สัญญาอมตะ ตอนที่ 21

กระทู้คำถาม
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มังกรวิเศษหลุดเข้าอุโมงค์แห่งกาลเวลาเพราะมนุษย์ผู้หนึ่งเข้าไปแตะต้องสิ่งวิเศษสำคัญ มันสามารถสลายและแยกตัวออกได้หลายร่างโดยทุกร่างมีพลังอำนาจเท่าเทียมกัน เจ้ามังกรหลบหนีผู้ทรงอำนาจทั้งสี่แยกตัวออกเป็นเจ็ดส่วนในเส้นทางแห่งกาลเวลา ชิ้นส่วนสีม่วงมีความวิวัฒน์ทางความคิดมากที่สุดต่อสู้กับพี่น้องอีกหกชิ้น ในช่วงเวลาแห่งการฆ่าฟัน ชิ้นส่วนต่าง ๆ ก็ร่วงหลุดสู่ช่วงเวลาที่แตกต่างกัน 
 
            ชิ้นส่วนสีฟ้าโดนใส่ตรวนเวทเป็นรายแรกจนหลุดจากอุโมงค์เวลา มันร่วงหล่นสู่กลางหุบเขาหิมะทางตอนเหนือของทวีปใหญ่ แก่นในชิ้นส่วนสร้างร่างกลางความสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เหตุใดพวกเดียวกันจึงใช้เวทมนตร์พันธนาการตนจนไร้อิสรภาพ 
 
            เจตจำนงแห่งการเอาชีวิตรอดนำมันสู่การก่อร่างแบบผสมระหว่างมังกรกับเสือมนตราแห่งแดนหิมะ จากเกล็ดเปลี่ยนเป็นขนหนาสีฟ้าอ่อนจุดดำกลืนกับหิมะสีขาว หัวเหมือนแมวยักษ์มีหนวดเส้นยาวเหมือนมังกรบางประเภท หูสีเข้มตั้งระแวงไพร ขนขาวฟูจากส่วนสันหลังไล่สู่หางเอาไว้ใช้เก็บกักและปลดปล่อยเวทมนตร์เพื่อป้องกันตัว อุ้งเท้าหนาอย่างเสือใช้งานบนหิมะนุ่มได้ดีกว่าแบบของมังกร ปีกหนังสีฟ้าลู่ติดลำตัวยามไม่จำเป็น
 
            เมื่อสร้างร่างเสร็จมันก็รู้จักชื่อของตนทันที นามของมันคือ อาเซเดีย!
 
            อาเซเดียมองรอบตัวผ่านตรวนเวทซึ่งเปลี่ยนเป็นกรงเรืองแสง หากไม่มีพันธนาการนี้มันอาจสั่นกลัวเพราะรอบด้านมืดสนิทไร้แสงดาว มันทดลองใช้ทั้งกำลังและเวทมนตร์ทำลายกรงขังแต่ไม่สำเร็จ อย่างน้อยเวทมนตร์ธรรมดาก็ใช้ได้กับภายนอก การกักขังมีผลเฉพาะร่างเท่านั้น
 
            มังกรฟ้าหมอบนิ่งหาทางเป็นอิสระ มันสามารถเคลื่อนที่ได้แต่กรงจะตามไปเหมือนเงา ระหว่างนอนเบื่อนั้นผู้มาเยือนพลันถลาลงมาจากท้องฟ้าเหมือนดาวตกสีดำ อาเซเดียรู้ทันทีว่านั่นคือชิ้นส่วนสีม่วงผู้ได้รับนามซูเปอร์เบีย!
 
            “กลายเป็นมังกรแมวไปแล้วหรือ อาเซเดีย” 
 
            อาเซเดียสัมผัสประสงค์ร้ายได้ทันที ซูเปอร์เบียต่างออกไปจากมังกร รากของพวกมันคือมังกรโบราณสายเลือดแท้ อาจถูกบิดเบือนได้ตามสภาพแวดล้อมยามก่อร่างแต่ไม่มีทางแปลกประหลาดเหมือนผู้มาเยือน
 
            หากให้จัดประเภทซูเปอร์เบียคงอยู่ในหมวดไฮดร้าหรือมังกรชั้นรอง หัวทั้งเจ็ดส่ายไปมากลางแสงสลัว ปากสิงโตบอกว่ามันเที่ยวตามหาอาเซเดียอยู่ร้อยกว่าปี ร่างเพรียวเหมือนเสือดาวย่างเท้าคล้ายหมีเข้าหาเหยื่อสีฟ้าซึ่งลุกขึ้นเตรียมป้องกันตัว
 
            “บอกจุดประสงค์มา!” อาเซเดียคำราม ขนบนสันหลังชี้ชันปล่อยประกายมนตรา เสาเหล็กผุดขึ้นจากพื้นดินกลางทุ่งหิมะขาว แดนเหนือมีธาตุโลหะน้อยแต่มันต้องสู้เท่านั้น!
 
