สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เดาเองว่าที่ทำงานคงมีปัญหาทำเอกสารผิดบ่อยจริง และคนทำก็ยังไม่ระวัง ไม่แก้ไข จึงตั้งกฏนี้ขึ้นมา ดูจากจำนวนเงินก็ไม่ได้มาก น่าจะตั้งมาเพื่อให้ระวังมากขึ้น มากกว่าจะเอาเงินจริงจังนะคะ
ที่ทำงานเรา พนง ลืมถอดปล๊กไฟ ลืมปิดไฟ ลืมปิดพัดลม ลืมปิดแอร์ บางทีลืมปิดช่วงหยุดยาว กลายเป็นเปิดแอร์เปิดไฟทิ้งไว้3วันก็มี แก้วทานน้ำแบบใช้แล้วทิ้งวางให้ใช้ดึงทีทั้งแถวเป็นสิลใบแล้วทำตกพื้นต้องทิ้งหมดก็มี เรียกคุยดีๆแล้ว ตักเตือนแล้ว ก็ยังผิดแบบเดิมๆ พอตั้งกฏว่าใครลืมปิด ใครทำอะไรเสียหาย ต้องชดใช้ค่าเสียหายเอง พอโดนไปสักคน ทีนี้ไม่มีใครลืมปิดไฟปิดแอร์หรือทำของส่วนรวมเสียหายเลย
ที่คุณควรกังวล ไม่ใช่กลัวเสียค่าปรับห้าบาทสิบบาท แต่ควรกังวลกับประสิทธิภาพในการทำงานของคุณ มันไม่ควรผิดพลาดบ่อย คนที่มีความรับผิดชอบ ตั้งใจทำงาน ผิดแค่ครั้งแรกก็ควรจะระวังและรอบคอบกว่าที่จะให้มีครั้งต่อๆไปแล้ว เห็นใจตัวเองแล้วก็ควรเห็นใจองค์กรด้วย หรือถ้าไม่พอใจ ก็ลาออกไปหางานใหม่ บอกที่ใหม่เค้าด้วยว่าออกจากที่เก่าเพราะทำเอกสารผิดพลาดบ่อยแล้วเค้าหักเงินเลยไม่พอใจลาออก
ขอโทษที่ตอบแรง แต่ถ้าคุณยังคิดแบบนี้ คุณจะไม่เกิดการพัฒนาตัวเองค่ะ
ส่วนเรื่องทำงานนอกเวลาฟรี ไม่มีโอทีอันนี้ก็อีกเรื่องนึงค่ะ ควรคุยกับหัวหน้าค่ะ
ที่ทำงานเรา พนง ลืมถอดปล๊กไฟ ลืมปิดไฟ ลืมปิดพัดลม ลืมปิดแอร์ บางทีลืมปิดช่วงหยุดยาว กลายเป็นเปิดแอร์เปิดไฟทิ้งไว้3วันก็มี แก้วทานน้ำแบบใช้แล้วทิ้งวางให้ใช้ดึงทีทั้งแถวเป็นสิลใบแล้วทำตกพื้นต้องทิ้งหมดก็มี เรียกคุยดีๆแล้ว ตักเตือนแล้ว ก็ยังผิดแบบเดิมๆ พอตั้งกฏว่าใครลืมปิด ใครทำอะไรเสียหาย ต้องชดใช้ค่าเสียหายเอง พอโดนไปสักคน ทีนี้ไม่มีใครลืมปิดไฟปิดแอร์หรือทำของส่วนรวมเสียหายเลย
ที่คุณควรกังวล ไม่ใช่กลัวเสียค่าปรับห้าบาทสิบบาท แต่ควรกังวลกับประสิทธิภาพในการทำงานของคุณ มันไม่ควรผิดพลาดบ่อย คนที่มีความรับผิดชอบ ตั้งใจทำงาน ผิดแค่ครั้งแรกก็ควรจะระวังและรอบคอบกว่าที่จะให้มีครั้งต่อๆไปแล้ว เห็นใจตัวเองแล้วก็ควรเห็นใจองค์กรด้วย หรือถ้าไม่พอใจ ก็ลาออกไปหางานใหม่ บอกที่ใหม่เค้าด้วยว่าออกจากที่เก่าเพราะทำเอกสารผิดพลาดบ่อยแล้วเค้าหักเงินเลยไม่พอใจลาออก
ขอโทษที่ตอบแรง แต่ถ้าคุณยังคิดแบบนี้ คุณจะไม่เกิดการพัฒนาตัวเองค่ะ
ส่วนเรื่องทำงานนอกเวลาฟรี ไม่มีโอทีอันนี้ก็อีกเรื่องนึงค่ะ ควรคุยกับหัวหน้าค่ะ
ความคิดเห็นที่ 7
