เรื่องสั้น : มนต์รักรถรับส่ง

กระทู้สนทนา

.

            ฉันชื่อกิ๊บเรียนจบมาได้งานทำที่จังหวัดใกล้บ้าน เพื่อน ๆ บางคนและคนอื่น ๆ ชอบเรียกฉันว่าจิ๊บเสมอ ทั้งที่พ่อแม่ของฉันตั้งชื่อให้ว่ากิ๊บ ชาวบ้านก็มักจะเรียกจิ๊บอยู่อย่างนั้น เนื่องจากมันจะได้ไปพ้องกับชื่อพี่สาวของฉันไง พี่ชาวของฉันชื่อที่ขึ้นต้นด้วย จ. กรรมจริง ๆ

               ทำไมต้องเอาฉันไปพ้องกับพี่ ทำไมไม่เอาพี่มาพ้องกับชื่อฉันบ้าง กูนอะไรทำนองนี้ ฮา ฉันนึก ๆ ไปก็ตลก ไม่ชอบหรอกนะจิ๊บ ๆ อะไรนั่น ฉันชื่อกิ๊บต่างหาก กิ๊ฟซี่แบบนี้ก็ได้ย่ะ เซ็กซี่อย่าบอกใครเหอะ

               ทุก ๆ วันหยุดฉันมักจะกลับมาบ้านเสมอ เนื่องจากทำงานอยู่ใกล้ ๆ บ้านเกิดแค่นี้เอง นั่งรถไม่ถึงสองชั่วโมง ส่วนพี่สาวของฉันน่ะ ตะลอนทัวร์ไปกับผัวทั่วราชอาณาจักรไทยนู่น เทศกาลถึงจะได้กลับที เอาล่ะฉันท้าวความมาไกลละ พอก่อน! อยากรู้อะไรก็ค่อยมาถามเอาเองแล้วกัน

             ข้างบ้านของฉันมียายคนหนึ่ง แกมีหลานสาวอยู่คนหนึ่ง แกมักจะฝากหลานไปกับฉันบ่อย ๆ น้องดรีม หลานสาวของแกช่างน่ารักน่าชังเหลือคณา แล้วลูกเขยของแกก็ดันมีบ้านอยู่ทางผ่านของฉันพอดี ยังไงน่ะเหรอ แกก็มักจะฝากหลานสาวไปหาย่ากับฉันเสมอ ๆ น่ะสิ

              “จิ๊บ!” นั่นไงจิ๊บอีกแล้ว ทุกคนเรียกชื่อฉัน จนฉันเข้าใจว่าตนเองชื่อจิ๊บแล้วนะ ก็มีแต่แม่พ่อยายครอบครัวของฉัน ญาติ ๆ นั่นแหละที่เรียกถูก เรียกกิ๊บกันทั้งบ้าน ส่วนเพื่อนบ้านก็จิ๊บกันไป

                 เฮ้อ! กรรมของกิ๊บสินะ “จะกลับไปทำงานวันไหน ฝากไอ้ดรีมไปหาย่ามันหน่อย ย่ามันบ่นคิดถึง” ยายนกพูด ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก ทางผ่านพอดี ไม่ได้เลี้ยววกวนไหนเลย หมู่บ้านของพ่อน้องดรีมอยู่ทางผ่านไปที่ทำงานของฉันพอดี

               “ได้จ้า!” ฉันตอบตกลงทุกทีไป ไม่พอใจอยู่อย่างเดียวนี่แหละ มาเรียกกันว่าจิ๊บ ๆ เนี่ย อีกอย่างตัวเองเมื่อยเลี้ยงหลาน ก็อ้างว่าย่ามันคิดถึง หื้ย! ยายนกนะยายนก! ฉันกระตุกยิ้มค่อนขอดให้ทีหนึ่ง

              “กลับมาอาทิตย์ไหนก็เอามันมาด้วยนะ” ยายนกพูด ฉันพยักหน้ารับทราบ หน้าที่นี้เป็นของฉันนี่นา ตั้งแต่ซื้อรถยนต์ขับทำงาน ฉันก็ได้รับหน้าที่นี้มาแบบไม่รู้ตัวเลย น้องดรีมยังไม่เข้าโรงเรียน จะไปอยู่หลายวันแค่ไหนก็ได้ บางที่ฉันแอบแกล้งทำเป็นลืมกลับบ้าน ยายนกถึงกลับโทรตามฉันเลย จะกลับบ้านมั้ยอาทิตย์นี้ เอาไอ้ดรีมกลับมาด้วยว่าซ้าน! ฮา สม!

