ผมรู้สึกขัดใจที่หลายๆ web หลายๆๆ เฟส นำเสนอรูปถาพสถานที่ท่องเที่ยว
ในบึงกาฬแบบผิดๆๆ ลงรูปผิดบ้าง เนื้อหาผิดบ้าง
ผมเลยขอนำเสนอ ภาพถ่ายผมเองครับ
กับหัวข้อ บึงกาฬ จังหวัดที่ 77 ... กับ 7 สถานที่ ที่ต้องไป
สถานที่แรกขอนำเสนอ สถานที่ ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดครับ
1.ภูทอก
ภูทอก อยู่ภายในวัดเจติยาคีรีวิหาร
ภูทอก ในภาษาอีสานแปลว่า ภูเขาที่โดดเดี่ยว
ภูทอกตั้งอยู่ที่ อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ เดินทางจากตั้งจังหวัด ประมาณ 40 กิโลเมตร
เป็นภูเขาหินทราย มีสะพานไม้สร้างวนเวียนขึ้นไปสู่ยอดเขารวม 7 ชั้น
ใช้เวลา สร้างสะพาน 5 ปี
โดยเดิมสร้างเป็นที่ปฎิบัติธรรมของพระสงฆ์
ภูทอก เป็นภูเขา ที่ประกอบไปด้วยภูเขา 2 ลูก คือภูทอกน้อย และ ภูทอกใหญ่ ซึ่งอยู่ข้างกัน
อีกจุดสำคัญ คือบริเวณชั้น 6 ถ้ามาทางด้านเหนือจะเห็นสะพานหินธรรมชาติทอดสู่พุทธวิหาร
อันเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้
เมื่อมองจากทางเดินชั้น 6 พุทธวิหาร มีลักษณะที่แปลกตา คล้ายกับพระธาตุอินทร์แขวนที่ประเทศพม่า
และ ชั้นที่ 6 เป็นชั้นสุดท้ายของบันไดเวียนรอบเขา มีความยาว 400 เมตร
เป็นชั้นที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมทัศนียภาพรอบ ๆ ภูทอกได้ดีที่สุดและสวยที่สุด
ถ้าสนใจเข้าไปดูรีวิวภูทอกเพิ่มเติมได้ที่ รีวิวชื่อว่า --> ภูทอก จ.บึงกาฬ ... บันไดไม้แห่งศรัทธาสู่ภูผาแห่งบึงกาฬ
http://ppantip.com/topic/32016629
2. ภูวัว หรือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว
ประกอบด้วยภูเขา และน้ำตกมากมาย ภายในพื้นที่มีน้ำตกสวยงามหลายแห่ง
มีจุดชมวิวที่สวยงาม บริเวณเหนือยอดภูวัว ชื่อว่า ภูวัวเหนือถ้ำพาย
ภูวัว มีน้ำตกขนาดใหญ่ สวยงามหลายที่
เช่น น้ำตกถ้ำฝุ่น น้ำตกเจ็ดสี น้ำตกถ้ำพระ บริเวณน้ำตกมีเพิงถ้ำหลายแห่ง หรือน้ำตกชะแนน
น้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ
น้ำตกเจ็ดสี
น้ำตกเจ็ดสี ถือว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดของบึงกาฬ
บริเวณชั้นบนของน้ำตกมีลานหินขนาดใหญ่ นักท่องเที่ยวนิยมเล่นน้ำกันนะครับ
น้ำตกเจ็ดสี มี 2 ชั้น ภาพ ด้านบนคือชั้น 2 จะมีขนาดใหญ่ที่สุด สามารถเล่นน้ำได้
ส่วนชั้นแรก ขนาดเล็กกว่า...ถึงจะเล็กกว่าเเต่ก็สวยนะครับ
นอกจากนี้ยังมีน้ำตก ถ้ำฝุ่น เป็นน้ำตกขนาดกลาง ข้างๆน้ำตกจะมีถ้ำขนาดเล็ก
การเดินทางไปภูวัว ให้ขับรถเลยอำเภอบุ่งคล้า 3 กิโลเมตรและเลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร
ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า มีพื้นที่ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น เข้าค่าย กางเต้นท์ กิจกรรมรอบกองไฟ
ไฮไลน์ อีกอย่างคือ นกยูง ที่ออกมารอตอนรับนักท่องเที่ยวทุกเช้า
3. แก่งอาฮง หรือ สะดือแม่น้ำโขง
แม่น้ำโขงตลอดทั้งสาย ซึ่งมีความยาววัดได้ ประมาณ 4,590 กม.
