ทุกคนเคยน้อยใจมากๆจนอยากฆ่าตัวตายไหมคะ

สวัสดีค่ะ ปัจจุบันหนูอายุ 19 นะคะ หนูน้อยใจกับชิวิตตอนนี้มากๆเลยค่ะ จนคิดว่าตายๆไปเลยดีกว่ามั้ย จะได้จบเรื่องวุ่นๆสักที จะได้ไม่ต้องใช้ชีวิตแย่ๆแบบนี้ เครียดทุกเรื่องน้อยใจทุกเรื่อง เรื่องครอบครัว ครอบครัวหนูมี 7 คนค่ะ พ่อแม่ พี่สาวหนึ่งคน แล้วก็น้องชายอีกสามคนค่ะ หนูเป็นคนที่ สอง หนูรู้สึกว่า พ่อกับแม่รักหนูไม่เท่ากับคนอื่นๆ หนูอยู่กับพ่อกับแม่จนอายุแปดปีที่กรุงเทพ ก็ได้ย้ายไปอยู่กับย่าที่เพชรบูรณ์ค่ะ ไปเรียนที่บ้าน ส่วนพี่สาวไปเรียนที่เชียงใหม่ค่ะ ส่วนน้องก็อยู่กับพ่อแม่ที่กรุงเทพ ตั้งแต่หนูย้ายไป หนูมีความหวังตอนเด็กๆตลอดค่ะว่าพ่อกับแม่จะมาเยี่ยมหนูบ้าง หนูโทรหาเขาตลอด หนูขอให้เขามาหาหนูบ้าง เขาไม่เคยมาค่ะ เขาบอกว่า เขายังไม่มีเงิน หนูก็เข้าใจค่ะว่าไม่มีก็ไม่เป็นไรหนูรอได้ ในวันแม่เขาสามารถไปหาพี่สาวหนูที่เชียงใหม่ได้ค่ะ หนูเสียใจมากค่ะ เพราะหนูไม่มีแม่ให้ไหว้ เรียนที่บ้าน หกปีหนูไม่ได้ไหว้แม่เลยค่ะ เขาจะกลับบ้านแค่บางครั้งนานๆทีค่ะ อยู่แค่สองสามวันเขาก็จะกลับ ระหว่างที่เรียนหนูประถมถ้าหนูอยากได้อะไรก็ทำงานเก็บเงินเองค่ะ หนูก็รับงานทุกอย่าง ล้างจาน ทำไร่ พอขึ้นมัธยมแม่ส่งหนูไปเรียนตามพี่สาวที่เชียงใหม่ค่ะ ค่าเทอมละหมื่นห้าค่ะ สองคนก็สามหมื่นต่อเทอมค่ะ พวกหนูผ่อนจ่ายค่ะเพราะว่าไม่มีเงินพอที่จะจ่ายหมดทีเดียวค่ะ หนูรู้ว่าพ่อกับแม่ไม่มีเงินค่ะ เลยขอครูทำงานที่โรงเรียนแทนค่าเทอมค่ะถึงจะช่วยได้ไม่เยอะแต่ก็ผ่อนได้นิดหน่อยค่ะ หนูขอเงินเขาเดือนละห้าร้อยค่ะในการซื้อของใช้ พี่สาวหนูได้พันห้าต่อเดือนค่ะ เเม่บอกหนูว่าพี่สาวโตกว่าแม่เลยให้เยอะกว่า หนูก็เข้าใจค่ะ แม่อาจจะไม่ไว้ใจให้หนูถือเงินเยอะ มัธยมปลายแม่บอกให้หนูย้ายมาเรียนที่กรุงเทพค่ะเป็นโรงเรียนประจำเรียนฟรีที่ถ้าเรียนก็ต้องทำงานในโรงเรียน ไม่สามารถเล่นโทรศัพท์ได้ ไม่สามารถออกไปไหนได้หากไม่ใช่ปิดเทอม แต่ถ้าหากเรียนจบม.6ได้ก็สามารถเลือกได้ว่าจะออกไปเรียนหรืออยู่ทำงานเป็นพิเศษได้ค่ะ ที่นี่หนูก็ยังได้เดือนละห้าร้อยเท่าเดิมค่ะ ซึ่งอยู่ที่นี่หนูไม่รู้จะหาเงินใช้ได้ยังไง หนูจะโทรไปขอเงินพ่อกับแม่เดือนละครั้งค่ะ ซึ่งหนูบอกตามตรงว่าลำบากมาก มากๆ เพราะว่าเงินไม่พอใช่ค่ะ แต่หนูก็เข้าใจว่าเขาต้องส่งให้สาวหนูเรียนให้จบปริญญาค่ะ หนูไม่ได้โวยวายอะไรค่ะ แต่พอหนูกำลังจะจบม.6 หนูขอเงินแม่เพื่อไปสมัครเข้ามหาลัยเขาบอกว่าเขาไม่มีค่ะ พอมาอีกคืนพี่สาวหนูขอหกพันแม่ก็ให้ค่ะ หนูเลยทำความเข้าใจใหม่ว่าถึงจะเข้ามหาลัยได้เขาก็คงไม่มีเงินส่งเรียน หนูเลยตั้งใจที่จะทำงานเป็นครูพิเศษตามที่โรงเรียนให้ค่ะ พอหนูจบมาหนูเริ่มทำงานค่ะ และสมัครเรียนวิลัยที่เป็นเคร์อเดียวกันกับของโรงฌรียนค่ะ ซึ่งหนูได้รับส่วนลด75%ค่ะ ทำงานวันจ-ศ เสาร์อาทิตย์เรียนค่ะ หนูทำงานได้เดือนละหมื่นสองค่ะ หักค่าหอค่าน้ำ-ไฟ เหลือหนึ่งหมื่น ค่าเทอมหนูผ่อนจ่ายเดือนละหนึ่งหนึ่งพันหนึ่งร้อย พ่อกับแม่จะขอเงินหนูเดือนละสองถึงสามพันต่อเดือนค่ะ ให้น้องชาย ให้พี่สาว หนูต้องซื้อของใช้ เสื้อผ้าใส่ทำงาน อุปกรณ์ที่ใช้ในหอ แต่ละเดือนหนูแทบจะไม่มีเงินเก็บเลยค่ะบางเดือนช่างท้ายเดือนก็ไม่ได้กินข้าวเลยค่ะ ช่วงแรกๆหนูโทรหาพ่อกับแม่บ่อยมากค่ะ เขาไม่เคยโทรหาหนูเลยทุกครั้งที่รับเขาก็จะทำเหมือนไม่อยากคุย เขาไม่เคยถามหนูเลยว่า ทำงานเป็นไงบ้างเหนื่อยมั้ย กินข้าวรึยัง มีแต่บอกว่าโอนเงินให้พี่สาวด้วยนะ พี่น่าสงสารมากเพราะว่าพี่ไม่มีเงินเรียนพี่ไม่เงินกินข้าว โอนเงินให้น้องด้วยนะ(น้องเรียนที่เดียวกับที่หนูจบมาค่ะ) หนูเต็มใจให้ค่ะเพราะหนูรู้ดีว่าการไม่มีเงินใช้มันลำบากแค่ไหน
หนูสงสารน้องที่ต้องมาเรียนที่แบบนี้ เพราะหนูเคยผ่านมา มันลำบาก หนูเลยอยากสนับสนุนน้องทุกเรื่อง ไปเยี่ยม ซื้อของใช้ให้ แม่จะถามหนูทุกครั้งที่โทรไปว่า น้องเป็นไงบ้าง ไปหาน้องให้หน่อยแม่คิดถึงน้องแม่อยากคุยด้วย แม่ซื้อของส่งมาให้น้องน้องได้รึยัง ทั้งๆที่ตอนที่หนูอยู่แม่ไม่เคยส่งอะไรให้เลย หนูน้อยใจนะ บอกตรงๆ หนูไม่เคยยินคำว่ารักจากเขาเลย เขาเคยไล่ให้หนูไปตายครั้งนึงตอนอยู่ป.3เขาบอกว่าหนูไร้ประโยชน์ หนูจำจนถึงทุกวันนี้ แต่ทุกวันนี้เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรหนูนะคะ หนูเลิกโทรไปหาเขาได้ประมาณสองเดือนแล้วค่ะ หนูเหนื่อยแล้วค่ะที่พยายามเท่าไหร่เขาก็ไม่เคยเห็นความพยามของหนูที่จะช่วยเขาเลย หนูเป็นลูกคนเดียวที่ทำงานตอนนี้ค่ะ พี่สาวพึ่งเรียนจบเลยขอไปอยู่บ้านสามเดือนเขาบอกว่าเขาเหนื่อยค่ะขอพัก หนูควรทำยังไงดีคะหนูไม่ไหวทั้งใจและกายเลยค่ะ ตายเลยดีมั้ยคะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
อาภูมิใจในตัวหนูมาก ที่สามารถผ่านจุดที่ลำบากมากๆมาได้
ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยากในคนทั่วไป แต่หนูก็ผ่านมาได้ด้วยความอดทนและรักดี
จนกลายเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือครอบครัว ,พี่สาวและน้องชายโดยปริยาย
อาเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หนูท่านก็รู้ แต่ท่านอาจแสดงออกไม่เป็นครับ

