ในช่วงสิ้นปีแบบนี้ หลายบัตรเครดิตก็ทำโปรโมชั่นในการใช้คะแนนสะสม นำมาแลกเป็นส่วนลดในการทานอาหารกันอย่างคึกคัก และที่สะดุดตาพวกเรามากที่สุด ก็ต้องเป็นบัตรเครดิต KTC ใช้คะแนนสะสมที่ห้องอาหาร Wisdom International Buffet โดยเป็นโปรโมชั่น มา 2 จ่าย 1 ทุกแพคเกจโดยมีรายละเอียดดังนี้ 
                    เมื่อตัดสินใจเลือกร้านอาหารที่สนใจจะไปทานกันได้แล้ว ก็ถึงเวลาในการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหารกันก่อนเดินทางครับ ทำให้เราทราบว่า ร้านนี้มีอาหารแบ่งเป็น 4 สัญชาติ ได้แก่ ไทย, จีน, ญี่ปุ่น และตะวันตกครับ ในส่วนของเมนูไม่สามารถถ่ายรูปมาได้นะครับ เพราะภายในร้าน ใช้การสั่งอาหารผ่าน Tablet และสามารถสั่งได้ครั้งละ 10 รายการต่อครั้ง เมื่อสั่งครบจำนวนก็แค่กดส่งรายการ ก็จะสามารถสั่งต่อได้เลยครับ หลังจากดูรีวิวร้านอาหาร ทำให้เราทราบว่า ทางร้านกำลังอยู่ในกระแสความสนใจของหลายๆท่าน จึงควรที่จะโทรไปจองคิวก่อนเดินทางครับ 

                      ด้วยความฉุกละหุกของครอบครัวเรา ทำให้เราโทรไปจองคิวกับทางร้านในวันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม 2564 ช่วงเย็นๆ ตั้งใจจะไปทานในวันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม 2564 ทำให้ทางร้านแจ้งว่า คิวจองเต็มจ้า แต่ทางร้านเปิดให้บริการในเวลา 10.00น. ลูกค้าสามารถ walk in เข้ามาที่หน้าร้านได้ ถ้ามีโต๊ะว่าง ก็อาจจะได้ทานเลยครับ ร้านอยู่ภายในศูนย์การค้า สยามสแควร์วัน ชั้น 5 สำหรับที่จอดรถมีให้บริการชั้นใต้ดินครับ โดยมีค่าบริการ ชม.ละ 20 บาท โดยไม่มีส่วนลดจากการประทับตราร้านค้าครับ



                พวกเรามาถึงหน้าร้านในเวลาประมาณ 10.00 น. ครับและได้คิว walk in เป็นคิวสุดท้ายที่ได้โต๊ะนั่งทานของร้านพอดี เมื่อเข้ามาภายในตัวร้าน เคาน์เตอร์บริการเครื่องดื่มจะอยู่ทางด้านขวามือครับ มีให้บริการทั้งกาแฟสดหลากหลายชนิด น้ำอัดลม และเครื่องดื่มอื่นๆ



             ด้วยเวลาที่พวกเราเข้ามาในร้าน ค่อนข้างมีลูกค้ามาใช้บริการเกือบจะเต็มทั้งร้านแล้ว จึงไม่สามารถถ่ายภาพบรรยากาศร้านมาได้ครับ บนโต๊ะจะมีอุปกรณ์ในการทานเตรียมไว้พร้อม ทั้งน้ำจิ้มอาหารต่างๆ รวมถึงจาน ช้อน ส้อม หลอด และกระดาษทิชชู่ ทุกโต๊ะจะมี Tablet วางไว้ให้บริการในการสั่งอาหารครับ ตรงส่วนนี้น้องพนักงานจะมาแจ้งรายละเอียด พร้อมแนะนำวิธีการกดสั่งอาหารครับ โดยภาพเมนูทุกภาพจะระบุจำนวนของอาหารเป็นที่เรียบร้อยครับ  เราสามารถสั่งอาหารได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมงครึ่งและสามารถนั่งทานได้รวม 2 ชั่วโมงครับ 
                  
                    หลังจากกดสั่งอาหารกันแบบรัวๆ เป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงเวลาเดินไปเลือกเครื่องดื่มมาทานกันครับ เริ่มด้วยชอคโกแลตร้อนๆ กาแฟทางร้านก็รสชาติดีนะครับ แฟนสั่งมาหลายแก้วอยู่เหมือนกัน ในส่วนของเครื่องดื่มเย็น รสชาติก็ปกติทั่วไปครับ ออกไปทางแนวหวานเล็กน้อย เว้นยูสุโซดา บอกได้คำเดียวว่าเปรี้ยวถึงใจครับ