ทอดตัวไหลผ่านถึง 6 ประเทศ แต่ จุดที่ลึกที่สุดของแม่น้ำโขง หรือ ที่ชาวบ้านเรียกว่า
สะดือแม่น้ำโขง อยู่ที่ แก่งอาฮง จ.บึงกาฬ ประเทศไทย เรานี้เอง
แก่งอาฮง ตั้งอยู่บ้านอาฮง จ.บึงกาฬ ห่างจากตัวบึงกาฬ 21 กิโลเมตร
คนเฒ่าคนแก่เคยวัดความลึกโดยใช้เชือกผูกกับก้อนหินหย่อนลงไป วัดได้ลึก 200 เมตร
บริเวณริมแก่งอาฮง มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเนินหินสีดำแดงแปลกตา
ทางวัด ได้ตกแต่งเป็นสวน เป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจ และ ปฏิบัติธรรม
นอกจากนี้ วัดอาฮงศิลาวาส โดดเด่น ด้วยสถาบัตกรรม พระอุโบสถ์หินอ่อน ริมแม่น้ำโขง
ตั้งอยู่บนแก่งอาฮง
เรื่องราว และ รูปถ่าย แก่งอาฮง ยังมีอีกเยอะครับ เข้าไปดูได้ที่ รีวิว
แก่งอาฮง...ลึกสุดสองฝั่งโขง ( ที่ วัดอาฮงศิลาวาส จ.บึงกาฬ )
http://ppantip.com/topic/32055501
4. รอบตัวเมืองบึงกาฬ
บึงกาฬ เป็นเมืองเก่าที่อยู่ริมแม่น้ำโขง วิถีชีวิตผูกพันธ์กับสายน้ำ
บ้านเก่าๆก็พบเห็นได้ตามถนนริมแม่น้ำโขง
นอกจากนี้ยังมีการดัดแปลงบ้านเก่าๆๆ เป็นร้านค้า คล้ายๆกับ เชียงคานด้วยนะครับ
ในช่วงฤดูร้อนบริเวณริมแม่น้ำโขงจะมีหาด ทอดยาวตามริมตะลิ่ง
มีร้านค้า ร้านอาหารมากมายริมชายหาด
ช่วงกลางคือบรรยากาศดีมากครับ ต้องลองไปนั่งเล่นริมหาดดูสักครั้ง
ชื่อจังหวัดบึงกาฬ มีที่มาจาหหนองน้ำขนาดใหญ่กลางเมือง ที่ชื่อบึงว่า บึงกาฬ
บริเวณบึง เป็นสวนสาธารณะ โดยฉากหลังเป็นโรงพยาบาลบึงกาฬ และ ทิวเขาประเทศลาว
นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร บรรยากาศ ย้อนยุค เป็นบ้านไม้
ได้กลิ่นไอเมืองเก่าแก่ เลยทีเดียวครับ
ลองไปเที่ยว ไปชิมดูนะครับ
5. บึงโขงหลง และ หาดคำสมบูรณ์
ตั้งอยู่ อ.บึงโขงหลง บึงโขงหลงคือทะเลสาบขนาดใหญ่ เป็นแหล่งจับปลาสำคัญของจังหวัด
และเป็นอีกหนึ่งจุดที่สามรถชมบั่งไฟพญานาคได้
บริเวณบึงยังมีหาดคำสมบูรณ์ที่มีหาดทรายทอดยาวในช่วงฤดูหนาว
เป็นแหล่งพักผ่อน ได้บรรยากาศแบบริมทะเล เลยทีเดียวนะครับ
มองเห็นภูลังกาเป็นฉากหลัง อีกด้วย
6.วัดสว่างอารมณ์ และ ริมโขงปากคาด
วัดสว่างอารมณ์ หรือ วัดถ้ำศรีธน ตั้งอยู่ในตัว อ. ปากคาด
ภายในวัดมีวิหารบนก้อนหินทรายขนาดใหญ่แปลกตา
และยังมีตำนาน ถึง พระสุธน มโนราห์ อีกด้วย
นอกจากวัดแล้ว อ.ปากคาดมีบรรยากาศ ริมแม่น้ำโขงที่สวยงาม
มีร้านอาหาร ร้านค้า ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ได้บรรยากาศ ชิวๆๆ ไปอีกแบบครับ
พระอาทิตย์ตก ริมฝั่งโขง อ.ปากคาด ก็สวยไม่แพ้ใครนะครับ
นอกจากนี้ปากคาดยังมีอีกสถานที่ครับ...ที่เป็นที่นิยมมาถ่ายรูปกันครับ
คือ
ประตูระบายน้ำห้วยคาด
7.ภูลังกา
