ใจเดียว
ล. วิลิศมาหรา
ผมแอบมองผู้หญิงหน้าบ้านเดินออกมาส่งคนรักขึ้นรถไปทำงานทุกวัน
ผิวขาวตาหวาน เรือนผมเหยียดตรงดำขลับ ยาวถึงกลางหลัง ร่างบอบบางของเธอช่างน่าทะนุถนอม ทำหน้าที่เป็นแม่บ้านอย่างเดียวไม่ได้ออกไปทำงานนอกบ้านที่ไหน
ผมแอบมองเธอจากหน้าร้านขายดอกไม้ของตัวเอง ที่ตั้งประจันหน้ากันกับหน้าบ้านของเธอ มีถนนคอนกรีตของหมู่บ้านคั่นกลาง พอรถเก๋งคันหรูแล่นออกจากบ้านไป มีบางครั้งที่เธอหันมามองทางหน้าร้าน สบตาด้วย แล้วส่งยิ้มให้...เป็นยิ้มที่เปิดแผ่นฟ้าให้กระจ่างใสได้ในพริบตา
รู้ใจตัวเองดีว่าดันไปชอบผู้หญิงที่มีเจ้าของเข้าให้เสียแล้ว ชนิดที่ห้ามใจตัวเองไม่อยู่ มอง ๆ ดูก็อดนึกอิจฉาผู้ชายในบ้านหลังนั้นไม่ได้ เขาโชคดีที่เป็นเจ้าของหัวใจเธอ
ผมเฝ้าแอบมองดูเธอ จากวันนานเป็นเดือน เป็นปี นานพอที่ผมจะรู้จักเธอกับสามี เราพูดคุยทักทายกันบ้างตามประสาเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเดียวกัน รู้เห็นถึงชีวิตประจำวันของชายและหญิงที่ต้องมาอยู่ร่วมกัน ทว่าวันเวลาที่ทอดยาวออกไป กลับไม่เคยทำให้หัวใจของผมห่างไกลออกจากเธอ ผู้ไม่เคยรู้ตัวเลยว่ามีผู้ชายอีกคนแอบหลงใหลใฝ่ปอง หวังลม ๆ แล้ง ๆ อยู่ที่ร้านดอกไม้หน้าบ้านเธอนี่เอง
ผมหลงรักเธอ ใช่...ผมยอมรับ ผมรักเธอและมันเป็นรักข้างเดียว
ความรักของคน ๆ หนึ่งที่มีต่อใครอีกคน บางทีก็ลึกล้ำเกินคำที่อยากตอบ ไม่อยากอธิบายเหตุผล มันลึกล้ำเกินขอบเขตข้อกำหนดขีดเส้นให้เป็นไป ไม่อยู่ภายในกรอบ หากได้รับรักตอบก็คงบอกว่ารักมีรสหวาน ซาบซ่านตราตรึงใจ แต่หากไม่ได้เป็นไปตามความต้องการ ก็คงบอกว่ารักมีรสขม เต็มไปด้วยความเผ็ดร้อน เจ็บแสบแสนทรมาน
"ขอดอกกุหลาบสวย ๆ ไปประดับแจกันสักช่อหนึ่งค่ะ" รอยยิ้มเปิดฟ้าของเธอลอยมาอยู่ตรงหน้าผมอีกแล้ว
"เนื่องในโอกาสอะไรครับ" ผมนึกอยากถาม ปกติเธอไม่เคยออกมาหาซื้อดอกไม้เอง มีแต่สามีเธอเท่านั้นที่ชอบมาสั่งดอกไม้ในร้านบ่อย ๆ
"ครบรอบวันแต่งงานค่ะ...ปีที่ห้า" ยิ้มกระจ่างตาเปิดกว้าง ผิวหน้านวลใยแดงระเรื่อขณะตอบผมเสียงใส
ผมชะงักไปนิดหนึ่ง ใจกระตุกวูบตามประสาคนไปแอบชอบผู้หญิงของคนอื่น แต่รอยยิ้มเปิดฟ้าตรงหน้าก็เข้าไปกุมหัวใจของผมเอาไว้อย่างเหนียวแน่นมั่นคง ใจผมมันดื้อด้านเกินไป เกินกว่าจะห้ามปรามมันไม่ให้ไปใฝ่ฝันถึงเธอไหว เมื่อสุดจะห้ามใจได้ ผมจึงปล่อยใจให้มีความสุขไปกับรอยยิ้มของเธอ