            สามหัวของซูเปอร์เบียพ่นไฟสีคล้ำทำลายเสาเหล่านั้นได้ทันที อาเซเดียรับรู้ว่าอีกฝ่ายแตกต่างกับตัวเองมากเกินไป มันเหมือนหลุมดำเฝ้าทำลายทุกสิ่งโดยไม่สนใครหน้าไหน เจ้ามังกรฟ้าพยายามอีกครั้งด้วยการสลายเศษซากเสาเหล็กเป็นละอองเล็ก ๆ คมกริบลอยเอื่อยเหมือนม่านหมอก 
 
            “อย่าพยายามเลยเจ้าแมวเหมียว พวกเจ้าทั้งหกมีตัวเดียวที่มีโอกาสชนะข้าแบบตัวต่อตัวได้ นางอ่อนแรงและหนีได้ไกลสุด อาจสลายตัวไปแล้วซึ่งเป็นเรื่องของอนาคต” หัวหลักของซูเปอร์เบียสูดลมหายใจลึกดูดเอาละอองเงินดั่งเกล็ดหิมะพวกนั้นเข้าปากอย่างง่ายดาย! “ตำราว่าไว้ถ้าจะจัดการเหล็กก็ต้องใช้น้ำไม่ก็ไฟ เจ้าชอบอันไหน”
 
            อาเซเดียกัดฟันกรอดที่ถูกกระทำเหมือนแมวหยอกหนู มันสบถใส่มังกรหลายหัวอีกครั้งเพราะอีกฝ่ายมีเจตนาร้ายชัดเจน กรงเรืองแสงจากลงแปรเปลี่ยนเป็นเส้นสายบนลำตัว มันไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะทำอะไรแต่ไม่ใช่เรื่องดีแน่ วินาทีนั้นมังกรฟ้ากางเล็บกระโจนเข้าหาคู่กรณีดั่งเสือตะครุบเหยื่อหมายหยุดเรื่องร้ายแรง!
 
            ร่างมังกรครึ่งแมวร่วงลงคลุกหิมะจนร่างขาวโพลน มันไม่ได้พลาดแต่อักขระดังกล่าวถ่วงน้ำหนักพร้อมดูดซับบางอย่างของมันไปเหมือนถังน้ำมีรอยรั่ว เวทมนตร์ของอาเซเดียถูกส่งถ่ายไปให้ซูเปอร์เบียอย่างไม่ได้รับการยินยอม! หากมันตายพลังจะถูกจ่ายให้ตัวที่เหลืออยู่ทั้งหมด ถ้าใช้วิธีนี้อีกฝ่ายนั้นจะฮุบไว้คนเดียวได้! 
 
            “ไม่รู้ว่านานแค่ไหนจึงจะกินหมด สิ่งที่อยู่บนร่างเจ้าคือเวทมนตร์ธาตุความมืด หากไม่ใช้เวทมนตร์ธาตุแสงสว่างก็ตัดสายโยงระหว่างเราไม่ได้หรอก” ซูเปอร์เบียบอกให้อีกฝ่ายยอมรับชะตากรรมของผู้ถูกกิน “อย่างเดียวที่เจ้าหวังได้คือสิ่งที่พวกเจ้ากลัวจับหัวใจ ข้าเหมือนมันจึงไม่กลัวแม้แต่น้อย...มันกับทาสเดินทางตามล่าพวกเรามาร้อยกว่าปีและเพิ่งผ่านเขตนี้ไปสักหกปีก่อน คงไม่วนกลับมาเร็ว ๆ นี้หรอก”
 
            “อย่างนั้นข้าจะแช่งเจ้าให้ถูกสิ่งน่ากลัวนั่นสังหาร!” อาเซเดียร้องอย่างเดือดดาล!
 
