.
โดย : ชลัน
๗
________________________
วันอาทิตย์กลับมาถึงบ้านฉันเลี่ยงที่จะไม่เผชิญหน้ากับคุณแม่ ทว่าคุณแม่มารอฉันที่บ้านของคุณยายแล้ว ฉันยิ้มกว้างให้กับคนตรงหน้า ที่กำลังจ้องมองฉันขณะเดินเข้ามายังห้องนั่งเล่นของบ้าน มีคุณยายนั่งอยู่ด้วย หัวใจของฉันตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ พี่ใหญ่ต้องนำความมาฟ้องแล้วแน่ ๆ หรืออาจจะยังก็ได้ ฉันจึงโปรยยิ้มใจดีสู้เสือไปก่อน
"คุณแม่กับคุณยายสวัสดีค่ะ" ฉันกล่าวทักทายทั้งยังส่งยิ้มให้ทั้งสองคน
คุณแม่มองหน้าฉันด้วยอาการนิ่งเฉย "ไปเที่ยวถึงไหนกันมาล่ะเมื่อวาน" คุณแม่ถามออกมา ฉันถอนหายใจ กะไว้แล้วเชียวว่าต้องไม่รอดแน่ 'พี่ใหญ่นะพี่ใหญ่' ฉันค้อนพี่ชาย
"ก็ไม่ได้ไปไหนค่ะ แค่ร้านกาแฟเอง" ฉันตอบ บางทีคุณแม่อาจจะยังไม่รู้ก็ได้ อาจจะถามไปอย่างนั้น
"ไปร้านกาแฟถึงต้องค้างคืนกันเลยรึ" คุณยายถามแทรก ฉันทำตาโต คุณยายกับคุณแม่ต้องทราบเรื่องแล้วจริง ๆ 'พี่ใหญ่ตัวดี' ฉันนึกค้อนพี่ชายอีกรอบ ฉันถอนหายใจไม่มีอะไรต้องโกหกอีกแล้ว คงต้องตอบไปตามความจริง ถึงพวกเราจะไปค้างคืน ใช่ว่ากัญญาจะคลาดสายตาจากฉัน ใช่ว่าสองคนนั้นจะทำอะไรเสียหาย หรืออยู่ด้วยกันสองต่อสองสักหน่อย
"ก็ตากับกัญญาเราไปร้านกาแฟกันไกล ๆ ไงคุณยาย ทีแรกกะว่าจะไปกลับแหละ แต่ที่นั่นบรรยากาศเขาดี ทำเป็นโฮมสเตย์ด้วย ตากับกัญญาเราจึงตกลงกันนอนค้างสักคืน" ฉันตอบคุณยาย แต่ก็ไม่ยอมสบตากับคุณแม่ ขณะนี้หัวใจของฉันเต้นแรงคล้ายกับมันจะทะลุออกมาแล้ว
"ถ้าไปกันสองคนแม่จะไม่ว่าเลยนะกัญตา แต่นี่ทำไมต้องไปกับคนบ้านนู้นด้วย แม่บอกแล้วใช่มั้ยว่าแม่ไม่ชอบ ทำไมเราถึงชอบให้ท้ายน้องมันนัก ชอบทำให้แม่ปวดหัวไม่สบายใจอยู่เรื่อย" คุณแม่พูดกึ่งดุ หน้าบึ้ง เหมือนจะไม่พอใจเรื่องที่เราสองคนพี่น้องทำเมื่อวานนี้
"นายภีมเขาก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่คะคุณแม่ เขาก็เป็นคนดีคนหนึ่ง เขาไม่เคยคิดล่วงเกินกัญญาเลยสักครั้ง ตายืนยันเลย" ฉันไม่ได้แก้ตัวแทนใคร ฉันพูดตามที่ฉันสัมผัสได้
"แต่แม่ไม่ชอบคนบ้านนู้นเข้าใจมั้ย เคยเข้าใจที่แม่พูดบ้างมั้ย น้องแกก็คนนึงหัวดื้อ" คุณแม่พูดย้ำ คุณยายเงียบฟังเราสองแม่ลูกทะเลาะกัน
