ข้าวสารยังกร่อย! ‘เท่าพิภพ’ แนะ นักเที่ยวไม่ฉีดวัคซีน ควัก 100 บาทตรวจเอทีเค ก่อนเข้า
https://www.matichon.co.th/politics/news_3039122
ข้าวสารยังกร่อย! ‘เท่าพิภพ’ แนะ นักเที่ยวไม่ฉีดวัคซีน ควัก 100 บาทตรวจเอทีเค ก่อนเข้า
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน นาย
เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ระบุว่า
ใครจะมาเที่ยวข้าวสารมีการตรวจว่าใครฉีดวัคซีนก่อนเข้าถนน ถ้าใครไม่ฉีดก็จะเสีย 100 บาทตรวจ ATK
ขณะเดียวกัน ได้โพสต์ภาพสถานที่ท่องเที่ยวแห่งต่างๆ พร้อมระบุว่า
บรรยากาศเงียบ ๆ นะ ถนนหลัก คนน่าจะมาไม่ถึงเเต่ เอ๊ะ เหลือเวลากินอีกสองชั่วโมงนะไม่งั้นกระดกหมดไม่ก็เททิ้ง
https://twitter.com/taopiphop/status/1459125787156627460
https://twitter.com/taopiphop/status/1459127802221907970
หมูทอดเจ๊จง โอดหมู น้ำมันทอดแพงกระฉูด
https://www.pptvhd36.com/news/เศรษฐกิจ/160393
หมูแพง น้ำมันปาล์มแพง หมูทอดเจ๊จง โอด ราคาสินค้าขึ้นทุกอย่าง ทำกระทบหนัก แบกรับต้นทุนสูง ขาดทุนกำไร ยัน ไม่ปรับราคาอาหารขึ้น เพราะเห็นใจประชาชนที่ตกงานไม่มีรายได้ วอนภาครัฐเร่งคุมราคาสินค้า
จากสถานการณ์ ราคาเนื้อหมู น้ำมันปาล์ม ที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านอาหารในตอนนี้ หนึ่งในนั้นร้านหมูทอดชื่อดัง "
หมูทอด เจ๊จง" ที่มีอาหารอย่างหมูทอด เป็นของขึ้นชื่อของร้านหมูทอดสูตรเจ๊จง ที่กำลังทอดอยู่ในกระทะขนาดใหญ่นี้ ต้องใช้ปริมาณเนื้อหมูสะโพกเป็นวัตถุดิบจำนวนกว่า 100 กิโลกรัมต่อวัน และใช้น้ำมันปาล์ม 140 ลิตรต่อวันในการทอด
จากการพูดคุยกับนาง
จงใจ กิจแสวง หรือ
เจ๊จง เปิดเผยข้อมูลว่า ราคาเนื้อหมูส่วนสะโพกคุณภาพเกรดดีที่ทางร้านใช้ประกอบอาหาร ปรับสูง จาก 120 บาท เป็น 140 บาทต่อกิโลกรัม แล้ว รวมถึงน้ำมันปาล์มที่ใช้ทอด ราคาขยับขึ้น เป็น 700 กว่าบาท ต่อ1 ถัง (1ถังที่ร้านใช้ 13.75 ลิตร) จากเดิมราคา 400-500 บาทต่อถัง ทำให้ทางร้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
เจ๊จง บอกว่า วัตถุดิบอาหารทุกประเภท ขยับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าปี 65 ราคาจะขึ้นสูงกว่านี้แน่นอน แต่ทางร้านก็ยังไม่มีแนวคิดจะขึ้นราคาอาหาร เพราะเห็นใจประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ จึงต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น และขาดทุนด้านกำไร
สำหรับราคาหมูทอดของร้านเจ๊จง ยังคงตรึงราคาเดิมไว้ที่ 1 ถุง ขีดละ 28 บาท ส่วนหมูทอดราดข้าว ถุงละ 23 บาทข้าวแกง เริ่มต้นราคา 30 บาท เป็นต้นไป ซึ่ง
เจ๊จง มองว่า อยากให้ภาครัฐช่วยควบคุมราคาสินค้าโดยด่วน เพราะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านอาหารโดยตรง
