แต่งงานมาเข้าปีที่ 16 ลูกหนึ่งคนอายุ 15 ปัญหาของแต่ละครอบครัวคงไม่เหมือนกัน
เรากับแฟน นิสัยต่างกันมากๆคะ แรกๆไม่ได้คิดมากอะไร นึกว่าอยู่ไปๆ มันจะปรับตัวกันได้ เราเป็นคนง่ายๆสบายๆ ส่วนแฟนเป็นคนจู้จี้ ขี้บ่น บ่นทุกเรื่อง
ตั้งแต่สากกะเบือ ยันเรือรบ พอเข้าบ้านมาก็บ่น บ้านสกปรก ตู้เย็นสกปรก น้ำหยดพื้น ผมเส้นหนึ่งตกพื้นก็บ่น เราคิดทำไมต้องบ่น เห็นก็เก็บสิ ทำไมต้องบ่นด้วย
เฮ้อ ชีวิต ที่ทนไม่ได้ ก็คือ ลูกหนีออกจากบ้าน
รอบแรก กลัวพ่อจะโมโห โกรธ เมื่อถึงบ้าน เลยหนีออกจากบ้าน ไม่กล้าเข้าบ้าน จนต้องแจ้งตำรวจให้ตามหาตัว ดีที่หาเจอ ตอนเช้าของอีกวัน
ครั้งที่สอง ลูกทะเลาะกับพ่อ แทบจะตีกันในบ้าน เลยหนีออกจากบ้านโดยที่ไม่ได้เอาเงิน หรือมือถือติดตัวไปเลย ต้องให้ตำรวจตามหาอีก เกือบได้ใช้สุนัขตำรวจตามรอย ดีที่กลับมาบ้านเอง ตอน ห้าทุ่ม
สรุปว่า ลูกหนีออกจากบ้าน ทั้งสองครั้ง เราเป็นธุระจัดการเอง ตามหาเอง โทรแจ้งตำรวจเอง ฯลฯ พ่อมันไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ บอกจะนอน อย่าทำหนวกหู เด็กมันไปเองเดี่ยวมันก็กลับเอง พอจบเรื่อง ยังมาทะเลาะกับเรา บอกลูกเป็นเด็กมีปัญหา อยากจะหย่า ไม่เอาทั้งเราและลูก บอกว่าอยากใช้ชีวิตสงบๆอยู่คนเดียว เราทำใจว่าเออ หย่าก็หย่า แต่พอเราไปคุยกับลูกๆ ไม่อยากให้หย่า ถ้าหย่า มันบอกจะหนีออกจากบ้านอีก
แต่พอมาอีกวัน พอพ่อมันหายโกรธ ก็ไปคุยกับลูก ไปคืนดีกัน บอกจะส่งไปเรียนพิเศษ จะได้ไม่มีปัญหาที่โรงเรียน ( ลูกเราไม่สบาย เป็นภาวะการปรับตัวผิดปรกติ มีกรีดข้อมือ และกินยาเกินขนาด หยุดเรียนไป 3 เดือน นอนอยู่ รพ.) ทำให้เรียนตามเพื่อนไม่ทัน เวลามีสอบทีก็ไม่อยากไป นอนไม่หลับ เครียด กังวลมากเกินปกติ คุยกับหมอประจำตัวแล้ว หมอแนะนำให้ นอน รพ.สักระยะ ดรอปเรียนไปสักปี เพื่อรีเซตสุขภาพ อาการดีขึ้นแล้วค่อยกลับไปเรียนซ้ำชั้นใหม่ แต่แฟนเราไม่ยอม ไม่อยากให้นอน รพ. ไม่อยากให้ลูกเรียนซ้ำชั้น ถ้าเอาลูกนอนรพ. มันบอก มันจะหย่า เลิกยุ่งเลย หมอก็ถามเราว่า เราคิดยังไง เราบอกเราห่วงชีวิตลูกเรามากกว่า แล้วแต่ลูก ว่าอาการดีหรือแย่ถ้าไม่ได้นอนรพ. สรุปหมอเลย ขอดูอาการอีกสัก 2 อาทิตย์ แล้วค่อยตัดสินใจกันอีกที
สถานการณ์ปัจจุบัน ตอนนี้ ให้ลูกไปเรียนพิเศษหลังเลิกเรียน ทุกวัน เราก็ดูและสังเกตอาการกันไปก่อน
จากสถานะการณ์ที่เล่ามาแล้ว สรุปว่า เราเหนื่อย กับแฟน และลูกมาก แต่ก็ต้องอดทนต่อไป เราอยากหย่า แต่เราก็ห่วงลูก อยากจะรอให้ลูกอายุ 18 ก่อน เพื่อว่าตอนหย่าไป ลูกจะไม่ต้องมาเลือกว่าอยากอยู่กับใคร ตอนนั้นเค้าโตพอที่จะตัดสินใจเองว่าจะหางานทำ หรือว่าจะเรียนต่อ และสามารถรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว
ทำไมชีวิต มันต้องเหนื่อยแบบนี้ด้วยนะ มีใครพอมีประสบการณ์วุ่นวายแบบนี้บ้างไหมคะ และผ่านมันมาแบบไหน เอามาแบ่งปัน แชร์ประสบการณ์กัน มาช่วยกันปลอบใจและเป็นกำลังใจ ซึ่งกันและกันคะ