               จากนั้นไม่นาน รายการอาหารที่เราทำการสั่งก็เริ่มทะยอยออกมาเสริฟ์ครับ ทางร้านมีเมนูอาหารไม่ค่อยมาก แต่ต้องขอสารภาพว่า บางเมนูจำชื่อรายการอาหารไม่ได้นะครับ ต้องขออภัยล่วงหน้าครับ





              สรุปรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของครอบครัวเรานะครับ ขอเริ่มจากอาหารเมนูติ่มซำ รสชาติส่วนใหญ่ปกติทานได้ครับ ที่โดดเด่นจะเป็นเมนูกุ้งผัดผงกะหรี่ที่ท่านแม่และมิสเตอร์ที ค่อนข้างชื่นชอบในรสชาติของตัวน้ำผงกะหรี่ที่ทำออกมาได้ดีครับ และอีกเมนูก็คือ เป็ดปักกิ่ง อันนี้คือดีงามสุดๆ แป้งเป็ดปักกิ่งทำออกมาบางกำลังดี หนังเป็ดมีความกรุบกรอบ ไม่มันจนเกินไป มีน้ำซอสราดเป็ดปักกิ่งวางบริการใส่ขวดไว้บนโต๊ะพร้อม แค่ราดแล้วห่อก็ลิ้มรสความอร่อยได้ทันทีจ้า

                ต่อมาเมนูที่ทุกคนลงความเห็นให้เป็นพระเอกของมื้อนี้เลย  นั่นก็คือปลาหิมะนึ่งซีอิ๊วครับ คือความดีงามสุดๆ เนื้อปลาสด หวาน อร่อย ทานคู่กับน้ำซีอิ๊วรสชาติกลมกล่อมไม่ได้เค็มจนเกินไป เรียกว่าตักใส่ปากกันแบบเพลินๆ แปบเดียวหมดจานครับ จะสั่งมากี่จาน รสชาติก็ยังคงเดิม เรียกว่าความอร่อยที่คงที่ครับ

                  ในส่วนตัวเป็นคนชอบทานของดองซีอิ๊วมากๆ เมื่อทางร้านมีเมนูปูไข่ดองซีอิ๊ว จึงไม่พลาดที่จะสั่งมาลองทานครับ รสชาติเนื้อปูสดหวานอร่อยไม่แพ้เนื้อปลาหิมะ น้ำดองซีอิ๊วก็ปรุงออกมาได้กลมกล่อมกำลังดี ไม่มีความเค็มโดดให้ระคายเคืองคอแต่อย่างใด ไข่ปูมาแบบมันๆเยิ้มๆ แน่นๆ อร่อยลงตัวมากๆครับ

                 คานิมิโสะ ตัวมันปูที่ต้องย่างไฟก่อนทาน ใช่ว่าทุกร้านทำออกมาแล้วจะอร่อยนะครับ บางร้านที่เคยไปทาน มาแบบคาวๆก็มี แต่สำหรับ Wisdom แล้ว ปรุงรสชาติออกมาได้ดีงามสุดๆครับ มีความกลมกล่อมอร่อยมาก ยิ่งทานคู่กับข้าวญี่ปุ่นหรือเอาอาหารทะเลมาจิ้มแล้วทาน ยิ่งเพิ่มความอร่อยได้เป็นอย่างดี

                   ทูน่าสามสี เมนูนี้เป็นอีกเมนู ที่ทำให้เราตัดสินใจเลือกมาทานที่ร้านนี้แทนที่จะไปร้าน Tenjo กันครับ ในชุดของทูน่าสามสี จะประกอบไปด้วย โอทาโร่ ชูทาโร่ และอากามิ ในสามจานแรก พวกเราได้มาครบทั้ 3 อย่าง แต่ใน 3 จานต่อมา เป็นที่น่าเสียดายครับ เราได้เพียง ชูทาโร่และอากามิ เท่านั้น แต่ความอร่อยก็ไม่ได้เลวร้ายแต่อย่างใด เนื้อปลามาในแบบสด หวาน ละลายในปากได้เป็นอย่างดี ข้าวในซูชิของทางร้านมีการปรุงรสชาติมาให้แล้ว จะไม่จิ้มโชยุ ก็ยังคงความอร่อยครับ 

