ถ้าต้องเลิกกับสามี แต่เรายังเป็นคนค้ำประกันรถยนต์ให้เขาอยู่

เราแต่งงานกับแฟน จดทะเบียนสมรส มีลูกด้วยกัน 1 คน ลูกสาว 2 ขวบแล้ว มีรถกะบะด้วยกัน 1 คัน เพิ่งจ่ายงวดไม่ถึง 2 ปี แต่ระหว่างที่อยู่ด้วยกันมา ตั้งแต่มีรถ เวลาทะเลาะกัน พักหลังๆ เขาชอบไล่เราหนี บอกหนีไปไกลๆ บอกให้ไปหาผู้ชายคนใหม่ ไม่ว่าจะทะเลาะกันเรื่องอะไร เล็กๆน้อยๆเขาก้ชอบจบด้วยการไล่เราหนี ตะคอก บางทีอารมณ์โมโหร้าย ปาข้าวของใส่เรา จับตัวเราทุ่มลงกับพื้น เวลาเรามีปัญหา ก้ชอบบ่นว่าชีวิตมีแต่ความทุกข์ บอกอยู่กับเรามันอึดอัด เพียงเพราะเราบอกให้ช่วยกันประหยัด ไม่ให้ซื้อเหล้ากินบ่อย เนื่องจากค่าใช้จ่ายเยอะ แต่รายได้น้อย แต่คงเพราะชีวิตเขาเหมือนต้องการแต่ความสุข เลยชอบพูดแบบนี้รึป่าว แต่เราก้ยังไม่ไปไหน คิดว่าถ้าพอทนได้ก้จะทน เราเงียบตลอดเวลาทะเลาะ ไม่อยากให้เรื่องมันบานปลาย แต่ความรู้สึกเราตอนนี้ เหมือนไม่อยากอยู่กับคนแบบนี้แล้ว เบื่อที่ต้องโดนไล่เหมือนหมูเหมือนหมา แต่เราคงจะจากเขาไปโดยที่ สัญญาในรถ ก้เป็นชื่อเราค้ำประกันอยู่ แล้วเงินที่ดาวน์รถที่เราออกช่วย 80000 เขา 70000 แม่เขา 60000 เราจะทำยังไง ถึงจะได้เงิน 80000 นั้นคืน เราอยากเอาเงินก้อนนั้น มาลงทุนเลี้ยงลูก อยู่กับลูกจะไม่ดีกว่าหรือ ตอนนี้ทนคิดถึงลูก ไม่ได้เลี้ยงเอง ฝากยายที่บ้านนอกเลี้ยง เราต้องทำงาน เพื่อช่วยผ่อนค่ารถ ให้จบภายใน 6 ปี เนื่องจากเคยฝันกันไว้ว่าถ้าส่งงวดรถจบ จะได้กลับไปทำงานอยู่บ้านนอกได้อยู่กับลูก ใช้รถในการลงทุนค้าขายอะไรสักอย่างด้วยกัน แต่เวลาทะเลาะกันเขาชอบพูดแบบนี้ เพราะรถเป็นชื่อเขาแต่เพียงผุ้เดียว เรากำลังคิดว่า จะเปลี่ยนสัญญาค้ำ ให้แม่เขาเป็นคนค้ำ แทนเรา เวลาเราจะเลิกกับเขาจริงๆ เราจะได้ไม่ต้องห่วง ว่าเราจะโดนไล่หนี้ กรณี ที่เขาค้างค่างวดไม่จ่าย แล้วไฟแนนซ์จะได้ไม่ต้องมาตามเรา ให้ตามกับแม่เขาแทน ส่วนเงิน 80000 และค่างวดที่ช่วยเขาจ่ายมา ก้ไม่รุ้จะได้หรือเปล่า แต่เราคิดว่าดีกว่าทนทุกข์ไปตลอดชีวิต เราคิดแบบนี้เราคิดผิดไหม..ขอความคิดเห็นหน่อยค่ะ บางทีก้สับสน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่