ที่ตลาดสดเทศบาล 2 เขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี เป็นตลาดสดขนาดใหญ่ใจกลางเมือง บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของภายในตลาดสดแทบจะทุกร้านพูดตรงกันว่า ตลาดสดเงียบมากแทบจะไม่มีคนเข้ามาจับจ่าย ประชาชนต้องประหยัดค่าใช้จ่าย และ ซื้อเนื้อหมูลดลงกว่าเดิม และหันไปซื้อปลาไปทำกับข้าวแทน เพราะมีราคาถูกกว่า
จากการสอบถามแม่ค้าขายหมู พูดเป็นสียงเดียวกันว่า ตอนนี้หมูตัวที่รับมาขายอยู่ที่กิโลกรัม ละ 82 บาทต่อตัว แต่ตอนนี้ที่ร้านก็ยังคงขายราคาเท่าเดิม แต่ถ้าหากราคาหมูตัวปรับเพิ่มขึ้นอีก ที่ร้านก็คงต้องปรับราคาขายเพิ่มขึ้นเพราะแบกรับต้นทุนไม่ไหว โดยราคาหมูเนื้อแดงและเนื้อสะโพก อยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท เนื้อสันในและสันนอกกิโลกรัมละ 160 บาทส่วนไก่สดตอนนี้ ก็ปรับราคาขึ้นมากิโลกรัมละ 10 บาท ไก่สดทั้งตัวรวมเครื่องใน อยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 85 บาท ส่วนน่องไก่, น่องไก่ติดสะโพก, เนื้ออกติดหนัง, และเนื้ออกล้วน อยู่ที่กิโลกรัมละ 90 บาท
เจาะอุตสาหกรรมโฆษณา ต.ค. ติดลบ 6%
https://www.prachachat.net/marketing/news-801556
นีลเส็น เผยอุตสาหกรรมโฆษณา ต.ค. เหลือ 9 พันล้านบาท ติดลบ 6% ร่วงยกแผง เว้นสื่ออินเทอร์เน็ตทรงตัว ขณะที่ภาพรวม 10 เดือน ฟื้นตัว 1% เงินสะพัด 8.7 หมื่นล้านบาท
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 นีลเส็น เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณา 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1% โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 87,729 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันในปี 63 ที่มีเงินสะพัดเพียง 86,992 ล้านบาท ซึ่งสื่อที่ครองเม็ดเงินการใช้โฆษณาสูงสุดยังคงเป็นสื่อทีวีที่แบรนด์ใช้งบมากถึง 52,422 หรือคิดเป็นสัดส่วน 60% ขณะที่ลำดับถัดมาจะเป็นสื่ออินเทอร์เน็ตที่ 19,454 ล้านบาท และสื่อนอกบ้าน 7,843 ล้านบาท
ในแง่ภาพรวมใช้เม็ดเงินโฆษณาปี 2021 ช่วงเดือนมกราคมถึงตุลาคม อุตสาหกรรมหลักได้แก่ กลุ่มอาหาร/เครื่องดื่ม (Food&Beverage) มูลค่า 14,981 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%, กลุ่ม Media & Marketing ซึ่งส่วนใหญ่มาจากธุรกิจการขายตรงมูลค่า 11,399 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% ขณะที่กลุ่มยานยนต์ (Automotive) มูลค่า 4,786 ล้านบาท ลดลง 5%
ทว่าหากพิจารณาลงลึกแยกเป็นรายเดือนจะพบว่า ในเดือน ต.ค. เม็ดเงินโฆษณาทั้งอุตสาหกรรมยังได้รับปัจจัยลบจากโควิด โดยมีภาพเป็นขาลงต่อเนื่อง สะท้อนจากมูลค่าโฆษณาเฉพาะเดือน ต.ค. ที่เหลือเพียง 9,088 ล้านบาท จาก ต.ค. ปี 63 ที่มีมูลค่าราว 9,687 ล้านบาท ลดลงถึง 601 ล้านบาท หดตัว 6%
โดยสื่อทีวีติดลบเล็กน้อยที่ 5% เหลือ 5,405 ล้านบาท ตามด้วยสื่ออินเทอร์เน็ตที่ทรงตัวไม่ร่วง แต่ไม่โต มีเม็ดเงินราว 1,931 ล้านบาท ขณะที่สื่อนอกบ้านปรับตัวลดลง 16% มีมูลค่า 739 ล้านบาท ส่วนสื่อโรงภาพยนตร์ที่เริ่มได้เปิดกิจการอีกครั้งในเดือน ต.ค. หลังปิดจอยาวทำเม็ดเงินได้ 428 ล้านบาท ติดลบ 5% ด้านสื่อวิทยุหดตัว 11% มีเงินหมุนเวียน 284 ล้านบาท สำหรับสื่อสิ่งพิมพ์ยังคงเป็นขาลงอย่างต่อเนื่องหดตัวสูงสุด 28% มีมูลค่าที่ 242 ล้านบาท และสื่ออินสโตร์ ติดลบ 11% เหลือ 59 ล้านบาท