               วันนี้หมดเวลาพักแล้วฉันต้องกลับไปทำงาน ฉันพาน้องดรีมไปส่งที่บ้านของย่าประจำ ทำให้คนที่บ้านย่าน้องดรีมคุ้นเคยฉันเป็นอย่างดี

              “คุณย่า” เสียงใส ๆ ของน้องดรีมเรียกย่าเมื่อเปิดประตูลงจากรถได้ วิ่งเข้าไปกอดย่า ผู้เป็นย่าก็ผายมือรับหลานด้วยรอยยิ้ม ฉันยิ้มให้กับภาพผู้หญิงสองคนตรงหน้าแต่ต่างวัยกัน ทว่าหางตาฉันเหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนมองอยู่ที่บ้านของเขา

             ฉันรีบหันไปมอง และ ผู้ชายคนนั้นก็รีบผลุบเข้าบ้านไป ฉันหันมองอยู่นานนะ ก่อนจะหันมาสนใจสองย่าหลานต่อ ผู้ชายคนนั้นฉันคุ้นหน้าดี เพราะว่าเวลาที่ฉันมารับมาส่งน้องดรีมเด็กข้างบ้าน ฉันก็เห็นผู้ชายคนนี้ประจำ

              “กิ๊บอย่าพึ่งกลับนะ รอเอากับข้าวไปกินก่อน” สบายใจล่ะ ย่าน้องดรีมเรียกชื่อของฉันถูก และ อีกอย่างฉันก็ไม่อดตายไปอีกน่าจะสักสองวัน เพราะได้ของกินกลับไปด้วย “เดี๋ยวยายเอาเห็ดให้ ยายนึ่งไว้แล้ว อ่ะแบ่งกันกินเรา” ย่าน้องดรีมนำเห็ดที่นึ่งและแช่ฟรีสไว้ เป็นการถนอมอาหารอีกหนึ่งวิธี ฉันยืนรอย่าของน้องดรีม พร้อมมองไปยังบ้านหลังนั้นบ้านของผู้ชายคนนั้น

               พอฉันได้กับข้าวแล้วก็ขอตัวกลับเลย บอกกับย่าน้องดรีมว่า กลับบ้านเมื่อไหร่แล้วจะแวะมารับ ฉันก็กะสักสองสามอาทิตย์กันไปเลยคอยดู ฉันขับรถออกจากบ้านย่าน้องดรีมไป ผ่านบ้านชายคนนั้น เขายืนมองฉันที่หน้าบ้าน มองรถแหละมองไม่เห็นฉันหรอก มีแต่ฉันที่เห็นเขายืนมองคนเดียว

               “หัวหน้าคนใหม่ของเราจะมาทำงานตอนไหนเหรอพี่เตย” ฉันถามเพื่อนร่วมงาน สองอาทิตย์ผ่านไปเร็วมาก วันหยุดฉันก็กลับบ้านเหมือนเดิม และ ต้องแวะรับน้องดรีมกลับด้วยเหมือนเดิมอีก ฉันยังงง ๆ อยู่ว่าตกลงแล้วใครเป็นคนเลี้ยงหลานกันแน่ เพราะว่าดู ๆ แล้ว ทางย่าของน้องดรีมนะที่ได้ดูแลหลานมากกว่ายายนก

              “ไม่รู้ดิ ได้ยินว่าต้นเดือนหน้านะ” เพื่อนร่วมงานของฉันตอบ “แก! ได้ยินว่าโสดและหล่อมากเลยนะแก เสียดายว่ะพี่แต่งงานมีลูกมีผัวไปแล้วอ่ะ อิจฉาแกชะมัดเลยกิ๊บ”

