เราแต่งงานแล้วแต่ไม่มีลูก เรามีแม่ พี่สาว ลูกพี่สาว2คน คนโต18 คนเล็ก6ขวบ เมื่อก่อนแม่อยู่กับพี่สาวตลอด เราชวนมาอยู่ด้วยไม่เคยมาเลย
สมัยเด็กๆ เราจะรู้สึกตลอดว่าแม่ไม่รัก รักพี่สาวมากกว่า แต่ก็คิดเอาว่าไม่มีพ่อแม่ที่ไหนไม่รักลูกหรอก
พี่สาวเรียนไม่จบ มีลูกตั้งแต่วัยรุ่น ทั้งๆที่ตอนนั้นพ่อแม่ยังมีแรงส่งเสียอยู่ แต่ไม่เอาอะไรสักอย่าง
แต่เราทำงานส่งตัวเองเรียนจนจบปริญาตรี พ่อจะภูมิใจเรามาก (พ่อเสียปี57)แต่แม่จะพูดแต่ว่าเรามันวาสนาดี
ทำงานได้ดีกว่าพี่สาว จนเมื่อ4ปีที่แล้ว พี่สาวหนีไปทำงานต่างประเทศ ทิ้งทุกอย่างไว้ให้เรา เราก็ไปรับแม่มาอยู่ด้วย
แกไม่อยากมากับเรา เราก็ไม่เข้าใจ แต่เราไม่สนิทกับแม่ แต่สุดท้ายก็ต้องมา เพราะบ้านที่แม่อยู่กับพี่สาวคือเช่าเขาอยู่ เขาจะมาไล่ เพราะพี่สาวไม่จ่ายเงินเขาเลย พอมาอยู่ด้วยกันเราก็รับผิดชอบทุกอย่าง ทั้งหลาน2คน ค่าเรียน ค่ากินอยู่ทั้งหมด พี่สาวไม่เคยช่วยเหลือสักบาท (มีโอนมาให้แม่บางเดือน เดือนละ2,000-3,000) แต่ไม่ได้โอนมาช่วยเรา
หลานคนเล็กก็รับเป็นลูก ส่งเรียนเอกชนอย่างดี แต่มีปัญหาที่หลานคนโต ส่งเรียนก็ไม่เรียน เรียนไม่จบ ติดเพื่อน สักเต็มตัว
พูดไม่ฟัง สั่งสอนไม่ได้ ซื้อรถให้ใช้ก็เอาไปแต่งจนพัง พาเพื่อน พาผู้หญิงมานอนมากินเหล้า เราก็ทะเลาะกันเรื่องนี้บ่อยมาก
เขาทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของบ้าน ไม่เกรงใจ อยากทำไรก็ทำ และแม่ก็ไม่เคยว่า พอเราว่าหลาน แม่จะร้องไห้ไปหน้าปากซอยบ้าง นั่งร้องหน้าบ้านบ้าง
ให้คนอื่นเห็น หลานคนเล็กแม่เราไม่สนใจ แม้จะหาข้าวให้กินหลังเลิกเรียน แต่หลานคนโตเลิกงานมา แม่ช่วยถอดเสื้อ ช่วยถอดกางเกง เก็บเป๋า หาข้าวให้ เก็บให้ (หลานเพิ่งไปสมัครงานได้ประมาน2เดือน) แฟนเราไม่เคยปริปากบ่นเลยสักครั้ง ล่าสุด หลานคนโตมาบ่นบอกว่าไม่สบาย รู้สึกเจ็บคอ เป็นหวัด
เราก็กลัวเขาเป็นโควิด เราก็บอกให้เขาตรวจ ATK เพราะเราซื้อมาไว้เยอะ เขาก็ไม่ตรวจ บอกว่าเจ็บยังงั้นยังงี้ แฟนเราพูดมาคำเดียวว่า ถ้าไม่ตรวจก็ใส่หน้ากาก เดียวจะเอามาติดยายติดน้อง พูดแค่นี้จริงๆ เขาแทบกระโดดหนีออกจากตรงที่คุยกัน แบบโมโหมาก ปิดประตูเสียงดัง เตะโต้ะ คือเราหน้าเสียเลย
