สวัสดีเพื่อนที่ชอบการเดินทาง และผู้ที่กำลังจะออกเดินทางทุกคน
ครึ่งปีแล้วเที่ยวได้กี่จังหวัดแล้วคะ??
วันนี้เรามีเส้นทางมาแชร์ประสบการณ์การเดินทางคือ
"เส้นทางอุดร หนองคาย บึงกาฬ"
ใช้เวลา 2 วัน 1 คืน ด้วยกัน เดินทางจากขอนแก่นด้วยรถยนต์ค่ะ
มาเริ่มกันเลยค่ะ....
1.ร้านคิงส์โอชา ร้านอาหารเช้าของ จังหวัดอุดรธานี : เราออกเดินทางกะเวลา เพื่อไปกินก่อนอันดับแรก 555+ วันพักผ่อนไม่ต้องรีบค่ะ ไปแบบสบายๆ จะได้ไม่เหนื่อย ร้านนี้คนจอแจมาก (ความจริงร้านอาหารเช้าในอุดร ใครมีร้านเด็ดแนะนำได้นะคะพร้อมเมนู) ส่วนร้านนี้ห้ามพลาดคือ สตูว์ และไข่กะทะ ที่กลิ่นเนยไม่ฉุนอันนี้ส่วนตัวเราชอบ
ทั้งโต๊ะนี้อาหารเช้า น้ำชาฟรี
ขะ ขะ ไข่กะทะ
ข้าวเปียกเส้น
สตูว์กระดูกหมูละลายในปาก เราเห็นบางคนสั่งข้าวกินกับ
ที่นี่ คิงส์โอชา @อุดรธานีจ้า...
อิ่มแล้วเดินทางต่อ...
2.ไหว้พระหลวงพ่อพระใส ตั้งอยุ่ที่วัดโพธิ์ชัย ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่เมืองหนองคาย เป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัยหล่อด้วยทองสีสุก วัดนี้มีประวัติเล่ามามีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยเคยประดิษฐานที่เวียงจันทน์ ที่นี่ยังเป็นอีกวัดที่ใครชอบเสี่ยงโชคก็จะมาขอพร หรือขออะไรที่ต้องการพรใดๆ สมหวังก็จะมีคนศรัทธามากราบไหว้อยู่เป็นประจำ
ไหว้พระเสร็จมีเจ้าถิ่นเดินมาทักทายด้วยนะน้องอ้วงมาก...
ที่นี่ วัดโพธิ์ชัย @หนองคาย
3.ลานพญานาค ริมฝั่งโขง : เป็นอีกแลนมาร์คที่มาหนองคายก็มาแวะถ่ายรูปพร้อมกับชมวิวน้ำโขง โดยอีกฝั่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเราได้จ้า...
4.ร้านกาแฟบ้านทวด : เป็นร้านที่เป็นตึกเก่า 100 ปี มาทำเป็นร้านกาแฟตามชื่อเลยจ้า สามารถมานั่งทำงาน กินกาแฟ พบปะเม้ามอยได้เลย
มีกาแฟให้เลือกหลายตัวเลยจ้า...
5.วัดอาฮงศิลาวาส : จ.บึงกาฬ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นสะดือของแม่น้ำโขง คือเป็นจุดที่ลึกที่สุดของแม่น้ำโขงนั่นเองค่ะ ตรงข้ามเป็นวัดของประเทศลาว และประวัติความเชื่อ เล่ากันว่าเป็นวังของพญานาค เป็นเมืองบาดาลที่เชื่อมกับคำชะโนด
ถัดไปทางฝั่งลาวใกล้กับจุดที่เป็นสะดือแม่น้ำโขงมีถ้ำใต้โขดหินใหญ่อยู่ใต้น้ำ เป็นที่อยู่อาศัยของปลาบึกและเป็นที่ชุมนุมของเหล่าพญานาคในช่วงวันออกพรรษา เพื่อมาร่วมทำบุญด้วยการปล่อยลูกไฟเป็นพุทธบูชาร่วมกับมนุษย์ ทำให้สถานที่แห่งนี้มีลูกไฟ หรือที่เรียกกันว่าบั้งไฟพญานาคโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำเป็นจำนวนมาก ทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศต่างแวะเวียนเข้ามาเที่ยวชมกันอยู่ทุกวัน
6.ครัวปอแก้ว : ร้านอาหารริมโขง ของบึงกาฬ ถือว่าเป็นร้านที่ใครชอบทานปลาจากธรรมชาติมาที่นี่ไม่ผิดหวังค่ะ ทุกประเภท ไม่ว่าจะต้ม นึ่ง หมก ผัด หลายๆๆ คนแนะนำ ส่วนเราลองผัดฉ่าปลา ยำถั่วพลู แหนมซี่โครงอ่อนทอด หืมมมมมม อร่อยยยยอยากกินอีก....
หน้าร้านสามารถเดินเล่นชมวิว หรือเดินถนนคนเดินได้ก่อนหรือหลังทานอาหารได้กันเลยทีเดียว...