            ทั้งเจ็ดหัวของซูเปอร์เบียประสานเสียงหัวเราะดังก้องทุ่งหิมะ 
 
            “ข้าย้อนอดีตไปไกลแสนไกลตั้งแต่ตอนเรายังเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่ ข้านึกสงสัยว่าทำไมต้นร่างของเราต้องอยู่ใต้บัญชาของเทพปิศาจด้วยในเมื่อเป็นรองแค่พวกเสาค้ำจุน ตอนเทพปิศาจถูกเหยียบเหลือเพียงซากข้าคิดเผยตัวจัดการทั้งหมดซึ่งกำลังอ่อนล้าแต่ทำไม่ได้ เจ้ากลุ่มก้อนความมืดนั่นทำหน้าที่เก็บกู้สิ่งหลงเหลือในสนามรบและจัดการผู้ยังคิดสู้ต่อ มันไม่ได้หมดสภาพเหมือนคนอื่น ๆ ทั้งที่เป็นแนวหน้าบุกตะลุย มีเพียงคนโง่ที่กระทำการโดยไม่ตรวจสอบเบื้องหน้าเบื้องหลังให้ดี ตอนนี้ข้าคิดว่าพบความลับของมันแล้ว บางทีอาจไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้” 
 
            หัวหลักของซูเปอร์เบียพูดพล่ามในขณะที่หัวอื่น ๆ ร่ายเวทมนตร์ยืดยาว หิมะใต้ร่างของอาเซเดียกลายเป็นฐานแก้วผลึกแกร่งดุจเพชรรูปวงกลม พื้นหิมะรายรอบเปลี่ยนเป็นบ่อหินหลอมเหลวเดือดพล่านตลอดเวลา ความร้อนและไอกำมะถันลดทอนพลังอำนาจของมันประหนึ่งเหล็กถูกไฟหลอมฉะนั้น! เจ้ามังกรฟ้าไม่สามารถขยับหนีได้ราวถูกตรึงบนเขียงรอคนครัว!
 
            “ไฟนิรันดรพวกนั้นจะสะกดเวทมนตร์ของเจ้าให้ต่ำลงถึงที่สุด หากเร่งกระบวนการเจ้าอาจตายจนทำให้สมดุลธาตุในอากาศผิดเพี้ยน อย่างน้อยมันก็สว่างและไม่หนาวยะเยือก มันไม่ถูกน้ำดับเหมือน ๆ กับไม่เผาไหม้ลามไปนอกพื้นที่ แต่ข้าจะหาอะไรคลุมหัวเผื่ออยากทดลองอะไรโง่ ๆ ข้าไม่อยากดึงความสนใจตอนนี้”
 
            มังกรเจ็ดหัวเดินเลี่ยงหนีสายตาอาฆาตของมังกรฟ้าเพื่อสร้างระยะห่าง หัวหนึ่งของมันเอ่ยคำใช้เวทมนตร์สั่งการหินแข็งใต้พื้นหิมะจนงอกเงยขึ้นมาเป็นโดมสูงปิดกั้นเหยื่อของมันจากภายนอก!
 
            อาเซเดียคำรามอย่างหมดหวัง มันไม่ตายตอนนี้ทว่าพลังเวทมนตร์ของมันจะถูกซูเปอร์เบียดูดไปเป็นส่วนหนึ่งของตัวเองทีละเล็กทีละน้อย นั่นอาจกินเวลาชั่วกัลป์เพราะตนสามารถดูดซับเวทธาตุจากอากาศได้ และมันไม่สามารถลุกขึ้นแก้แค้นให้ตัวเองได้เพราะถูกติดตรึงกับพื้นเหมือนเครื่องประดับ สิ่งเดียวที่มันทำได้คือนอนภาวนาให้มีผู้มาช่วยเหลือ อาจเป็นสิ่งน่ากลัวหรือใครก็ได้!
 
            อาเซเดียพานพบห้วงเวลาแห่งความเคียดแค้นสิ้นหวังยาวนานจนอวาร์ริเทียกับไอร่ามาพบเข้า ทั้งคู่ให้ความหวังกับมันว่าถ้ารวมกันครบหกตัวอาจโค่นซูเปอร์เบียได้ เจ้ามังกรฟ้าเห็นทางรอดจึงเล่าให้ทั้งคู่ฟังว่าศัตรูของพวกมันทำอะไรได้บ้างและจะเฝ้ารอวันที่ได้เอาคืน! ...
 
 
            ค่ำคืนก่อนวันเดินทางเซธฝันถึงอดีตอีกครั้ง บ้านเปิดโล่งให้แสงลอดผ่านส่องร่างคนทั้งสามในอิริยาบถต่างกัน ซาเรียในอดีตคุกเข่ากับพื้นอย่างถูกกดให้จำนน ผู้เป็นอมตะถือดาบวิเศษยื่นไปจ่อคอหอยวิญญาณป่าสาว ส่วนท่านผู้นั้นจับแขนเซธห้ามไม่ให้ทำร้ายคนอื่น!
 
