อัพกระทู้เพิ่มเนื้อตามที่เคยลงไว้ข้างล่างแล้วค่ะ
———————————————
ขออนุญาตลบข้อความนะคะ พอดีกระทู้มันถูกแชร์เยอะเกินแล้วค่ะ ไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้ คือเราโพสต์ส่วนหนึ่งก็ระบาย และส่วนหนึ่งก็อยากได้ความเห็นผ่านมุมมองของเราเอง ว่าถ้าคุณมองในมุมเรา คุณจะคิดประมาณไหน และเราก็ได้อ่านความเห็นทุกๆความเห็นแล้วค่ะ ในเฟซบุ๊คก็อ่านทั้งหมด อยากตอบกลับหลายๆความเห็น แต่คงไม่ได้ และจริงๆไม่ได้คิดว่าจะมีคนมาคอมเม้นต์เยอะขนาดนี้ เพราะทุกทีเราโพสต์ก็มีคนมาคอมเม้นต์ไม่เยอะค่ะ
ขอบคุณทุกๆความเห็นนะคะ เรื่องนี้เราเข้าใจค่ะ ว่ามันเล่าผ่านมุมเราคนเดียว และอาจจะทำให้แม่ดูไม่ดีเท่าไหร่ จริงๆแม่เราก็มีมุมดีค่ะ ดีมากๆ ไม่งั้นเราคงไม่เลี้ยงดู ไม่ให้แม่มาอยู่ด้วย และให้แฟนอดทนมานานขนาดนี้ แต่ถึงจุดๆนึง มันก็เป็นการตัดสินใจของครอบครัวเราแหละค่ะ
และ ณ วันที่พิมพ์เล่าเรื่องนี้ เหตุเกิดสดๆร้อนๆ เราอาจจะเรียบเรียงได้ไม่ดีนัก อาจจะดูไบแอสมากเกินไป แต่มันเรื่องจริงทั้งหมด คลิปวีดีโอเราก็มีค่ะ แต่เราไม่โพสต์นะคะ จริงๆถ่ายไว้เผื่อต้องใช้เฉยๆ และเราก็ไม่สามารถเล่าทุกเรื่องในชีวิตได้จริงๆ ชีวิตคนมันซับซ้อนเกินกว่าจะเล่าทั้งหมดได้ค่ะ
เอาเป็นว่านี่ไม่ใช่เรื่องแต่งแน่ๆค่ะ ถ้าย้อนกลับไป เรามีตั้งกระทู้ระบายชีวิตเราเป็นระยะๆ หลักหลายปีค่ะ เราคงไม่วางพลอตนิยายหลายๆปีล่วงหน้าหรอกค่ะ
ส่วนสถานการณ์ตอนนี้ เราก็พยายามเคลียร์กันอยู่ค่ะ ยังไม่มีบทสรุปว่ายังไง กำลังรอดูแหละค่ะ
———————————————
ก่อนหน้านี้เราเคยตั้งกระทู้เรื่องปัญหาแม่ยายลูกเขย ต่อมาด้วยการที่แม่เราไม่อยากเลี้ยงหลาน
เล่า Background คร่าวๆนะคะ
แม่เรามีเราตอนอายุประมาณ 25 พ่อเรามีฐานะและมีภรรยาหลายคน แม่เราไม่ใช่คนแรก และไม่ใช่คนสำคัญ พ่อส่งเสียดีบ้างไม่ดีบ้าง แม่ก็ดิ้นรนเลี้ยงดูเรา จนเราจบป.ตรี (พ่อก็ส่งค่ะ แต่ไม่ได้สุขสบาย)
สำหรับแม่ นี่คือการลงทุน ในวันที่เราทำงานแล้ว แม่ต้องการเก็บดอกเก็บผล ให้เราชดใช้บุญคุณที่แม่เลี้ยงดูเรามา เราให้เงินแม่ตลอด ช่วยผ่อนบ้าน ให้ตามกำลัง จนเราทำงานมีเงินเดือนที่ดีแม่ในวัยประมาณ 49-50 ก็ไม่ต้องทำงานขายของตลาดนัดอีก ได้เป็นคุณนายอยู่บ้านไม่ต้องทำงานหาเงินตามที่แม่ฝันมาตลอด