"เพราะอะไรคะ..." ฉันถาม "เพราะคุณแม่เกลียดคุณพ่อ เกลียดคุณย่า เกลียดคนตระกูลนั้น แล้วนายภีมผิดอะไร เกี่ยวอะไรด้วย นั่นมันเรื่องในอดีต แล้วกัญญาล่ะ คุณแม่ไม่คิดถึงจิตใจกัญญาลูกคุณแม่บ้างเหรอคะ" รอบนี้ฉันเถียงแทนน้องสาวเต็ม ๆ "และคุณแม่ก็ทราบดีว่าเรื่องในอดีตของคุณแม่ คุณพ่อเขาไม่ได้ตั้งใจ แต่เพราะ..." ฉันหยุดพูด ไม่อยากว่าคุณย่า ถึงคุณย่าจะเป็นตัวการเรื่องทั้งหมดก็ตาม
"กัญตาฟังฉันนะ ฉันเลิกเกลียดพ่อแก เกลียดย่าแก เกลียดญาติ ๆ แกฝั่งนั้นตั้งนานแล้ว แต่ฉันไม่อยากรับคนบ้านนั้นมาเกี่ยวดอง มายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของฉันอีก ให้มันจบที่ฉัน พอที่ฉัน ฝากไปบอกน้องสาวแกด้วย ถ้ารักกันมากก็หอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่ด้วยกันเลย เพราะถึงยังไงฉันก็ไม่มีวันยอมเด็ดขาด จำไว้ ขยะแขยงที่สุด"
"คุณแม่" ฉันเอ่ยออกมาเบา ๆ ทั้งน้ำตาคลอ ทั้งรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำเรื่องขัดใจคุณแม่ ทั้งสงสารน้องสาว นี่ขนาดไม่ใช่เรื่องของฉันโดยตรง ถ้ากัญญาได้ยินคุณแม่พูดแบบนี้จะรู้สึกอย่างไร คุณแม่พูดจบก็เดินออกจากบ้านคุณยายไป โดยไม่หันกลับมามองฉันอีก
"นอกจากพวกเขาจะรังเกียจแม่แกแล้ว พวกเขายังดูถูกยายกับตาอีก" คราวนี้คุณยายพูดกับฉันบ้าง "เขาว่าตระกูลเราเป็นชาวนาทั้งโคตร ทั้งที่มันก็เป็นลูกชาวนา หนอย... มาทำเป็นว่ายาย ตัวเองได้ผัวเป็นข้าราชการหน่อยเดี๋ยวก็ทำเป็นวัวลืมตีนซะแล้ว พูดแล้วเจ็บใจ" คุณยายว่า คุณยายกับคุณย่าก็รุ่นราวคราวเดียวกัน
"คุณยายคะ ช่างมันเถอะ ปล่อยวางนะ เรื่องมันผ่านมาแล้ว อีกอย่างตอนนี้คุณย่าเปลี่ยนไปมาก เพราะว่าคุณย่าเชียร์นายภีมกับกัญญาออกนอกหน้าเชียว"
"มันสร้างภาพน่ะสิ สมัยก่อนกับแม่แกมันก็สร้างภาพ จนแกกับพี่ชายต้องเป็นลูกกำพร้านั่นไง" คุณยายพูดถึงคุณย่าไม่เกรงใจฉันเลย แต่ฉันกลับรู้สึกตลก ยิ้มขำแถมยังหัวเราะคุณยายไปอีก ที่คุณยายใช้คำศัพท์วัยรุ่น 'สร้างภาพ'
"คุณยายรู้เหรอว่าสร้างภาพคืออะไรน่ะ" ฉันแกล้งถาม ยังขำคุณยายไม่หยุด
"ไม่รู้ล่ะ ยายจำมาจากในละคร เขาพูดกันแบบนี้" คุณยายว่า จากนั้นก็เปลี่ยนเรื่องคุย ฉันคุยกับคุณยายสักพักจึงขอตัว อยากนอนกลางวันเพราะง่วงมาก ส่วนคุณแม่ค่อยง้อกันทีหลังก็ได้ แล้วฉันก็ขอตัวเข้าห้องตัวเองเพื่อไปงีบเอาแรงสักหน่อย
