Mizuho แบงก์ญี่ปุ่นเตรียมลงทุนในแอป e-wallet ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม MoMo
https://brandinside.asia/mizuho-japan-bank-will-invest-in-vietnam-e-wallet-momo/
แอป MoMo ถือเป็นแอปจ่ายเงินที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม มีผู้ใช้งานกว่า 20 ล้านคน เริ่มพัฒนาแอปนี้ตั้งแต่ปี 2007 และพยายามจะเป็นซุปเปอร์แอปที่ให้บริการผู้คนหลากหลายและยังมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% ด้วย
ธนาคาร Mizuho เคยลงทุนใน Vietcombank มาตั้งแต่ปี 2011 เป็นแบงก์ขนาดใหญ่ในเวียดนามแห่งหนึ่ง การลงทุนใน M-Service ของ Mizuho ดังกล่าว จะทำให้ความร่วมมือกับธนาคาร Vietcom ในตลาดค้าปลีกของเวียดนามยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น ธนาคารญี่ปุ่นตั้งเป้าจะเป็นผู้เล่นภาคการเงินรายใหญ่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่มีประชากรและเศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ Sumitomo Mitsui Financial Group ก็เคยลงทุนในสถาบันการเงินในเวียดนาม, อินเดียและประเทศอื่นๆ ในเอเชียมาก่อนแล้ว
สำหรับแอป MoMo นั้น เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2007 และได้เปิดตัวเป็น MoMo e-wallet ตั้งแต่ปี 2009-2010 จากนั้นเริ่มเปิดตัวเป็นแอปพลิเคชันสำหรับสมาร์ทโฟนในช่วงปี 2014-2015 มีลูกค้าใช้บริการครั้งแรกทะลุยอด 500,000 ราย จากนั้นก็ได้รับรางวัลการันตีความสำเร็จเรื่อยมา จากที่เคยเป็น e-wallet อันดับ 1 ของเวียดนาม ตอนนี้กลายเป็น ซุปเปอร์แอปอันดับ 1 ของเวียดนามแล้ว
ที่มา –
Nikkei,
MoMo
ชาวจะนะ จัดทัพเรือประมง ต้านนิคมอุตสาหกรรม ร้องยุติการดำเนินคดี 37 แกนนำ
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_6776610
ชาวจะนะ จัดทัพเรือประมง ต้านนิคมอุตสาหกรรม ร้องยุติการดำเนินคดีแกนนำ 37 คน โดยจะไปทวงคำสัญญาที่ทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง วันที่ 13 ธ.ค.
10 ธ.ค. 2564 – ที่บริเวณชายหาดบ้านบ่อโชน ม.7 ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา กลุ่มผู้คัดค้านโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ทั้งเครือข่ายจะนะถิ่น สมาคมรักษ์ทะเลจะนะ รวมทั้งกลุ่มชาวประมงพื้นที่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ 3 ตำบล ของโครงการ ทั้ง ต.นาทับ ต.ตลิ่งชัน และ ต.สะกอม และองค์กรอิสระต่าง ๆ ราว 400 คน
ได้รวมตัวกันแสดงพลัง และแสดงเจตนารมณ์หยุดนิคมอุตสาหกรรมจะนะ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งประกาศจุดยืนหยุดเวลาเวทีรับฟังความคิดเห็น EIA ฉ้อฉล พร้อมกับการระดมเรือประมงพื้นบ้านในพื้นที่ 3 ตำบล หลายสิบลำ เพื่อมาแสดงพลังในครั้งนี้ด้วย แต่ไม่สามารถเคลื่อนขบวนมายังชายทะเลฝั่งที่มีการรวมตัวกันได้ เนื่องจากมรสุมคลื่นลมแรง จึงต้องจอดลอยลำอยู่ในอ่าวอีกฟาก
โดยกลุ่มได้มีการเสนอข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาลคือ การขอทวงสัญญาจากรัฐบาลที่ตกลงเอาไว้เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ว่า รัฐบาลจะจัดให้มีการประเมินผลเชิงยุทธศาสตร์การพัฒนาหรือ SEA แบบมีส่วนร่วม ที่จะมีคณะศึกษาอันเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย เพื่อให้รัฐบาลมีข้อมูลทางวิชาการที่ถูกต้องครบถ้วน และมาประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ
นอกจากนี้รัฐบาลต้องสั่งให้ยุติการเดินหน้าโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะไว้ก่อนตามข้อตกลง รวมถึงหยุดการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ที่จะจัดขึ้นราวกลางเดือนธันวาคม นี้ ซึ่งขัดกับข้อตกลง และยังขัดต่อหลักสากล ด้วยการจัดรับฟัง
อีกทั้งรัฐบาลต้องยุติการดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำผู้คัดค้าน 37 คน ซึ่งถูกจับกุมเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2564 ทั้งที่ชุมนุมโดยสงบ และมีเป้าหมายเพียง “
ทวงคำตอบจากรัฐบาลที่ผิดคำสัญญา”
