เรื่องสั้น : รักสลับร่าง บทที่ 1 ตอนสลับตัว

กระทู้สนทนา


.

              ณ โรงพยาบาล

               “วิคุณใจเย็น ๆ นะลูกต้องไม่เป็นอะไร ยัยออมต้องไม่เป็นอะไร” พาทีโอบกอดภรรยาครั้งแรกในรอบสิบกว่าปีที่ผ่านมา “ลูกเราต้องไม่เป็นอะไร เชื่อผมนะ” พูดปลอบโยนอดีตภรรยาด้วยความเจ็บปวดไม่แพ้กันหน้าห้องไอซียู

               “ฉันขอโทษ!… ฮือ ฉันขอโทษฉันดูแลลูกไม่ดี ฉันขอโทษ” วิรดาเอาแต่พร่ำเพ้อขอโทษอดีตสามีปานจะขาดใจ “พาทีฉันขอโทษ”

               ฉันผู้ที่เสียใจไม่แพ้พ่อกับแม่ พี่สาวของฉันโดนรถชน ขณะนี้คุณหมอกำลังช่วยชีวิตอยู่ แต่ว่าไม่รู้สิ! ภายใต้ความทุกข์ฉันกลับแอบยิ้ม ที่เห็นพ่อกับแม่กอดกัน กลับมาเจอกันอีกครั้งในรอบสิบกว่าปีที่ผ่านมา

               ฉันมีฝาแฝด ตอนสิบขวบฉันจำได้ว่าพ่อแม่ทะเลาะกันแรงมาก และฉันก็จำได้ว่าพ่อตบแม่ แต่ก็ไม่รู้หรอกว่าตบเรื่องอะไร ฉันเด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจ แม่บอกว่าจะหย่ากับพ่อ แม่ไล่ตะเพิดพ่อออกจากบ้าน สุดท้ายพ่อก็ยอมออกจากบ้านไป

               วันหนึ่งฉันเห็นพ่อกลับมาที่บ้าน ทว่าทั้งสองคนก็ไม่ได้มองหน้ากันดี ๆ หรือยิ้มให้กันเหมือนที่ผ่านมา พ่อกลับมาพูดอะไรกับแม่ไม่รู้ แม่เอาแต่ร้องไห้ว่าไม่ยอม! และ พ่อก็ตะโกนกลับไปว่าพ่อไม่ยอมเหมือนกัน แล้วทั้งคู่ก็บอกว่าให้พวกฉันสองคนพี่น้องตัดสินใจเอาเอง ห้ามบังคับอะไรทั้งนั้น

               พ่อเดินเข้าไปคุยกับพี่สาวของฉัน เดินเข้าไปคุยกับออม ทว่าออมหลบถอยไปอยู่ด้านหลังของแม่ ฉันเห็นพ่อยกมือขึ้นปาดน้ำตาตัวเองที่ออมไม่ยอมเข้าหา จากนั้นพ่อก็หันหน้ามามองฉัน พ่อยิ้มให้ฉัน

               “อาร์ม อยากไปอยู่กับพ่อไหม คือ พ่อต้องไปทำงานจะไม่ค่อยได้กลับบ้าน พ่อจึงอยากให้ลูกสักคนของพ่อไปอยู่เป็นเพื่อนน่ะ” พ่อพูดกับฉัน

               “ทำไมพ่อไม่พาแม่กับออมไปด้วยเลยล่ะ” ฉันจำได้ว่าฉันถามพ่อไปแบบนั้น

               “สักวันลูกจะเข้าใจ” พ่อตอบเพียงเท่านี้ แล้วพ่อก็ถามย้ำกับฉันอีกว่า ฉันจะไปอยู่เป็นเพื่อนพ่อไหม ฉันมองหน้าแม่ที่เอาแต่ร้องไห้กอดออม และ มองหน้าพ่อที่ร้องไห้เหมือนกัน

               “หนูจะไปอยู่เป็นเพื่อนพ่อค่ะ แม่คะพี่ออม อาร์มขอเป็นคนไปอยู่เป็นเพื่อนพ่อเองนะคะ พ่อจะได้ไม่เหงา” ฉันตอบตกลง ฉันเห็นแม่ร้องไห้หนักกว่าเดิมอีก ส่วนพ่อถึงแม้จะร้องไห้แต่ฉันเห็นท่านยิ้ม และแล้วฉันก็เก็บกระเป๋าไปทำงานกับพ่อ

