JJNY : 4in1 จะนะรักษ์ถิ่นสู้ต่อ│โอไมครอนดึงจีโนมไวรัสตัวอื่นมาผสมได้│กก.ส่งคนชิงผู้ว่าฯกทม.แน่นอน│ADBหั่นGDPเอเชียปี65

เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ยันปักหลัก สู้ต่อ เหตุยังไม่เห็น เอกสารมติครม.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6782476
 
 
เครือข่ายจะนะ ชี้ข้อเรียกร้อง ยังไม่เห็นเอกสารมติครม.ชัดเจน นอนปักหลักหน้าทำเนียบรัฐบาลต่อ ลั่นอยู่ได้ถึงอาทิตย์หน้า ไม่ต้องห่วงอาหารการกิน สู้ต่อ
   
วันที่ 14 ธ.ค.2564 นายสมบูรณ์ คำแหง แกนนำเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นออกมาเผยว่า ข้อเรียกร้องของกลุ่มที่เสนอไปยังรัฐบาลนั้น มีมติเป็นแค่วาจา ไม่มีหลักฐานมติครม.ชัดเจนมายืนยัน ไม่มีแม้กระทั่งการประกาศในเว็บไซค์ ดังนั้นเมื่อยังไม่เห็นเอกสารเหล่านี้ เราก็ยังนอนปักหลักที่หน้าทำเนียบรัฐบาลต่อเหมือนเดิม

ทั้งนี้หากเครือข่ายยังไม่เห็นเอกสารมติของครม.ในเรื่องนิคมอุตสาหกรรม ที่มีข่าวว่าครม.รับทราบข้อร้องเรียนของเครือข่ายแล้ว และได้มอบหมายให้หน่วยงานให้สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นแม่งานหลักในการทำผลศึกษาประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ (SEA) และยุติการดำเนินโครงการทั้งหมด จนกว่าจะมีผล SEA ออกมา ดังนั้นทางเครือข่ายก็จะสู้ต่อ
 
“หากเรารู้ว่ารัฐบาลจะโกหก เราก็จะทำการปิดถนนตามที่ประกาศแล้ว พวกเราจะรอจนกว่าจะมีผลครม.ออกมาชัดเจน เรารอได้ถึงอาทิตย์หน้า ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอาหารการกิน หรือไฟฟ้า เราปักหลักอยู่ที่นี้ต่อไปเหมือนเดิม”
 


ศูนย์จีโนม รพ.รามาฯเผย "โอไมครอน" ดึงจีโนมไวรัสตัวอื่นมาผสมได้
https://www.tnnthailand.com/news/covid19/99313/

ศูนย์จีโนม รพ.รามาฯ นักวิยาศาสตร์พบ "โอไมครอน" มีความสามารถพิเศษ สามารถดึงเอาจีโนมบางส่วนของบรรดาไวรัสโคโรนาที่ติดต่อในมนุษย์เข้ามาผนวกไว้ในสายจีโนมของตัวเองได้ 

วันนี้( 14ธ.ค.64) ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ (Center for Medical Genomics) คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ให้ความรู้เกี่ยวกับโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ชนิด B.1.1.529 หรือ "โอไมครอน"โดยระบุข้อความว่า 

"ทำไมควรให้ความสนใจการแลกเปลี่ยนสารพันธุกรรมระหว่าง “โอไมครอน” และ “เดลตา”
 
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ. รามาธิบดี ได้ดำเนินการสุ่มถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสโคโรนา 2019 มาตั้งแต่ปี 2563 เพื่อศึกษาธรรมชาติการกลายพันธุ์ของไวรัสดังล่าว ที่อาจส่งผลต่อชุดตรวจ PCR ยาต้านไวรัส วัคซีนป้องกันการติดเชื้อ รวมทั้ง การติดเชื้อซ้ำ (Re-infection) ด้วยสายพันธุ์เดียวกัน หรือ ต่างสายพันธุ์ และการติดเชื้อมากกว่าหนึ่งสายพันธุ์ในคนเดียวกัน หรือ"Mixed-infection” ซึ่งอาจส่งผลต่อการป้องกัน ดูแล รักษา หรือการปรับเปลี่ยนเวชปฏิบัติ (medical practice) ได้
 
การติดเชื้อแบบ “Mixed-infection” หรือการติดเชื้อมากกว่าหนึ่งสายพันธุ์ของโคโรนาไวรัส 2019 ในคนเดียวกันสามารถตรวจสอบได้ด้วยการถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสจากสิ่งส่งตรวจ โดยจะพบรหัสพันธุกรรมไวรัส 2 สายพันธุ์ เช่น "แอลฟา" และ "บีตา" ในผู้ติดเชื้อรายเดียวกัน ซึ่งในกรณีของไวรัสโคโรนา 2019 การเกิด “Mixed-infection” พบได้ประปราย

ประเทศไทยเคยพบการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มากกว่าหนึ่งสายพันธุ์ในผู้ติดเชื้อรายเดียวกัน เป็นการติดเชื้อร่วมระหว่างสายพันธุ์ “แอลฟา” และ “เดลตา” จากแคมป์คนงาน ซึ่งพบโดย “กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข” และ “ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯ”
 
การติดเชื้อแบบ “Mixed-infection” อาจจะก่อให้เกิดไวรัสลูกผสม (hybrid) ขึ้นได้ โดยสายจีโนมของไวรัสลูกผสมจะประกอบด้วยข้อมูลรหัสพันธุกรรมของไวรัสมากกว่าหนึ่งสายพันธุ์ ซึ่งทางศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯได้ปรับเปลี่ยนมาใช้เครื่องถอดรหัสพันธุกรรมเป็นรุ่นที่สาม (Third generation sequencer) ซึ่งจะสามารถถอดรหัสชิ้นส่วนจีโนมสายยาวถึง 1,200 bp ได้ (Single-molecule long-read sequencing) โดยจะช่วยให้สามารถแยกแยะได้ว่าผู้ติดเชื้อรายนั้นติดเชื้อไวรัสโคโนนา 2019 มากกว่าหนึ่งสายพันธุ์ หรือติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดียวแต่เป็นไวรัสลูกผสม (hybrid) ในอดีตยังไม่มีรายงานจาก “WHO” ถึงการค้นพบไวรัสโคโรนา 2019 ลูกผสม (hybrid)
 