ในส่วนของบริษัทที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในปี 2021 โดย 3 ลำดับแรก ได้แก่
1. บริษัท UNILEVER (THAI) HOLDINGS CO.,LTD. มูลค่า 3,954 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว +5% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาคือ ซิตร้า ผิวตัวดูใสราวกับผิวหน้า ทางสื่อทีวีมูลค่า 30 ล้านบาท รองลงมาคือ วาสลีน สูตร กลูต้าโกลว์ #ผิวดีชีวิตก็สุด ทางสื่อทีวีมูลค่า 25 ล้านบาท
2. บริษัท NESTLE(THAI) CO.,LTD. มูลค่า 2,493 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว +12% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาคือ เนสกาแฟ เอซเปรสโซโรสต์ หอมอร่อยเกินต้าน ทางสื่อทีวีมูลค่า 28 ล้านบาท รองลงมาคือ จุลินทรีย์ LPR แกร่งจึงเก่ง ทางสื่อทีวีมูลค่า 27 ล้านบาท
3. บริษัท PROCTER & GAMBLE (THAILAND) มูลค่า 1,917 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว +4% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา คือ แพนทีนโกลด์ นุ่มลื่น ระดับซาลอน ทางสื่อทีวีมูลค่า 30 ล้านบาท รองลงมาคือ เฮดแอนด์โชว์เดอร์ สยบรังแคมัน ทางสื่อทีวีมูลค่า 19 ล้านบาท
JJNY : 4in1 ข้าวสารยังกร่อย!│หมูทอดเจ๊จง โอดหมู น้ำมันทอดแพง│โฆษณา ต.ค. ติดลบ 6%│โควิดจีนลาม21มณฑล ติดเชื้อสูงสุดรอบ17ด.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3039122
ข้าวสารยังกร่อย! ‘เท่าพิภพ’ แนะ นักเที่ยวไม่ฉีดวัคซีน ควัก 100 บาทตรวจเอทีเค ก่อนเข้า
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ระบุว่า
ใครจะมาเที่ยวข้าวสารมีการตรวจว่าใครฉีดวัคซีนก่อนเข้าถนน ถ้าใครไม่ฉีดก็จะเสีย 100 บาทตรวจ ATK
ขณะเดียวกัน ได้โพสต์ภาพสถานที่ท่องเที่ยวแห่งต่างๆ พร้อมระบุว่า
บรรยากาศเงียบ ๆ นะ ถนนหลัก คนน่าจะมาไม่ถึงเเต่ เอ๊ะ เหลือเวลากินอีกสองชั่วโมงนะไม่งั้นกระดกหมดไม่ก็เททิ้ง
https://twitter.com/taopiphop/status/1459125787156627460
https://twitter.com/taopiphop/status/1459127802221907970
หมูทอดเจ๊จง โอดหมู น้ำมันทอดแพงกระฉูด
https://www.pptvhd36.com/news/เศรษฐกิจ/160393
หมูแพง น้ำมันปาล์มแพง หมูทอดเจ๊จง โอด ราคาสินค้าขึ้นทุกอย่าง ทำกระทบหนัก แบกรับต้นทุนสูง ขาดทุนกำไร ยัน ไม่ปรับราคาอาหารขึ้น เพราะเห็นใจประชาชนที่ตกงานไม่มีรายได้ วอนภาครัฐเร่งคุมราคาสินค้า
จากสถานการณ์ ราคาเนื้อหมู น้ำมันปาล์ม ที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านอาหารในตอนนี้ หนึ่งในนั้นร้านหมูทอดชื่อดัง "หมูทอด เจ๊จง" ที่มีอาหารอย่างหมูทอด เป็นของขึ้นชื่อของร้านหมูทอดสูตรเจ๊จง ที่กำลังทอดอยู่ในกระทะขนาดใหญ่นี้ ต้องใช้ปริมาณเนื้อหมูสะโพกเป็นวัตถุดิบจำนวนกว่า 100 กิโลกรัมต่อวัน และใช้น้ำมันปาล์ม 140 ลิตรต่อวันในการทอด