ตามลำพังคุณพ่อคุณแม่ท่านก็คงลำบากมากในการจะหาเลี้ยงดูลูกๆทุกคน
จนมีช่วงเวลาหนึ่งที่ต้องตัดสินใจส่งลูกคนหนึ่งไปให้คุณย่าช่วยเลี้ยงดู
ซึ่งบังเอิญก็เป็นหนู เหมือนฟ้าจะรู้ว่าหนูเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษ
จะสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ ถ้าหากเป็นคนอื่นอาจทำไม่สำเร็จก็ได้

"เวลาในการหาเงิน" มีความจำเป็นมากสำหรับคุณพ่อคุณแม่
จนทำให้ไม่มีเวลาให้ลูกได้ทั่วถึง รวมถึงให้หนูได้ไหว้
การเดินทางไปเยี่ยมก็ต้องใช้เงิน ซึ่งเป็นเรื่องที่ท่านต้องคิดหนักอยู่ไม่น้อย

ตามธรรมดาของครอบครัวที่มีต้องดิ้นรนในการหาเงินมาเลี้ยงชีพ
ก็จะพยายามให้ลูกคนโตรีบเรียนให้จบดีๆเท่าที่สามารถ เพื่อจะได้มีงานทำดีๆ
มีรายได้มาจุนเจือครอบครัวอีกแรงหนึ่ง

แต่เนื่องจากพี่สาวยังเรียนไม่จบ ยังไม่มืรายได้มาช่วยครอบครัว
จึงทำให้ท่านไม่มีกำลังส่งหนูได้เรียนเท่าที่ควร
ไม่ใช่เพราะไม่รักหนู แต่เพราะเหตุการณ์บังคับให้ต้องทำแบบนี้

ลูกที่เก่งสามารถเอาตัวรอดได้แบบหนู คุณพ่อคุณแม่จะเบาใจและวางใจ
จนอาจทำให้น้อยใจเข้าใจผิดคิดว่าท่านไม่เป็นห่วงเป็นใยหรือไม่สนใจก็ได้
เพราะเห็นท่านไปห่วงแต่คนอื่น (ก็เพราะท่านเป็นห่วงเห็นว่ายังเอาตัวไม่รอดนั่นเอง)

ตอนนี้หนูเหนื่อยและน้อยใจ อาเข้าใจและเห็นใจหนูมากๆ
อยากให้รู้ว่า หนูเป็นคนที่มีความสามารถมาก
สามารถผ่านช่วงที่ยากลำบากมากๆมาได้
เป็นคนดีเพราะรักดี มีความเสียสละและรู้จักคิด

อาขอกอดหนูแน่นๆและมาเป็นกำลังใจให้หนู
การตายเป็นสิ่งที่ทำให้ใจเศร้าหมองและเป็นทุกข์ ไม่ควรทำครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่