เบื่อชีวิตคู่
เรากับแฟน นิสัยต่างกันมากๆคะ แรกๆไม่ได้คิดมากอะไร นึกว่าอยู่ไปๆ มันจะปรับตัวกันได้ เราเป็นคนง่ายๆสบายๆ ส่วนแฟนเป็นคนจู้จี้ ขี้บ่น บ่นทุกเรื่อง
ตั้งแต่สากกะเบือ ยันเรือรบ พอเข้าบ้านมาก็บ่น บ้านสกปรก ตู้เย็นสกปรก น้ำหยดพื้น ผมเส้นหนึ่งตกพื้นก็บ่น เราคิดทำไมต้องบ่น เห็นก็เก็บสิ ทำไมต้องบ่นด้วย
เฮ้อ ชีวิต ที่ทนไม่ได้ ก็คือ ลูกหนีออกจากบ้าน
รอบแรก กลัวพ่อจะโมโห โกรธ เมื่อถึงบ้าน เลยหนีออกจากบ้าน ไม่กล้าเข้าบ้าน จนต้องแจ้งตำรวจให้ตามหาตัว ดีที่หาเจอ ตอนเช้าของอีกวัน
ครั้งที่สอง ลูกทะเลาะกับพ่อ แทบจะตีกันในบ้าน เลยหนีออกจากบ้านโดยที่ไม่ได้เอาเงิน หรือมือถือติดตัวไปเลย ต้องให้ตำรวจตามหาอีก เกือบได้ใช้สุนัขตำรวจตามรอย ดีที่กลับมาบ้านเอง ตอน ห้าทุ่ม
สรุปว่า ลูกหนีออกจากบ้าน ทั้งสองครั้ง เราเป็นธุระจัดการเอง ตามหาเอง โทรแจ้งตำรวจเอง ฯลฯ พ่อมันไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ บอกจะนอน อย่าทำหนวกหู เด็กมันไปเองเดี่ยวมันก็กลับเอง พอจบเรื่อง ยังมาทะเลาะกับเรา บอกลูกเป็นเด็กมีปัญหา อยากจะหย่า ไม่เอาทั้งเราและลูก บอกว่าอยากใช้ชีวิตสงบๆอยู่คนเดียว เราทำใจว่าเออ หย่าก็หย่า แต่พอเราไปคุยกับลูกๆ ไม่อยากให้หย่า ถ้าหย่า มันบอกจะหนีออกจากบ้านอีก
แต่พอมาอีกวัน พอพ่อมันหายโกรธ ก็ไปคุยกับลูก ไปคืนดีกัน บอกจะส่งไปเรียนพิเศษ จะได้ไม่มีปัญหาที่โรงเรียน ( ลูกเราไม่สบาย เป็นภาวะการปรับตัวผิดปรกติ มีกรีดข้อมือ และกินยาเกินขนาด หยุดเรียนไป 3 เดือน นอนอยู่ รพ.) ทำให้เรียนตามเพื่อนไม่ทัน เวลามีสอบทีก็ไม่อยากไป นอนไม่หลับ เครียด กังวลมากเกินปกติ คุยกับหมอประจำตัวแล้ว หมอแนะนำให้ นอน รพ.สักระยะ ดรอปเรียนไปสักปี เพื่อรีเซตสุขภาพ อาการดีขึ้นแล้วค่อยกลับไปเรียนซ้ำชั้นใหม่ แต่แฟนเราไม่ยอม ไม่อยากให้นอน รพ. ไม่อยากให้ลูกเรียนซ้ำชั้น ถ้าเอาลูกนอนรพ. มันบอก มันจะหย่า เลิกยุ่งเลย หมอก็ถามเราว่า เราคิดยังไง เราบอกเราห่วงชีวิตลูกเรามากกว่า แล้วแต่ลูก ว่าอาการดีหรือแย่ถ้าไม่ได้นอนรพ. สรุปหมอเลย ขอดูอาการอีกสัก 2 อาทิตย์ แล้วค่อยตัดสินใจกันอีกที
สถานการณ์ปัจจุบัน ตอนนี้ ให้ลูกไปเรียนพิเศษหลังเลิกเรียน ทุกวัน เราก็ดูและสังเกตอาการกันไปก่อน
จากสถานะการณ์ที่เล่ามาแล้ว สรุปว่า เราเหนื่อย กับแฟน และลูกมาก แต่ก็ต้องอดทนต่อไป เราอยากหย่า แต่เราก็ห่วงลูก อยากจะรอให้ลูกอายุ 18 ก่อน เพื่อว่าตอนหย่าไป ลูกจะไม่ต้องมาเลือกว่าอยากอยู่กับใคร ตอนนั้นเค้าโตพอที่จะตัดสินใจเองว่าจะหางานทำ หรือว่าจะเรียนต่อ และสามารถรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว
ทำไมชีวิต มันต้องเหนื่อยแบบนี้ด้วยนะ มีใครพอมีประสบการณ์วุ่นวายแบบนี้บ้างไหมคะ และผ่านมันมาแบบไหน เอามาแบ่งปัน แชร์ประสบการณ์กัน มาช่วยกันปลอบใจและเป็นกำลังใจ ซึ่งกันและกันคะ