ยื่นช่อดอกกุหลาบสีแดงให้ พร้อมแถมกุหลาบสีชมพูดอกโตให้เธออีกดอกหนึ่ง เธอเอียงหน้ามองอย่างประหลาดใจ
"ผมแถมให้ครับ"
พอผมบอก ดวงตาโตก็เปล่งประกายแวววาวเจิดจรัส
"ขอบคุณค่ะ ที่จริงหวานชอบกุหลาบสีชมพูมากกว่าสีแดงนะคะ หวานว่ามันสวยดี จะแยกใส่ไว้ในแก้วน้ำต่างหาก ขอบคุณอีกครั้งค่ะ"
ร่างน้อยหายลับเข้าประตูบ้านตัวเองไป โดยมีสายตาอาลัยอาวรณ์ของผมมองตามหลัง เธอไม่รู้เลยว่า ในกุหลาบสีชมพูดอกนั้น ผมเอาหัวใจของตัวเองใส่เข้าไปด้วย
หลายวันต่อมา...
รถเก๋งคันงามเร่งเครื่องออกจากบ้าน มีร่างบอบบางของหวานวิ่งตามมาเกาะประตูรั้วบ้านยืนมอง เธอยืนมองนิ่งจนรถคันนั้นหายลับไปจากสายตา จึงค่อย ๆ หันหลังเดินกลับเข้าบ้านเหมือนกับทุกครั้ง...แต่ครั้งนี้ผมเห็นน้ำตาเธอไหลเปื้อนใบหน้าอ่อนหวานของเธอ
วันถัดมามีรถบรรทุกคันใหญ่วิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้านเธอ คนงานหลายคนช่วยกันขนของออกไปจากบ้านเธอ...เขาทิ้งเธอแล้ว
ผมไม่แปลกใจอะไร วันนี้ถึงอย่างไรก็ต้องมาถึงสักวัน
ผู้ชายในบ้านเธอคนนั้นมักสั่งช่อดอกไม้ไปกำนัลแก่ผู้หญิงอีกคน ในห้องชุดราคาแพงอีกบล็อกถนนหนึ่ง เขาหมิ่นน้ำใจเธอ ลงมือทำร้ายจิตใจภรรยาตัวเองอย่างแสนสาหัส ผู้หญิงคนนั้นในสายตาของเขาคงดีกว่า สวยและรวยกว่าภรรยาของตัวเอง แต่สำหรับผมแล้ว ผู้หญิงหน้าบ้านของผมคือที่หนึ่งในดวงใจเสมอ ไม่เผลอมีใครซุกซ่อนในหลืบมุมใดของหัวใจผมอีก
หลายวันผ่านไป นานเป็นเดือน เป็นปี ไม่มีวี่แววว่าเขาคนนั้นจะกลับมา ร่างน้อยที่ก้าวย่างออกจากบ้านแต่ละครั้ง ดูซูบซีดโรยรา ราวกับถูกสูบเอาวิญญาณออกไปจากร่าง เหลือแต่เรือนกายที่ไร้ชีวิตจิตใจ
จนวันหนึ่งผมก็ตัดสินใจมายืนอยู่หน้าบ้านเธอ ในมือถือดอกกุหลาบดอกหนึ่งมามอบให้ด้วย แต่คราวนี้มันเป็นสีแดง...
ผมกดกริ่งหน้าบ้านเธอด้วยมืออันมั่นคง เพราะหัวใจของผมหนักแน่นพอ
เขาละมือจากเธอไปแล้วอย่างไม่เห็นถึงคุณค่า เหยียดเธอว่าโง่ แต่ผมจะคว้ามือเธอมากุมไว้ ถ้าหากเธอให้โอกาส
ผมสาบานว่าจะไม่ยอมให้เธอต้องเสียน้ำตาเพราะผมแม้สักหยดเดียว...
