[CR] ไม่เที่ยวทิพย์!! ไม่จกตา!! เดินบนฟ้า...ล่าปลาวาฬ ..อธิษฐานขอพร (ทริปอิสาน 5 วัน 4 คืน หนองคาย-บึงกาฬ)


 สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกท่านนะคะ หลังจากไม่ได้ตั้งกระทู้รีวิวใดๆมาเป็นเวลา 5 ปี วันนี้ฤกษ์งามยามดีมีโอกาสไปท่องเที่ยวทริปสุดประทับใจที่ลิสต์ไว้เป็นอันดับต้นๆของทุกการท่องเที่ยวในประเทศที่เบลล์เคยไปมา เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ประทับใจ และหวังว่าจะเป็นแนวทางและแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆได้ออกท่องเที่ยวไปด้วยกันนะคะ
                      เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด ที่ลากยาวมาแรมปี ผู้ประกอบการร้านอาหารและการท่องเที่ยวต่างๆก็ดูจะซบเซา  เราห่างหายจากการท่องเที่ยวมานานมาก เลยพูดคุยกันในกลุ่มเพื่อนว่า ในเมื่อพวกเราได้รับวัคซีนกันครบทุกคนตามเงื่อนไขที่แต่ละจังหวัดกำหนด ลองออกเดินทางกันดูมั้ย อิสานเหนือ ทริปที่ฝันว่าอยากจะไปมานานมากแล้ว 
                       เลยช่วยกันหาข้อมูลและตรวจสอบมาตรการต่างๆของแต่ละจังหวัด วางแพลนทริปคร่าวๆ ว่าจะไป Sky  walk ที่วัดผาตากเสื้อ ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย  > ถ้ำดินเพียง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย > หินสามวาฬ  ภูสิงห์ จังหวัดบึงกาฬ >ภูทอก จังหวัดบึงกาฬ >ถ้ำนาคา บึงโขลงหลง จังหวัดบึงกาฬ และ เขายายเที่ยง นครราชสีมา กระทู้นี้คงไม่ได้กล่าวถึงความเป็นมาของสถานที่นะคะ แต่จะเป็นการถ่ายทอดความรู้สึก ที่เราพบเจอระหว่างการท่องเที่ยวในทริปนี้ค่ะ

สถานที่ : ถ้ำดินเพียง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
  เป็นความอัศจรรย์ของธรรมชาติจริงๆ  เมื่อเดินทางมาอิสานเรามักได้ฟังเรื่องราวและตำนานเกี่ยวกับเรื่องพญานาค รวมทั้งความศรัทธาของพี่น้องชาวอิสาน ที่ทำให้เรารู้สึกตื่นตันและขนลุกไปในคราวเดียวกันกับบรรยากาศของแต่ละสถานที่ที่เราไปเยือน สถานที่แรกที่เราเดินทางไปถึง คือ วัดถ้ำศรีมงคล จังหวัดหนองคาย โดยภายในวัดแห่งนี้จะมีถ้ำที่อยู่ลึกลงไปในพื้นดินที่ชื่อว่า ถ้ำดินเพียง ชาวบ้านที่นี่เชื่อกันว่าในอดีตถ้ำแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยและเส้นทางในการสัญจรไปมาของนครบาดาลและ พญานาค
                         วันที่พวกเราไปถึง มีนักท่องเที่ยวอยู่น้อยมาก เราเดินตามป้ายไปจนถึงหน้าปากถ้ำ พบกับน้องๆที่ทำหน้าที่เป็นไกด์นำพาเราเข้าไปในถ้ำ ช่วงนั้นฝนตก จึงทำให้มีน้ำในถ้ำเยอะพอสมควร ขอแนะนำว่าให้ทำตามคำแนะนำของไกด์ท้องถิ่นนะคะ ทางเข้าถ้ำค่อนข้างแคบมาก  มีบางจุดต้องเบี่ยงตัว ก้มต้ำ คลาน และแน่นอนว่าเปียก สัมภาระที่ไม่จำเป็นไม่ควรเอาลงไปเลย กระเป๋าเป้ รองเท้า อะไรที่เป็นภาระในการถือ ไปตัวเปล่ากับอุปกรณ์ถ่ายภาพก็พอค่ะ  