แม่คงฝันสลายในวันที่เราท้อง ตอนนั้นเราอายุ 25 แฟนเรารับผิดชอบ ก็แต่งงานกันไป เรากับแฟนซื้อบ้านใหม่ แม่เรามาอยู่ด้วย บ้านเดิมที่ยังผ่อนไม่หมดก็ปล่อยเช่า (ค่าเช่าเยอะกว่าเงินที่ผ่อน)
แม่เราช่วยเลี้ยงลูกช่วงกลางวัน เพราะเราและแฟนก็ต้องทำงาน ก็มีปัญหากันมาเรื่อยๆตามแบบครอบครัวที่ไม่ค่อยลงรอยกัน
เราพยายามดูแลแม่เท่าที่เราทำได้ เรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านเรากับแฟนดูแลทั้งหมด เรามีบัตรเครดิต(บัตรเสริม)ให้แม่ไว้รูดซื้อของ/เติมน้ำมัน ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวแม่เราซื้อให้ทั้งหมด เข้าซุปเปอร์มาเก็ตเราจ่ายหมด ของกิน ของสด เท่าที่เราจ่ายได้ นอกเหนือจากนั้นเราก็ให้เงินสดแม่ไว้ 4-5,000 ต่อเดือนตามกำลัง ไว้กินนู่นนี่ บางเดือนมีเยอะก็ให้พิเศษ
แม่เราเจ้าระเบียบประมาณนึง และพูดจาไม่ถนอมน้ำใจคนอื่น ไม่ว่าจะเรา แฟนเรา หรือลูกเรา ซึ่งแฟนเราไม่ได้มาจากครอบครัวแบบนี้ พ่อแม่เค้าไม่มาด่าลูกแบบทึ่แม่เราทำ และที่ทำให้แฟนเราหมดความเคารพกับแม่เรา ก็คือการที่แม่เราชอบทวงบุญคุณในทุกๆอย่างที่เค้าทำ ทั้งเลี้ยงเรา เลี้ยงหลาน ทุกๆอย่าง
เราพยายามคุยกับแม่หลายต่อหลายรอบ ว่าทำไมไม่คิดว่าครอบครัวเดียวกัน ช่วยกันทำ แบ่งเบากัน ทำไมต้องคิดว่ามันคือการทำงานแลกข้าวแลกที่อยู่ และพูดเหน็บแนมกันตลอดเวลา แต่ก็ไม่เป็นผล คุยทีนึง ก็เหมือนดีขึ้นแป๊บนึง แต่นิสัยมันคงเปลี่ยนกันไม่ได้ สุดท้ายวนลูป
ทุกอย่างมากสะสม จนเราป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เราหาหมอ กินยา เราชวนแม่ไปหาหมอด้วยกัน แม่ไม่ไป หมอสั่งยามาให้แม่ เราเอาให้แม่กิน หลอกล่อ แม่ก็ไม่กิน เราพยายามจะดีขึ้น เราพยายามอดทน
ก่อนหน้านี้ก็มีที่เราปรี๊ดแตก ทนไม่ไหว ช่วงนั้นเราหัดขับรถใหม่ๆกับยังไม่เก่งเลย มีปากเสียงกัน แม่ปาถ้วยจานลงพื้นเยอะมากแบบระบายอารมณ์ ทำลายข้าวของ เรากับแฟนและลูกก็ขับรถออกไปข้างนอก เราขับ แม่ส่งรูปเชือกแขวนคอมาในไลน์เราตอนเราขับรถ เราเครียดมาก รถแทบชน แต่ไม่เป็นไร เรารีบขับรถวนกลับบ้าน แม่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น บอกถ้วยจานของชั้นเอง ชั้นเก็บกวาดเอง