แล้วเหตุใดต้องกังวล 
 
ที่ต้องเฝ้าระวังเพราะนักวิยาศาสตร์ไปพบว่า “โอไมครอน” (B.1.1.529) มีความสามารถพิเศษต่างจากไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์อื่นตรงที่สามารถดึงเอาจีโนมบางส่วนของบรรดาไวรัสโคโรนาที่ติดต่อในมนุษย์ (“Human coronaviruses”) เข้ามาผนวกไว้ในสายจีโนมของตัวเองได้
 
โดยมีรายงานว่า “โอไมครอน” สามารถดึงเอาชิ้นส่วนจีโนมของ “Human coronaviruses” สายพันธุ์ “HCoV-229E” ที่ก่อให้เกิดโรคหวัด (common cold) เข้ามาไว้ในจีโนมของ “โอไมครอน” เองได้ โดยเป็นชิ้นส่วนจีโนมที่เรียกว่า “ins214EPE (สร้างกรดอะมิโน 3 ตัวที่ต่างไปจากไวรัสโคโรนา 2019 คือ กรดกลูตามิก-โปรลีน-กรดกลูตามิก”) เข้ามาไว้ในจีโนมของ "โอมิครอน"
 
“Human coronaviruses” สายพันธุ์ “HCoV-229E” เป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคไข้หวัดหรือ “common cold” จึงคาดกันว่าอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ “โอไมครอน” มีการระบาดอย่างรวดเร็ว แต่มีอาการไม่รุนแรง (ต่างจากไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์อื่นที่มักจะมีอาการรุนแรง) อันเป็นคุณลักษณะเด่นของ  “Human coronaviruses” สายพันธุ์ “HCoV-229E”
 
จากการตรวจรหัสพันธุกรรมของบรรดาไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์อื่น เช่น เดลตา แอลฟา บีตา แกมมา มิว แลมบ์ดา ฯที่เก็บไวรัสฐานข้อมูลโควิดโลก"GISAID" กว่า 6 ล้านตัวอย่าง ยังไม่พบพฤติกรรมการดึงชิ้นส่วนจีโนมของไวรัสสายพันธุ์อื่นเข้ามาไว้ในจีโนมตัวเอง
 
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ศูนย์จีโนมฯต้องติดตาม “โอไมครอน” ว่าจะเกิดการแลกเปลี่ยนสารพันธุ์กรรม กับ “เดลตา” ซึ่งปัจจุบันครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลกอยู่ในขณะนี้
 
ส่วนหากเกิดการแลกเปลี่ยนสารพันธุกรรมเกิดเป็นสายพันธุ์ลูกผสมระหว่าง “โอไมครอน” กับ “เดลตา” จะมีการแพร่ระบาดรวดเร็วขึ้นหรือช้าลง และมีอาการรุนแรงขึ้นหรือลดลงยังไม่อาจคาดคะเนได้"
 
https://www.facebook.com/CMGrama/posts/4584109651696779
 

 
ณัฐชา ลั่น ก้าวไกล ส่งคนท้าชิง ผู้ว่าฯกทม. แน่นอน รอเปิดตัวต้นปีหน้า
https://www.khaosod.co.th/politics/news_6782414
 
ณัฐชา ลั่น ก้าวไกล ส่งคนท้าชิง ผู้ว่าฯกทม. แน่นอน รอเปิดตัวต้นปีหน้า ขณะที่เลือกตั้งซ่อม ชุมพร-สงขลา ก็ยืนยันว่าจะส่งผู้สมัครเช่นกัน
   
14 ธ.ค. 2564 – นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระแสข่าวที่มีหลายพรรคการเมืองเริ่มเปิดตัวผู้ท้าชิงผู้ว่าฯกทม. ว่า พรรคก้าวไกล ยืนยันจะส่งตัวแทนลงแข่งขันเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. แน่นอน โดยจะเปิดตัวกลางเดือน ม.ค. 2565
 
โดยรับรองว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. พรรคก้าวไกล เป็นบุคคลที่ “ใหม่ ชัด โดน” และรับประกันว่าบุคคลนี้จะตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนกทม. ได้อย่างแน่นอน
 
นอกจากนี้ในกลางเดือน ม.ค. 2565 จะประกาศความพร้อมของว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ในนามพรรคครบทั้ง 50 เขตด้วย ซึ่งขณะนี้เริ่มทำงานรับฟังความต้องการเพื่อผลักดันนโยบายกทม.ในทุกเขตแล้ว และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกัน
 
นายณัฐชา กล่าวเพิ่มว่า ในส่วนการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. จ.ชุมพร และ จ.สงขลา นั้น พรรคก้าวไกลยืนยันส่งผู้ว่าที่ผู้สมัครลงแข่งขันทั้ง 2 เขต แต่ขณะนี้มีผู้เสนอตัวลงแข่งขันมากกว่า 1 คน พรรคจึงต้องใช้กระบวนการคัดเลือกและมอบหมายให้กรรมการสรรหาภาคใต้เร่งสรุปตัวผู้สมัครส่งมาส่วนกลางจากนั้นจะประกาศลั่นกลองรบหาเสียงในสนามภาคใต้ทั้ง 2 เขตต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่