รู้หรือไม่ว่าโรค APS หรือ Antiphospholipid Syndrome เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้คุณแม่หลายคนต้องประสบกับการแท้งซ้ำซ้อน?
โรคนี้เป็นโรคภูมิต้านตนเองที่เกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันสร้างแอนติบอดีต่อต้านฟอสโฟลิพิด ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ ทำให้เลือดแข็งตัวง่ายขึ้นกว่าปกติ ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อระบบหลอดเลือดทั่วร่างกาย แต่ยังส่งผลโดยตรงกับหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงมดลูกและรก จึงทำให้ผู้หญิงที่เป็นโรค APS มีความเสี่ยงสูงในการแท้ง คลอดก่อนกำหนด หรือแม้กระทั่งเจอกับภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์
ทำไมโรคนี้ถึงอันตรายกับการตั้งครรภ์?
ลองจินตนาการดูว่าหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงรกและทารกถูกขัดขวางจากการไหลเวียนเลือดเพราะลิ่มเลือดที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากโรค APS ความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดหรือภาวะรกเกาะผิดปกติจะเพิ่มขึ้น และหากปล่อยไว้โดยไม่รักษาก็อาจทำให้เกิดการแท้งได้
การตรวจหาโรค APS ทำอย่างไร?
ถ้าคุณมีปัจจัยเสี่ยงหรือเคยประสบกับการแท้งมาก่อน แพทย์อาจแนะนำให้เจาะเลือดตรวจหาสารภูมิต้านทานที่ผิดปกติหรือ Antiphospholipid Antibodies ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการวินิจฉัยโรคนี้ โดยจะตรวจหา Lupus Anticoagulant, Anticardiolipin Antibodies และ Anti-β2 Glycoprotein I Antibodies การตรวจเหล่านี้จะต้องพบแอนติบอดีอย่างน้อยหนึ่งชนิดในระดับที่สูงและต้องตรวจซ้ำหลังจาก 12 สัปดาห์เพื่อยืนยันว่าเป็นโรค APS จริง
แนวทางการรักษา
หากได้รับการยืนยันว่าเป็นโรค APS แนวทางการรักษาจะเน้นไปที่การให้ยาละลายลิ่มเลือดอย่างยาฉีด Low Molecular Weight Heparin (LMWH) ซึ่งเป็นยาที่ปลอดภัยต่อทารกในครรภ์ ถึงแม้ว่าโรค APS จะเป็นอุปสรรคต่อการตั้งครรภ์ แต่ในปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ การดูแลและการรักษาที่ถูกวิธี คุณแม่ที่เป็นโรคนี้ยังมีโอกาสมีลูกได้ การวางแผนการตั้งครรภ์ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยมีสุขภาพที่แข็งแรงและปลอดภัยในทุกช่วงเวลาของการตั้งครรภ์
บทความโดย
พญ.ศรมน ทรงวีรธรรม
แพทย์ผู้ชำนาญการอนุสาขาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
ติดตามสาระดีๆได้ที่ :
https://www.tiktok.com/@vfccenter?is_from_webapp=1&sender_device=pc
โรค APS: สาเหตุของการแท้งซ้ำซ้อนและความเสี่ยงในการตั้งครรภ์
โรคนี้เป็นโรคภูมิต้านตนเองที่เกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันสร้างแอนติบอดีต่อต้านฟอสโฟลิพิด ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ ทำให้เลือดแข็งตัวง่ายขึ้นกว่าปกติ ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อระบบหลอดเลือดทั่วร่างกาย แต่ยังส่งผลโดยตรงกับหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงมดลูกและรก จึงทำให้ผู้หญิงที่เป็นโรค APS มีความเสี่ยงสูงในการแท้ง คลอดก่อนกำหนด หรือแม้กระทั่งเจอกับภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์
ทำไมโรคนี้ถึงอันตรายกับการตั้งครรภ์?
ลองจินตนาการดูว่าหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงรกและทารกถูกขัดขวางจากการไหลเวียนเลือดเพราะลิ่มเลือดที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากโรค APS ความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดหรือภาวะรกเกาะผิดปกติจะเพิ่มขึ้น และหากปล่อยไว้โดยไม่รักษาก็อาจทำให้เกิดการแท้งได้
การตรวจหาโรค APS ทำอย่างไร?
ถ้าคุณมีปัจจัยเสี่ยงหรือเคยประสบกับการแท้งมาก่อน แพทย์อาจแนะนำให้เจาะเลือดตรวจหาสารภูมิต้านทานที่ผิดปกติหรือ Antiphospholipid Antibodies ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการวินิจฉัยโรคนี้ โดยจะตรวจหา Lupus Anticoagulant, Anticardiolipin Antibodies และ Anti-β2 Glycoprotein I Antibodies การตรวจเหล่านี้จะต้องพบแอนติบอดีอย่างน้อยหนึ่งชนิดในระดับที่สูงและต้องตรวจซ้ำหลังจาก 12 สัปดาห์เพื่อยืนยันว่าเป็นโรค APS จริง
แนวทางการรักษา
หากได้รับการยืนยันว่าเป็นโรค APS แนวทางการรักษาจะเน้นไปที่การให้ยาละลายลิ่มเลือดอย่างยาฉีด Low Molecular Weight Heparin (LMWH) ซึ่งเป็นยาที่ปลอดภัยต่อทารกในครรภ์ ถึงแม้ว่าโรค APS จะเป็นอุปสรรคต่อการตั้งครรภ์ แต่ในปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ การดูแลและการรักษาที่ถูกวิธี คุณแม่ที่เป็นโรคนี้ยังมีโอกาสมีลูกได้ การวางแผนการตั้งครรภ์ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยมีสุขภาพที่แข็งแรงและปลอดภัยในทุกช่วงเวลาของการตั้งครรภ์
บทความโดย
พญ.ศรมน ทรงวีรธรรม
แพทย์ผู้ชำนาญการอนุสาขาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
ติดตามสาระดีๆได้ที่ : https://www.tiktok.com/@vfccenter?is_from_webapp=1&sender_device=pc