จากการพูดคุยกับนางจงใจ กิจแสวง หรือเจ๊จง เปิดเผยข้อมูลว่า ราคาเนื้อหมูส่วนสะโพกคุณภาพเกรดดีที่ทางร้านใช้ประกอบอาหาร ปรับสูง จาก 120 บาท เป็น 140 บาทต่อกิโลกรัม แล้ว รวมถึงน้ำมันปาล์มที่ใช้ทอด ราคาขยับขึ้น เป็น 700 กว่าบาท ต่อ1 ถัง (1ถังที่ร้านใช้ 13.75 ลิตร) จากเดิมราคา 400-500 บาทต่อถัง ทำให้ทางร้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
เจ๊จง บอกว่า วัตถุดิบอาหารทุกประเภท ขยับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าปี 65 ราคาจะขึ้นสูงกว่านี้แน่นอน แต่ทางร้านก็ยังไม่มีแนวคิดจะขึ้นราคาอาหาร เพราะเห็นใจประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ จึงต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น และขาดทุนด้านกำไร
สำหรับราคาหมูทอดของร้านเจ๊จง ยังคงตรึงราคาเดิมไว้ที่ 1 ถุง ขีดละ 28 บาท ส่วนหมูทอดราดข้าว ถุงละ 23 บาทข้าวแกง เริ่มต้นราคา 30 บาท เป็นต้นไป ซึ่งเจ๊จง มองว่า อยากให้ภาครัฐช่วยควบคุมราคาสินค้าโดยด่วน เพราะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านอาหารโดยตรง
ที่ตลาดสดเทศบาล 2 เขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี เป็นตลาดสดขนาดใหญ่ใจกลางเมือง บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของภายในตลาดสดแทบจะทุกร้านพูดตรงกันว่า ตลาดสดเงียบมากแทบจะไม่มีคนเข้ามาจับจ่าย ประชาชนต้องประหยัดค่าใช้จ่าย และ ซื้อเนื้อหมูลดลงกว่าเดิม และหันไปซื้อปลาไปทำกับข้าวแทน เพราะมีราคาถูกกว่า
จากการสอบถามแม่ค้าขายหมู พูดเป็นสียงเดียวกันว่า ตอนนี้หมูตัวที่รับมาขายอยู่ที่กิโลกรัม ละ 82 บาทต่อตัว แต่ตอนนี้ที่ร้านก็ยังคงขายราคาเท่าเดิม แต่ถ้าหากราคาหมูตัวปรับเพิ่มขึ้นอีก ที่ร้านก็คงต้องปรับราคาขายเพิ่มขึ้นเพราะแบกรับต้นทุนไม่ไหว โดยราคาหมูเนื้อแดงและเนื้อสะโพก อยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท เนื้อสันในและสันนอกกิโลกรัมละ 160 บาทส่วนไก่สดตอนนี้ ก็ปรับราคาขึ้นมากิโลกรัมละ 10 บาท ไก่สดทั้งตัวรวมเครื่องใน อยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 85 บาท ส่วนน่องไก่, น่องไก่ติดสะโพก, เนื้ออกติดหนัง, และเนื้ออกล้วน อยู่ที่กิโลกรัมละ 90 บาท
https://www.prachachat.net/marketing/news-801556
นีลเส็น เผยอุตสาหกรรมโฆษณา ต.ค. เหลือ 9 พันล้านบาท ติดลบ 6% ร่วงยกแผง เว้นสื่ออินเทอร์เน็ตทรงตัว ขณะที่ภาพรวม 10 เดือน ฟื้นตัว 1% เงินสะพัด 8.7 หมื่นล้านบาท
