ตัวเมืองบึงกาฬมีโรงแรมให้เลือกไม่มากนัก และเท่าที่ดู The One Hotel บึงกาฬดูจะมีมาตรฐานที่สุดและให้ความสบายกับผมได้ตลอดทริปเลยจองที่นี่ไป…ตอนที่จองไปโรงแรมร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันทำให้ประหยัดค่าห้องไปได้โขเลยครับ
v
v
v
v
v
v
v
หากชอบการรีวิวของผม ไปดูรีวิวที่ผมทำไว้ในช่องทางอื่นๆได้นะครับ แนะนำ คอมเม้นท์ตามสบายครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------
Facebook: https://www.facebook.com/followmeonearth/
[CR] รีวิว...เที่ยวบึงกาฬ 2 ภู 4 วัด 2 ตลาด...(ภาค 1 ที่พักและที่เที่ยว)
สวัสดีอีกครั้งครับชาวพันทิป…หลังจากเที่ยวหนองคายสองสามวันก็มาต่อกันที่จังหวัดสุดท้ายในทริปอีสานของผมรอบนี้แล้วครับ…จังหวัดบึงกาฬเป็นจังหวัดยอดฮิตในตอนนี้ แต่เหมือนกับคนที่มาจะมุ่งไปที่ที่เดียวกันหมด แล้วที่อื่นๆมีอะไรให้เที่ยวบ้าง…ต้องไปดูให้เห็นกับตาแหละครับ
กระทู้นี้แบ่งเป็นสองส่วนนะครับแยกที่พักที่เที่ยวไว้กระทู้นี้ ส่วนร้านอาหารจะไปอยู่อีกกระทู้หนึ่ง แต่ถ้าเป็นร้านที่แวะทานจะอยู่ในนี้เลย กระทู้ยาวหน่อยครับ เพราะที่เที่ยวที่กินเยอะใช้ได้เลย…เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเลวา…แฮ่…เวลา ไปกันเลยครับ
การเดินทางจากหนองคายไปบึงกาฬง่ายกว่าจากจังหวัดเลยมาหนองคายมาก…ถึงจะเป็นเส้นทางเลาะแม่น้ำโขงแต่ถนนกว้างกว่า วิ่งสบายกว่าเยอะ ขับรถไม่นานนักก็มาถึงบังกาฬ…ก่อนจะไปเที่ยว เข้าโรงแรมเก็บสัมภาระก่อนครับ
ตัวเมืองบึงกาฬมีโรงแรมให้เลือกไม่มากนัก และเท่าที่ดู The One Hotel บึงกาฬดูจะมีมาตรฐานที่สุดและให้ความสบายกับผมได้ตลอดทริปเลยจองที่นี่ไป…ตอนที่จองไปโรงแรมร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันทำให้ประหยัดค่าห้องไปได้โขเลยครับ
ตัวโรงแรมอยู่ในทำเลที่ดีเลยครับ ใกล้สี่แยกบึงกาฬและที่สำคัญติด Tesco Lotus บึงกาฬแบบติดรั้วเลยครับ มีช่องทางไปโลตัสจากโรงแรมด้วยไม่ต้องเดินออกไปข้างนอก…แจ่ม
โรงแรมมีที่จอดรถรองรับเยอะมากครับ เพราะมีห้องจัดประชุมขนาดใหญ่อยู่ด้วยเรียกว่าเป็นโรงแรมที่ครบเครื่องในจังหวัดบึงกาฬเลยครับ
พื้นที่ต้อนรับและเคาท์เตอร์เช็คอินชั้นล่างออกแบบสวยดีครับ มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นผสมอยู่ด้วยที่นั่งพักคอยแบบไม้ๆตัดกับผนังสีขาวดูอบอุ่นสบายตาดี พื้นที่พักคอยตรงนี้มีที่นั่งให้เลือกหลายจุดอยู่ครับ ส่วนเคาท์เตอร์เช็คอินก็เป็นเคาท์เตอร์ง่ายๆครับ