               พ่อพาฉันกลับมาอยู่ต่างจังหวัดที่นครราชสีมา มาอยู่กับปู่และย่า ถึงจะเป็นเด็กแค่สิบขวบ ฉันก็พอจะเข้าใจว่าพ่อโกหก ไหนพ่อบอกจะไปทำงาน แล้วทำไมถึงพาฉันมาอยู่ที่บ้านกับย่า และ พ่อก็ไม่กลับไปกรุงเทพอีกเลย

               พอฉันขึ้นมัธยมฉันพึ่งจะเข้าใจแล้วว่า แท้จริงนั้นพ่อกับแม่แยกทางกัน เลิกกัน หย่ากัน แต่ว่าเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว ฉันคงกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ไม่โกรธพ่อกับแม่ และ ฉันก็แอบกลับไปหาแม่บ่อย ๆ แอบสลับตัวกันกับออมบ่อย ๆ จนพ่อกับแม่จับได้ จากนั้นแม่จึงยอมให้ออมมาเจอพ่อ ส่วนพ่อก็อนุญาตให้ฉันมาอยู่กับแม่เช่นกัน

               ฉันกับออมเรานิสัยต่างกันมาก ออมจะเป็นคนห้าว ๆ เข้มแข็ง เก่ง ต่อยได้แม้กระทั่งผู้ชาย ส่วนฉันไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ไม่ค่อยชอบมีปัญหากับใครด้วย

               วันนี้เหมือนฟ้าลงโทษ เมื่อแม่ที่ไม่เคยโทรมาที่บ้านหาพ่อเลยสักวันตั้งแต่แยกทางกับพ่อไป แม่โทรมาบอกว่าออมเกิดอุบัติเหตุอยู่โรงพยาบาล พ่อกับฉันรีบขับรถมากรุงเทพทันที และ ผ่านไปสิบกว่าปี วันนี้เป็นวันแรกที่พ่อกลับมาเจอแม่ ที่ฉันเห็นพ่อกับแม่กอดกันอีกครั้ง เห็นพ่อกับแม่อยู่ด้วยกันอีกครั้ง ถ้าออมไม่อยู่ในห้องไอซียู ฉันคงไม่มีวันได้เห็นภาพแบบนี้อีก เสียดายออมที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

               ช่างเถอะ! ฉันจะมาดีใจอะไรท่ามกลางความเป็นความตายของพี่สาวแบบนี้ ฉันเองก็ห่วงออมมาก ภาวนาอย่าให้ออมเป็นอะไรเลย ไม่อย่างนั้นแม่กับพ่อคงเสียใจที่สุด

              ทันใดนั้นหมอเปิดประตูออกมา พ่อกับแม่รวมทั้งฉันกู่เข้าไปที่ตัวหมอคนเดียว อยากทราบอาการของออม

               “หมอคะ ลูกของดิฉันเป็นยังไงบ้างคะ”

               “หมอลูกผมปลอดภัยแล้วใช่มั้ยครับ” พ่อกับแม่คะยั้นคะยอหมอเจ้าของไข้ ฉันที่ยืนฟังคำตอบแบบเงียบ ๆ ท่ามกลางน้ำตาที่เอ่อไหล

               “คนไข้ปลอดภัยแล้ว แต่…”

               “แต่อะไรคะหมอ” แม่รีบถามทันควัน

               “คนไข้อาจเป็นเจ้าหญิงนิทราตลอดไปครับ” หมอพูดจบแล้วเดินจากไป เหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจของฉัน แม่เป็นลมล้มพับลงกับพื้น พ่อต้องช่วยประคองและเรียกพยาบาลมาช่วยแม่ ส่วนฉันพูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน สงสารออมที่สุด

               ……………………………….