และเราก็ยังคงอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม
ช่วงหลังๆแม่เรากับแฟนก็มีปากเสียงกัน เราไม่ได้เบรคแฟนมากเท่าช่วงแรกๆ เพราะเราก็เริ่มไม่อยากจะทนเหมือนกัน และเราก็สงสารแฟน และคิดว่าเค้าก็ทนมามากพอแล้ว สถานการณ์ก่อนเกิดเหตุล่าสุดก็คือ แม่เราไม่คุยกับแฟนเรา แต่พูด-ดันให้ได้ยินตลอด ด่าผ่านเราบ้าง ลูกเราบ้าง
เหตุการณ์คือ
ลูกเราเล่นของเล่นวางเกะกะ ตะโกนมาบอกให้เก็บ(คิดว่าบอกเรา แต่เรากับแฟนอยู่ด้วยกัน) เราบอกเดี๋ยวให้ลูกเก็บเองโตแล้ว(5 ขวบ) และแม่ก็บ่นๆพูดจาไม่ค่อยดี แฟนเราก็บอก ถ้าไม่ทำก็อย่าบ่น (คือหลังๆแม่เราไม่ค่อยทำอะไร แต่จะบ่น/ใช้ให้เราทำใช้แฟนเราผ่านเรา) แม่เราก็พูดขึ้นมาว่า “เ สื อ ก ๆๆๆๆ” แบบพูดใส่
ตรงนี้เราก็ไม่โอเค บอกเค้าว่าให้พูดจาดีๆหน่อย แฟนเราก็ไม่โอเค บอกแบบนี้มันอยู่ด้วยกันไม่ได้นะ ต้องคุยกัน ตอนแรกแฟนจะคุยเลยคืออารมณ์กำลังมา เราเบรคไว้เลยพากันไปกินข้าวข้างนอกก่อน กลับบ้านมาค่อยว่ากัน
และถึงจุดหัก คือแฟนเราก็ไปคุยกับแม่ แน่นอนว่าแม่เราไม่เข้าใจอะไรเลย คุยด้วยเหตุผลไม่ได้ ทวงบุญคุณทุกอย่าง และเค้าทำทุกอย่างดีแล้ว บอกเราว่าแฟนเราพูดจาให้เค้าเจ็บช้ำน้ำใจตั้งมากมาย แต่เอาความเป็นจริงแล้ว แฟนเราไม่ใช่คนพูดมาก หลายๆเหตุการณ์ที่เราอยู่ด้วย แม่เรามันจะพูดบ่นหรือด่าแฟนก่อน และแฟนเราก็สวนกลับไป มันไม่มีการที่แม่เราอยู่เฉยๆแล้วแฟนเราไปด่า อันนี้ไม่มีแน่นอน
และการทวงบุญคุณมากมาย ท่วมหัว ที่เราคงไม่มีวันชดใช้หมด เราไม่ไหวจริงๆ ชีวิตเรามันไม่ใช่ของเราแล้ว เราจะต้องทนแบบนี้ไปอีกกี่ปี สิบปี ยี่สิบปี ต้องให้แฟนเราทนไม่ไหว ไปอยู่ที่อื่น ครอบครัวเราพัง เรากับแฟนเลิกกัน ลูกเราขาดพ่อ แบบนี้ถึงจะพอใจใช่มั้ย อยู่กันแบบถนอมน้ำใจ ปรับตัวเข้าหากันไม่ได้ก็คงต้องพอ
เราเลือกครอบครัวเรา พ่อ แม่ ลูก คือเรา แฟนเรา และลูกเรา เราพอแล้ว แม่ท้าเราหลายรอบ มาพูดแบบนี้จะไล่แม่ใช่มั้ย เราพยายามอดทน เราทนได้แค่นั้นแหละ เราไล่แม่แล้ว… เราอยู่ด้วยกันไม่ได้แล้ว พอแล้ว