7.วัดโพธาราม : ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองบึงกาฬประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจังหวัดบึงกาฬและชาวจังหวัดใกล้เคียงรวมไปถึงในสปป.ลาว ที่อยู่ในลุ่มน้ำโขงแถบนี้ เมื่อเข้ามายังตัววัดจะพบกับอุโบสถเมื่อมองเข้าไปด้านในก็จะเห็น หลวงพ่อพระใหญ่ ประดิษฐานอยู่ด้านในตัวอุโบสถ โดยห้ามสุภาพสตรีเข้าไปในอุโบสถ มีองค์จำลองให้ไหว้ หรือเข้าวางดอกไม้ด้านหน้าอุโบสถ
หลวงพ่อพระใหญ่ เป็นพระพุทธรูปรางมารวิชัย ฉาบปูน หน้าตักกว้าง 2 ศอก 1 คืบ (5 ฟตุ 4 นิ้ว) เดิมเป็นพระพุทธรูปทองสำริดที่มีความงดงาม แต่ต่อมามีการพอกปูนฉาบไว้ ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นการอำพรางจากเหตุการณ์สงคราม โดยพระพุทธรูปที่เห็นในปัจจุบัน ประดิษฐาน ณ ที่เดิมนับตั้งแต่ค้นพบไม่ทำการเคลื่อนย้ายแต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังมีซากเรือกลไฟ ที่มีประวัติเล่าว่ามีการอัปปางเรือในน้ำโขงจมน้ำนานกว่า 69 ปี ได้เป็นตำนานเล่าขานตรงบริเวณใกล้วัดโพธาราม บ้านท่าไคร้ อ.เมืองบึงกาฬ ซึ่งชาวบ้านท่าไคร้ได้เล่าต่อกันมานานหลายปี โดยคุณตาพร้อมเล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 2490 ประมาณเดือน 10 ได้มีเรือกำปั่นล่มในน้ำโขงใกล้วัดท่าไคร้ โดยเรือลำดังกล่าวเข้าใจว่าเป็นเรือของขุนอินทร์ ณีระสมิท ชาวนครพนม บรรทุกสินค้าใส่เรือเพื่อไปขายที่นครเวียงจันทน์ แต่เมื่อเรือแล่นมาถึงหน้าวัดโพธาราม เรือกลับมาล่มลงเสียก่อน ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ในเรือกำปั่นบรรทุกมานั้นเป็นจำพวกไวน์ โดยขณะนั้นมีฝรั่งสามีภรรยา 2 คน ติดอยู่ในเรือและเสียชีวิตด้วย ชาวบ้านดีใจมากที่จะมีการกู้ซากเรือลำนี้ขึ้นมาและเมื่อกู้ขึ้นมาแล้วอยากให้นำไปเก็บไว้ที่วัดโพธาราม บ้านท่าไคร้ ส่งเสริมเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนบ้านท่าไคร้ต่อไป และต้องการบำเพ็ญกุศลให้ผู้เสียชีวิตในเรือลำนี้อีกด้วย
8. คำชะโนด วังนาคินทร์ : จ.อุดรธานี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยการเล่าขานตำนานลี้ลับอันโด่งดัง ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ วัดศิริสุทโธคำชะโนด ตำบลวังทอง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เป็นสถานที่แห่งความเชื่อเรื่องพญานาคซึ่งชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของพญานาคและเป็นทางเชื่อมต่อไปยังเมืองบาดาลได้ มีการปกครองรักษาโดยพญานาคราชปู่ศรีสุทโธ และองค์แม่ศรีปทุมมานาคราชเทวี ที่นี่ถูกปกคลุมด้วยผืนป่าต้นชะโนดขนาดใหญ่อยู่ทั่วบริเวณในพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ ซึ่งแต่ละต้นล้วนมีอายุยาวนาน เป็นต้นไม้ที่แทบจะไม่มีในประเทศไทย ถือว่าที่นี่เป็นแห่งเดียวที่พบและมีประวัติศาสตร์ยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน
ทั้งหมดนั้เป็นเส้นทางของความเชื่อ และความศรัทธาโดยแต่ละที่มีเรื่องเล่า ประวัติเล่าต่อกันมา โดยทุกท่านให้พิจารณาตามความเชื่อของท่านเองนะคะ แต่ในฐานะผู้ที่เดินทางนำประสบการณ์และภาพบรรยากาศ ในการเดินทางช่วงเดือนมีนาคม 2565 มาฝากค่ะ
"ความเชื่อและความศรัทธาใดที่ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร บางครั้งเราก็ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์"
ขอบคุณที่ติดตามและแวะเข้ามาทักทายขอให้มีความสุขกับการเดินทางค่ะ
#ฉันชอบเดินทาง
[CR] พักผ่อนริมโขง 2 วัน 1 คืน "อุดร หนองคาย บึงกาฬ" เส้นทางพลังแห่งศรัทธา
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้