ผลวิจัยจาก UK ชี้การเว้นระยะห่างระหว่างเข็ม 1 & 2 ของ Pfizer ได้ผลดีกว่า

จาก FB : ดร อนันต์ ครับ

งานวิจัยชิ้นนี้ทีมวิจัยพบว่า การยืดระยะเวลาเข็มสองของ mRNA (Pfizer) จาก 3 สัปดาห์ไปเป็น 10 สัปดาห์ สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะแอนติบอดีต่อไวรัสที่สูงกว่าและอยู่ได้ยาวนานกว่า ข้อมูลดูตรงไปตรงมาสอดคล้องกับข้อมูลที่แคนาดาแสดงออกมาว่าการชะลอเข็มสองทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนดีขึ้นกว่าที่พบในประเทศที่ใช้วัคซีนแบบฉีดเข็มสองไว แต่ด้วยเหตุผลของการระบาดที่มีมาก การชะลอเข็มสองเป็นความเสี่ยงที่ภูมิคุ้มกันจากเข็มแรกที่มีไม่มากจะทำให้ติดเชื้อไวรัสซะก่อน ทำให้หลายๆประเทศ ไม่ได้เลือกใช้วิธีนี้

จุดที่อยากชี้ประเด็นจากข้อมูลในการศึกษานี้ คือ ระดับแอนติบอดีหลังเข็ม 1 จะไต่ขึ้นและจะเห็นว่าระดับยังไม่ทันตกดีที่ 3 สัปดาห์ การฉีดเข็มสองจะส่งผลให้ระดับแอนติบอดีไต่ขึ้นมาได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเปรียบเทียบกับระดับแอนติบอดีที่ตกลงมาที่ 10 สัปดาห์ซึ่งกำลังตกลงและมีการฉีดเข็มสอง แอนติบอดีจะพุ่งสูงขึ้นมากกว่าอย่างชัดเจนและ จากข้อมูลจากการศึกษานี้ยังบอกอีกว่า แอนติบอดีจะตกลงช้ากว่าด้วย

อีกข้อมูลหนึ่งคือ คนที่เคยติดโควิดมาแล้ว (กราฟสีแดง)จะมีแอนติบอดีอยู่ในระดับหนึ่งที่ไม่สูงมาก การได้เข็มที่หนึ่งเข้าไป คือ การกระตุ้น ให้สังเกตระดับแอนติบอดีที่ไต่ขึ้นสูง และ อยู่ได้นานอย่างน้อย 10 สัปดาห์แบบไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลง การกระตุ้นด้วยเข็มสอง "ไม่ได้" มีผลต่อการกระตุ้นภูมิที่สูงแล้วให้ขึ้นไปอีกแต่อย่างใด

***สำหรับคนที่กำลังพิจารณากระตุ้นเข็มสามหรือสี่ หลังจากที่ตัวเองไปฉีดมาไม่นานก่อนหน้านี้ จะอยู่ในบริบทที่ใกล้เคียงกัน อย่าคาดหวังว่าภูมิคุ้มกันจะไปได้สูงกว่าที่มีอยู่ไปอีกครับ ธรรมชาติไม่ได้เป็นแบบนั้น...การกระตุ้นด้วยModerna 2 เข็มจากคนที่เคยฉีดเชื้อตายมาแล้ว 2 เข็ม ก็จะเข้าทำนองเดียวกัน

ที่มา : https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S0092867421012216?via%3Dihub



ซึ่งผลอันนี้ก็ตรงกับการศึกษาของแคนาดาที่เคยตั้งกระทู้ไว้ครับ https://ppantip.com/topic/41031659
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่