แปลว่าเป็นหน่วยงานที่ผิดบ่อยมากจนต้องตั้งกฎนี้ขึ้นมา น่ากลัวมาก สงสารหัวหน้าเลย
ตอบข้อสองของคุณ ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้แต่ "ไม่ใช่เรื่องปรกติ" และคุณไม่ aware เลยว่าถ้าส่งออกไปแล้วเกิดความเสียหายจะให้ปรับร้อยนึงเลย คุณคะ ถ้าความเสียหายมันเกิดขึ้นแล้ว ปรับเท่าไหร่ก็ไม่พอค่ะ
ข้อสาม คุณบอกว่าหัวหน้าตรวจงานคุณนอกเวลางานเจอความผิดพลาดและจะปรับ คุณพูดเองว่าไม่สมควรเพราะ "เราอาจตรวจเจอความผิดพลาดนี้เองและแก้ไขก่อนหัวหน้าจะเห็น" แปลว่าความผิดพลาดครั้งนี้ถูกพบโดยหัวหน้าเพราะเข้ามาตรวจหลังเลิกงานและแจ้งคุณมา จึงตีความได้ว่าถ้าหัวหน้าไม่เข้ามารีวิว คุณก็ไม่รู้ พรุ่งนี้เช้าคงเปิดคอมส่งออกไปแบบผิดๆ คุณต้องกราบหัวหน้าเลยนะ ณ จุดนี้
ปล.ขอให้หยุดความคิดที่ว่าความผิดพลาดเป็นเรื่องปรกติ ยิ่งทำงานด้านการเงิน ควรจะผิดให้น้อยที่สุดและไม่ควรจะผิดแบบโง่ๆ เช่นสะกดผิด ชื่อผิด สั่งจ่ายผิด ตัวเลขผิด ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้ด้วยการรีวิวหลายๆรอบก่อนส่งค่ะ
ตอบข้อสองของคุณ ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้แต่ "ไม่ใช่เรื่องปรกติ" และคุณไม่ aware เลยว่าถ้าส่งออกไปแล้วเกิดความเสียหายจะให้ปรับร้อยนึงเลย คุณคะ ถ้าความเสียหายมันเกิดขึ้นแล้ว ปรับเท่าไหร่ก็ไม่พอค่ะ
ข้อสาม คุณบอกว่าหัวหน้าตรวจงานคุณนอกเวลางานเจอความผิดพลาดและจะปรับ คุณพูดเองว่าไม่สมควรเพราะ "เราอาจตรวจเจอความผิดพลาดนี้เองและแก้ไขก่อนหัวหน้าจะเห็น" แปลว่าความผิดพลาดครั้งนี้ถูกพบโดยหัวหน้าเพราะเข้ามาตรวจหลังเลิกงานและแจ้งคุณมา จึงตีความได้ว่าถ้าหัวหน้าไม่เข้ามารีวิว คุณก็ไม่รู้ พรุ่งนี้เช้าคงเปิดคอมส่งออกไปแบบผิดๆ คุณต้องกราบหัวหน้าเลยนะ ณ จุดนี้
ปล.ขอให้หยุดความคิดที่ว่าความผิดพลาดเป็นเรื่องปรกติ ยิ่งทำงานด้านการเงิน ควรจะผิดให้น้อยที่สุดและไม่ควรจะผิดแบบโง่ๆ เช่นสะกดผิด ชื่อผิด สั่งจ่ายผิด ตัวเลขผิด ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้ด้วยการรีวิวหลายๆรอบก่อนส่งค่ะ
ความคิดเห็นที่ 14
พอเข้าใจว่าทำไมหัวหน้าถึงต้องออกกฎแบบนี้มา
เพราะในที่ทำงานคุณคงมีคนแบบคุณอยู่เต็มไปหมด
ทำผิดแต่ไม่ได้มีความสำนึกว่าจะต้องปรับปรุงตัวเลย
โดยเฉพาะข้อ 3 นี่แถมาก หัวหน้าตรวจเจอแสดงว่าคุณส่งงานไปให้หัวหน้าแล้ว
ยังจะมาอ้างว่าตัวเองอาจตรวจเจอทีหลังก็ได้
จริงๆงานที่ส่งให้หัวหน้ามันควรเรียบร้อยสมบูรณ์แล้วถึงส่งไม่ใช่เหรอคะ
ไม่ใช่ส่งไปแล้วต้องขอเอากลับมาแก้ไขอีกเรื่อยๆ