             ณ มหาวิทยาลัย

               “ออม! เฮ้ยไอ้ออมจริง ๆ ด้วย” ภายในห้องเรียนในคณะของออม ทุกคนดูตกตะลึงกับการกลับมาของฉันมาก ไม่ใช่สิ! ของการกลับมาของออมมาก ก็คงเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ตั้งแต่ออมเกิดอุบัติเหตุ นี่ก็เกือบเดือนแล้วที่ออมพึ่งจะมาเรียนวันแรก ฉันจะเป็นพี่เองพี่ออม! ฉันมีเหตุผลของฉันที่ต้องทำแบบนี้

               เพื่อน ๆ ต่างดีใจที่ฉันกลับมา ทุกคนกู่เข้ามาหาฉัน โดยเฉพาะผู้หญิงสองคนนี้ “ออมแกเจ็บตรงไหนมั้ย เป็นอะไรมากหรือเปล่า พวกฉันใจหายมากเลยนะเว้ยที่รู้ว่าแกจะกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราอ่ะ” ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เข้ามากอดฉัน

               “เธอเป็นเพื่อนสนิทของฉันเหรอ” ฉันพูด ทุกคนอึ้งกับสิ่งที่ฉันถาม ฉันพึ่งรู้ว่าตัวเองพลาดแล้ว ไม่ยอมศึกษาข้อมูลของออมให้ละเอียดมากกว่านี้ “หมอบอกว่าฉันความจำเสื่อมชั่วคราวน่ะ อีกไม่นานคงกลับมา” ฉันแก้ตัวไป

               “ไม่เป็นไรแก! เดี๋ยวพวกฉันจะช่วยเตือนความจำของแกเอง แค่แกหายเป็นปกติกลับมา พวกเราก็ดีใจแล้ว แค่ไม่ต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราก็พอ เนอะเมญ่าเนอะ” ผู้หญิงที่ดูเป็นสาวมั่นมาก ๆ ตัวสูงกว่าคนเมื่อครู่ที่เข้ามากอดฉันพูดขึ้น

               “เมญ่าเหรอ” ฉันชี้มือไปยังผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนแรกที่ทักทายฉัน “แล้วเธอ”

               “ฉันน่ะ เอวาสุดสวยที่สุดในห้อง เมญ่ากับฉันเป็นเพื่อนสนิทของแกเลยล่ะ” เอวาพูดพร้อมเข้ามาเกาะแขนของฉันด้วย ตามด้วยเสียงโห่ร้องของเพื่อน ๆ ในห้อง “เฮ้ยออม! แกความจำเสื่อมงั้นก็แปลว่า แกจำไอ้นัสไม่ได้ดิถ้างั้นน่ะ” เอวาพูดกลั้วหัวเราะ อย่างกับเป็นเรื่องตลกมาก

               “นัสเหรอ! นัสเป็นใครเหรอเอวา” ฉันถามเพราะไม่รู้จริง ๆ ตอนนี้อยากกลับบ้านไปทำการบ้านมาใหม่มากที่สุด นึกโกรธตัวเองชะมัด

               ระหว่างนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาจ้องใบหน้าของฉัน เอียงคอไปทางซ้ายทีขวาทีขณะจ้องมาที่ใบหน้าของฉัน “นี่!” ไม่ทันได้พูดผู้ชายคนนั้นก็ตบที่ศีรษะของฉันเบา ๆ “โอ้ย! นายตบเราทำไมอ่ะ เราเจ็บนะ” ฉันเผลอร้องอุทานออกไปด้วยความเจ็บ

               “เออว่ะ! ความจำน่าจะเสื่อมจริง ๆ ด้วย” ผู้ชายคนนั้นพูด ฉันพยักหน้าเป็นคำตอบ “เพราะว่าแกจะไม่แทนตัวเองกับฉันว่าเรา แล้วแทนตัวฉันว่านายยังไงล่ะ ยัยบ๊องเอ้ย” ไม่พูดเฉยยังเข้ามาโอบไหล่ของฉันอีกด้วย

               “เฮ้ยนายมากอดเราทำไมอ่ะ! ปล่อย” ฉันตกใจ เผลอตวาดและแกะมือของเขาออก “เอ่อขอโทษ เราขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย เราสนิทกับนายมากเลยเหรอ นายถึงกล้ามากอดเราแบบนี้ แล้วนายชื่อนัสเองเหรอ” ฉันถาม

