อนาคตของเรากับอนาคตที่แม่ปูให้

สวัสดีค่ะ เริ่มหัวเรื่องเลยนะคะ พอดีหนูอยู่ในช่วงวัยมอปลายใกล้เข้ามหาลัยแล้ว หนูก็หามหาลัยและคณะในทางที่หนูพอไปได้ หนูเป็นคนพูดเก่ง เข้าสังคมได้ดี ชอบทำกิจกรรม แถมตอนเรียนก็ทำกิจกรรมเป็นผู้ให้ความรู้ในฐานกิจกรรมในโรงเรียนบ่อยมาก หนูช่างพูด ช่างฝัน ช่างคิด เลยคิดว่าจะเข้าเกี่ยวกับนิเทศค่ะ คุณแม่ในแรกก็บอกว่ายังไงก็ได้ตามที่หนูชอบ แต่พอหนูเลือกที่ทางหรืออะไรต่างๆแล้ว เขากลับอยากให้หนูสมัครเรียนครู บังคับเลยด้วยซ้ำ ให้เรียนเพราะเป็นอาชีพที่ไม่มีวันตาย เขาเอาแต่พูดว่า ''ดูน้าข้างบ้านสิเป็นคนพูดไม่เก่งแต่ก็เป็นติวเตอร์ได้เงินเดือนเป็นแสนๆ สอนชั่วโมงเดียวก็ได้หลายพันแล้ว'' แล้วก็เอาแต่ดูถูกหนูว่า ถ้าพูดเก่ง พรีเซ้นเก่ง แต่สอนคนอื่นไม่ได้ก็ไร้อนาคต ทำไรก็ไม่ได้หรอก ไม่เจริญ แต่ที่เราจะเรียนนั้นเป็นทางนิเทศโฆษณาและประชาสัมพันธ์ต่างๆ พอหนูพูดไปว่ามันไม่เหมือนกัน มันคนละทางคนละแนว เขาก็เอาแต่บอกว่าหนูเถียงแล้วไม่รับฟังในสิ่งที่เขาจะให้ทำ ก็ประชดแล้วก็เอาแต่บอกว่าเขาเครียดนะ ที่หนูไม่ยอมเชื่อฟังเขา แต่ถึงหนูเป็นเด็กหนูก็เหนื่อยนะคะ หนูก็เครียดเหมือนกัน หนูไม่ได้เป็นคนเก่งหรือหัวดี หนูก็พยายามทำในสิ่งที่หนูทำได้ดีแล้วนำไปต่อยอดเพื่ออนาคตของหนู แต่เขาบอกว่าหนูจะทำอนาคตหนูพังเอง สุดท้ายก็จะไม่มีอะไร-แล้วเกาะพ่อแม่กิน หนูก็เหนื่อยค่ะ ไม่รู้ว่าจะทำไงแล้ว  พอหนูจะไปตามทางที่หนูพอจะทำได้ก็กลายเป็นไร้อนาคตสำหรับแม่ แต่ทางที่เขาเลือกให้มันไม่ใช่สิ่งที่หนูทำได้เลย หนูสอนคนไม่เก่งเลย หนุรักแม่นะ แต่หนุก็รักอนาคตตัวเองเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะทำไงแล้วค่ะ คือหนูเป็นแพนิคอ่อนๆ เอาตามตรงหนูอยากจะพบแพทย์เหมือนกันค่ะ หนูเคยแพนิคเพราะเครียดสะสม  กับความซึมเศร้า แต่หนูเคยบอกแม่แล้ว เขาบอกว่าหนูไร้สาระแล้วคิดไปเอง แถมยังมาตีหนูซ้ำอีก เป็นความรู้สึกคือหนูเหนื่อยทุกครั้งที่ต้องกลับมาบ้าน บ้านไม่ใช่เซฟโซนของหนูเลย มันทั้งทรมาณใจและวามรู้สึก หนูพยายามฆ่าตัวตายหลายรอบมากแต่ก็ไม่ตายสักที กรีดแขน กินยา พยายามผุกคอ หนูเหนื่อยกับการใช้ชีวิตแล้วค่ะ มันมืดไปหมดแล้ว มันท้อจนไม่รู้ต้องไปทางไหนต่อแล้ว เจ็บค่ะ เหนื่อยมาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่