ภูลังกานั้นเป็นเขตรอยต่อ ระหว่าง จ.บึงกาฬและ จังหวัดนครพนม
เป็นภูเขาสูง ที่มีวัดหลายวัดอยู่บนภูเขา และยังมีน้ำตกที่สวยงามอีกด้วย
( หมายเหตุ น้ำตกอยู่ในเขต จ.นครพนม นะครับ ) แต่ใกล้ๆกัน ห่างกันประมาณ 10 กิโลเมตร
บริเวณบนภูลังกา เป็นที่ประดิษฐาน พระธาตุภูลังกา
ในช่วงฤดูหนาว และ ฝน จะปรากฏภาพ พระธาตุทามกลางหมอกสีขาว
บริเวณทางขึ้นภู เป็นป่าเขาที่ร่มรื่น มีพระพุทธรูป เป็นระยะ
ซึ่งกลมกลืนกับธรรมชาติ จนเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
เมื่อขึ้นถึงยอดภู จะมีสองยอด ยอดภูแรก คือ เจดีย์พระอาจารย์วัง
ส่วนอีกยอดภู คือ พระธาตุภูลังกา
วิวจากยอดภู จะเห็นภาพสวนยางพาราสุดลูกหูลูกตา
หนาวนี้ลองมาเดินเขาขึ้นภูกันนะครับ
แค่คุณออกเดินทาง คุณก็จะรู้จัก จังหวัดที่ 77 แห่งนี้มากขึ้นกว่าเดิม
และจะหลงรัก บึงกาฬ แน่นอนครับ
***สงวนลิขสิทธิ์ภาพถ่าย...ติดต่อ พูดคุย ขออนุญาตการนำภาพไปใช้ ซื้อขายภาพ
facebook:
https://www.facebook.com/thapanun.mahisanun
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า นพ.ฐาปนันท์ มหิศนันท์
บึงกาฬ จังหวัดที่ 77 ... กับ 7 สถานที่ ที่ต้องไป ( ฉบับ รูปภาพและเนื้อหาถูกต้องนะครับ )
ผมรู้สึกขัดใจที่หลายๆ web หลายๆๆ เฟส นำเสนอรูปถาพสถานที่ท่องเที่ยว
ในบึงกาฬแบบผิดๆๆ ลงรูปผิดบ้าง เนื้อหาผิดบ้าง
ผมเลยขอนำเสนอ ภาพถ่ายผมเองครับ
กับหัวข้อ บึงกาฬ จังหวัดที่ 77 ... กับ 7 สถานที่ ที่ต้องไป
สถานที่แรกขอนำเสนอ สถานที่ ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดครับ
1.ภูทอก
ภูทอก อยู่ภายในวัดเจติยาคีรีวิหาร
ภูทอก ในภาษาอีสานแปลว่า ภูเขาที่โดดเดี่ยว
ภูทอกตั้งอยู่ที่ อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ เดินทางจากตั้งจังหวัด ประมาณ 40 กิโลเมตร
เป็นภูเขาหินทราย มีสะพานไม้สร้างวนเวียนขึ้นไปสู่ยอดเขารวม 7 ชั้น
ใช้เวลา สร้างสะพาน 5 ปี
โดยเดิมสร้างเป็นที่ปฎิบัติธรรมของพระสงฆ์
ภูทอก เป็นภูเขา ที่ประกอบไปด้วยภูเขา 2 ลูก คือภูทอกน้อย และ ภูทอกใหญ่ ซึ่งอยู่ข้างกัน
อีกจุดสำคัญ คือบริเวณชั้น 6 ถ้ามาทางด้านเหนือจะเห็นสะพานหินธรรมชาติทอดสู่พุทธวิหาร
อันเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้
เมื่อมองจากทางเดินชั้น 6 พุทธวิหาร มีลักษณะที่แปลกตา คล้ายกับพระธาตุอินทร์แขวนที่ประเทศพม่า
และ ชั้นที่ 6 เป็นชั้นสุดท้ายของบันไดเวียนรอบเขา มีความยาว 400 เมตร
เป็นชั้นที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมทัศนียภาพรอบ ๆ ภูทอกได้ดีที่สุดและสวยที่สุด