แม่เราทวงบุญคุณ เราบอกจะให้ทำยังไง เอาชีวิตเราไปเลยมั้ย ฆ่าเราให้ตายเลยสิ แม่บีบคอเรา และลงไปเอามีดมา ขู่จะฆ่าเรา ฆ่าลูกเรา และฆ่าตัวตาย บอกให้เราฆ่าเค้า ฆ่าให้ตายกันให้หมด เราปิดประตูล็อคห้อง เรา แฟนเรา ลูกเรา อยู่ด้วยกันในห้อง แม่ลับมีดอยู่หน้าห้อง แบบเสียงมีดสีกันอ่ะค่ะ ขู่สารพัด ไม่มีใครออกไปจากห้อง ลูกเรากลัวมาก เรากอดลูก ลูกเราตัวสั่น แบบสั่นเลยอ่ะค่ะ มันเจ็บหัวใจมากๆ ทำไมลูกเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ ทำไมครอบครัวเราต้องมาเจออะไรแบบนี้
สักพัก เรียกลูกเราไปหา ลูกเราก็ร้องอยากไปหายาย เพราะลูกเรารักยายมาก ติดยาย นอนกับยาย ลูกเราตะโกนถาม ยายมีมีดมั้ย แม่เราบอกไม่มี ให้มาหายาย แต่เราก็รั้งลูกไว้ ไม่ยอมให้ลูกออกไป จนลูกยอมอยู่ในห้อง สักพัก เสียงมีดมาอีกแล้ว ลูกเราบอกยายโกหก ยายมีมีด และบอกว่าเค้ากลัวยาย
เรารอจนดึก แม่เข้าไปอยู่ในห้อง เรากับแฟนเราและลูกเราเลยแอบย่องออกจากบ้าน ขับรถไปนอนโรงแรมกันตอนตีหนึ่งกว่าๆ
และขณะที่พิมพ์อยู่ตอนนี้เรากำลังขับรถพาลูกเราไปบ้านแฟนที่ตจว ไปฝากไว้กับย่าก่อน และเรากับแฟนถึงจะกลับบ้าน อย่างน้อยๆแม่ก็เอาลูกเราเป็นตัวประกันไม่ได้ และค่อยมาเจรจากัน
สำหรับเราตอนนี้ เราคงไม่สามารถอยู่กับแม่ได้แล้วจริงๆ เราพยายามแล้ว แม่คงด่าเรา เอาเราไปด่าสารพัดกับทุกคนที่จะด่าได้ ว่าลูกเนรคุณ ลูกอกตัญญู แต่เราคงต้องยอมแล้ว ถ้ามันจะบาป ก็ให้มันบาปที่เรา ที่ผ่านมาเราไม่อยากบาป อยากเป็นคนดีและกตัญญู บาปเลยไปตกที่แฟนเรา ที่ลูกเรา และสุขภาพจิตของเราแทน
เรายังไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะเจรจากับแม่ยังไงต่อ แฟนเราก็ไม่ไหว บอกว่าอยู่กับเค้าไม่ได้แล้ว เค้าป่วย และมันเสี่ยงกันไป
ที่เครียดคือ ตอนที่มีปากเสียงกัน เราบอกให้เค้าออกไปจากบ้าน เค้ายืนกรานว่าไม่ไป เค้าไม่มีที่ไป (จริงๆก็พอมี แต่ไม่สุขสบาย และคงดูขี้แพ้ + ต้องไปอยู่กับคนทึ่ไม่ชอบเค้า) เราบอกเราจะเช่าห้องให้ ต้องออกไป เราไม่ไหวแล้ว แต่เค้าก็บอกไม่ไป (แบบกวนประสาทด้วย)
และจริงๆคือต้องขอบคุณแฟนเราด้วยที่ยังจับมือเราจนถึงตอนนี้ ทั้งๆที่แฟนเราก็เจอคำพูดแย่ๆที่แม่เราพูดใส่มากมาย เช่น “ลูกชั้นเลือกผัวผิด” “สกปรกโสโครก” และอีกมากมายที่เราพยายามไม่จำ
เราคงต้องหาวิธีแหละค่ะ จริงๆมาโพสต์ก็เหมือนระบายด้วย ใครจะว่าเราเราเข้าใจนะ มันก็ผิดขนบ ผิดความเป็นไทย บาปบุญต่างๆ แต่เราก็พยายามแล้วจริงๆ 😔