เรื่องมันไม่ได้จบแค่นั้น นอกจากฉันที่โดนคุณแม่เล่นงาน กัญญาก็ยังโดนคุณแม่เล่นงานอีกคน นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แล้ว คุณแม่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้ นี่ก็ยังไม่รู้เลยว่าท่านจะคุยกับฉันตอนไหน ฉันถอนหายใจหลังจากอ่านข้อความไลน์ที่กัญญาส่งมาเล่าให้ฟัง กัญญาคงเสียใจสุด ๆ ตอนนี้ความรู้สึกของกัญญาจะเป็นอย่างไร ทว่าฉันกลับไม่ได้โทรถามไถ่น้องสาว แต่คนที่ฉันโทรหาคือพี่ใหญ่ต่างหาก
"อะไร" ทันทีที่พี่ใหญ่รับสายก็พูดเสียงห้วนกับฉัน ราวกับทราบล่วงหน้าว่าฉันจะโทรมาเรื่องอะไรอย่างนั้น
"ทำไมพี่ใหญ่ทำแบบนี้อ่ะ คุณแม่โกรธตากับกัญญามากรู้มั้ยคะ" ฉันต่อว่าพี่ชาย รู้สึกผิดหวัง และเสียใจกับการกระทำพี่ชายตัวเองในครั้งนี้มาก ฉันทราบว่าพี่ใหญ่ไม่ต้องการนายภีมเหมือนกับคุณแม่ แต่ก็ควรมีการละเว้นบ้างบางเรื่อง ไม่ใช่นำมาฟ้องทุกเรื่องแบบนี้
"สิ่งที่ฉันทำน่ะถูกแล้ว พวกแกจะได้ไม่ทำอีก แกจะได้ไม่ริอาจให้ท้ายกันอีก" พี่ใหญ่ว่าฉัน "เลิกซะ... เลิกซะนะที่คิดจะช่วยพวกเขาสองคน เพราะถึงยังไงคุณแม่กับฉันก็ไม่ยอมแน่ กัญตาพี่ว่าแกเอาตัวเองให้รอดเถอะ เมื่อวันศุกร์ที่ผู้ชายคนนั้น หัวหน้าที่ทำงานแกบังเอิญมาเจอน่ะ พี่รู้นะว่าแฟนเขาหึงแก พี่มองสายตาของแฟนเขาออก ใครมีเจ้าของแล้วก็อย่าไปยุ่ง มันจะเสียชื่อมายังโคตรเหง้าเอาได้"
"พี่ใหญ่..." ฉันพูดได้เท่านี้ เพราะพูดอะไรไม่ออก
"ที่แกโทรหาฉันเพราะมีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่มั้ย งั้นแค่นี้นะ ฉันยุ่งอยู่" แล้วพี่ใหญ่ก็ตัดสายฉันทิ้งไป ฉันทิ้งตัวเองลงบนที่นอน อ่อนล้าไปหมด ไม่รู้จะคิดมากกับเรื่องไหนดี ส่วนเรื่องของฉันกับพี่ทีรุฒน์ฉันไม่อยากจะอะไรนักหรอก เพราะฉันมั่นใจว่ามันจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน แต่กัญญากับนายภีมจะเอายังไงกันต่อ ครั้งนี้ทำคุณแม่โกรธมาก ฉันนึกหาทางออกไม่เจอเลย
ฉันนอนถอนหายใจเล่นอยู่บนที่นอน แล้วโทรศัพท์ของฉันก็มีสายเข้าอีก หยิบมาดูก็พบว่าเป็นพี่ทีรุฒน์ 'ตายยากจริง ๆ' ฉันสบถ แต่ก็ไม่ได้รับสายเขา ปล่อยให้ดังอยู่อย่างนั้น แค่เพียงสามรอบที่พี่ทีรุฒน์โทรมา พอฉันไม่รับสายเขาก็เลิกโทรมาอีก จากนั้นฉันก็ข่มตาหลับเพราะเหนื่อยเหลือเกิน
จบบทที่ ๗
เท่าที่ใจจะรักได้ (7)
.