เพราะแฟนไม่เคยพูดว่าเลยสักครั้ง แฟนเกรงใจเรา เลยไม่ว่าไม่บ่น แฟนเป็นคนเงียบๆด้วย เราเลยบอกว่าถ้าเป็นแบบนี้ก็คงอยู่ร่วมกันไม่ได้ เพราะเขาไม่ดูแลตัวเอง แม่เป็นเบาหวานความดัน ติดมาแล้วอันตราย (แม่ต้องหาหมอทุกเดือน ค่ายา2,000+) เราจ่สยทุกอย่างเองทั้งหมด
ให้ตรวจโควิดก็ไม่ทำ หน้ากากไม่ใส่ จะเอามาติดยาย ติดน้อง ซึ่งเรากับแฟนก็เคยติดมาครั้งนึง ถ้าถ้าติดอีกครั้งไม่รู้บริษัทจะว่ายังไง
เราเลยบอกพี่สาวว่าคงต้องให้เขาออกไปเช่าอยู่ถ้าไม่เปลี่ยนพฤติกรรม มันอยู่ร่วมกันไม่ได้ แล้วรถที่เราซื้อให้ใช้ ถ้าจะเอาไปแต่งจนพังแบบนี้
ให้พี่สาวซื้อต่อเลยนะ เราไม่ได้ร่ำรวยถึงขนาดต้องรองรับทุกอย่างหรอก ซื้อต่อไป จะเอาไปทำอะไรก็ตามใจ เพราะเราไม่เคยจับกับเขาเลย
(เคยมีปัญหาเรื่องรถแล้วครั้งนึงเขาเอาไปแต่งจนพัง เราบ่น เราให้พี่สาวซื้อต่อ พี่สาวไม่ซื้อ แต่ไปซื้อมือ2อีกคันให้ลูก สุดท้ายแต่งจนพังใช้งานไม่ได้ก็กลับมาใช้รถเรา)
และเราก็บอกแม่แบบเดียวกับพี่สาว แม่โกรธเรามาก ด่าว่าเราสารพัด มาด่าแฟนเราอีกว่าเกลียดแก เรากับแฟนเกลียดแก ไม่อยากให้แกมาเป็นภาระ
แฟนเราก็ช่วยอธิบายว่า เราไม่ได้เกลียดอะไรเลย เรารักถึงได้เตือนได้ด่า แต่เขาไม่ฟังเลย แช่งขอให้แฟนทิ้งเรา ขอให้เราเจ็บป่วยและไม่มีคนดูแล ขอให้เราล่มจม
คือด่าเราเหมือนเกลียดเรามาก แล้วบอกว่าสงสารพี่สาว ที่ไม่มีวาสนามีบ้านมีรถแบบเรา พอเรามีแล้วเราก็เหยียบย่ำพี่ เรางงมาก พี่สาวเอาที่ดินแม่ไปจำนอง เราก็ไปไถ่มาให้
เราเอาเงินให้ไปจ่ายค่าผ่อนรถของพ่อก็ไม่จ่ายจนเขาจะยึด เราก็ไปปิดให้ ไปโกงแชร์เขาเราก็ไปจ่ายให้ โกงเงินบริษัท เราก็ไม่จ่ายให้ ยืมเงินเราก็ไม่คืน
แต่แม่ไม่เคยเห็นว่าพี่สาวหรือหลานทำผิดเลย โทษแต่เราว่าไม่รัก ได้ดีคนเดียว แล้วเห็นแก่ตัว ขอให้เรามีชีวิตตกตำ่ และก็ไม่คุยกับเราอีกเลย
มีคนบอกว่าถ้าพ่อแม่แช่งนี่คือศักดิ์สิทธิที่สุดแล้ว ไม่ได้กลัวนะคะเราเขื่อว่าคนทำดีไม่มีวันตกต่ำ แต่แค่สงสัยว่าจะจริงตามคำไหม
เราก็มีบ่นบ้าง อะไรบ้างตามประสา เวลาหลานมันทำอะไรเกินเลย สูบกัญชาในบ้าน ต้มกระท่อมในบ้าน เอาเพื่อนมาสุมกันกินเหล้าแล้วคนข้างบ้านมาแจ้ง พอเราว่ากล่าวตักเตือนแม่จะโมโหเราทันที
ปล.เวลาที่ชีวิตเรากำลังจะแย่ มักจะมีอะไรสักอย่างมาช่วยให้เราดีขึ้น มาแก้ปัญหาให้เรา เข้ามาในรูปแบบต่างๆ ทำให้เราผ่านจุดนั้นมาได้