เราไล่แม่ออกจากบ้าน…
———————————————
ขออนุญาตลบข้อความนะคะ พอดีกระทู้มันถูกแชร์เยอะเกินแล้วค่ะ ไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้ คือเราโพสต์ส่วนหนึ่งก็ระบาย และส่วนหนึ่งก็อยากได้ความเห็นผ่านมุมมองของเราเอง ว่าถ้าคุณมองในมุมเรา คุณจะคิดประมาณไหน และเราก็ได้อ่านความเห็นทุกๆความเห็นแล้วค่ะ ในเฟซบุ๊คก็อ่านทั้งหมด อยากตอบกลับหลายๆความเห็น แต่คงไม่ได้ และจริงๆไม่ได้คิดว่าจะมีคนมาคอมเม้นต์เยอะขนาดนี้ เพราะทุกทีเราโพสต์ก็มีคนมาคอมเม้นต์ไม่เยอะค่ะ
ขอบคุณทุกๆความเห็นนะคะ เรื่องนี้เราเข้าใจค่ะ ว่ามันเล่าผ่านมุมเราคนเดียว และอาจจะทำให้แม่ดูไม่ดีเท่าไหร่ จริงๆแม่เราก็มีมุมดีค่ะ ดีมากๆ ไม่งั้นเราคงไม่เลี้ยงดู ไม่ให้แม่มาอยู่ด้วย และให้แฟนอดทนมานานขนาดนี้ แต่ถึงจุดๆนึง มันก็เป็นการตัดสินใจของครอบครัวเราแหละค่ะ
และ ณ วันที่พิมพ์เล่าเรื่องนี้ เหตุเกิดสดๆร้อนๆ เราอาจจะเรียบเรียงได้ไม่ดีนัก อาจจะดูไบแอสมากเกินไป แต่มันเรื่องจริงทั้งหมด คลิปวีดีโอเราก็มีค่ะ แต่เราไม่โพสต์นะคะ จริงๆถ่ายไว้เผื่อต้องใช้เฉยๆ และเราก็ไม่สามารถเล่าทุกเรื่องในชีวิตได้จริงๆ ชีวิตคนมันซับซ้อนเกินกว่าจะเล่าทั้งหมดได้ค่ะ
เอาเป็นว่านี่ไม่ใช่เรื่องแต่งแน่ๆค่ะ ถ้าย้อนกลับไป เรามีตั้งกระทู้ระบายชีวิตเราเป็นระยะๆ หลักหลายปีค่ะ เราคงไม่วางพลอตนิยายหลายๆปีล่วงหน้าหรอกค่ะ
ส่วนสถานการณ์ตอนนี้ เราก็พยายามเคลียร์กันอยู่ค่ะ ยังไม่มีบทสรุปว่ายังไง กำลังรอดูแหละค่ะ
———————————————
ก่อนหน้านี้เราเคยตั้งกระทู้เรื่องปัญหาแม่ยายลูกเขย ต่อมาด้วยการที่แม่เราไม่อยากเลี้ยงหลาน
เล่า Background คร่าวๆนะคะ
แม่เรามีเราตอนอายุประมาณ 25 พ่อเรามีฐานะและมีภรรยาหลายคน แม่เราไม่ใช่คนแรก และไม่ใช่คนสำคัญ พ่อส่งเสียดีบ้างไม่ดีบ้าง แม่ก็ดิ้นรนเลี้ยงดูเรา จนเราจบป.ตรี (พ่อก็ส่งค่ะ แต่ไม่ได้สุขสบาย)
สำหรับแม่ นี่คือการลงทุน ในวันที่เราทำงานแล้ว แม่ต้องการเก็บดอกเก็บผล ให้เราชดใช้บุญคุณที่แม่เลี้ยงดูเรามา เราให้เงินแม่ตลอด ช่วยผ่อนบ้าน ให้ตามกำลัง จนเราทำงานมีเงินเดือนที่ดีแม่ในวัยประมาณ 49-50 ก็ไม่ต้องทำงานขายของตลาดนัดอีก ได้เป็นคุณนายอยู่บ้านไม่ต้องทำงานหาเงินตามที่แม่ฝันมาตลอด