กลุ่มผู้คัดค้านและชาวบ้านในพื้นที่ จะไปทวงคำสัญญาอย่างเป็นทางการที่ทำเนียบรัฐบาลอีกครั้งในวันที่ 13 ธันวาคม 2564 และขอเชิญชวนพี่น้องทุกคนเข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้ด้วย
อากาศหนาว เป็ด-ไก่ออกไข่น้อย เกษตรกรกุมขมับ รายได้ลดลงกว่าครึ่ง
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3081931
อากาศหนาว เป็ด-ไก่ออกไข่น้อย เกษตรกรกุมขมับ รายได้ลดลงกว่าครึ่ง
วันที่ 11 ธันวาคม 2564 ในพื้นที่ตำบลห้วยยาง อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนคราชสีมา สภาพอากาศค่อนข้างหนาวเย็น โดยเฉพาะช่วงเช้าอุณหภูมิลดต่ำ อยู่ที่ 17-20 องศาเซลเซียส ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ด-ไก่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น ทำให้เป็ด-ไก่ออกไข่น้อย และยังพบว่า เป็ดจำนวนมาก มีอาการป่วยเป็นหวัด กินอาหารน้อยลง ทำให้ไม่ยอมออกไข่ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “
เป็ดไข่หด” ทำให้ผลผลิตไข่เป็ดลดจำนวนลงไปกว่าครึ่ง
นาย
ธนพนธ์ มาเอก อายุ 15 ปี เกษตรกรเลี้ยงเป็ด-ไก่รายหนึ่งในตำบลห้วยยาง อำเภอบัวใหญ่ กล่าวว่า ตนเลี้ยงเป็ด-ไก่รวมกันจำนวน 200 ตัว ตอนนี้เริ่มประสบปัญหาเป็ด-ไก่ออกไข่น้อย โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง มีหมอกลงจัด หนาวเย็น ทำให้เป็ดเริ่มป่วย ไม่ออกไข่ ผลผลิตหายไปกว่าครึ่ง ทำให้รายได้ลดไปกว่าครึ่งเช่นกัน ปกติเป็ดเคยไข่วันละ 100 ฟอง แต่ในวันที่อากาศหนาวจัด จะลดลงเหลือ 10-40 ฟอง ทำให้ประสบปัญหาเป็นอย่างมาก ซึ่งปศุสัตว์อำเภอบัวใหญ่ ได้แจ้งเตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ให้ระมัดระวังสัตว์ป่วยในช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เพราะอาจทำให้สัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน โดยหากพบสัตว์ป่วย ขอให้แจ้งสำนักงานปศุสัตว์ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ไปช่วยเหลือได้ทันท่วงที
JJNY : แบงก์ญี่ปุ่นเตรียมลงทุนในแอปเวียดนาม│ชาวจะนะจัดทัพเรือประมง│เป็ด-ไก่ออกไข่น้อย รายได้ลด│โจรใต้บึ้ม ชุด รปภ.พระ
https://brandinside.asia/mizuho-japan-bank-will-invest-in-vietnam-e-wallet-momo/
แอป MoMo ถือเป็นแอปจ่ายเงินที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม มีผู้ใช้งานกว่า 20 ล้านคน เริ่มพัฒนาแอปนี้ตั้งแต่ปี 2007 และพยายามจะเป็นซุปเปอร์แอปที่ให้บริการผู้คนหลากหลายและยังมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% ด้วย
ธนาคาร Mizuho เคยลงทุนใน Vietcombank มาตั้งแต่ปี 2011 เป็นแบงก์ขนาดใหญ่ในเวียดนามแห่งหนึ่ง การลงทุนใน M-Service ของ Mizuho ดังกล่าว จะทำให้ความร่วมมือกับธนาคาร Vietcom ในตลาดค้าปลีกของเวียดนามยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น ธนาคารญี่ปุ่นตั้งเป้าจะเป็นผู้เล่นภาคการเงินรายใหญ่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่มีประชากรและเศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ Sumitomo Mitsui Financial Group ก็เคยลงทุนในสถาบันการเงินในเวียดนาม, อินเดียและประเทศอื่นๆ ในเอเชียมาก่อนแล้ว
สำหรับแอป MoMo นั้น เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2007 และได้เปิดตัวเป็น MoMo e-wallet ตั้งแต่ปี 2009-2010 จากนั้นเริ่มเปิดตัวเป็นแอปพลิเคชันสำหรับสมาร์ทโฟนในช่วงปี 2014-2015 มีลูกค้าใช้บริการครั้งแรกทะลุยอด 500,000 ราย จากนั้นก็ได้รับรางวัลการันตีความสำเร็จเรื่อยมา จากที่เคยเป็น e-wallet อันดับ 1 ของเวียดนาม ตอนนี้กลายเป็น ซุปเปอร์แอปอันดับ 1 ของเวียดนามแล้ว
ที่มา – Nikkei, MoMo
ชาวจะนะ จัดทัพเรือประมง ต้านนิคมอุตสาหกรรม ร้องยุติการดำเนินคดี 37 แกนนำ
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_6776610
ชาวจะนะ จัดทัพเรือประมง ต้านนิคมอุตสาหกรรม ร้องยุติการดำเนินคดีแกนนำ 37 คน โดยจะไปทวงคำสัญญาที่ทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง วันที่ 13 ธ.ค.