เราเจ้าข้างตัวเองว่า คนที่ดูแลบุพการีจะไม่มีวันตกต่ำ
แม่แช่งให้เราล่มจม :) เราจะเป็นอย่างคำแช่งของแม่ไหมคะ
สมัยเด็กๆ เราจะรู้สึกตลอดว่าแม่ไม่รัก รักพี่สาวมากกว่า แต่ก็คิดเอาว่าไม่มีพ่อแม่ที่ไหนไม่รักลูกหรอก
พี่สาวเรียนไม่จบ มีลูกตั้งแต่วัยรุ่น ทั้งๆที่ตอนนั้นพ่อแม่ยังมีแรงส่งเสียอยู่ แต่ไม่เอาอะไรสักอย่าง
แต่เราทำงานส่งตัวเองเรียนจนจบปริญาตรี พ่อจะภูมิใจเรามาก (พ่อเสียปี57)แต่แม่จะพูดแต่ว่าเรามันวาสนาดี
ทำงานได้ดีกว่าพี่สาว จนเมื่อ4ปีที่แล้ว พี่สาวหนีไปทำงานต่างประเทศ ทิ้งทุกอย่างไว้ให้เรา เราก็ไปรับแม่มาอยู่ด้วย
แกไม่อยากมากับเรา เราก็ไม่เข้าใจ แต่เราไม่สนิทกับแม่ แต่สุดท้ายก็ต้องมา เพราะบ้านที่แม่อยู่กับพี่สาวคือเช่าเขาอยู่ เขาจะมาไล่ เพราะพี่สาวไม่จ่ายเงินเขาเลย พอมาอยู่ด้วยกันเราก็รับผิดชอบทุกอย่าง ทั้งหลาน2คน ค่าเรียน ค่ากินอยู่ทั้งหมด พี่สาวไม่เคยช่วยเหลือสักบาท (มีโอนมาให้แม่บางเดือน เดือนละ2,000-3,000) แต่ไม่ได้โอนมาช่วยเรา
หลานคนเล็กก็รับเป็นลูก ส่งเรียนเอกชนอย่างดี แต่มีปัญหาที่หลานคนโต ส่งเรียนก็ไม่เรียน เรียนไม่จบ ติดเพื่อน สักเต็มตัว
พูดไม่ฟัง สั่งสอนไม่ได้ ซื้อรถให้ใช้ก็เอาไปแต่งจนพัง พาเพื่อน พาผู้หญิงมานอนมากินเหล้า เราก็ทะเลาะกันเรื่องนี้บ่อยมาก
เขาทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของบ้าน ไม่เกรงใจ อยากทำไรก็ทำ และแม่ก็ไม่เคยว่า พอเราว่าหลาน แม่จะร้องไห้ไปหน้าปากซอยบ้าง นั่งร้องหน้าบ้านบ้าง
ให้คนอื่นเห็น หลานคนเล็กแม่เราไม่สนใจ แม้จะหาข้าวให้กินหลังเลิกเรียน แต่หลานคนโตเลิกงานมา แม่ช่วยถอดเสื้อ ช่วยถอดกางเกง เก็บเป๋า หาข้าวให้ เก็บให้ (หลานเพิ่งไปสมัครงานได้ประมาน2เดือน) แฟนเราไม่เคยปริปากบ่นเลยสักครั้ง ล่าสุด หลานคนโตมาบ่นบอกว่าไม่สบาย รู้สึกเจ็บคอ เป็นหวัด
เราก็กลัวเขาเป็นโควิด เราก็บอกให้เขาตรวจ ATK เพราะเราซื้อมาไว้เยอะ เขาก็ไม่ตรวจ บอกว่าเจ็บยังงั้นยังงี้ แฟนเราพูดมาคำเดียวว่า ถ้าไม่ตรวจก็ใส่หน้ากาก เดียวจะเอามาติดยายติดน้อง พูดแค่นี้จริงๆ เขาแทบกระโดดหนีออกจากตรงที่คุยกัน แบบโมโหมาก ปิดประตูเสียงดัง เตะโต้ะ คือเราหน้าเสียเลย