                      
                         ทางเข้าเป็นโพรงขนาดเล็กและแคบมากๆ ต้องย่อเข่าและเบี่ยงข้างเข้าไป ใครกลัวที่แคบไม่แนะนำนะคะ ผ่านจุดแคบเข้ามาจะพบกับโถงใหญ่ จุดนี้สวยงามมาก กระบวนการทางธรรมชาติ สร้างสรรค์ให้เกิดโพรงถ้ำที่มีรูปทรงสวยงาม ประกอบกับแสงไฟนีออนหลากสี ขับให้ผนังถ้ำดูสวยงามหน้าค้นหา ว่ากันว่ามีหนทางภายในถ้ำสามารถทะลุออกไปที่แม่น้ำโขงประเทศลาวได้  แต่ละโถงมีเรื่องเล่าที่น่าสนใจ ภายในถ้ำเย็นและสะอาดมากค่ะ สำหรับเบลล์ได้ทั้งความรู้สึกของการผจญภัย ความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ของถ้ำ  และได้ฟังตำนานของสถานที่ที่ทำให้รู้สึกถึงมนต์ขลังระหว่างที่อยู่ในถ้ำด้วย
                          ค่าใช้จ่าย : 1.ค่าบำรุงสถานที่  100 บาท/คณะ
                                           2. ทิปให้น้องไกด์ท้องถิ่น ตามสมควรค่ะ ทริปเราให้น้องไป 200 บาท

สถานที่ : วัดผาตากเสื้อ อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
              สำหรับวัดผาตากเสื้อ เรามาตามหาจุดเช๊คอินที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ค่ะ นั่นก็คือ Skywalk ริมหน้าผา ซึ่งเป็นทางเดินกระจกใสรูปวงกลม สามารถชมวิวแม่น้ำโขงได้แบบ HD กันเลยทีเดียว

               พวกเราไปถึงช่วงกลางวันแล้วค่ะ อากาศค่อนข้างร้อน คิดอยู่ว่าถ้ามาเช้าก็อาจจะมีโอกาสได้เห็นสายหมอกบางๆเหนือแม่น้ำโขง แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ มาช่วงกลางวันก็สวยงามไปอีกแบบ ช่วงที่เราไปก็คนน้อยอีกเช่นเคย เลยได้รูปสวยๆแบบเหมา Skywalk กันเลยทีเดียว แต่ก่อนเข้าไปยังจุดSkywalk ต้องใส่ถุงพลาสติกหุ้มเท้ากันก่อนนะคะ


                                  มีจุดไหว้พระอยู่บริเวณหน้าทางเข้าและด้านบนโบสถ์ ด้านหน้ามีบันไดพญานาคทอดยาวไปจนถึงตัวโบสถ์ซึ่งภายในมีพระประธานของวัดประดิษฐานอยู่
                            ค่าใช้จ่าย  1.พลาสติกหุ้มรองเท้าเพื่อเข้า Sky walk  คู่ละ 20 บาท
                                            2.ทำบุญตามกำลังศรัทธา

สถานที่ : หินสามวาฬ  ภูสิงห์ จ.บึงกาฬ

                   หินวาฬพ่อ หินก้อนใหญ่ที่โดดเด่นและเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมของนักท่องเที่ยว อยู่ริมสุด ถ้าอยากได้ภาพหินพ่อซึ่งเป็นก้อนไฮไลท์แบบเต็มก้อน ต้องเดินไปที่หินอีกก้อน คือ หินวาฬแม่ ซึ่งอยู่ตรงกลาง ส่วนหินวาฬลูกไม่สามารถเดินเข้าไปได้ เพราะไม่มีเส้นทางเข้าไป จะเดินชมได้แค่หินวาฬพ่อและแม่ เท่านั้น



สถานที่ : ส้างร้อยบ่อ หินสามวาฬ จังหวัดบึงกาฬ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

                                               หินที่มีลักษณะคล้ายหน้าสิงห์หันเข้าหากันจึงถูกเรียกว่า ‘ประตูภูสิงห์’