               “แหมพี่เตยก็! ถึงกิ๊บจะโสดกิ๊บก็ไม่ได้ร่านนะ กิ๊บแค่แรดเฉย ๆ อ่ะ” ฉันกับพี่เตยหัวเราะสะบัดสะบิ้งให้กัน เพื่อนซี้ของฉันล่ะเพื่อนร่วมงานคนนี้ “หล่อขนาดไหนมีรูปปะ ขอดูหน่อย”

              “ไม่มีแก เสียดายน้อพี่ก็ลืมถ่ายรูปมาให้แกดู แต่พี่เคยเห็นนะบอสเอาให้ดู เอ้อ! และได้ยินว่าบอสจะให้แกไปเป็นเลขาเขาด้วย” พี่เตยพูดพร้อมทำสายตาขี้อิจฉาฉันอีกแล้ว

              “โถ่! ให้กิ๊บสอนงานอ่ะดิ จะหล่อแค่ไหนกัน โสดจริงหรือเปล่าเหอะ อีกและ! บอสใหญ่เอาอีกแหละ คนมาใหม่ทีไรโยนให้กิ๊บทุกที” ฉันบ่น ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน หรือ หัวหน้าก็ตาม ถ้ามีคนเข้าใหม่ฉันมักได้เป็นพี่เลี้ยงสอนงานอยู่เป็นประจำ บอสก็ไม่เคยจำ คนไหน ๆ มาก็ลาออกไปหมด ฉันคงสอนงานดีเกินไป

               วันหยุดฉันมารับน้องดรีมเหมือนเดิม มารับกลับบ้านไปหายายนก คราวนี้ขับรถมาถึง ฉันเห็นผู้ชายคนนั้นนั่งอยู่หน้าบ้าน ซึ่งเป็นหน้าบ้านของย่าน้องดรีม หน้าตาก็ไม่เท่าไหร่ สูงโปร่ง ผิวค้ำ ทรงผมรองทรง โอเคดูรวม ๆ แล้วก็โอเคดี ฉันเองก็แอบมองและแอบพินิจเขาเหมือนกัน

                “แม่จิ๊บมาแล้ว!” น้องดรีมเรียกฉันทันทีที่ฉันลงมาจากรถ โอ้ย! ฉันอยากจะบ้าตาย ถึงแม้ว่าแม่ของน้องดรีมจะเป็นเพื่อนวัยเรียนของฉัน แต่จำเป็นต้องเรียกแม่เต็มปากเต็มคำแบบนี้มั้ย ฉันสังเกตว่าเขาหัวเราะฉันด้วย เพื่อ! เพื่ออะไร หัวเราะทำไมก่อน อยากตายหรือไง ไม่เคยถูกเรียกว่าพ่อบ้างก็ให้มันรู้ไป หึหึ  

                “เรียกดี ๆ ก่อน” ฉันค้อนขวับน้องดรีมเข้าให้ “พี่กิ๊บ”

                  “แม่จิ๊บ” น้องดรีมยังยืนยันคำเดิม

                  “กิ๊บ”

                 “จิ๊บ”

                 “โอเคจิ๊บก็จิ๊บ” ฉันขี้เกียจเถียงเด็กละ เพราะรู้ว่าไม่มีวันชนะแน่นอน เขาเม้มปากหัวเราะฉัน แอบหัวเราะฉันแต่ฉันเห็นนะ

               “พ่อพุฒินี่แม่จิ๊บของดรีม” น้องดรีมหันไปคุยกับเขา เป็นทีของฉันหัวเราะคืนบ้าง ฉันเห็นนะว่าเขาเลิ่กลั่กด้วย สม! โดนเหมือนกันนั่นแหละ พ่อพุฒิ ฮา ฉันเม้มปากหัวเราะ ทำลอยหน้าลอยตาใส่เขา ดู ๆ แล้วเขาน่าจะเป็นรุ่นพี่ฉันนะ มากด้วย!