โดย : ชลัน
๗
________________________
วันอาทิตย์กลับมาถึงบ้านฉันเลี่ยงที่จะไม่เผชิญหน้ากับคุณแม่ ทว่าคุณแม่มารอฉันที่บ้านของคุณยายแล้ว ฉันยิ้มกว้างให้กับคนตรงหน้า ที่กำลังจ้องมองฉันขณะเดินเข้ามายังห้องนั่งเล่นของบ้าน มีคุณยายนั่งอยู่ด้วย หัวใจของฉันตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ พี่ใหญ่ต้องนำความมาฟ้องแล้วแน่ ๆ หรืออาจจะยังก็ได้ ฉันจึงโปรยยิ้มใจดีสู้เสือไปก่อน
"คุณแม่กับคุณยายสวัสดีค่ะ" ฉันกล่าวทักทายทั้งยังส่งยิ้มให้ทั้งสองคน
คุณแม่มองหน้าฉันด้วยอาการนิ่งเฉย "ไปเที่ยวถึงไหนกันมาล่ะเมื่อวาน" คุณแม่ถามออกมา ฉันถอนหายใจ กะไว้แล้วเชียวว่าต้องไม่รอดแน่ 'พี่ใหญ่นะพี่ใหญ่' ฉันค้อนพี่ชาย
"ก็ไม่ได้ไปไหนค่ะ แค่ร้านกาแฟเอง" ฉันตอบ บางทีคุณแม่อาจจะยังไม่รู้ก็ได้ อาจจะถามไปอย่างนั้น
"ไปร้านกาแฟถึงต้องค้างคืนกันเลยรึ" คุณยายถามแทรก ฉันทำตาโต คุณยายกับคุณแม่ต้องทราบเรื่องแล้วจริง ๆ 'พี่ใหญ่ตัวดี' ฉันนึกค้อนพี่ชายอีกรอบ ฉันถอนหายใจไม่มีอะไรต้องโกหกอีกแล้ว คงต้องตอบไปตามความจริง ถึงพวกเราจะไปค้างคืน ใช่ว่ากัญญาจะคลาดสายตาจากฉัน ใช่ว่าสองคนนั้นจะทำอะไรเสียหาย หรืออยู่ด้วยกันสองต่อสองสักหน่อย
"ก็ตากับกัญญาเราไปร้านกาแฟกันไกล ๆ ไงคุณยาย ทีแรกกะว่าจะไปกลับแหละ แต่ที่นั่นบรรยากาศเขาดี ทำเป็นโฮมสเตย์ด้วย ตากับกัญญาเราจึงตกลงกันนอนค้างสักคืน" ฉันตอบคุณยาย แต่ก็ไม่ยอมสบตากับคุณแม่ ขณะนี้หัวใจของฉันเต้นแรงคล้ายกับมันจะทะลุออกมาแล้ว
"ถ้าไปกันสองคนแม่จะไม่ว่าเลยนะกัญตา แต่นี่ทำไมต้องไปกับคนบ้านนู้นด้วย แม่บอกแล้วใช่มั้ยว่าแม่ไม่ชอบ ทำไมเราถึงชอบให้ท้ายน้องมันนัก ชอบทำให้แม่ปวดหัวไม่สบายใจอยู่เรื่อย" คุณแม่พูดกึ่งดุ หน้าบึ้ง เหมือนจะไม่พอใจเรื่องที่เราสองคนพี่น้องทำเมื่อวานนี้
"นายภีมเขาก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่คะคุณแม่ เขาก็เป็นคนดีคนหนึ่ง เขาไม่เคยคิดล่วงเกินกัญญาเลยสักครั้ง ตายืนยันเลย" ฉันไม่ได้แก้ตัวแทนใคร ฉันพูดตามที่ฉันสัมผัสได้
"แต่แม่ไม่ชอบคนบ้านนู้นเข้าใจมั้ย เคยเข้าใจที่แม่พูดบ้างมั้ย น้องแกก็คนนึงหัวดื้อ" คุณแม่พูดย้ำ คุณยายเงียบฟังเราสองแม่ลูกทะเลาะกัน