10 ธ.ค. 2564 – ที่บริเวณชายหาดบ้านบ่อโชน ม.7 ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา กลุ่มผู้คัดค้านโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ทั้งเครือข่ายจะนะถิ่น สมาคมรักษ์ทะเลจะนะ รวมทั้งกลุ่มชาวประมงพื้นที่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ 3 ตำบล ของโครงการ ทั้ง ต.นาทับ ต.ตลิ่งชัน และ ต.สะกอม และองค์กรอิสระต่าง ๆ ราว 400 คน
ได้รวมตัวกันแสดงพลัง และแสดงเจตนารมณ์หยุดนิคมอุตสาหกรรมจะนะ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งประกาศจุดยืนหยุดเวลาเวทีรับฟังความคิดเห็น EIA ฉ้อฉล พร้อมกับการระดมเรือประมงพื้นบ้านในพื้นที่ 3 ตำบล หลายสิบลำ เพื่อมาแสดงพลังในครั้งนี้ด้วย แต่ไม่สามารถเคลื่อนขบวนมายังชายทะเลฝั่งที่มีการรวมตัวกันได้ เนื่องจากมรสุมคลื่นลมแรง จึงต้องจอดลอยลำอยู่ในอ่าวอีกฟาก
โดยกลุ่มได้มีการเสนอข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาลคือ การขอทวงสัญญาจากรัฐบาลที่ตกลงเอาไว้เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ว่า รัฐบาลจะจัดให้มีการประเมินผลเชิงยุทธศาสตร์การพัฒนาหรือ SEA แบบมีส่วนร่วม ที่จะมีคณะศึกษาอันเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย เพื่อให้รัฐบาลมีข้อมูลทางวิชาการที่ถูกต้องครบถ้วน และมาประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ
นอกจากนี้รัฐบาลต้องสั่งให้ยุติการเดินหน้าโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะไว้ก่อนตามข้อตกลง รวมถึงหยุดการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ที่จะจัดขึ้นราวกลางเดือนธันวาคม นี้ ซึ่งขัดกับข้อตกลง และยังขัดต่อหลักสากล ด้วยการจัดรับฟัง
อีกทั้งรัฐบาลต้องยุติการดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำผู้คัดค้าน 37 คน ซึ่งถูกจับกุมเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2564 ทั้งที่ชุมนุมโดยสงบ และมีเป้าหมายเพียง “ทวงคำตอบจากรัฐบาลที่ผิดคำสัญญา”
กลุ่มผู้คัดค้านและชาวบ้านในพื้นที่ จะไปทวงคำสัญญาอย่างเป็นทางการที่ทำเนียบรัฐบาลอีกครั้งในวันที่ 13 ธันวาคม 2564 และขอเชิญชวนพี่น้องทุกคนเข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้ด้วย
อากาศหนาว เป็ด-ไก่ออกไข่น้อย เกษตรกรกุมขมับ รายได้ลดลงกว่าครึ่ง
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3081931
อากาศหนาว เป็ด-ไก่ออกไข่น้อย เกษตรกรกุมขมับ รายได้ลดลงกว่าครึ่ง
วันที่ 11 ธันวาคม 2564 ในพื้นที่ตำบลห้วยยาง อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนคราชสีมา สภาพอากาศค่อนข้างหนาวเย็น โดยเฉพาะช่วงเช้าอุณหภูมิลดต่ำ อยู่ที่ 17-20 องศาเซลเซียส ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ด-ไก่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น ทำให้เป็ด-ไก่ออกไข่น้อย และยังพบว่า เป็ดจำนวนมาก มีอาการป่วยเป็นหวัด กินอาหารน้อยลง ทำให้ไม่ยอมออกไข่ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “เป็ดไข่หด” ทำให้ผลผลิตไข่เป็ดลดจำนวนลงไปกว่าครึ่ง
นายธนพนธ์ มาเอก อายุ 15 ปี เกษตรกรเลี้ยงเป็ด-ไก่รายหนึ่งในตำบลห้วยยาง อำเภอบัวใหญ่ กล่าวว่า ตนเลี้ยงเป็ด-ไก่รวมกันจำนวน 200 ตัว ตอนนี้เริ่มประสบปัญหาเป็ด-ไก่ออกไข่น้อย โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง มีหมอกลงจัด หนาวเย็น ทำให้เป็ดเริ่มป่วย ไม่ออกไข่ ผลผลิตหายไปกว่าครึ่ง ทำให้รายได้ลดไปกว่าครึ่งเช่นกัน ปกติเป็ดเคยไข่วันละ 100 ฟอง แต่ในวันที่อากาศหนาวจัด จะลดลงเหลือ 10-40 ฟอง ทำให้ประสบปัญหาเป็นอย่างมาก ซึ่งปศุสัตว์อำเภอบัวใหญ่ ได้แจ้งเตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ให้ระมัดระวังสัตว์ป่วยในช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เพราะอาจทำให้สัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน โดยหากพบสัตว์ป่วย ขอให้แจ้งสำนักงานปศุสัตว์ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ไปช่วยเหลือได้ทันท่วงที