แม่คงฝันสลายในวันที่เราท้อง ตอนนั้นเราอายุ 25 แฟนเรารับผิดชอบ ก็แต่งงานกันไป เรากับแฟนซื้อบ้านใหม่ แม่เรามาอยู่ด้วย บ้านเดิมที่ยังผ่อนไม่หมดก็ปล่อยเช่า (ค่าเช่าเยอะกว่าเงินที่ผ่อน)
แม่เราช่วยเลี้ยงลูกช่วงกลางวัน เพราะเราและแฟนก็ต้องทำงาน ก็มีปัญหากันมาเรื่อยๆตามแบบครอบครัวที่ไม่ค่อยลงรอยกัน
เราพยายามดูแลแม่เท่าที่เราทำได้ เรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านเรากับแฟนดูแลทั้งหมด เรามีบัตรเครดิต(บัตรเสริม)ให้แม่ไว้รูดซื้อของ/เติมน้ำมัน ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวแม่เราซื้อให้ทั้งหมด เข้าซุปเปอร์มาเก็ตเราจ่ายหมด ของกิน ของสด เท่าที่เราจ่ายได้ นอกเหนือจากนั้นเราก็ให้เงินสดแม่ไว้ 4-5,000 ต่อเดือนตามกำลัง ไว้กินนู่นนี่ บางเดือนมีเยอะก็ให้พิเศษ
แม่เราเจ้าระเบียบประมาณนึง และพูดจาไม่ถนอมน้ำใจคนอื่น ไม่ว่าจะเรา แฟนเรา หรือลูกเรา ซึ่งแฟนเราไม่ได้มาจากครอบครัวแบบนี้ พ่อแม่เค้าไม่มาด่าลูกแบบทึ่แม่เราทำ และที่ทำให้แฟนเราหมดความเคารพกับแม่เรา ก็คือการที่แม่เราชอบทวงบุญคุณในทุกๆอย่างที่เค้าทำ ทั้งเลี้ยงเรา เลี้ยงหลาน ทุกๆอย่าง
เราพยายามคุยกับแม่หลายต่อหลายรอบ ว่าทำไมไม่คิดว่าครอบครัวเดียวกัน ช่วยกันทำ แบ่งเบากัน ทำไมต้องคิดว่ามันคือการทำงานแลกข้าวแลกที่อยู่ และพูดเหน็บแนมกันตลอดเวลา แต่ก็ไม่เป็นผล คุยทีนึง ก็เหมือนดีขึ้นแป๊บนึง แต่นิสัยมันคงเปลี่ยนกันไม่ได้ สุดท้ายวนลูป
ทุกอย่างมากสะสม จนเราป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เราหาหมอ กินยา เราชวนแม่ไปหาหมอด้วยกัน แม่ไม่ไป หมอสั่งยามาให้แม่ เราเอาให้แม่กิน หลอกล่อ แม่ก็ไม่กิน เราพยายามจะดีขึ้น เราพยายามอดทน
ก่อนหน้านี้ก็มีที่เราปรี๊ดแตก ทนไม่ไหว ช่วงนั้นเราหัดขับรถใหม่ๆกับยังไม่เก่งเลย มีปากเสียงกัน แม่ปาถ้วยจานลงพื้นเยอะมากแบบระบายอารมณ์ ทำลายข้าวของ เรากับแฟนและลูกก็ขับรถออกไปข้างนอก เราขับ แม่ส่งรูปเชือกแขวนคอมาในไลน์เราตอนเราขับรถ เราเครียดมาก รถแทบชน แต่ไม่เป็นไร เรารีบขับรถวนกลับบ้าน แม่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น บอกถ้วยจานของชั้นเอง ชั้นเก็บกวาดเอง
