สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 23
คำว่า “คู่เวร คู่กรรม” ความหมายก็ชัดเจนในตัวเองแล้วค่ะ
ว่าจะเลิกตามวิธี ปกติทั่วไปไม่ได้ ... ไม่ง่าย
ตราบใด ที่ยังมี กรรมหล่อเลี้ยงเอาไว้
เกลียดชังกันแล้ว ก็ยังต้องทนอยู่เหม็นหน้ากันไป
บางคู่ หาทางออกด้วยความรุนแรง
เพื่อผูกกรรมกันแน่นหนา หนักกว่าเดิมอีก
วิธีเลิกรา กับคู่เวร ได้เด็ดขาด คือ
_ กรรมเก่า ที่ส่งผลให้คู่คุณทุกข์อยู่นั้นต้องเป็นอโหสิกรรมต่อกันค่ะ
ไม่ใช่เอ่ย อโหสิกรรมแต่ปากนะคะ ต้องอโหสิกรรม จากใจทั้งคู่จริงๆ
แต่ถ้าอีกฝ่ายยังจองเวรอยู่ ยังเติมเชื้อไฟอยู่ ถ้าคุณอยากดับไฟ
คุณต้องไม่เติมเชื้อเพิ่ม และหมั่นราดน้ำเย็นๆดับกระแสร้อนนั้นเสีย
สังเกตง่ายๆ ถ้าใจคุณยังเร่าร้อนด้วยโทสะ
เห็นเขาเป็นสิ่งน่ารังเกียจ(แม้จะน่าเกลียดจริงๆก็เถอะ)
ยิ่งหากมีวาจา หรือ การกระทำ ทำร้ายกันด้วย ยิ่งผูกเวร ต้องอยู่ชดใช้กันไปอีกนาน
เพราะนอกจากกรรมเก่าส่งมา ยังมีเชื้อจากกรรมใหม่หล่อเลี้ยงไว้เนืองๆอีก
เมื่อคุณแม่นหลักข้อนี้
เมื่อใดก็ตาม ที่จิตใจเกิดอกุศลกับเขา คุณจะหันมาระวังที่จิตตัวเอง
จากที่เคยเพ่งโทษเขา คุณจะหันมาจัดการ กิเลสต่างๆที่เกิดในใจคุณ
นี่เท่ากับคุณ หยุดเติมเชื้อ และ ยุติ กรรม ทั้งหลายที่ตัวคุณก่อน
แรงกรรมที่มีอยู่ จะอ่อนลงไปครึ่งหนึ่งทันที
หากคู่คุณ เคยมีบุญร่วมกันมา
จะผ่านปัญหา ไม่เข้าใจกันไปได้ และจะปรับตัวเข้าหากันได้
ความเยือกเย็นจากจิตคุณนั่นแหละ จะเป็นแรงบันดาลใจให้เขา กระตุ้นให้เขาอยากเย็นตาม
หรืออย่างน้อย ความอยากเอาเรื่อง อยากอาละวาดจะทุเลาลง
ในเมื่อกรรม ลิขิตมาให้เป็น คู่เวร
ก็ต้องเปลี่ยนเส้นทางกรรมเดิม สู่วิถีใหม่ เป็นคู่บุญกัน
ถ้าทำไม่ได้ อย่างน้อย ให้ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้
สร้างบารมีให้ใจคุณ
ได้มีโอกาส บำเพ็ญ ทานบารมี อย่างต่อเนื่อง
ทานบารมี ที่ทรงพลัง ที่คุณจะได้เก็บเกี่ยวเอาจากคู่เวรได้เต็มที่ คือ “อภัยทาน”
อย่าเพิ่งใจเสีย ว่า ต้องฝืนให้อภัยหมอนี่ไปจนตายเลยรึไง ไม่ไหวมั้ง
ข่าวดีคือ มันจะลำบากแค่ช่วงแรกๆค่ะ
ฝืนไปสักช่วงหนึ่ง พอวันนึงที่คุณรู้สึกว่า ใจยังเยือกเย็นได้เมื่อเห็นหน้าเขา
อาการดิ้นรนผลักไสทางจิตลดน้อยลง เมื่อเห็นพฤติกรรมน่าชังของเขา
วันนั้นเป็นสัญญาณว่ากรรมเริ่มคลายตัว
ใบหย่า อาจจะได้มาง่าย กว่าที่คิดค่ะ
ว่าจะเลิกตามวิธี ปกติทั่วไปไม่ได้ ... ไม่ง่าย
ตราบใด ที่ยังมี กรรมหล่อเลี้ยงเอาไว้
เกลียดชังกันแล้ว ก็ยังต้องทนอยู่เหม็นหน้ากันไป
บางคู่ หาทางออกด้วยความรุนแรง