ถ้าสนใจเข้าไปดูรีวิวภูทอกเพิ่มเติมได้ที่ รีวิวชื่อว่า --> ภูทอก จ.บึงกาฬ ... บันไดไม้แห่งศรัทธาสู่ภูผาแห่งบึงกาฬ
http://ppantip.com/topic/32016629
2. ภูวัว หรือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว
ประกอบด้วยภูเขา และน้ำตกมากมาย ภายในพื้นที่มีน้ำตกสวยงามหลายแห่ง
มีจุดชมวิวที่สวยงาม บริเวณเหนือยอดภูวัว ชื่อว่า ภูวัวเหนือถ้ำพาย
ภูวัว มีน้ำตกขนาดใหญ่ สวยงามหลายที่
เช่น น้ำตกถ้ำฝุ่น น้ำตกเจ็ดสี น้ำตกถ้ำพระ บริเวณน้ำตกมีเพิงถ้ำหลายแห่ง หรือน้ำตกชะแนน
น้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ น้ำตกเจ็ดสี
น้ำตกเจ็ดสี ถือว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดของบึงกาฬ
บริเวณชั้นบนของน้ำตกมีลานหินขนาดใหญ่ นักท่องเที่ยวนิยมเล่นน้ำกันนะครับ
น้ำตกเจ็ดสี มี 2 ชั้น ภาพ ด้านบนคือชั้น 2 จะมีขนาดใหญ่ที่สุด สามารถเล่นน้ำได้
ส่วนชั้นแรก ขนาดเล็กกว่า...ถึงจะเล็กกว่าเเต่ก็สวยนะครับ
นอกจากนี้ยังมีน้ำตก ถ้ำฝุ่น เป็นน้ำตกขนาดกลาง ข้างๆน้ำตกจะมีถ้ำขนาดเล็ก
การเดินทางไปภูวัว ให้ขับรถเลยอำเภอบุ่งคล้า 3 กิโลเมตรและเลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร
ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า มีพื้นที่ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น เข้าค่าย กางเต้นท์ กิจกรรมรอบกองไฟ
ไฮไลน์ อีกอย่างคือ นกยูง ที่ออกมารอตอนรับนักท่องเที่ยวทุกเช้า
3. แก่งอาฮง หรือ สะดือแม่น้ำโขง
แม่น้ำโขงตลอดทั้งสาย ซึ่งมีความยาววัดได้ ประมาณ 4,590 กม.
ทอดตัวไหลผ่านถึง 6 ประเทศ แต่ จุดที่ลึกที่สุดของแม่น้ำโขง หรือ ที่ชาวบ้านเรียกว่า
สะดือแม่น้ำโขง อยู่ที่ แก่งอาฮง จ.บึงกาฬ ประเทศไทย เรานี้เอง
แก่งอาฮง ตั้งอยู่บ้านอาฮง จ.บึงกาฬ ห่างจากตัวบึงกาฬ 21 กิโลเมตร
คนเฒ่าคนแก่เคยวัดความลึกโดยใช้เชือกผูกกับก้อนหินหย่อนลงไป วัดได้ลึก 200 เมตร
บริเวณริมแก่งอาฮง มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเนินหินสีดำแดงแปลกตา
ทางวัด ได้ตกแต่งเป็นสวน เป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจ และ ปฏิบัติธรรม
นอกจากนี้ วัดอาฮงศิลาวาส โดดเด่น ด้วยสถาบัตกรรม พระอุโบสถ์หินอ่อน ริมแม่น้ำโขง
ตั้งอยู่บนแก่งอาฮง
เรื่องราว และ รูปถ่าย แก่งอาฮง ยังมีอีกเยอะครับ เข้าไปดูได้ที่ รีวิว
แก่งอาฮง...ลึกสุดสองฝั่งโขง ( ที่ วัดอาฮงศิลาวาส จ.บึงกาฬ ) http://ppantip.com/topic/32055501
4. รอบตัวเมืองบึงกาฬ
บึงกาฬ เป็นเมืองเก่าที่อยู่ริมแม่น้ำโขง วิถีชีวิตผูกพันธ์กับสายน้ำ
บ้านเก่าๆก็พบเห็นได้ตามถนนริมแม่น้ำโขง
นอกจากนี้ยังมีการดัดแปลงบ้านเก่าๆๆ เป็นร้านค้า คล้ายๆกับ เชียงคานด้วยนะครับ
