แต่งผิวด้าน, ลำกล้องที่ใช้เป็นระดับยิงเป้าแข่งขัน มีจุดเดียวที่อาศัยมือช่างทำคือขัดผิวท้ายรังเพลิงส่วนทางลาดป้อนกระสุน, ปลายลำกล้องคว้านเก็บมุมเสมอผิวบูช, สปริงลำเลื่อน 18 ปอนด์ แบบเส้นแบน มีแกนสปริงสเตนเลสยาวตลอด ขัดเงาส่วนปลายด้านหน้า, ช่องคัดปลอกขยายกว้าง, ศูนย์หน้าจุดขาว ติดตั้งแบบหางเหยี่ยวเสียบจากปลายลำเลื่อน มีบูชลำกล้องปิดกันเลื่อนหลุด, ศูนย์หลังแบบต่อสู้ของโนแว็ค ปรับสูงต่ำได้, ไกผิวโค้งแบบต่อสู้ หน้าไกไม่แกะลาย, นกสับโปร่งลดน้ำหนัก มีร่องรับนกตกแบบตะขอจับเซียร์, ห้ามไกด้านซ้าย, หลังอ่อนหางยาว ช่วยป้องกันง่ามมือไม่ให้หางนกหนีบ จับได้สูง
ในด้านการตกแต่งภายนอก S103 มาพร้อมประกับด้ามสองชุด คือวัสดุ G10 แข็งแรงทนทานเพื่อการใช้งาน และด้ามไม้วอลนัทลายสวย, หน้าด้ามหลังด้ามแกะลายกันลื่นเป็นเอกลักษณ์ เส้นตัดทแยง 90 องศา เก็บปลายไม่กัดผิว สันลำเลื่อนปาดเรียบ แกะลายตามยาวจากศูนย์หลังถึงศูนย์หน้า, ลายกันลื่นที่ลำเลื่อนเหมือนหน้าด้ามหลังด้าม ทำร่องภายในสามแถบ จับได้ถนัดดีมาก ราคาโรงงาน $3,695 ทะลุแสนตั้งแต่ยังไม่เข้าไทย.
https://d.dailynews.co.th/article/501773/
......................................
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 1090 ละเอียดกว่าเครื่องวัด Cabot S103 Commander
แต่สำหรับ Cabot Guns (ออกเสียงแบบอเมริกัน : แค็บ-บัด) น้องใหม่อายุยังไม่ครบสิบปี มีจุดกำเนิดแตกต่างจากปืนระดับ “เหนือตลาด” ทั้งหลาย คือมีบริษัทแม่ (Penn United Technology, Inc.) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตชิ้นส่วนโลหะคุณสมบัติพิเศษ ความละเอียดเที่ยงตรงสูงสุดสำหรับใช้งานระดับอากาศยาน เมื่องานจากภาครัฐลดลง มองหาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะใช้จุดแข็งของตัวเป็นจุดขายได้ เห็นว่า “เหล็กกิโลละแสน” คือปืนพก 1911 นี้ ทำได้ง่ายมากด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้ว ไม่ต้องอาศัยฝีมือหรือชื่อเสียงช่างแต่งปืนแต่อย่างใดทั้งสิ้น
Cabot ผลิตชิ้นส่วนเองเกือบทั้งหมด มีที่สั่งซื้อคือ ลำกล้องจาก Kart และศูนย์หลัง Novak แม้แต่ซองกระสุนที่เดิมเคยซื้อจาก Chip McCormick ก็เปลี่ยนเป็นทำเองโดยจ่ายค่าสิทธิบัตรการออกแบบแทน ชิ้นส่วนของปืน Cabot ขัดผิวด้วยเครื่อง CNC ระดับความละเอียด .0001 มิลลิ เมตร ถ้าตรวจวัดด้วยไมโครมิเตอร์ อ่านได้ .001 มิลลิเมตร จะไม่พบความแตกต่างชิ้นต่อชิ้น ออกจากสายการผลิตแล้วประกอบเข้าเป็นปืนทั้งกระบอกได้เลยไม่ต้องแต่งอีก ซึ่งทางบริษัทจดลิขสิทธิ์ชื่อเรียกว่า “Clone Technology” ทุกชิ้นเท่ากันพอดีไม่มีเผื่อเหลือเผื่อขาด ได้ปืนที่ประณีตสูงสุดที่คุยว่าเป็น “Post Custom” หลุดพ้นจากการแต่งทีละกระบอกแล้ว
สำหรับปืนนายแบบสัปดาห์นี้ Cabot S103 เป็น 1911 ลำกล้อง 4.25 นิ้วคือระดับ “คอมมานเดอร์” สั้นกว่า “กัฟเวิร์นเม้นท์” ลำกล้อง 5 นิ้วของปืนทหารเดิม แต่ยังใช้ซองกระสุนจุ 8 นัดมาตรฐาน, โครงปืนและลำเลื่อนผลิตจากแท่งเหล็กสเตนเลส รหัสวัสดุ 416 กัดขึ้นรูปด้วยเครื่อง CNC แต่งผิวด้าน, ลำกล้องที่ใช้เป็นระดับยิงเป้าแข่งขัน มีจุดเดียวที่อาศัยมือช่างทำคือขัดผิวท้ายรังเพลิงส่วนทางลาดป้อนกระสุน, ปลายลำกล้องคว้านเก็บมุมเสมอผิวบูช, สปริงลำเลื่อน 18 ปอนด์ แบบเส้นแบน มีแกนสปริงสเตนเลสยาวตลอด ขัดเงาส่วนปลายด้านหน้า, ช่องคัดปลอกขยายกว้าง, ศูนย์หน้าจุดขาว ติดตั้งแบบหางเหยี่ยวเสียบจากปลายลำเลื่อน มีบูชลำกล้องปิดกันเลื่อนหลุด, ศูนย์หลังแบบต่อสู้ของโนแว็ค ปรับสูงต่ำได้, ไกผิวโค้งแบบต่อสู้ หน้าไกไม่แกะลาย, นกสับโปร่งลดน้ำหนัก มีร่องรับนกตกแบบตะขอจับเซียร์, ห้ามไกด้านซ้าย, หลังอ่อนหางยาว ช่วยป้องกันง่ามมือไม่ให้หางนกหนีบ จับได้สูง
ในด้านการตกแต่งภายนอก S103 มาพร้อมประกับด้ามสองชุด คือวัสดุ G10 แข็งแรงทนทานเพื่อการใช้งาน และด้ามไม้วอลนัทลายสวย, หน้าด้ามหลังด้ามแกะลายกันลื่นเป็นเอกลักษณ์ เส้นตัดทแยง 90 องศา เก็บปลายไม่กัดผิว สันลำเลื่อนปาดเรียบ แกะลายตามยาวจากศูนย์หลังถึงศูนย์หน้า, ลายกันลื่นที่ลำเลื่อนเหมือนหน้าด้ามหลังด้าม ทำร่องภายในสามแถบ จับได้ถนัดดีมาก ราคาโรงงาน $3,695 ทะลุแสนตั้งแต่ยังไม่เข้าไทย.
https://d.dailynews.co.th/article/501773/
......................................
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช