มีใครเคยเลิกกับแฟนเพราะไม่ยอมแต่งงานไหมค่ะ

มีแฟนคบกันมาได้ 9ปี แล้วค่ะ ตอนนี้อายุเรากำลังเข้าเลข 3  เราเคยพูดคุยเรื่องแต่งงานแบบไม่ได้จริงจังเมื่อ 3ปีที่แล้ว เขาและเราตอนนั้นก็คิดแค่ว่า ขอให้หน้าที่การงานของเราทั้งสองมั่นคงก่อน จนมาถึงปัจจุบัน หน้าที่การงานของเขาและเราก็เริ่มมั่นคงค่ะ เหลือแค่สถานะการเงินที่ยังมีหนี้สิน ถ้าจะรอให้หนี้หมดเลยก็คงจะไม่ได้แต่งสักที พอเราถามเขาเรื่องแต่งงาน เขาก็บอกว่าไม่แต่ง ไม่มีเงิน เราก็บอกเขาว่าบ้านเราไม่ได้เรียกร้องอะไร เราแค่อยากทำให้ถูกต้อง จัดแค่เล็กผูกข้อมือในครอบครัวก็พอ เขาก็ไม่ยอม พอเราบอกยังงั้น จดแค่ทะเบียนสมรสก็พอ เขาก็บอกมาว่า มันก็แค่กระดาษใบนึงคนเราจะเลิกกันจดไปก็เลิกกันอยู่ดี คือเราไม่ได้มองแบบนั้นค่ะ เรามองว่า มันคือการให้เกียรติเรา แล้วชัดเจนกับเรา ในทุกวันนี้ในโลกโซเชี่ยวของเขาไม่มีแต่รูปคู่ของเรา หรือรูปเราิบางครั้งเราคอมเมนเขาก็ลบออก แต่เราก็ไม่ได้คิดมากเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่ที่เราสนใจ คือเราก็อยู่กินด้วยกันมานาน จนคนในที่ทำงานหรือญาติผู้ใหญ่เขาก็ถาม แต่กันได้แล้วนะ เราก็เลยยื่นคำขาดกับเขาไปถ้าภายในปีหน้าเขาไม่แต่ง เราคงจะขอเลิก เพราะเหมือนปลายทางเขากับเรามองไม่เหมือนกัน เขามองแค่อยู่ไปวันๆ ส่วนเรามองอยากสร้างอนาคต ตอนนี้เรามีหนี้สินที่ผ่อนร่วมกันค่ะ ใช้กระเป๋าเงินเดียวกัน เราเป็นคนจ่ายเงินให้เขาเป็นอาทิตย์ ค่าใช้จ่ายหนี้สิน ของใช้เราดูแลหมด ทุกอย่างเวลาไปไหน ทำกับข้าวงานบ้าน เราทำให้หมดทุกอย่าง เขามีหน้าที่แค่ออกไปทำงานแล้วกลับบ้าน ส่วนตัวเราก็ทำงานนอกบ้านเหมือนกัน  เราเหนื่อยแต่เราก็มีความสุขที่ได้ดูแลเขา ถ้าหากเราจะเลิกเราก็เสียดายนิสัยในส่วนอื่นดีๆของเขาและครอบครัวของเขาที่เมตตาเอ็นดูเรา  แต่ตอนนี้เราก็ไม่รู้จะไปต่อยังไงค่ะ แล้วก็ไม่อยากเริ่มต้นกับใครใหม่ด้วย  อาจจะพิมพ์งงหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
Classic Case ของคนยุคนี้แหละครับ อยู่ก่อนแต่งกับแฟนมาเก้าปีสิบปี  สุดท้ายจะได้แต่งกับแฟนใหม่ที่คบปีสองปี

เพราะไม่มีเวลาแล้ว

โดนผู้ชายปั่นค่านิยมอยู่ก่อนแต่งจนชิน จริงๆ ธรรมเนียมนี้ไม่ควรเกิน สองสามปีเต็มที่ครับ เกินนั้นคือผู้ชายเอาเปรียบทั้งนั้น