               “จะกลับบ้านแล้วเหรอดรีมมี่ ไม่อยู่กับย่าแก้วเลยอ่ะ” ผู้ชายที่น้องดรีมบอกว่าชื่อพุฒิพูดขึ้น เอาจริง ๆ ปะ ตั้งแต่เทียวรับเทียวส่งน้องดรีมสองปีจะเข้าปีที่สามแล้วเนี่ย ฉันพึ่งได้ยินเสียงพูดของเขาก็วันนี้แหละ

                ปกติทุกครั้งที่ฉันมา เขาเพียงยืนแอบมองฉันอยู่ที่บ้านตัวเอง บางทีถ้าครั้งไหนมาปะทะกันเหมือนวันนี้ พอฉันลงจากรถเขาก็ขอตัวกลับบ้านไปเลย ไม่มาอยู่แบบนี้เหมือนวันนี้หรอก สำหรับวันนี้นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันพึ่งจะได้ยินเสียงพูดของเขาจริง ๆ

                “อือ… เดี๋ยวดรีมมาเล่นด้วยใหม่นะพ่อพุฒินะ” เด็กหญิงดรีมพูดด้วยอย่างสนิทสนม

                “ของฝากด้วยนะกลับมาน่ะ” เขาพูดเล่นกับน้องดรีม

                “กิ๊บเอ้ยก่อนกลับเอาขนุนไปด้วย ปะยายพาไปสอยเอา ขนุนเนื้อสีส้มอร่อยนะ สด ๆ จากต้นเลย” ย่าของน้องดรีมกล่าวกับฉัน พร้อมเตรียมมีดไปด้วย

               “เอาที่ไหนยาย” ฉันถาม ก็ที่บ้านของยายแก้ว หรือย่าของน้องดรีมไม่มีต้นขนุนเลยน่ะสิ

               “บ้านพ่อพุฒิ” เด็กหญิงดรีมตอบ ฉันเลิ่กลั่ก พึ่งจะเหวี่ยงค้อนและหัวเราะเยาะเย้ยเขาไปเมื่อครู่ นี่จะเล่นพาไปที่บ้านเลยเหรอ แถมยังไปเอาของกินจากที่บ้านของเขามาอีก

              “ปะพุฒิ พาน้าไปตัดขนุนให้น้องหน่อย” อืมม์ เรียกฉันน้องไปอีกจ้า เขาเดินยิ้มลอยหน้าลอยตาเดินนำยายแก้วกับฉันไปที่บ้านของตนเอง พาฉันไปเอาขนุนกลับบ้าน เข้ามาภายในบริเวณบ้านของเขาก็ร่มรื่นดี หลังบ้านเป็นสวนเล็ก ๆ ปลูกผัก และ ผลไม้บางชนิดไว้เยอะแยะ เหมือนที่บ้านฉันเลย ปลูกทุกอย่างแทบจะไม่ได้ซื้อ

                 พวกเรามาที่สวนหลังบ้านของเขา แม่ของเขาเข้ามาคุยด้วย ความจริงฉันก็คุ้นเคยแม่เขาบ้างแล้วแหละ มาบ่อย ถามไถ่พูดคุยด้วยบ่อย ๆ ยกเว้นเขาที่ฉันพึ่งจะได้ยินเสียงพูดวันนี้ ในตลอดระยะเวลาเกือบจะสามปี ที่เทียวรับเทียวส่งน้องดรีม

               “ยังทำงานอยู่ที่เดิมมั้ยกิ๊บ” แม่ของเขาถาม

              “จ้ะ” ฉันตอบยิ้มและพยักหน้าให้แม่ของเขา

              “เจ้าลูกชายป้าก็พึ่งขอย้ายมาทำงานที่บ้านเกิด ปกติทำอยู่ต่างจังหวัด เสาร์อาทิตย์ก็กลับมาบ้านทีเหมือนกัน ว่าได้ย้ายมาอยู่ในตัวเมืองนี่แหละ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อะไรน้าป้าก็จำไม่ได้ พุฒิแกทำงานอะไรนะ” แม่ของเขาหันไปถาม

                “เอ่อ… บริษัท โอ้ยายแก้ว น้ำยางขนุนกระเด็นเลยเนี่ย ตัดแรงเกิ๊น” เขาเปลี่ยนเรื่องพูด ไม่ยอมบอก ฉันก็อุตส่าห์ตั้งใจฟังมาก ฝากไว้ก่อนเถอะ อย่าให้เจอที่ไหนนะ