จบ
ใจเดียว...
ล. วิลิศมาหรา
ผมแอบมองผู้หญิงหน้าบ้านเดินออกมาส่งคนรักขึ้นรถไปทำงานทุกวัน
ผิวขาวตาหวาน เรือนผมเหยียดตรงดำขลับ ยาวถึงกลางหลัง ร่างบอบบางของเธอช่างน่าทะนุถนอม ทำหน้าที่เป็นแม่บ้านอย่างเดียวไม่ได้ออกไปทำงานนอกบ้านที่ไหน
ผมแอบมองเธอจากหน้าร้านขายดอกไม้ของตัวเอง ที่ตั้งประจันหน้ากันกับหน้าบ้านของเธอ มีถนนคอนกรีตของหมู่บ้านคั่นกลาง พอรถเก๋งคันหรูแล่นออกจากบ้านไป มีบางครั้งที่เธอหันมามองทางหน้าร้าน สบตาด้วย แล้วส่งยิ้มให้...เป็นยิ้มที่เปิดแผ่นฟ้าให้กระจ่างใสได้ในพริบตา
รู้ใจตัวเองดีว่าดันไปชอบผู้หญิงที่มีเจ้าของเข้าให้เสียแล้ว ชนิดที่ห้ามใจตัวเองไม่อยู่ มอง ๆ ดูก็อดนึกอิจฉาผู้ชายในบ้านหลังนั้นไม่ได้ เขาโชคดีที่เป็นเจ้าของหัวใจเธอ
ผมเฝ้าแอบมองดูเธอ จากวันนานเป็นเดือน เป็นปี นานพอที่ผมจะรู้จักเธอกับสามี เราพูดคุยทักทายกันบ้างตามประสาเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเดียวกัน รู้เห็นถึงชีวิตประจำวันของชายและหญิงที่ต้องมาอยู่ร่วมกัน ทว่าวันเวลาที่ทอดยาวออกไป กลับไม่เคยทำให้หัวใจของผมห่างไกลออกจากเธอ ผู้ไม่เคยรู้ตัวเลยว่ามีผู้ชายอีกคนแอบหลงใหลใฝ่ปอง หวังลม ๆ แล้ง ๆ อยู่ที่ร้านดอกไม้หน้าบ้านเธอนี่เอง
ผมหลงรักเธอ ใช่...ผมยอมรับ ผมรักเธอและมันเป็นรักข้างเดียว
ความรักของคน ๆ หนึ่งที่มีต่อใครอีกคน บางทีก็ลึกล้ำเกินคำที่อยากตอบ ไม่อยากอธิบายเหตุผล มันลึกล้ำเกินขอบเขตข้อกำหนดขีดเส้นให้เป็นไป ไม่อยู่ภายในกรอบ หากได้รับรักตอบก็คงบอกว่ารักมีรสหวาน ซาบซ่านตราตรึงใจ แต่หากไม่ได้เป็นไปตามความต้องการ ก็คงบอกว่ารักมีรสขม เต็มไปด้วยความเผ็ดร้อน เจ็บแสบแสนทรมาน
"ขอดอกกุหลาบสวย ๆ ไปประดับแจกันสักช่อหนึ่งค่ะ" รอยยิ้มเปิดฟ้าของเธอลอยมาอยู่ตรงหน้าผมอีกแล้ว
"เนื่องในโอกาสอะไรครับ" ผมนึกอยากถาม ปกติเธอไม่เคยออกมาหาซื้อดอกไม้เอง มีแต่สามีเธอเท่านั้นที่ชอบมาสั่งดอกไม้ในร้านบ่อย ๆ
"ครบรอบวันแต่งงานค่ะ...ปีที่ห้า" ยิ้มกระจ่างตาเปิดกว้าง ผิวหน้านวลใยแดงระเรื่อขณะตอบผมเสียงใส
ผมชะงักไปนิดหนึ่ง ใจกระตุกวูบตามประสาคนไปแอบชอบผู้หญิงของคนอื่น แต่รอยยิ้มเปิดฟ้าตรงหน้าก็เข้าไปกุมหัวใจของผมเอาไว้อย่างเหนียวแน่นมั่นคง ใจผมมันดื้อด้านเกินไป เกินกว่าจะห้ามปรามมันไม่ให้ไปใฝ่ฝันถึงเธอไหว เมื่อสุดจะห้ามใจได้ ผมจึงปล่อยใจให้มีความสุขไปกับรอยยิ้มของเธอ
ยื่นช่อดอกกุหลาบสีแดงให้ พร้อมแถมกุหลาบสีชมพูดอกโตให้เธออีกดอกหนึ่ง เธอเอียงหน้ามองอย่างประหลาดใจ
"ผมแถมให้ครับ"
พอผมบอก ดวงตาโตก็เปล่งประกายแวววาวเจิดจรัส
"ขอบคุณค่ะ ที่จริงหวานชอบกุหลาบสีชมพูมากกว่าสีแดงนะคะ หวานว่ามันสวยดี จะแยกใส่ไว้ในแก้วน้ำต่างหาก ขอบคุณอีกครั้งค่ะ"
ร่างน้อยหายลับเข้าประตูบ้านตัวเองไป โดยมีสายตาอาลัยอาวรณ์ของผมมองตามหลัง เธอไม่รู้เลยว่า ในกุหลาบสีชมพูดอกนั้น ผมเอาหัวใจของตัวเองใส่เข้าไปด้วย
หลายวันต่อมา...
รถเก๋งคันงามเร่งเครื่องออกจากบ้าน มีร่างบอบบางของหวานวิ่งตามมาเกาะประตูรั้วบ้านยืนมอง เธอยืนมองนิ่งจนรถคันนั้นหายลับไปจากสายตา จึงค่อย ๆ หันหลังเดินกลับเข้าบ้านเหมือนกับทุกครั้ง...แต่ครั้งนี้ผมเห็นน้ำตาเธอไหลเปื้อนใบหน้าอ่อนหวานของเธอ
วันถัดมามีรถบรรทุกคันใหญ่วิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้านเธอ คนงานหลายคนช่วยกันขนของออกไปจากบ้านเธอ...เขาทิ้งเธอแล้ว
ผมไม่แปลกใจอะไร วันนี้ถึงอย่างไรก็ต้องมาถึงสักวัน
ผู้ชายในบ้านเธอคนนั้นมักสั่งช่อดอกไม้ไปกำนัลแก่ผู้หญิงอีกคน ในห้องชุดราคาแพงอีกบล็อกถนนหนึ่ง เขาหมิ่นน้ำใจเธอ ลงมือทำร้ายจิตใจภรรยาตัวเองอย่างแสนสาหัส ผู้หญิงคนนั้นในสายตาของเขาคงดีกว่า สวยและรวยกว่าภรรยาของตัวเอง แต่สำหรับผมแล้ว ผู้หญิงหน้าบ้านของผมคือที่หนึ่งในดวงใจเสมอ ไม่เผลอมีใครซุกซ่อนในหลืบมุมใดของหัวใจผมอีก
หลายวันผ่านไป นานเป็นเดือน เป็นปี ไม่มีวี่แววว่าเขาคนนั้นจะกลับมา ร่างน้อยที่ก้าวย่างออกจากบ้านแต่ละครั้ง ดูซูบซีดโรยรา ราวกับถูกสูบเอาวิญญาณออกไปจากร่าง เหลือแต่เรือนกายที่ไร้ชีวิตจิตใจ
จนวันหนึ่งผมก็ตัดสินใจมายืนอยู่หน้าบ้านเธอ ในมือถือดอกกุหลาบดอกหนึ่งมามอบให้ด้วย แต่คราวนี้มันเป็นสีแดง...
ผมกดกริ่งหน้าบ้านเธอด้วยมืออันมั่นคง เพราะหัวใจของผมหนักแน่นพอ
เขาละมือจากเธอไปแล้วอย่างไม่เห็นถึงคุณค่า เหยียดเธอว่าโง่ แต่ผมจะคว้ามือเธอมากุมไว้ ถ้าหากเธอให้โอกาส
ผมสาบานว่าจะไม่ยอมให้เธอต้องเสียน้ำตาเพราะผมแม้สักหยดเดียว...