"เพราะอะไรคะ..." ฉันถาม "เพราะคุณแม่เกลียดคุณพ่อ เกลียดคุณย่า เกลียดคนตระกูลนั้น แล้วนายภีมผิดอะไร เกี่ยวอะไรด้วย นั่นมันเรื่องในอดีต แล้วกัญญาล่ะ คุณแม่ไม่คิดถึงจิตใจกัญญาลูกคุณแม่บ้างเหรอคะ" รอบนี้ฉันเถียงแทนน้องสาวเต็ม ๆ "และคุณแม่ก็ทราบดีว่าเรื่องในอดีตของคุณแม่ คุณพ่อเขาไม่ได้ตั้งใจ แต่เพราะ..." ฉันหยุดพูด ไม่อยากว่าคุณย่า ถึงคุณย่าจะเป็นตัวการเรื่องทั้งหมดก็ตาม
"กัญตาฟังฉันนะ ฉันเลิกเกลียดพ่อแก เกลียดย่าแก เกลียดญาติ ๆ แกฝั่งนั้นตั้งนานแล้ว แต่ฉันไม่อยากรับคนบ้านนั้นมาเกี่ยวดอง มายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของฉันอีก ให้มันจบที่ฉัน พอที่ฉัน ฝากไปบอกน้องสาวแกด้วย ถ้ารักกันมากก็หอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่ด้วยกันเลย เพราะถึงยังไงฉันก็ไม่มีวันยอมเด็ดขาด จำไว้ ขยะแขยงที่สุด"
"คุณแม่" ฉันเอ่ยออกมาเบา ๆ ทั้งน้ำตาคลอ ทั้งรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำเรื่องขัดใจคุณแม่ ทั้งสงสารน้องสาว นี่ขนาดไม่ใช่เรื่องของฉันโดยตรง ถ้ากัญญาได้ยินคุณแม่พูดแบบนี้จะรู้สึกอย่างไร คุณแม่พูดจบก็เดินออกจากบ้านคุณยายไป โดยไม่หันกลับมามองฉันอีก
"นอกจากพวกเขาจะรังเกียจแม่แกแล้ว พวกเขายังดูถูกยายกับตาอีก" คราวนี้คุณยายพูดกับฉันบ้าง "เขาว่าตระกูลเราเป็นชาวนาทั้งโคตร ทั้งที่มันก็เป็นลูกชาวนา หนอย... มาทำเป็นว่ายาย ตัวเองได้ผัวเป็นข้าราชการหน่อยเดี๋ยวก็ทำเป็นวัวลืมตีนซะแล้ว พูดแล้วเจ็บใจ" คุณยายว่า คุณยายกับคุณย่าก็รุ่นราวคราวเดียวกัน
"คุณยายคะ ช่างมันเถอะ ปล่อยวางนะ เรื่องมันผ่านมาแล้ว อีกอย่างตอนนี้คุณย่าเปลี่ยนไปมาก เพราะว่าคุณย่าเชียร์นายภีมกับกัญญาออกนอกหน้าเชียว"
"มันสร้างภาพน่ะสิ สมัยก่อนกับแม่แกมันก็สร้างภาพ จนแกกับพี่ชายต้องเป็นลูกกำพร้านั่นไง" คุณยายพูดถึงคุณย่าไม่เกรงใจฉันเลย แต่ฉันกลับรู้สึกตลก ยิ้มขำแถมยังหัวเราะคุณยายไปอีก ที่คุณยายใช้คำศัพท์วัยรุ่น 'สร้างภาพ'
"คุณยายรู้เหรอว่าสร้างภาพคืออะไรน่ะ" ฉันแกล้งถาม ยังขำคุณยายไม่หยุด
"ไม่รู้ล่ะ ยายจำมาจากในละคร เขาพูดกันแบบนี้" คุณยายว่า จากนั้นก็เปลี่ยนเรื่องคุย ฉันคุยกับคุณยายสักพักจึงขอตัว อยากนอนกลางวันเพราะง่วงมาก ส่วนคุณแม่ค่อยง้อกันทีหลังก็ได้ แล้วฉันก็ขอตัวเข้าห้องตัวเองเพื่อไปงีบเอาแรงสักหน่อย
เรื่องมันไม่ได้จบแค่นั้น นอกจากฉันที่โดนคุณแม่เล่นงาน กัญญาก็ยังโดนคุณแม่เล่นงานอีกคน นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แล้ว คุณแม่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้ นี่ก็ยังไม่รู้เลยว่าท่านจะคุยกับฉันตอนไหน ฉันถอนหายใจหลังจากอ่านข้อความไลน์ที่กัญญาส่งมาเล่าให้ฟัง กัญญาคงเสียใจสุด ๆ ตอนนี้ความรู้สึกของกัญญาจะเป็นอย่างไร ทว่าฉันกลับไม่ได้โทรถามไถ่น้องสาว แต่คนที่ฉันโทรหาคือพี่ใหญ่ต่างหาก
"อะไร" ทันทีที่พี่ใหญ่รับสายก็พูดเสียงห้วนกับฉัน ราวกับทราบล่วงหน้าว่าฉันจะโทรมาเรื่องอะไรอย่างนั้น
"ทำไมพี่ใหญ่ทำแบบนี้อ่ะ คุณแม่โกรธตากับกัญญามากรู้มั้ยคะ" ฉันต่อว่าพี่ชาย รู้สึกผิดหวัง และเสียใจกับการกระทำพี่ชายตัวเองในครั้งนี้มาก ฉันทราบว่าพี่ใหญ่ไม่ต้องการนายภีมเหมือนกับคุณแม่ แต่ก็ควรมีการละเว้นบ้างบางเรื่อง ไม่ใช่นำมาฟ้องทุกเรื่องแบบนี้
"สิ่งที่ฉันทำน่ะถูกแล้ว พวกแกจะได้ไม่ทำอีก แกจะได้ไม่ริอาจให้ท้ายกันอีก" พี่ใหญ่ว่าฉัน "เลิกซะ... เลิกซะนะที่คิดจะช่วยพวกเขาสองคน เพราะถึงยังไงคุณแม่กับฉันก็ไม่ยอมแน่ กัญตาพี่ว่าแกเอาตัวเองให้รอดเถอะ เมื่อวันศุกร์ที่ผู้ชายคนนั้น หัวหน้าที่ทำงานแกบังเอิญมาเจอน่ะ พี่รู้นะว่าแฟนเขาหึงแก พี่มองสายตาของแฟนเขาออก ใครมีเจ้าของแล้วก็อย่าไปยุ่ง มันจะเสียชื่อมายังโคตรเหง้าเอาได้"
"พี่ใหญ่..." ฉันพูดได้เท่านี้ เพราะพูดอะไรไม่ออก
"ที่แกโทรหาฉันเพราะมีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่มั้ย งั้นแค่นี้นะ ฉันยุ่งอยู่" แล้วพี่ใหญ่ก็ตัดสายฉันทิ้งไป ฉันทิ้งตัวเองลงบนที่นอน อ่อนล้าไปหมด ไม่รู้จะคิดมากกับเรื่องไหนดี ส่วนเรื่องของฉันกับพี่ทีรุฒน์ฉันไม่อยากจะอะไรนักหรอก เพราะฉันมั่นใจว่ามันจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน แต่กัญญากับนายภีมจะเอายังไงกันต่อ ครั้งนี้ทำคุณแม่โกรธมาก ฉันนึกหาทางออกไม่เจอเลย
ฉันนอนถอนหายใจเล่นอยู่บนที่นอน แล้วโทรศัพท์ของฉันก็มีสายเข้าอีก หยิบมาดูก็พบว่าเป็นพี่ทีรุฒน์ 'ตายยากจริง ๆ' ฉันสบถ แต่ก็ไม่ได้รับสายเขา ปล่อยให้ดังอยู่อย่างนั้น แค่เพียงสามรอบที่พี่ทีรุฒน์โทรมา พอฉันไม่รับสายเขาก็เลิกโทรมาอีก จากนั้นฉันก็ข่มตาหลับเพราะเหนื่อยเหลือเกิน
จบบทที่ ๗