และเราก็ยังคงอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม
ช่วงหลังๆแม่เรากับแฟนก็มีปากเสียงกัน เราไม่ได้เบรคแฟนมากเท่าช่วงแรกๆ เพราะเราก็เริ่มไม่อยากจะทนเหมือนกัน และเราก็สงสารแฟน และคิดว่าเค้าก็ทนมามากพอแล้ว สถานการณ์ก่อนเกิดเหตุล่าสุดก็คือ แม่เราไม่คุยกับแฟนเรา แต่พูด-ดันให้ได้ยินตลอด ด่าผ่านเราบ้าง ลูกเราบ้าง
เหตุการณ์คือ
ลูกเราเล่นของเล่นวางเกะกะ ตะโกนมาบอกให้เก็บ(คิดว่าบอกเรา แต่เรากับแฟนอยู่ด้วยกัน) เราบอกเดี๋ยวให้ลูกเก็บเองโตแล้ว(5 ขวบ) และแม่ก็บ่นๆพูดจาไม่ค่อยดี แฟนเราก็บอก ถ้าไม่ทำก็อย่าบ่น (คือหลังๆแม่เราไม่ค่อยทำอะไร แต่จะบ่น/ใช้ให้เราทำใช้แฟนเราผ่านเรา) แม่เราก็พูดขึ้นมาว่า “เ สื อ ก ๆๆๆๆ” แบบพูดใส่
ตรงนี้เราก็ไม่โอเค บอกเค้าว่าให้พูดจาดีๆหน่อย แฟนเราก็ไม่โอเค บอกแบบนี้มันอยู่ด้วยกันไม่ได้นะ ต้องคุยกัน ตอนแรกแฟนจะคุยเลยคืออารมณ์กำลังมา เราเบรคไว้เลยพากันไปกินข้าวข้างนอกก่อน กลับบ้านมาค่อยว่ากัน
และถึงจุดหัก คือแฟนเราก็ไปคุยกับแม่ แน่นอนว่าแม่เราไม่เข้าใจอะไรเลย คุยด้วยเหตุผลไม่ได้ ทวงบุญคุณทุกอย่าง และเค้าทำทุกอย่างดีแล้ว บอกเราว่าแฟนเราพูดจาให้เค้าเจ็บช้ำน้ำใจตั้งมากมาย แต่เอาความเป็นจริงแล้ว แฟนเราไม่ใช่คนพูดมาก หลายๆเหตุการณ์ที่เราอยู่ด้วย แม่เรามันจะพูดบ่นหรือด่าแฟนก่อน และแฟนเราก็สวนกลับไป มันไม่มีการที่แม่เราอยู่เฉยๆแล้วแฟนเราไปด่า อันนี้ไม่มีแน่นอน
และการทวงบุญคุณมากมาย ท่วมหัว ที่เราคงไม่มีวันชดใช้หมด เราไม่ไหวจริงๆ ชีวิตเรามันไม่ใช่ของเราแล้ว เราจะต้องทนแบบนี้ไปอีกกี่ปี สิบปี ยี่สิบปี ต้องให้แฟนเราทนไม่ไหว ไปอยู่ที่อื่น ครอบครัวเราพัง เรากับแฟนเลิกกัน ลูกเราขาดพ่อ แบบนี้ถึงจะพอใจใช่มั้ย อยู่กันแบบถนอมน้ำใจ ปรับตัวเข้าหากันไม่ได้ก็คงต้องพอ
เราเลือกครอบครัวเรา พ่อ แม่ ลูก คือเรา แฟนเรา และลูกเรา เราพอแล้ว แม่ท้าเราหลายรอบ มาพูดแบบนี้จะไล่แม่ใช่มั้ย เราพยายามอดทน เราทนได้แค่นั้นแหละ เราไล่แม่แล้ว… เราอยู่ด้วยกันไม่ได้แล้ว พอแล้ว