เพราะในที่ทำงานคุณคงมีคนแบบคุณอยู่เต็มไปหมด
ทำผิดแต่ไม่ได้มีความสำนึกว่าจะต้องปรับปรุงตัวเลย
โดยเฉพาะข้อ 3 นี่แถมาก หัวหน้าตรวจเจอแสดงว่าคุณส่งงานไปให้หัวหน้าแล้ว
ยังจะมาอ้างว่าตัวเองอาจตรวจเจอทีหลังก็ได้
จริงๆงานที่ส่งให้หัวหน้ามันควรเรียบร้อยสมบูรณ์แล้วถึงส่งไม่ใช่เหรอคะ
ไม่ใช่ส่งไปแล้วต้องขอเอากลับมาแก้ไขอีกเรื่อยๆ
ความคิดเห็นที่ 6
บางทีเรา งงมี่คุณพูด นี่คุณตั้งใจให้ผิดมากมายขนาดว่า เดือนๆนึงจะโดนปรับจนเงินเหลือน้อยเลนเหรอ
คือบางอย่างเค้าออกกฏหมา เพื่อให่เราทำให้ดี จริงๆคือไม่อยากปรับหรอก แต่พอขอความร่วมมือ มักจะไม่ได้ เหมือนเรื่องแมสที่จะปรับเป็นหมื่น แล้วมีคนมาโวยวาย คือ อะไร ะาทำตามกฏ ยังไงก็ไม่โดน คุณเลือกได้ เพราะรอนเค้าขอร้อง คุณไม่มีสำนึกที่จะทำกัน
ตกใจนะที่ว่าผิดแล้วมองว่าเล็กน้อย นี่ทำราชการเหรอ เราเคยทำ บ.เอกขนนะ ผิดเราต้องสำนึกแก้ไข พร้อมปรับปรุง ไม่ใช่บอกว่าผิดจนเป็นเรื่องปกติ คือเราอนยตัวเองอ่ะ ถ้าทำงานผิดๆไปส่ง
คือบางอย่างเค้าออกกฏหมา เพื่อให่เราทำให้ดี จริงๆคือไม่อยากปรับหรอก แต่พอขอความร่วมมือ มักจะไม่ได้ เหมือนเรื่องแมสที่จะปรับเป็นหมื่น แล้วมีคนมาโวยวาย คือ อะไร ะาทำตามกฏ ยังไงก็ไม่โดน คุณเลือกได้ เพราะรอนเค้าขอร้อง คุณไม่มีสำนึกที่จะทำกัน
ตกใจนะที่ว่าผิดแล้วมองว่าเล็กน้อย นี่ทำราชการเหรอ เราเคยทำ บ.เอกขนนะ ผิดเราต้องสำนึกแก้ไข พร้อมปรับปรุง ไม่ใช่บอกว่าผิดจนเป็นเรื่องปกติ คือเราอนยตัวเองอ่ะ ถ้าทำงานผิดๆไปส่ง
แสดงความคิดเห็น
ที่ทำงานเริ่มมีมาตรการปรับเงินพนักงานเมื่อทำงานผิดพลาด เราควรอยู่ต่อไหม
วันหนึ่งหัวหน้าเราเรียก จนท.ที่ทำงานเกี่ยวกับการออกเอกสารการเงินทุกคนเข้าไปคุย บอกว่าจะมีมาตรการปรับเงินพนักงานที่ทำเอกสารผิด อาจคิดครั้งละ 5-10 บาท อะไรก็ว่าไป แต่ตอนนั้นเราไม่ได้ถูกเรียกเข้าไปคุยด้วย เพราะเราไม่ได้ทำงานเหมือนคนอื่นๆ เราไม่ได้มีหน้าที่ออกเอกสารการเงิน เอกสารที่เราออกจะเป็นจดหมายหรือการประสานงานกับฝ่ายอื่นๆมากกว่า พวก จนท.ที่หัวหน้าเรียกคุยก็มีบ่นบ้าง แต่พวกเขาไม่สามารถปฏิเสธคำสั่งหัวหน้าได้ บางคนทำเอกสารผิดบ่อยจริงๆ
แต่วันนี้เราเริ่มรู้สึกเหมือนพวกเขาแล้ว อยากบ่นบ้างแล้ว เหตุเกิดเพราะเราออกจดหมายผิด เป็นจดหมายประสานงานทำในระบบอิเล็กทรอนิกส์ ผิดตรงชื่อผู้ประสานงาน หัวหน้าตรวจเจอก็ถามเรา ถามนอกเวลางานด้วย (เรากลับบ้านแล้ว) เราถึงได้เห็นว่ามันผิด แต่เราก็รีบเปิดคอมแล้วเข้าไปแก้ไขให้มันถูก (คอมเราใช้เข้าโปรแกรมของที่ทำงานได้ เราอุตส่าห์ไปติดตั้งมา) ก่อนจะบอกหัวหน้าว่าแก้ไขแล้ว ทีนี้หัวหน้าก็บอกว่าเราโดนปรับเงิน พูดพร้อมหัวเราะ...จบการสนทนา เราไม่รู้ว่าหัวหน้าพูดจริงหรือพูดเล่น แต่เรารู้สึกว่าตัวเองยอมไม่ได้ถ้าต้องถูกหักเงินจริง เพราะว่า