              สำหรับหินสามวาฬ คือจุดที่เราประทับใจมากๆค่ะ จุดแรกก็มีการคัดกรองตรวจสอบประวัติการฉีดวัคซีน  ลงทะเบียนและชำระค่าเข้าชมเป็นหมู่คณะ จากนั้นขึ้นรถกะบะของเจ้าหน้าที่ เพื่อนำพาเที่ยวชมยังจุดต่างๆค่ะ  ทริปนี้เราโชคดีอีกแล้วที่นักเที่ยวน้อยมากๆ ทำให้เจ้าหน้าที่หนึ่งคน สามารถนำพาเราไปได้ทุกจุด รวมทั้งช่วยแนะนำสถานที่และถ่ายภาพสวยๆให้เราด้วย  คุณกอล์ฟเจ้าหน้าที่ที่นำพาเราไป ใส่ใจในการให้คำแนะนำและถ่ายภาพให้เราได้สวยประทับใจมากๆ เราบ่นกันว่าหินสามวาฬถ้าได้ภาพมุมสูงคงดีมากแน่เลย คุณกอล์ฟก็เลยติดต่อโดรนให้เรา ทำให้เราได้ภาพที่ตื่นตาตื่นใจมากๆเลยค่ะ  บริเวณหินสามวาฬ เราแทบจะเป็นคณะ VIP ที่เหมาทั้งลานกันเลยทีเดียว 
                คุณกอล์ฟให้ข้อมูลกับเราว่า หินสามวาฬมีอายุกว่า 75 ล้านปี ก้อนหิน พ่อแม่ ลูก ที่มีรูปร่างคล้ายปลาวาฬ โดดเด่นและอันซีนมากๆ  ซึ่งเราสามารถยืนชมทัศนียภาพของป่าภูวัว และภูเขาที่สวยงามของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้อย่างชัดเจน ถ้าสะดวกมาตอนเช้า เจ้าหน้าที่แนะนำว่ามาถึงที่นี่ประมาณตีห้า เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าบนหลังปลาวาฬ จะสวยงามตราตรึงสุดๆ ถ้ามีโอกาสอีกเบลล์ก็อยากจะกลับมาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่อีกซักครั้ง
                  ค่าใช้จ่าย   1.ค่ารถนำเที่ยวชมสถานที่ 500 บาท/คณะ (ไม่เกิน 10 คน)
                                   2.ค่าถ่ายโดรนมุมสูง  500 บาท (ได้ทั้งภาพนิ่งและวิดิโอ)
                                   3.ค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ (เราตั้งใจมอบให้เพราะพี่เจ้าหน้าที่ดูแลเราดีมากๆ) ตามสมควรนะคะ

สถานที่ ภูทอก บึงกาฬ
                  เดินเท้าขึ้นสู่ยอดภูทอก จุดเด่นของภูทอกคือบันไดและสะพานไม้เดินชมทัศนียภาพแบบ 360 องศา มีทั้งหมด 7 ชั้น ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 5 ปีเต็ม ซึ่งเกิดจากฝีมือ แรงงาน และภูมิปัญญาชาวบ้าน   ระหว่างเดินไปตามทาง เราจะได้เห็นทัศนียภาพรอบภูทอกแบบ 360 องศา ถือว่าได้ออกกำลังกายพอเรียกเหงื่อเบาๆ  พร้อมกับทึ่งไปกับความสามารถด้านสถาปัตยกรรมและความเพียรพยายามของคนสร้าง