แม่เราทวงบุญคุณ เราบอกจะให้ทำยังไง เอาชีวิตเราไปเลยมั้ย ฆ่าเราให้ตายเลยสิ แม่บีบคอเรา และลงไปเอามีดมา ขู่จะฆ่าเรา ฆ่าลูกเรา และฆ่าตัวตาย บอกให้เราฆ่าเค้า ฆ่าให้ตายกันให้หมด เราปิดประตูล็อคห้อง เรา แฟนเรา ลูกเรา อยู่ด้วยกันในห้อง แม่ลับมีดอยู่หน้าห้อง แบบเสียงมีดสีกันอ่ะค่ะ ขู่สารพัด ไม่มีใครออกไปจากห้อง ลูกเรากลัวมาก เรากอดลูก ลูกเราตัวสั่น แบบสั่นเลยอ่ะค่ะ มันเจ็บหัวใจมากๆ ทำไมลูกเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ ทำไมครอบครัวเราต้องมาเจออะไรแบบนี้
สักพัก เรียกลูกเราไปหา ลูกเราก็ร้องอยากไปหายาย เพราะลูกเรารักยายมาก ติดยาย นอนกับยาย ลูกเราตะโกนถาม ยายมีมีดมั้ย แม่เราบอกไม่มี ให้มาหายาย แต่เราก็รั้งลูกไว้ ไม่ยอมให้ลูกออกไป จนลูกยอมอยู่ในห้อง สักพัก เสียงมีดมาอีกแล้ว ลูกเราบอกยายโกหก ยายมีมีด และบอกว่าเค้ากลัวยาย
เรารอจนดึก แม่เข้าไปอยู่ในห้อง เรากับแฟนเราและลูกเราเลยแอบย่องออกจากบ้าน ขับรถไปนอนโรงแรมกันตอนตีหนึ่งกว่าๆ
และขณะที่พิมพ์อยู่ตอนนี้เรากำลังขับรถพาลูกเราไปบ้านแฟนที่ตจว ไปฝากไว้กับย่าก่อน และเรากับแฟนถึงจะกลับบ้าน อย่างน้อยๆแม่ก็เอาลูกเราเป็นตัวประกันไม่ได้ และค่อยมาเจรจากัน
สำหรับเราตอนนี้ เราคงไม่สามารถอยู่กับแม่ได้แล้วจริงๆ เราพยายามแล้ว แม่คงด่าเรา เอาเราไปด่าสารพัดกับทุกคนที่จะด่าได้ ว่าลูกเนรคุณ ลูกอกตัญญู แต่เราคงต้องยอมแล้ว ถ้ามันจะบาป ก็ให้มันบาปที่เรา ที่ผ่านมาเราไม่อยากบาป อยากเป็นคนดีและกตัญญู บาปเลยไปตกที่แฟนเรา ที่ลูกเรา และสุขภาพจิตของเราแทน
เรายังไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะเจรจากับแม่ยังไงต่อ แฟนเราก็ไม่ไหว บอกว่าอยู่กับเค้าไม่ได้แล้ว เค้าป่วย และมันเสี่ยงกันไป
ที่เครียดคือ ตอนที่มีปากเสียงกัน เราบอกให้เค้าออกไปจากบ้าน เค้ายืนกรานว่าไม่ไป เค้าไม่มีที่ไป (จริงๆก็พอมี แต่ไม่สุขสบาย และคงดูขี้แพ้ + ต้องไปอยู่กับคนทึ่ไม่ชอบเค้า) เราบอกเราจะเช่าห้องให้ ต้องออกไป เราไม่ไหวแล้ว แต่เค้าก็บอกไม่ไป (แบบกวนประสาทด้วย)
และจริงๆคือต้องขอบคุณแฟนเราด้วยที่ยังจับมือเราจนถึงตอนนี้ ทั้งๆที่แฟนเราก็เจอคำพูดแย่ๆที่แม่เราพูดใส่มากมาย เช่น “ลูกชั้นเลือกผัวผิด” “สกปรกโสโครก” และอีกมากมายที่เราพยายามไม่จำ
เราคงต้องหาวิธีแหละค่ะ จริงๆมาโพสต์ก็เหมือนระบายด้วย ใครจะว่าเราเราเข้าใจนะ มันก็ผิดขนบ ผิดความเป็นไทย บาปบุญต่างๆ แต่เราก็พยายามแล้วจริงๆ 😔