กรณีนี้คือทำไมเขาต้องทำอะไรมากขึ้นเพื่อให้ได้ทุกอย่างเท่าเดิม เหมือนเดิม ถูกมั๊ยครับ ?
ความคิดเห็นที่ 23
เหมือนอ่านเรื่องตัวเองเมื่อ 4 ปีที่แล้วเลยค่ะ

4.5 ปีที่แล้ว เราคบแฟนเก่ามา 6 ปี อายุตอนนั้น 29 พูดเรื่องแต่งงานมาตั้งแต่เรียนจบว่า อยากแต่งก่อน 30

พูดทุกครั้ง ทะเลาะกันทุกครั้ง เหตุผลที่อ้างคือ ยังไม่ได้บวช เราบอกก็บวชสิ ก็อ้างต่อว่า ไม่มีเงินเพราะต้องจัดงานใหญ่ (บวช)

เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆค่ะ สุดท้ายเราก็จับเข่าคุยว่าจะเอายังไง จะให้เวลาอีกปี (เหมือนคุณเลย) คำตอบที่ได้มันคือการที่เค้าไม่แคร์เราเลย

ตอบแบบรำคาญ เบื่อที่ต้องคุยเรื่องนี้ จุดนั้นเรารู้ด้วยตัวเองว่ามันต้องพอแล้ว มองอนาคตที่จะเดินไปด้วยกันไม่ได้เลย

สรุปว่าเลิกค่ะ


หลังจากนั้น 4 เดือนเราเจอแฟนปัจจุบัน ตอนคุยกันได้สักพัก แฟนขอคบ เราก็ถามเลยว่าคิดจะแต่งงานมั้ย ถ้าคิด จะแต่งประมาณอีกกี่ปี

เพราะเราเข็ดกับการรอไปเรื่อยๆค่ะ ถ้าเป้าหมายไม่ตรงกัน จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลา คำตอบจากแฟนคือ ไม่เกิน 3 ปี ซึ่งเราโอเค ก็เลยคบกัน

จากวันที่คบกัน 2 ปีต่อมา เราจดทะเบียนสมรส+ซื้อบ้าน
และตอนนี้ 4 ปีที่คบกันมา เรากำลังจะจัดพิธีแต่งเดือนหน้า และปีหน้าค่อยจัดเลี้ยงค่ะ



ที่พิมพ์มายืดยาวคืออยากจะบอกว่า

- ถ้าตัวเราเองบอกตัวเองว่าไม่ไหว ให้ฟังเสียงจากใจเราค่ะ เพราะแปลว่ามันถึงจุดที่ไม่ไหวแล้วจริงๆ
- เราไม่เคยต้องการจัดงานใหญ่โต แต่เราต้องการแต่งงานค่ะ
- ทะเบียนสมรสสำคัญที่สุด ใครบอกกระดาษใบเดียว ไม่จริงค่ะ นอกจากเราจะมีสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เรายังสามารถจัดการอีกฝ่ายได้ถ้าหากเกิดเหตุไม่ดีขึ้น เช่น อุบัติเหตุ เสียชีวิต กฎหมายคุ้มครองให้คู่สมรสมีสิทธิ์ตัดสินใจค่ะ ซึ่งเรื่องนี้สำคัญมาก แต่บางคนไม่เข้าใจ
- การอยู่ก่อนแต่งมีทั้งข้อดี/ไม่ดี ค่ะ เราเองสนับสนุนการอยู่ก่อนแต่ง เพราะจะทำให้รู้ว่าเวลาแต่งจริงๆแล้วจะอยู่ด้วยกันได้มั้ย คนจะจริงใจ ไม่เกี่ยวว่าอยู่ก่อน/หลังแต่งค่ะ แต่ต้องคุยกัน วางแผนเป็นเรื่องราว ว่าจะใช้เวลาก่อนแต่งนานแค่ไหนค่ะ