                     โดยรวมคุณภาพของปลาดิบ อยู่ในเกณฑ์ปกติไปถึงดีครับ ทุกเมนูมีความสด หวานและอร่อย ที่รู้สึกว่าไม่ค่อยผ่าน ในความรู้สึกตัวส่วนตัวจะเป็นเมนูฟัวกราส์ครับ เนื้อสัมผัสมาแบบค่อนข้างเละจนเกินไป บางชิ้นก็ยังคงมีความคาวอยู่ และปลากระพงทอดน้ำปลาครับ เนื้อปลาบางชิ้นก็ยังสัมผัสได้ถึงรสคาวของตัวปลาอยู่ครับ

                    กุ้งแม่น้ำเผา และกั้งเผา มีความสด หวานของวัตุดิบเป็นอย่างดี ทางร้านย่างมาแบบสุกกำลังพอเหมาะ ทานแล้วอร่อยดีครับ ไม่ต้องย่างเอง ไม่ต้องแกะให้มือเลอะ แค่ใช้ส้อมจิ้มก็ทานใส่ปากได้แบบสบายๆครับ เส้นหมี่น้ำตกคุโรบูตะ รสชาติปกติธรรมดาครับ เนื้อสัมผัสของหมูคุโรบูตะ ออกไปทางค่อนข้างแข็ง

                   พิซซ่าเห็ดทรัฟเฟิล เป็นอีกเมนูที่ไม่อยากจะเชื่อครับ ว่าอร่อยมาก ทางร้านทำออกมาได้แป้งบางกรอบกำลังดี ทานเป็นของว่างเล่นๆ กันได้แบบสบายๆ ในส่วนของไก่ย่าง ทางร้านย่างออกมาได้ชุ่มฉ่ำกำลังดี แต่ติดที่ไม่ค่อยชอบซอสบาร์บีคิวที่ทางร้านราดลงมาครับ ทำให้รสชาติของไก่แปลกๆ เช่นเดียวกับซี่โครงหมูบาร์บีคิวครับ เนื้อซี่โครงนุ่ม ใช้แค่มีดเขี่ยเบาๆ เนื้อก็หลุดออกมาได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อทานคู่กับน้ำซอส ก็รู้สึกแปลกๆ ไม่ค่อยชอบเป็นการส่วนตัวครับ

                    ในส่วนของเมนูของหวาน บิงซูรสชาติปกติดีครับ โดดเด่นที่ผลเนื้อสตอเบอรี่ มีความกรุบกรอบ อร่อยมาก และไอศครีมอัญชันข้าวเหนียวดำ รสชาติอร่อยมากครับ น้ำกะทิที่ราดลงมา มีความมัน หอม ทานคู่กับข้าวเหนียวดำ ที่มีเนื้อสัมผัสเป็นเม็ดไม่เละ และไอศครีมอัญชันมีความหวานน้อยๆ เข้ากันได้เป็นอย่างดี เผลอแปบเดียวหมดจานครับ

                    สรุปความคุ้มค่า เมื่อเทียบราคาอาหารกับคุณภาพอาหาร ปริมาณอาหาร และความอร่อยที่ได้รับนะครับ ครอบครัวเราลงความเห็นตรงกันว่า มีความคุ้มค่าเป็นอย่างมาก และยิ่งช่วงนี้สามารถใช้คะแนนสะสมใสบัตรเครดิตเป็นส่วนลดได้ด้วย ยิ่งคุ้มเข้าไปอีกครับ ในส่วนของการบริการ พนักงานภายในร้านให้บริการเป็นอย่างดีนะครับ คอยมาเก็บจานอาหารที่หมดแล้วแทบจะตลอดเวลา อาหารก็ออกมาเสิรฟ์ได้อย่างต่อเนื่อง อาหารไม่ช้าครับ ในวันนี้มีช้าเพียงเมนูเดียว นั่นก็คือ ซี่โครงหมูบาร์บีคิวครับ ที่ต้องตามถึง 3 ครั้ง 

                ถ้าถามว่า มีโอกาสจะกลับไปทานซ้ำอีกไหม ต้องขอตอบว่า กลับไปอีกครั้งแน่นอนครับ เพราะเป็นร้านอาหารที่มีความหลากหลายของประเภทอาหารค่อนข้างมาก สามารถมาทานร่วมกันได้ทุกเพศ ทุกวัย จบในร้านเดียวครับ และครั้งหน้าจะไม่ลืมที่จะนำขิงดอง(เครื่องเคียงที่แฟนขาดไม่ได้ ในการทานอาหารญี่ปุ่น)ไปเองด้วยครับ เพราะทางร้านไม่มีขิงดองเป็นเครื่องเคียงให้บริการครับ

สามารถติดตามรับชมรีวิวอื่นๆของพวกเราได้ที่
http://www.facebook.com/j2ctravel
http://www.jaaechoun.blogspot.com