ในช่วงฤดูร้อนบริเวณริมแม่น้ำโขงจะมีหาด ทอดยาวตามริมตะลิ่ง
มีร้านค้า ร้านอาหารมากมายริมชายหาด
ช่วงกลางคือบรรยากาศดีมากครับ ต้องลองไปนั่งเล่นริมหาดดูสักครั้ง
ชื่อจังหวัดบึงกาฬ มีที่มาจาหหนองน้ำขนาดใหญ่กลางเมือง ที่ชื่อบึงว่า บึงกาฬ
บริเวณบึง เป็นสวนสาธารณะ โดยฉากหลังเป็นโรงพยาบาลบึงกาฬ และ ทิวเขาประเทศลาว
นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร บรรยากาศ ย้อนยุค เป็นบ้านไม้
ได้กลิ่นไอเมืองเก่าแก่ เลยทีเดียวครับ
ลองไปเที่ยว ไปชิมดูนะครับ
5. บึงโขงหลง และ หาดคำสมบูรณ์
ตั้งอยู่ อ.บึงโขงหลง บึงโขงหลงคือทะเลสาบขนาดใหญ่ เป็นแหล่งจับปลาสำคัญของจังหวัด
และเป็นอีกหนึ่งจุดที่สามรถชมบั่งไฟพญานาคได้
บริเวณบึงยังมีหาดคำสมบูรณ์ที่มีหาดทรายทอดยาวในช่วงฤดูหนาว
เป็นแหล่งพักผ่อน ได้บรรยากาศแบบริมทะเล เลยทีเดียวนะครับ
มองเห็นภูลังกาเป็นฉากหลัง อีกด้วย
6.วัดสว่างอารมณ์ และ ริมโขงปากคาด
วัดสว่างอารมณ์ หรือ วัดถ้ำศรีธน ตั้งอยู่ในตัว อ. ปากคาด
ภายในวัดมีวิหารบนก้อนหินทรายขนาดใหญ่แปลกตา
และยังมีตำนาน ถึง พระสุธน มโนราห์ อีกด้วย
นอกจากวัดแล้ว อ.ปากคาดมีบรรยากาศ ริมแม่น้ำโขงที่สวยงาม
มีร้านอาหาร ร้านค้า ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ได้บรรยากาศ ชิวๆๆ ไปอีกแบบครับ
พระอาทิตย์ตก ริมฝั่งโขง อ.ปากคาด ก็สวยไม่แพ้ใครนะครับ
นอกจากนี้ปากคาดยังมีอีกสถานที่ครับ...ที่เป็นที่นิยมมาถ่ายรูปกันครับ
คือ ประตูระบายน้ำห้วยคาด
7.ภูลังกา
ภูลังกานั้นเป็นเขตรอยต่อ ระหว่าง จ.บึงกาฬและ จังหวัดนครพนม
เป็นภูเขาสูง ที่มีวัดหลายวัดอยู่บนภูเขา และยังมีน้ำตกที่สวยงามอีกด้วย
( หมายเหตุ น้ำตกอยู่ในเขต จ.นครพนม นะครับ ) แต่ใกล้ๆกัน ห่างกันประมาณ 10 กิโลเมตร
บริเวณบนภูลังกา เป็นที่ประดิษฐาน พระธาตุภูลังกา
ในช่วงฤดูหนาว และ ฝน จะปรากฏภาพ พระธาตุทามกลางหมอกสีขาว
บริเวณทางขึ้นภู เป็นป่าเขาที่ร่มรื่น มีพระพุทธรูป เป็นระยะ
ซึ่งกลมกลืนกับธรรมชาติ จนเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
เมื่อขึ้นถึงยอดภู จะมีสองยอด ยอดภูแรก คือ เจดีย์พระอาจารย์วัง
ส่วนอีกยอดภู คือ พระธาตุภูลังกา
วิวจากยอดภู จะเห็นภาพสวนยางพาราสุดลูกหูลูกตา
หนาวนี้ลองมาเดินเขาขึ้นภูกันนะครับ
แค่คุณออกเดินทาง คุณก็จะรู้จัก จังหวัดที่ 77 แห่งนี้มากขึ้นกว่าเดิม
และจะหลงรัก บึงกาฬ แน่นอนครับ
***สงวนลิขสิทธิ์ภาพถ่าย...ติดต่อ พูดคุย ขออนุญาตการนำภาพไปใช้ ซื้อขายภาพ
facebook: https://www.facebook.com/thapanun.mahisanun
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า นพ.ฐาปนันท์ มหิศนันท์