JJNY : ยิ่งลักษณ์ โชว์แว่น│จีนยกระดับตรวจสินค้าล้งไทยอีกรอบ│อดีตนายกอบต.โดนคดีทุจริต สมัครชิงอีก│ปิดคลินิก7วันปมฉีด‘J&J’

ยิ่งลักษณ์ โชว์แว่น Ray-Ban Stories หลังพูดถึงในคลับเฮาส์
https://www.matichon.co.th/politics/news_3034702
 
 
ยิ่งลักษณ์ โชว์แว่น Ray-Ban Stories หลังพูดถึงในคลับเฮาส์
 
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ถึงแว่น Ray-Ban Stories แว่นอัจฉริยะ ที่ถูกเอ่ยถึงในคลับเฮาส์ที่เข้าร่วมบรรยายกับทักษิณ ชินวัตร พี่ชายอดีตนายกรัฐมนตรีเมื่อคืนวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยข้อความระบุว่า
 
หลังจากออกคลับเฮ้าส์เมื่อคืนร่วมกับพี่โทนี่หลายคนคงอยากรู้รายละเอียดเพิ่มว่าแว่นอัจฉริยะ Ray-Ban ที่ทำร่วมกับ Facebook ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร วันนี้ดิฉันเลยขออนุญาตแชร์ภาพของแว่นอัจฉริยะที่เรียกว่า Ray-Ban Stories ให้ดูค่ะ

มีทั้งแว่นเลนส์สีดำกันแดด และแว่นใสแบบปรับแสงได้ แว่นนี้ยังไม่ใช่แว่นแบบที่เรียกว่า VR หรือ ภาพเสมือนจริง แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Facebook ในการพัฒนาเพื่อเข้าสู่โลกเสมือนจริงหรือ Metaverse  คุณสมบัติของแว่นตาอัจฉริยะชนิดนี้สามารถถ่ายภาพวิดีโอสั้นๆ 30 วินาที และภาพนิ่งได้ ดูผ่าน แอปพลิเคชัน Facebook View แต่ช่วงนี้ยังเปิดใช้ในไม่กี่ประเทศเช่น อังกฤษ อเมริกา อิตาลี และออสเตรเลีย ค่ะ ซึ่งภาพที่ได้จะเหมือนภาพที่เรามองผ่านแว่นตานี้ ดิฉันก็มีวิดีโอ และภาพที่ถ่ายมาจากแว่นอัจฉริยะมาฝากด้วยนะคะ ใช้รับโทรศัพท์ และฟังเพลงเชื่อมต่อกับบลูทูธได้เสียงดีเลย ลองดูนะคะว่าชอบกันไหม ส่วนดิฉันชอบเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ว่าวันนี้เขาพัฒนาไปถึงไหนแล้วเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กับตัวเองค่ะ และยังมีแว่นอัจฉริยะอีกหลายแบรนด์น่าสนใจ เช่น Huawei ร่วมกับ Gentle Monster และเร็ว ๆ นี้ Xiaomi ก็กำลังออกตามมา เลยขอเล่าสู่กันฟังค่ะ
 
ปล. วิดีโอสามารถดูได้จากสตอรี่นะคะ
 
https://www.facebook.com/Y.Shinawatra/posts/4903068436404239


 
ผวา จีนสั่งยกระดับตรวจสวนสินค้านำเข้าล้งไทยอีกรอบ
https://www.prachachat.net/economy/news-799451

กรมวิชาการเกษตร ย้ำเตือนเกษตรกร ผู้ประกอบการ จีนเกาะติดสถานการณ์โควิด ยกระดับตรวจคนและสินค้านำเข้าเข้มข้นสินค้าไทย กำชับปฏิบัติตามแนวทางป้องกันเชื้อโควิด FAO ชงกรมวิชาการเกษตรวางไทม์ไลน์สุ่มตรวจสวนและล้งไทยสร้างความมั่นใจทุก 2 สัปดาห์ เริ่มเดือนพฤศจิกายนนี้
 
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 นางสาวอิงอร ปัญญากิจ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรได้รับรายงานจากสำนักที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงปักกิ่ง ว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยที่ยังพบการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องและสถานการณ์การติดเชื้อ ทั่วโลกยังคงมีการแพร่ระบาดมากขึ้น
 
ทำให้จีนติดตามและตรวจสอบสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในไทยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรของไทยส่งออกไปจีน รวมทั้งยังมีการยกระดับเพิ่มมาตรการป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ทั้งในคนและสินค้านำเข้าโดยหน่วยงานทุกระดับต้องปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวอย่างเข้มงวด
 
ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตรในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแล การส่งออกสินค้าเกษตรให้เป็นไปตามเงื่อนไขของประเทศคู่ค้า จึงขอแจ้งให้ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุ/สวน ที่ขึ้นทะเบียนส่งออกผลไม้ไปยังประเทศจีนทั้งหมดของไทยทราบถึงสถานการณ์มาตรการความเข้มงวดของจีน ทั้งในส่วนประเด็นความปลอดภัยของเชื้อโควิดและศัตรูพืชไม่ให้ติดปนเปื้อนไปกับสินค้า รวมทั้งจีนได้เน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโควิดตามคู่มือความปลอดภัยอาหารสำหรับผู้ประกอบการ โดยยึดตามแนวปฏิบัติขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO)
 