               “มากเลยล่ะออม! ไอ้นัสกับแกสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว” ใครบางคนในห้องพูด ฉันพยักหน้าเข้าใจ

               “ไม่เป็นไรออม ฉันไม่โกรธแกหรอก เพราะแก… ความจำเสื่อมไงล้า ฮา “ มนัสก็ยังไม่เลิกเล่น ทว่าก็ทำเอาฉันยิ้มออกมาได้ ทุกคนเชื่อว่าออมความจำเสื่อม “อืมม์ ฉันจะช่วยแกเองนะออม ฉันชื่อมนัส แกชอบเรียกฉันว่านัสเฉย ๆ แล้วไอ้เรา ๆ นาย ๆ เนี่ยแกก็ไม่เคยเรียกนะ แกชอบเรียกฉัน ไอ้บ้างล่ะ มืงบ้างล่ะ แกบ้างอะไรแบบนี้ เรา ๆ นาย ๆ ฟังแล้วจั๊กจี๋ว่ะ” มนัสพูดปนยิ้มกับฉัน ๆ มองเห็นแววตาของมนัสที่มองออม คงจะชอบออมแหง ๆ

               ภายในห้องเรียนระหว่างรออาจารย์เข้ามา ทุกคนชวนฉันคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ เพื่ออยากช่วยเตือนความจำ แต่ฉันสังเกตว่าเพื่อนกลุ่มหนึ่งไม่ได้เข้ามาทักทายฉันเลย และ มีผู้ชายอีกคนที่ปลีกตัวออกจากเพื่อน ๆ ไม่เข้ามาคุยกับฉันเช่นกัน

               “ออมฉันจะบอกว่าแกกับไอ้นัสอ่ะสนิทกันมาก! รู้จักกันมาตั้งแต่ประถมเลย แล้วไอ้นัสมันก็ตามแกมาเรียนมหาวิทยาลัยด้วยเว้ย มัธยมมันก็ตามแกไป เพราะไอ้นัสมันชอบแก! ฮา” เมญ่าเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับมนัส หันไปยิ้มเยาะเย้ยมนัสด้วย แล้วก็โดนมนัสเหวี่ยงค้อนกลับมา

               “นี่! ไอ้เมญ่า ฉันกับไอ้ออมอ่ะ เราเป็นเพื่อนสนิทกันเว้ย แล้วฉันก็ไม่ได้ชอบไอ้ออมด้วย จำไว้!” มนัสแก้ตัว ฉันยิ้มกับคำพูดของมนัส ทว่าแววตามนัสมันฟ้องว่าชอบออมนั่นแหละ

               “ไอ้นัสมันแอบชอบแก แต่แกเหมือนจะไปชอบไอ้กัสนะ แล้วเหมือนว่าไอ้กัสมันจะมีใจให้แกด้วยอือ… แต่มีไอ้นัสเป็นหมาหวงก้างไง มันก็เลยอยู่นิ่ง ๆ มันไป ใช่มั้ยจ๊ะออกัส“ เอวาพูดแซวคนที่ปลีกตัวไปนั่งคนเดียว ติดขอบหน้าต่างห้อง

               “กัสเหรอเอวา ใครเหรอ” ฉันถามพร้อมกวาดสายตาไปมองเพื่อน ๆ รอบ ๆ ห้องเรียน ทุกคนยิ้มให้กับฉัน ทว่ามีคนหนึ่งที่เหมือนจะไม่ยิ้มเอาเสียเลย คนที่ปลีกตัวออกมาจากเพื่อน ๆ นั่งอยู่คนเดียวนั่นแหละ

               ฉันเหลือบไปมองเห็นทำหน้านิ่ง ๆ เมินหน้าหนีสายตาของฉัน จากนั้นฉันก็ทำสายตาตั้งคำถามว่าใครคือกัสที่ชอบออม

               “ก็ออกัสไง นู่นน่ะนั่งอยู่คนเดียวนู่นน่ะ ชอบทำตัวแปลกแยก “ เอวาเผยอปากไปทางผู้ชายที่นั่งอยู่ติดหน้าต่าง ผู้ชายคนนั้นจริง ๆ ด้วย ฉันจึงเดินไปเข้าไปหา