คราวนี้ผมพักห้องพัก 2 แบบครับเพราะว่าในคืนสุดท้ายห้องไม่ว่าง ห้องแบบแรกเป็นห้อง “แกรนด์ดีลักซ์” ขนาดห้องใหญ่โตมาก ถ้าอยู่ 2 คนนี่สบายๆเลยครับ ห้องแบ่งเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนดูโทรทัศน์กับส่วนเตียงนอน ซึ่งถ้าจะดูโทรทัศน์จากเตียงนี่ลำบากเลยครับ โทรทัศน์เล็กไปและรีโมทก็ยิงไม่ถึง ไปนั่งใกล้ๆแล้วกันครับ เตียงนอนใหญ่นอนสบายดีครับ ห้องน้ำขนาดเพียงพอต่อการใช้งานมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆมาให้ครบถ้วน
คืนสุดท้ายผมย้ายไปห้อง “เดอะ วัน สวีท” ที่เป็นห้องขนาดใหญ่สุดของที่นี่ จริงๆขนาดของห้องผมว่าไม่ต่างจากห้องก่อนหน้านี้มากนักครับ แต่สิ่งที่ต่างคือการแบ่งห้องนอนออกไปแบบเป็นสัดส่วน การตกแต่งห้องจะดูหรูหรากว่าเล็กน้อย เตียงนอนสบายเหมือนกัน
ห้องน้ำขนาดใหญ่กว่าห้องก่อนหน้านี้ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องน้ำมีมาให้ครบถ้วนหน้าห้องน้ำยังมีโต๊ะแต่งหน้าขนาดค่อนข้างใหญ่อีก 1 ตัว
ชั้นล่างของโรงแรมมีร้านอาหารด้วยนะครับ บริการอาหารเช้าและมื้ออื่นๆ ผมอยู่ที่นี่หลายวันเลยมีโอกาสได้ทานอาหารมื้อกลางวันของโรงแรม มีอะไรน่าสนใจไปดูกันครับ
รายการอาหารมีให้เลือกหลากหลายดีครับ จะเป็นกับข้าวหรืออาหารจานเดียวก็ตามสะดวก ราคาเมื่อเทียบว่านี่เป็นอาหารโรงแรมก็ดูจะสมเหตุสมผล ไม่แพงเกินไปแต่ก็ไม่ใช่มื้อราคาถูกแน่นอน ชุดจานช้อนส้อมมาในถุงแยกของใครของมันดูสะอาดดีครับ
ปริมาณอาหารที่ให้มาเยอะพอสมควรครับ ทานสามคนสบายๆไม่ต้องแย่งกัน ข้าวอบสับปะรดปริมาณเยอะมาก กุ้งตัวโตใช้ได้ รสชาติออกหวานนำนิดๆ เด็กทานได้ผู้ใหญ่ทานดี ราดหน้ามาแนวแปลก เอาเส้นไปทอดก่อน ได้กลิ่นทอดแล้วก็กลิ่นแป้งแปลกปากดี ส่วนรสชาติน้ำราดหน้าผมว่าออกกลางๆหน่อย หมูกรอบก็ดีครับ กรอบสะใจ รสชาติออกเค็มนิดๆ ต้มยำไก่ใบมะขามอ่อนรสชาติจี๊ดจ๊าด เปรี้ยว เผ็ด เค็มครบ
คิดราคาออกมามื้อนี้ 800 บาท ถือว่าราคาสูงเมื่อเทียบกับร้านอื่นๆในย่านนี้ซึ่งมันแน่นอนอยู่แล้ว แต่ถ้าเทียบกับปริมาณและรสชาติผมถือว่าใช้ได้ครับ คุ้มค่าคุ้มราคา
อาหารเช้าที่นี่ก็หลากหลายดีครับ มีให้เลือกหลายอย่าง มีทั้งอาหารถิ่นอย่างข้าวเปียกเส้น น้ำพริก เป็นอาหารเช้าที่ทานเอาอิ่มได้เลย
หน้าโรงแรมมีจักรยานให้เช่าปั่นไปเที่ยวได้ แต่ก็ไม่รู้จะปั่นไปไหนล่ะครับ จะไปริมโขงก็ต้องข้ามถนนเส้นใหญ่ให้เสียวสิบล้อเอาไปกิน เอาเป็น ขี่ไปเที่ยวโลตัสแล้วกัน ด้านข้างของอาคารห้องพักมีสระขนาดใหญ่อยู่ ถ้าดูใน Google เดิมจะเป็นสระว่ายน้ำแบบฟรีฟอร์มพร้อมเครื่องเล่น แต่ปัจจุบันไม่รู้ใช่สระว่ายน้ำหรือเปล่า ทรงมันเหมือนใช่แต่มันไม่มีบันไดขึ้นอ่ะ…โอเคครับ ชมโรงแรมมาประมาณหนึ่งแล้ว เก็บกระเป๋าแล้วไปเที่ยวกันดีกว่า