                              
สถานที่ : ถ้ำนาคา  บึงกาฬ
               
                    สถานที่สุดมหัศจรรย์ ที่เต็มไปด้วยตำนาน มนต์ขลังและความศักดิ์สิทธิ์  ถึงแม้จะเปิดให้เข้าชมได้ไม่นาน แต่ด้วยความมหัศจรรย์ ของสถานที่ ทำให้ดึงดูดนักเที่ยวมาจากทั่วทุกสารทิศ เพื่อมาชื่นชมหินพญานาค  คืนก่อนที่พวกเราจะไปถ้ำนาคา พายุเข้าฝนตกตลอดคืน พวกเราได้แต่ตั้งจิตอธิษฐานขอบารมีเจ้าปู่อือลือ เปิดทิศเปิดทางให้พวกเราที่เดินทางมาไกลได้มีโอกาสชื่นชมความงามและความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่แห่งนี้ วันรุ่งขึ้นฝนยังตกอยู่แต่ก็ไม่แรงมาก บรรยากาศของการขึ้นไปช่วงฝนตก ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากบางจุดของเส้นทางค่อนข้างลื่น แต่ก็สวยงามไปอีกแบบ ความเปียกปอนของฝนขับให้สีของหินพญานาคเงางามและเกล็ดของหินชัดเจนมากยิ่งขึ้น  เราใช้เวลาเดินทางไปกลับประมาณ 5 ชั่วโมง เส้นทางเป็นบันไดเหล็กสลับการเดินเท้าไปตามโขดหิน มีจุดพักเป็นระยะ
                     ผู้คนมากมายเดินทางมาด้วยแรงศรัทธาและความเชื่อที่มีต่อพญานาค เราเห็นคุณยายที่มีสายตามุ่งมั่นในการเดินเท้าขึ้นไปสักการะหินพญานาค ถึงแม้ฝนจะตกแทบตลอดเวลาก็ตาม ทุกคณะที่ขึ้นไปต้องมีไกด์ท้องถิ่น ไม่สามารถขึ้นไปเองได้ ถ้าใครตามข่าวก็จะเห็นว่ามีคนไร้จิตสำนึกไปขีดเขียนทำลายหิน เจ้าหน้าที่อุทยานจึงค่อนข้างเข้มงวด และอย่าเอามือไปสัมผัส เก็บเอาหินหรืออะไรก็ตามกลับมานะคะ เก็บแค่ความทรงจำและภาพถ่ายที่สวยงามก็พอ  ปล่อยให้ธรรมชาติยังคงความสวยงามอยู่แบบนั้นจะดีกว่า   

                                               หัวพญานาค หัวที่ 3 หัวนี้เหมือนมากจนขนลุก ทั้งลายเกล็ด และดวงตา 


                                          ประตูทางเข้าสู่ ถ้ำหลวงปู่วัง จุดเข้าชมที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ ต้องทยอยเข้าไปเป็นหมู่คณะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะไม่เกิน 10 คน หยุดถ่ายรูปแต่ละจุดไม่ควรเกิน 5 นาที ห้ามสัมผัสหินต่างๆภายในถ้ำ 


                          ถ้ำหลวงปู่วัง ตรงนี้จะมีหินลักษณะคล้ายหัวงูขนาดใหญ่นอนพาดกับพื้น มีลวดลายเกล็ดคล้ายกับส่วนลำตัว ถ้าลองจินตนาการเอาส่วนหัวกับขนดลำตัวมาต่อกัน ก็ราวกับว่าพญางูใหญ่กำลังจะเลื้อยออกจากถ้ำ เกล็ดชัดและขนาดใหญ่มาก ช่วงที่เราไปฝนตกชุ่มฉ่ำ เหมือนได้พรมน้ำมนต์กันเลย 


                            ว่ากันว่าจุดนี้คือประตูสู่เมืองลับแล บอกเลยว่าตอนมายืนถ่ายภาพรู้สึกขนลุกจริงๆ แสงที่ลอดผ่านมาจากอีกฝั่ง ประกอบกับละอองน้ำที่โปรยลงมา และขดลำตัวเกล็ดพญานาคทั้งสองด้าน เหมือนเรากำลังหลุดเข้าไปในอีกมิติเลย 


                            จุดนี้เป็นทางเข้าสู่ถ้ำหลวงปู่วัง หินทางเข้ามีรูปร่างคล้ายลำตัวของพญานาค ด้วยลวดลายที่คล้ายเกล็ดและดูเหมือนพญานาคขดตัว

                            ค่าใช้จ่าย  1. บัตรเข้าชมของอุทยาน จำนวน 4 คน 110 บาท
                                            2. น้ำดื่ม+ถุงมือ สำหรับ 4 คน  380 บาท
                                            3. ทิปให้กับไกด์ท้องถิ่น ตามสมควร

สถานที่ : เขายายเที่ยง กังหันลมยักษ์   นครราชสีมา

                               ตอนแรกสถานที่นี้ไม่ได้อยู่ในแพลนตั้งแต
ชื่อสินค้า:   ถ้ำนาคา บึงกาฬ
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่