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 นีลเส็น เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณา 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1% โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 87,729 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันในปี 63 ที่มีเงินสะพัดเพียง 86,992 ล้านบาท ซึ่งสื่อที่ครองเม็ดเงินการใช้โฆษณาสูงสุดยังคงเป็นสื่อทีวีที่แบรนด์ใช้งบมากถึง 52,422 หรือคิดเป็นสัดส่วน 60% ขณะที่ลำดับถัดมาจะเป็นสื่ออินเทอร์เน็ตที่ 19,454 ล้านบาท และสื่อนอกบ้าน 7,843 ล้านบาท
ในแง่ภาพรวมใช้เม็ดเงินโฆษณาปี 2021 ช่วงเดือนมกราคมถึงตุลาคม อุตสาหกรรมหลักได้แก่ กลุ่มอาหาร/เครื่องดื่ม (Food&Beverage) มูลค่า 14,981 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%, กลุ่ม Media & Marketing ซึ่งส่วนใหญ่มาจากธุรกิจการขายตรงมูลค่า 11,399 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% ขณะที่กลุ่มยานยนต์ (Automotive) มูลค่า 4,786 ล้านบาท ลดลง 5%
ทว่าหากพิจารณาลงลึกแยกเป็นรายเดือนจะพบว่า ในเดือน ต.ค. เม็ดเงินโฆษณาทั้งอุตสาหกรรมยังได้รับปัจจัยลบจากโควิด โดยมีภาพเป็นขาลงต่อเนื่อง สะท้อนจากมูลค่าโฆษณาเฉพาะเดือน ต.ค. ที่เหลือเพียง 9,088 ล้านบาท จาก ต.ค. ปี 63 ที่มีมูลค่าราว 9,687 ล้านบาท ลดลงถึง 601 ล้านบาท หดตัว 6%
โดยสื่อทีวีติดลบเล็กน้อยที่ 5% เหลือ 5,405 ล้านบาท ตามด้วยสื่ออินเทอร์เน็ตที่ทรงตัวไม่ร่วง แต่ไม่โต มีเม็ดเงินราว 1,931 ล้านบาท ขณะที่สื่อนอกบ้านปรับตัวลดลง 16% มีมูลค่า 739 ล้านบาท ส่วนสื่อโรงภาพยนตร์ที่เริ่มได้เปิดกิจการอีกครั้งในเดือน ต.ค. หลังปิดจอยาวทำเม็ดเงินได้ 428 ล้านบาท ติดลบ 5% ด้านสื่อวิทยุหดตัว 11% มีเงินหมุนเวียน 284 ล้านบาท สำหรับสื่อสิ่งพิมพ์ยังคงเป็นขาลงอย่างต่อเนื่องหดตัวสูงสุด 28% มีมูลค่าที่ 242 ล้านบาท และสื่ออินสโตร์ ติดลบ 11% เหลือ 59 ล้านบาท
ในส่วนของบริษัทที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในปี 2021 โดย 3 ลำดับแรก ได้แก่
1. บริษัท UNILEVER (THAI) HOLDINGS CO.,LTD. มูลค่า 3,954 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว +5% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาคือ ซิตร้า ผิวตัวดูใสราวกับผิวหน้า ทางสื่อทีวีมูลค่า 30 ล้านบาท รองลงมาคือ วาสลีน สูตร กลูต้าโกลว์ #ผิวดีชีวิตก็สุด ทางสื่อทีวีมูลค่า 25 ล้านบาท
2. บริษัท NESTLE(THAI) CO.,LTD. มูลค่า 2,493 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว +12% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาคือ เนสกาแฟ เอซเปรสโซโรสต์ หอมอร่อยเกินต้าน ทางสื่อทีวีมูลค่า 28 ล้านบาท รองลงมาคือ จุลินทรีย์ LPR แกร่งจึงเก่ง ทางสื่อทีวีมูลค่า 27 ล้านบาท
3. บริษัท PROCTER & GAMBLE (THAILAND) มูลค่า 1,917 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว +4% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา คือ แพนทีนโกลด์ นุ่มลื่น ระดับซาลอน ทางสื่อทีวีมูลค่า 30 ล้านบาท รองลงมาคือ เฮดแอนด์โชว์เดอร์ สยบรังแคมัน ทางสื่อทีวีมูลค่า 19 ล้านบาท