เริ่มที่แรกซึ่งเป็นที่เที่ยวยอดนิยมของบึงกาฬ “ภูทอก” ทริปอีสานคราวนี้ได้ไปภูทอกสองที่เลย จังหวัดเลยที่หนึ่งและที่นี่…แต่มันช่างต่างกันแบบคนละเรื่องเลยครับ
ภูทอกจังหวัดบึงกาฬเป็นพื้นที่ทีอยู่ในวัดภูทอก หรือ วัดเจติยาคีรีวิหาร ห่างจากตัวเมืองบึงกาฬประมาณ 47 กม.ใช้เวลาขับรถประมาณ 45 นาที ผมไปถึงวัดแต่เช้าเพราะกลัวว่าถ้าสายๆไปจะร้อน เข้ามาในวัดนึกว่าผิดที่…คือคาดไว้ว่าคนจะเยอะ แต่กลายเป็นว่าไม่มีคนเลยครับ
จอดรถเสร็จเดินเข้าไปข้างในก็เจอประตูทางขึ้นเขา มีป้ายเตือนและขอความร่วมมืออยู่หลายป้าย โดยสรุปคือเป็นเรื่องการแต่งกายและความสำรวมตอนเดินขึ้นเขา เพราะที่นี่เป็นสถานปฏิบัติธรรม ต้องการความสงบ…ใครมาเยี่ยมเยียนที่นี่ก็เคารพสถานที่ด้วยนะครับ
ตามประวัติ วัดภูทอกก่อตั้งขึ้นตั้งแต่พ.ศ.2483 โดยพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ มาบำเพ็ญเพียรอยู่ที่อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย เกิดนิมิตรเห็นปราสาทสวยงามสองหลังอยู่ที่ภูทอกน้อย จึงเดินทางมาตามที่เห็นในนิมิตรเห็นว่าสวยงามร่มรื่นเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมจึงปักกรดอยู่ในถ้ำที่ภูทอกนี้ เมื่อชาวบ้านเห็นจึงอาราธนาให้สร้างวัดขึ้นที่นี่
ปีพ.ศ. 2512 ชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างบันไดขึ้นภูทอกจนถึงชั้น 6 กว่าจะสร้างสะพานจนเสร็จเรียบร้อยก็ใช้เวลาไปกว่าห้าปี การสร้างทั้งหมดเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านล้วนๆค่อยๆสร้างทีละนิด เป็นการเจาะหินทำนั่งร้านด้วยไม้ ความยากลำบากขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เพราะความศรัทธาอย่างแรงกล้าแล้วน่าจะสร้างได้ยาก
จากเชิงเขาถึงยอดภูทอกสูงประมาณ 400 กว่าเมตร ชั้น 1-3 เป็นบันไดทางขึ้นที่แทบจะเรียกว่าขึ้นอย่างเดียว กว่าจะถึงชั้น 3 เล่นเอาหอบ ตรงชั้น 4 จะมีทางแยกลัดขึ้นไปชั้น 5 เลยหรือจะเดินสะพานไม้เลาะหน้าผาก็ได้…ตั้งแต่ชั้นนี้เป็นต้นไป ถ้าใครกลัวความสูงไม่แนะนำให้เดินสะพานไม้เด็ดขาดครับ ทางกว้างโคยเฉลี่ยประมาณเมตรกว่า รั้วสูงแค่เอว อาจเกิดอันตรายได้…
v
v
v
v
v
v
v
หากชอบการรีวิวของผม ไปดูรีวิวที่ผมทำไว้ในช่องทางอื่นๆได้นะครับ แนะนำ คอมเม้นท์ตามสบายครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------
Facebook: https://www.facebook.com/followmeonearth/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น