เช่น การล้างมือ ระยะห่างในการยืนปฏิบัติงาน การยืนแบบสลับฟันปลา การตรวจวัดและบันทึกอุณหภูมิ การให้ความรู้/อบรมและการประชาสัมพันธ์มาตรการป้องกันโควิด การฉีดวัคซีนของพนักงาน ความถี่และแผนการตรวจโควิดเชิงรุก การพ่นฆ่าเชื้อบนบรรจุภัณฑ์และรถขนส่งสินค้า มาตรการในการควบคุมโควิดคนเข้าออกสถานประกอบการ มาตรการที่ใช้หากพบผู้ติดเชื้อ และมาตรการตรวจสอบย้อนกลับในสินค้า เป็นต้น รวมทั้งจีนยังให้ความสำคัญกับการสวมถุงมือในระหว่างการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัดด้วย
 
“ได้รับรายงานมาจากสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรฯ ประจำกรุงปักกิ่งว่าจีนมีความกังวลในมาตรการป้องกันและควบคุมเชื้อโควิดในโรงคัดบรรจุและสวนจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อมายังสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ และถูกนำมาเป็นประเด็นหลักที่จะพิจารณาระงับโรงคัดบรรจุ/สวนของไทย เพิ่มเติม
 
ดังนั้นจึงยกระดับการตรวจเชื้อโควิด-19 เข้มข้นขึ้น รวมทั้งยังขอสุ่มตรวจประเมินมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 สวนและโรงคัดบรรจุทุก 2 สัปดาห์ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยจะเริ่มทำการตรวจประเมินในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ กรณีที่ตรวจประเมินแล้วไม่ผ่านจะถูกระงับการส่งออกชั่วคราวและให้ไปปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องกลับมาให้พิจารณาใหม่ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าเรามีมาตรการการป้องกันเชื้อโควิด-19 ตามแนวทางปฏิบัติของ FAO และของจีน” รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าว
 


แปลกแต่จริง อดีตนายกอบต.โดนคดีทุจริต โผล่สมัครชิงตำแหน่งอีกรอบ
https://www.thairath.co.th/news/politic/2238797
 
วันที่ 9 พ.ย. 64 นายสนิท บุญทวี อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) ไทยสามัคคี อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ให้เร่งรัดตรวจสอบเอาผิดอดีตนายก อบต.ไทยสามัคคี พร้อมทั้งตรวจสอบคุณสมบัติด้วยว่า เป็นบุคคลที่ต้องห้ามขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เนื่องจากอดีตนายก อบต. คนดังกล่าว มีพฤติกรรมหนีหมายจับคดีทุจริตหลายโครงการที่ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดทั้งอาญาและวินัยไปแล้ว เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2562
 
โดยอดีตนายกฯ คนนี้ ได้หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่จนคดีหมดอายุความ ซึ่งผู้ร้องระบุว่า นอกจากจะเป็นที่กังขาเรื่องที่อดีตนายกฯ สามารถหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ได้ จนคดีหมดอายุความแล้ว ช่วงระหว่างที่หลบหนีการจับกุม ทำไมอดีตนายกฯ คนนี้ ยังมีการเบิกจ่ายเงินเดือน ค่าตอบแทน และเงินประจำตำแหน่งตามปกติ ยิ่งกว่านั้นเมื่อวันที่ 18 ต.ค. ยังโผล่ไปลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งเก้าอี้นายก อบต. ที่จะมีการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 28 พ.ย. 2564 ที่จะถึงนี้ได้อีกด้วย โดยที่ไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์ว่าเป็นบุคคลที่ขาดคุณสมบัติแต่อย่างใด จึงอยากให้ ป.ป.ช.หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีพยานหลักฐานว่าอดีตนายก อบต.กระทำผิดจริง ควรจะดำเนินคดีตามกฎหมายและถอดจากการเป็นผู้สมัครชิงเก้าอี้นายกฯ ด้วย
 
นายสนิท ยังยืนยันว่า ที่ตนเองมาร้องเรียนให้ตรวจสอบเอาผิดอดีตนายกฯ อบต.นั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง เพราะตนไม่ใช่ผู้สมัครคู่แข่งและประกาศจะไม่เล่นการเมืองอีก แต่ที่มาร้องเพราะอยากให้เกิดความถูกต้องในสังคม ผู้ที่กระทำผิดหรือทุจริตเงินงบประมาณแผ่นดิน ควรจะได้รับโทษตามกฎหมาย ทั้งจะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างกับบุคคลอื่นอีก
 
ด้าน น.ส.สุรีรัตน์ นวลฉิมพลี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า กรณีที่มีการร้องเรียนอดีตนายก อบต.ไทยสามัคคี กระทำทุจริตนั้น ทาง ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิดทั้งอาญาและวินัยไปแล้ว ทั้งได้ยื่นขอศาลอนุมัติออกหมายจับอดีตนายกฯ รายนี้ด้วย แต่ผู้ต้องหาได้หลบหนีหมายจับ จนคดีหมดอายุความเมื่อปลายเดือน พ.ย. 2562 ซึ่ง ป.ป.ช.ก็ไม่สามารถจะดำเนินการอะไรได้ เพราะตามกฎหมายระบุไว้แบบนั้น ส่วนกรณีที่อดีตนายกฯ ไปเซ็นงาน เบิกเงินเดือน ค่าตอบแทน และเงินประจำตำแหน่งช่วงที่หลบหนีหมายจับซึ่งถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทาง ป.ป.ช.ได้รับเรื่องร้องเรียนไว้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบซึ่งได้ข้อมูลมาพอสมควร หากพบข้อมูลหลักฐานว่ากระทำผิดจริงก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
  
"ส่วนที่ผู้ร้องขอให้พิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติของอดีตนายกฯ ว่าเป็นบุคคลต้องห้ามหรือขาดคุณสมบัติ ในการลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบต.หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทาง กกต.ว่าจะวินิจฉัยอย่างไร เพราะไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.".
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่