               “นายชื่อออกัสเหรอ เรากับนายสนิทกันมากแค่ไหนอ่ะ” ฉันเดินเข้ามาถามออกัสทันที เพื่อน ๆ ทุกคนโห่ร้องพร้อมเสียงหัวเราะอีกตามเคย ยกเว้นเพียงมนัสที่ดูจะเงียบ ๆ และมองมาเฉย ๆ

               “ใช่! เราชื่อออกัสเอง แล้วเราก็ไม่ได้สนิทเธอด้วย และ เราก็ไม่ได้แอบชอบเธอด้วย คนที่แอบชอบเธออ่ะคือไอ้นัสต่างหาก อย่ามายุ่งกับเรา” ออกัสลุกพรวดพราดขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ เดินหน้าตั้งผ่านทุกคนออกไปจากห้องเรียน เพื่อน ๆ ในห้องร้องโห่แซวออกัสอีกรอบ

               “ช่างมันเถอะออม ไอ้กัสมันก็เป็นแบบนี้แหละ มา! เดี๋ยวพวกฉันจะค่อย ๆ เตือนความจำให้แกเอง แกต้องหายนะ แกต้องกลับมาจำทุกอย่างได้” เมญ่าพูด

               “อือ…” ฉันพยักหน้า แอบแค่นเสียงหัวเราะให้กับพี่สาว ออมนี่ก็เสน่ห์แรงไม่เบาแฮะ มีผู้ชายมาตามจีบตั้งสองคน พี่ออมฉันจะช่วยประเมินให้พี่เองนะว่า ระหว่างนายมนัสกับนายออกัสเนี่ย ใครน่าคบมากกว่ากัน ฉันพูดในใจ

               “อ่ะทุกคนเงียบ ๆ ครับ” เมื่ออาจารย์เดินเข้ามาภายในห้องเรียน ทุกคนเงียบกริบ ทว่าออกัสยังไม่กลับมาเลย “เช้าวันนี้ทุกคนคงจะได้เจอได้พูดคุยกับนีรนันท์แล้วสินะ อาจารย์ฝากทุกคนช่วยดูแลนีรนันท์หน่อย เพราะตอนนี้ความจำเพื่อนยังไม่กลับมา แต่ว่าอาจารย์ก็ดีใจมากเลยนะนีรนันท์ ที่เธอไม่เป็นอะไร ที่เธอฟื้นกลับมา” อาจารย์พูดพร้อมส่งยิ้มให้ฉัน “มาเริ่มเรียนกันได้แล้ว อ้าวแล้วชีวินไปไหนเนี่ย โดดอีกตามเคย”

               “ชีวินก็ไอ้ออกัสนั่นแหละ” เอวาสะกิดบอกกับฉัน ฉันพยักหน้ารับรู้ “พ่อนางเป็นอธิการบดี เข้าเรียนไม่เข้าเรียนก็ไม่มีผลกับชีวิตนางหรอก” ฉันพยักหน้ารับรู้

              วันนี้ฉันต้องทำความรู้จักกับทุกคนใหม่หมดเลย อยากรู้จังว่าระหว่างมนัสกับออกัสออมสนใจใครกันนะ แต่น่าจะเป็นออกัสมากกว่า เห็นเมญ่าพูดเอาไว้เมื่อเช้า

               “ออมจะไปไหนเหรอ” มนัสกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาหาฉัน แถมยังยกมือขึ้นมากอดคอฉันด้วย หึ ฉันไม่ชินหรอกนะ แต่ออมคงชินแล้ว

               “จะกลับบ้านน่ะ นายทำไมเหรอมนัส” ฉันถาม

               “โหย! ไม่คุ้นเลยอ่ะ ไหนแกลองเรียกฉันว่า ไอ้นัสซิ แก มืง หรือว่าพูดฉันก็ได้ พูดเรา ๆ นาย ๆ ไม่คุ้นเลยว่ะ แถมยังเรียกชื่อเต็มของฉันไปอีก มนัส” มนัสยืนคุยกับฉัน “เราไปหาที่นั่งคุยกันดีกว่ามั้ย”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่