เพื่อผูกกรรมกันแน่นหนา หนักกว่าเดิมอีก
วิธีเลิกรา กับคู่เวร ได้เด็ดขาด คือ
_ กรรมเก่า ที่ส่งผลให้คู่คุณทุกข์อยู่นั้นต้องเป็นอโหสิกรรมต่อกันค่ะ
ไม่ใช่เอ่ย อโหสิกรรมแต่ปากนะคะ ต้องอโหสิกรรม จากใจทั้งคู่จริงๆ
แต่ถ้าอีกฝ่ายยังจองเวรอยู่ ยังเติมเชื้อไฟอยู่ ถ้าคุณอยากดับไฟ
คุณต้องไม่เติมเชื้อเพิ่ม และหมั่นราดน้ำเย็นๆดับกระแสร้อนนั้นเสีย
สังเกตง่ายๆ ถ้าใจคุณยังเร่าร้อนด้วยโทสะ
เห็นเขาเป็นสิ่งน่ารังเกียจ(แม้จะน่าเกลียดจริงๆก็เถอะ)
ยิ่งหากมีวาจา หรือ การกระทำ ทำร้ายกันด้วย ยิ่งผูกเวร ต้องอยู่ชดใช้กันไปอีกนาน
เพราะนอกจากกรรมเก่าส่งมา ยังมีเชื้อจากกรรมใหม่หล่อเลี้ยงไว้เนืองๆอีก
เมื่อคุณแม่นหลักข้อนี้
เมื่อใดก็ตาม ที่จิตใจเกิดอกุศลกับเขา คุณจะหันมาระวังที่จิตตัวเอง
จากที่เคยเพ่งโทษเขา คุณจะหันมาจัดการ กิเลสต่างๆที่เกิดในใจคุณ
นี่เท่ากับคุณ หยุดเติมเชื้อ และ ยุติ กรรม ทั้งหลายที่ตัวคุณก่อน
แรงกรรมที่มีอยู่ จะอ่อนลงไปครึ่งหนึ่งทันที
หากคู่คุณ เคยมีบุญร่วมกันมา
จะผ่านปัญหา ไม่เข้าใจกันไปได้ และจะปรับตัวเข้าหากันได้
ความเยือกเย็นจากจิตคุณนั่นแหละ จะเป็นแรงบันดาลใจให้เขา กระตุ้นให้เขาอยากเย็นตาม
หรืออย่างน้อย ความอยากเอาเรื่อง อยากอาละวาดจะทุเลาลง
ในเมื่อกรรม ลิขิตมาให้เป็น คู่เวร
ก็ต้องเปลี่ยนเส้นทางกรรมเดิม สู่วิถีใหม่ เป็นคู่บุญกัน
ถ้าทำไม่ได้ อย่างน้อย ให้ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้
สร้างบารมีให้ใจคุณ
ได้มีโอกาส บำเพ็ญ ทานบารมี อย่างต่อเนื่อง
ทานบารมี ที่ทรงพลัง ที่คุณจะได้เก็บเกี่ยวเอาจากคู่เวรได้เต็มที่ คือ “อภัยทาน”
อย่าเพิ่งใจเสีย ว่า ต้องฝืนให้อภัยหมอนี่ไปจนตายเลยรึไง ไม่ไหวมั้ง
ข่าวดีคือ มันจะลำบากแค่ช่วงแรกๆค่ะ
ฝืนไปสักช่วงหนึ่ง พอวันนึงที่คุณรู้สึกว่า ใจยังเยือกเย็นได้เมื่อเห็นหน้าเขา
อาการดิ้นรนผลักไสทางจิตลดน้อยลง เมื่อเห็นพฤติกรรมน่าชังของเขา
วันนั้นเป็นสัญญาณว่ากรรมเริ่มคลายตัว
ใบหย่า อาจจะได้มาง่าย กว่าที่คิดค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ขอ How to จัดการกับสามีที่มาในรูปแบบ “คู่เวรคู่กรรม”
ความยากของเรื่องนี้คือ
1.เราจดทะเบียนสมรสกัน ซึ่งจะมีเรื่องรถเข้ามาเกี่ยว เพราะเราซื้อหลังจด
2.งาน เราทำงานที่เดียวกัน
3.เขาไม่ยอมหย่า (ยากสุด) เขาบอกอยากหย่าก็ไปฟ้องเอา (เสียเวลา เสียทรัพย์)
ทางเดียวที่คิดออกคือ หนี หนีไปตอนที่เขาไม่อยู่ ไปในที่ๆเขาตามไม่เจอ (จริงๆไม่อยากทำ อยากให้จบกันด้วยดี)
เพื่อนๆมีความเห็นกันยังไงบ้าง