สุดท้าย ขอให้คิดถึงตัวเองเยอะๆค่ะ คำพูดคนอื่นที่ว่า คบมาตั้งนาน อยู่กับเค้าไปแล้ว ไม่ต้องหวังว่าจะได้แต่ง อย่าใส่ใจค่ะ เพราะคนฟังแล้วเจ็บคือคุณเอง รักตัวเองเยอหะๆนะคะ
ความคิดเห็นที่ 1
ดูไม่มีอะไรผูกพัน วันหนึ่งอยากเลิก เขาไปได้เลย

เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เขาจะมีส่วนดีบ้าง ไม่งั้นคุณจะอยู่กินกับเขาเหรอ

แต่เรื่องจะอยู่ด้วยกันไปทั้งชีวิต มันก็ต้องชัดเจนด้วย ในกรณีนี้ คุณก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรเลย แต่แฟนคุณก็ไม่ถอยให้สักก้าว

เราเชียร์ให้ไปหาคนอื่นเถอะ

ว่ากันตามตรง คุณก็เป็นเมียเขาไปแล้ว กะอีแค่จัดงานแต่ง หรือจัดทะเบียน ให้เกียรติคุณตามศักดิ์ศรี ตามกฎหมาย ยังให้ไม่ได้เลย

สำหรับเรา เราก็มีพ่อแม่อ่ะ เราก็นึกถึงพ่อแม่เราด้วย แล้วอีกอย่าง แฟนคุณปฏิเสธทุกทาง บอกตามตรง ไม่กล้ามีลูกด้วย อะไรก็ไม่เอาสักอย่าง
แต่ส่วนหนึ่งเราว่าเขามั่นใจในความสัมพันธ์นี้ด้วย เพราะคุณสปอยล์เขามากอ่ะ  เขาคงเดาออก ต่อให้เอาแต่ใจ คุณก็คงไม่ไปไหนอยู่ดี ของตายสุดๆ วันหนึ่งพ่อแม่คุณถามว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน คุณก็น้ำท่วมปากไป เพราะผู้ชายชัดเจนมาก
ความคิดเห็นที่ 7
เราลังเลว่าจะออกความเห็นดีไหม เพราะดูเจ้าของกระทู้ยืนยันว่าจะให้โอกาสอีก 1 ปี แต่ก็ตัดสินใจเขียนเพราะเผื่อช่วยเซฟเวลาเจ้าของกระทู้ได้

เราคิดว่าไม่ควรรอถึงปีหน้าค่ะ มากสุดคือสิ้นปีนี้ให้ตัดสินใจก็พอแล้ว ถ้าจะแต่ง เส้นตายคือทำพิธีหรืออะไรสักอย่างไม่เกิน 6 เดือนหลังจากตกลง

คุณไม่ได้ขอมากไป ถ้าเค้ารักและให้เกียรติคุณ เค้าต้องทำได้ค่ะ

อย่าคิดว่าตัวเองไม่มีค่าเพราะวิธีที่เค้าทรีทคุณ บางคนก็แค่เอาแต่ตัวเองเป็นใหญ่ค่ะ อย่าด้อยค่าตัวเองแต่ให้คิดว่าอยากได้อะไรกันแน่แล้วหาคนที่ให้ได้ดีกว่าค่ะ สัญญาเลยว่าถ้าคุณเด็ดขาด.... 1 ปีหลังจากนั้นคุณจะขอบคุณตัวเอง
ความคิดเห็นที่ 8
คิดเหมือนความเห็น 7 เลยค่ะ คือให้เขาตัดสินใจภายในสิ้นปี แค่ตัดสินใจ มันไม่ได้ต้องเสียเงินอะไรเลย จะอ้างไม่มีเงินไม่ได้ จะผูกข้อไม้ข้อมือ หรือจดทะเบียนสมรสก็ได้ มันไม่ได้เปลืองเงินเลย แต่ถ้าเขาไม่ตัดสินใจ หรือยืนยันคำเดิม ก็ควรจบค่ะ นอกเสียจากว่า คุณรับได้ที่จะอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่แต่งไม่จดไม่อะไรทั้งนั้น ถ้ารับได้ ก็อยู่ไปได้เรื่อยๆ ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่