                หลังจากวันนั้นฉันก็ไม่ได้คุยกับเขาอีกเลย แต่สิ่งที่ยังเหมือนเดิม คือ ทุกครั้งที่ฉันมารับมาส่งน้องดรีม ฉันมักจะเห็นเขาแอบยืนมองฉันที่บ้านของเขาเสมอ ตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่เคยมาปะทะกับเขาที่บ้านย่าของน้องดรีมอีก ไม่เคยได้พูดคุยกันอีกเลย

              หนึ่งเดือนผ่านไปเริ่มเดือนใหม่ พนักงานทุกคนฮือฮาเรื่องหัวหน้างานคนใหม่ ยกเว้นฉัน! ฉันจะดีใจอยู่หรอกนะ ถ้าพี่เลี้ยงช่วงเรียนรู้งานไม่ใช่ฉัน ถ้าเลขาคนนั้นไม่ใช่ฉันน่ะ

              “ทุกคนใจเย็น ๆ วันนี้เราจะได้หัวหน้างานคนใหม่มาร่วมงานกับสาขาของเรานะ ทุกคนให้ความเป็นกันเองกับเขาด้วย เราอยู่กันแบบพี่น้อง” บอสใหญ่กล่าว

               “พี่น้องอย่างกาสลองกับช้องปีบนะพี่ว่า” พี่เตยสะกิดคุยกับฉัน

                “กิ๊บว่าพี่น้องแบบเอื้อยอ้าย ฮา” ฉันคุยกับพี่เตย

               “อืมม์สองคน ฟังก่อน! ไม่ต้องตื่นเต้นมาก เขาหล่อก็จริง แต่เขาหล่อน้อยกว่าผม” บอสพูดพร้อมกระชับคอเสื้อและเน็กไทให้เข้าที่ พวกเธอหัวเราะคิกคักกันใหญ่ “เขาจะมาเริ่มงานวันพรุ่งนี้ คุณกิ๊บคุณรับหน้าที่เป็นเลขาของเขานะ ทำหน้าที่นี้ให้ดีล่ะ”

              “โอเคค่ะบอส” ฉันตกปากรับคำอย่างดี แต่ในใจกลอกตามองบนเหวี่ยงค้อนให้แทบตายแล้ว ทำไมต้องเป็นฉ้าน!

               และหลังจากนั้นไม่ต้องพูดถึงความสัมพันธ์ที่เข้ากันไม่ได้ของเราสองคนนะ ไม่อยากจะเล่าเลย อ่ะตัดต่อมาตอนปลายเรื่องเลยแล้วกัน ว่าฉันกลับหัวหน้าคนใหม่เราเป็นเช่นไรกัน

                 ……………………………

               ฉันหัวเราะให้กับความรักของฉัน วันนี้ก็ครบสามปีแล้วที่เรารักกัน และ เราก็มาฉลองวันครบรอบที่ร้านอาหารเล็ก ๆ ใกล้ ๆ ที่พักของเราในวันลอยกระทง

               พวกคุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม ฉันเชื่อนะ! ใครจะคิดว่าฉันกับพี่พุฒิเราจะได้มาคบกัน และ เป็นแฟนกันล่ะ แถมยังมาเป็นหัวหน้าของฉันอีก ฉันตลกจริง ๆ นะ หัวเราะให้กับตัวเองเบา ๆ พร้อมจิบเหล้าและมองหน้าของเขา

               “หัวเราะอะไรเค้าตัวเอง” เขาถาม พร้อมเทเหล้าใส่แก้วของตนเอง ฉันไม่ให้พรีอาร์มาบริการหรอก ฉันกับแฟนเทของฉันเองได้ แม้จะเป็นหน้าที่ของพวกหล่อน ๆ ก็ตาม

              “หัวเราะบางคนที่แอบมองเค้าไง แอบมองเค้าทุกทีที่ไปบ้านย่าแก้วของน้องดรีมเหอะ กระต่ายหมายจันทร์ก็มิปาน” ฉันพูดแซว พร้อมนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา

               “เอ้าน่ารักน้อ! ก็แอบมองนั่นแหล่ว” เขาตอบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่