เพราะแฟนไม่เคยพูดว่าเลยสักครั้ง แฟนเกรงใจเรา เลยไม่ว่าไม่บ่น แฟนเป็นคนเงียบๆด้วย เราเลยบอกว่าถ้าเป็นแบบนี้ก็คงอยู่ร่วมกันไม่ได้ เพราะเขาไม่ดูแลตัวเอง แม่เป็นเบาหวานความดัน ติดมาแล้วอันตราย (แม่ต้องหาหมอทุกเดือน ค่ายา2,000+) เราจ่สยทุกอย่างเองทั้งหมด
ให้ตรวจโควิดก็ไม่ทำ หน้ากากไม่ใส่ จะเอามาติดยาย ติดน้อง ซึ่งเรากับแฟนก็เคยติดมาครั้งนึง ถ้าถ้าติดอีกครั้งไม่รู้บริษัทจะว่ายังไง
เราเลยบอกพี่สาวว่าคงต้องให้เขาออกไปเช่าอยู่ถ้าไม่เปลี่ยนพฤติกรรม มันอยู่ร่วมกันไม่ได้ แล้วรถที่เราซื้อให้ใช้ ถ้าจะเอาไปแต่งจนพังแบบนี้
ให้พี่สาวซื้อต่อเลยนะ เราไม่ได้ร่ำรวยถึงขนาดต้องรองรับทุกอย่างหรอก ซื้อต่อไป จะเอาไปทำอะไรก็ตามใจ เพราะเราไม่เคยจับกับเขาเลย
(เคยมีปัญหาเรื่องรถแล้วครั้งนึงเขาเอาไปแต่งจนพัง เราบ่น เราให้พี่สาวซื้อต่อ พี่สาวไม่ซื้อ แต่ไปซื้อมือ2อีกคันให้ลูก สุดท้ายแต่งจนพังใช้งานไม่ได้ก็กลับมาใช้รถเรา)
และเราก็บอกแม่แบบเดียวกับพี่สาว แม่โกรธเรามาก ด่าว่าเราสารพัด มาด่าแฟนเราอีกว่าเกลียดแก เรากับแฟนเกลียดแก ไม่อยากให้แกมาเป็นภาระ
แฟนเราก็ช่วยอธิบายว่า เราไม่ได้เกลียดอะไรเลย เรารักถึงได้เตือนได้ด่า แต่เขาไม่ฟังเลย แช่งขอให้แฟนทิ้งเรา ขอให้เราเจ็บป่วยและไม่มีคนดูแล ขอให้เราล่มจม คือด่าเราเหมือนเกลียดเรามาก แล้วบอกว่าสงสารพี่สาว ที่ไม่มีวาสนามีบ้านมีรถแบบเรา พอเรามีแล้วเราก็เหยียบย่ำพี่ เรางงมาก พี่สาวเอาที่ดินแม่ไปจำนอง เราก็ไปไถ่มาให้
เราเอาเงินให้ไปจ่ายค่าผ่อนรถของพ่อก็ไม่จ่ายจนเขาจะยึด เราก็ไปปิดให้ ไปโกงแชร์เขาเราก็ไปจ่ายให้ โกงเงินบริษัท เราก็ไม่จ่ายให้ ยืมเงินเราก็ไม่คืน
แต่แม่ไม่เคยเห็นว่าพี่สาวหรือหลานทำผิดเลย โทษแต่เราว่าไม่รัก ได้ดีคนเดียว แล้วเห็นแก่ตัว ขอให้เรามีชีวิตตกตำ่ และก็ไม่คุยกับเราอีกเลย
มีคนบอกว่าถ้าพ่อแม่แช่งนี่คือศักดิ์สิทธิที่สุดแล้ว ไม่ได้กลัวนะคะเราเขื่อว่าคนทำดีไม่มีวันตกต่ำ แต่แค่สงสัยว่าจะจริงตามคำไหม
เราก็มีบ่นบ้าง อะไรบ้างตามประสา เวลาหลานมันทำอะไรเกินเลย สูบกัญชาในบ้าน ต้มกระท่อมในบ้าน เอาเพื่อนมาสุมกันกินเหล้าแล้วคนข้างบ้านมาแจ้ง พอเราว่ากล่าวตักเตือนแม่จะโมโหเราทันที
ปล.เวลาที่ชีวิตเรากำลังจะแย่ มักจะมีอะไรสักอย่างมาช่วยให้เราดีขึ้น มาแก้ปัญหาให้เรา เข้ามาในรูปแบบต่างๆ ทำให้เราผ่านจุดนั้นมาได้
เราเจ้าข้างตัวเองว่า คนที่ดูแลบุพการีจะไม่มีวันตกต่ำ