หนึ่ง...เงินเดือนเราน้อย แค่ 20K นิดๆ ถ้าต้องถูกปรับเงินทุกครั้งที่ทำผิด สิ้นเดือนเราจะเหลือเงินเดือนสักแค่ไหนกัน บางองค์กรให้เงินเดือนมากกว่านี้ พนักงานทำผิดมากกว่านี้ยังไม่เห็นถูกปรับเงินเลย
สอง...อย่างที่บอกไปข้างต้น เราคิดว่าความผิดพลาดในการทำงานมันเป็นเรื่องปกติ และถ้าหัวหน้าตรวจเจอก่อนที่เอกสารจะถูกส่งออกภายนอก แค่เราแก้ไขก็น่าจะพอ มันไม่ได้สร้างความเสียหาย ยกเว้นถ้าเอกสารถูกส่งออกข้างนอกแล้วเกิดความเสียหาย เรายอมให้ปรับร้อยบาทเลย (แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเกิดความเสียหาย)
สาม...หัวหน้าตรวจงานเรานอกเวลางาน เรามองว่านอกเวลางานไม่ควรเอามาคิดค่าปรับ เพราะเราอาจตรวจเจอความผิดพลาดนี้ก่อนหัวหน้าและแก้ไขทันก่อนที่หัวหน้าจะเห็น
สี่ (สำคัญมาก)...เราทำงานหนักมาก โอฟรีกระจาย เลิกงานกลับบ้านแล้วก็ยังทำงานให้ งานโหลดงานเร่งก็ยอมอดหลับอดนอนทำงานให้ วันหยุดวันลาก็ยังโดนหัวหน้าติดต่อมาเรื่องงาน เรายังต้องคอยทำงานให้ ได้พักผ่อนน้อย โดนละเมิดเวลาส่วนตัวไปเยอะมาก และทั้งหมดที่เราทำไปนั้น เราไม่เคยได้ค่าล่วงเวลาหรือค่าตอบแทนพิเศษใดๆเลย แล้วพอเราทำงานผิดหน่อยจะมาปรับเงิน...เอาจริงดิ?
ตอนนี้เรารู้สึกอยากต่อต้านมาตรการปรับเงินนี้มาก เราเข้าใจว่าเราคงพึ่งกฎหมายแรงงานไม่ได้ เพราะกฎหมายแรงงานน่าจะไม่คุ้มครองลูกจ้างหน่วยงานรัฐ ถ้าเราไปฟ้องผู้บริหารระดับสูงกว่าหัวหน้า หัวหน้าเราก็คงต้องรู้ว่าเราฟ้อง และเราก็คงทำงานร่วมกับเขาไม่ได้อีก (อีกอย่างเรายังนึกไม่ออกเลยว่าจะเข้าหาผู้บริหารยังไง เพราะปกติเขาไม่ได้มาคลุกคลีกับการทำงานส่วนเรา) ตอนนี้เราก็เลยคิดว่า จะทำเป็นเฉยๆ ไม่จ่าย รู้ไม่ชี้ไปก่อน แล้วถ้าหัวหน้ายังมาทวงเงินเรา เราก็จะงัดข้อด้วยการพูดถึงเรื่องที่เราทำงานล่วงเวลาแล้วไม่เคยได้เงิน เรื่องที่เราไม่ได้เซ็นรับทราบมาตรการหักเงิน ไม่ได้เข้าไปฟังและรับทราบเรื่องนี้เหมือนกับพนักงานคนอื่นๆ และถ้าสุดท้ายเราต้องมีเรื่องมีปัญหากับหัวหน้าจริงๆ เราก็จะลาออก ก่อนออกก็จะเอาเรื่องนี้ไปรายงานผู้บริหารด้วย
ทุกคนที่เข้ามาอ่านมีความคิดเห็นอย่างไร ถ้าใครมีคำแนะนำก็แนะนำได้เลยนะ (ขอแบบสร้างสรรค์และทำได้จริงนะ ไม่เอาแบบที่แค่ตั้งใจจะเข้ามาด่าเท่านั้น)