            “อย่าห้ามข้าอิกริด ไม่เห็นหรือว่านางจะทำอะไร หากพลาดข้าก็ต้องอยู่ตรงนี้ตลอดกาล!” เซธในอดีตคำราม ตามความทรงจำของผู้เป็นอมตะ ตัวเขาสลบไปเพราะแผนของซาเรีย เมื่อตื่นท่านผู้นั้นก็บอกว่าทุกอย่างจบแล้ว นางวิญญาณป่าจะร่วมเดินทางไปด้วยอย่างสันติ
 
            “หากจะลงมือก็ต้องเป็นความตั้งใจของอนาทอล ตัวตนแห่งอดีตควรหลับได้แล้ว! ท่านต้องการเช่นนั้นไม่ใช่รึไง!” ท่านผู้นั้นทำให้เซธในอดีตหมดสติล้มคว่ำลงทั้งที่ถูกจับแขนอยู่ ตัวตนแห่งอดีตปล่อยร่างอ่อนแรงให้นอนกับพื้นแล้วคว้าดาบมาก่นด่าเหมือนมันมีชีวิต “นี่ก็อยากกลับไปหานายเก่าจริง ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาสักครั้ง!”
 
            “ท่านผู้แข็งแกร่งโปรดไว้ชีวิตข้าด้วย” ซาเรียในอดีตขอชีวิต เมื่อมองท่านผู้นั้นชัด ๆ จึงรู้ว่าเป็นผู้มีชื่อเสียง “หรือว่าท่านคือ...”
 
            “ข้าเชื่อว่ายัยนั่นเที่ยวพูดเรื่องชวนเข้าใจผิดไปทั่วในหมู่วิญญาณป่า ซึ่งมันไม่ได้เป็นแบบนั้น!” ท่านผู้นั้นไม่สนใจเรื่องซุบซิบเกี่ยวกับตัวเอง “เจ้าใช้เวทมนตร์พื้นฐานได้อย่างดีแถมเป็นเผ่าพันธุ์ที่จงรักภักดีต่อเสาค้ำจุน ตอนนี้ข้าแสดงตัวในฐานะเดิมไม่ได้จึงต้องการผู้ช่วยอำนวยความสะดวก อยากมากับข้าไหม ข้ายินดีมอบชีวิตอมตะและความปลอดภัยให้ห้าร้อยปีเป็นอย่างต่ำและจะเพิ่มหากเจ้าต้องการ ขอแค่เป็นมือและเท้าให้ข้าก็พอ”
 
            ซาเรียเปลี่ยนอารมณ์จากสลดเป็นสงสัยเร็วจนน่าเหลือเชื่อ นางอาจกลัวและระแวงแต่ก็ตกลงเพราะท่านผู้นั้นยืนยันว่าจะได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย สติเสี้ยวหนึ่งของเซธคิดว่าควรถามรายละเอียดเรื่องนี้กับนางอีกครั้งเมื่อตื่นแล้ว
 
            ฉากสว่างไสวถูกถมด้วยความมืดในฉับพลัน หากเปลี่ยนเป็นฝันปกติสติของเซธจะดับแต่นี่กลับชัดเจนขึ้นเหมือนตื่นอยู่ มังกรสีเหลืองทองผู้เต็มไปด้วยหนวดสีเหลืองทั่วตัวนอนมองเซธอย่างขอโทษขอโพย เขาจำได้ว่านั่นคืออวาร์ริเทีย
 
            “ขอโทษที่มากวนตอนดึก ลืมว่าเจ้าต้องแกล้งทำเป็นไปสังหารอาเซเดียตอนกลางวัน” อวาร์ริเทียรีบพูดเข้าเรื่องทันที “จะไม่มีใครเชื่อว่าเจ้าฆ่าแล้วหากไม่ได้เห็นเลือดมังกรอย่างตอนกูล่า ธาตุในแก่นของอาเซเดียคือเหล็กนั่นทำให้ขนทั่วตัวหมอนั่นมีคุณสมบัติเหมือนเหล็กกล้า มีบางสิ่งที่สร้างฤทธิ์ร้ายถึงตายต่อสิ่งมีชีวิตธาตุทองหรือเหล็กโดยไม่ต้องอาศัยกำลัง งูเหมืองแห่งทวีปเทพ ที่นั่นเคยใช้พิษงูพวกนี้ละลายเหล็กกล้าปริมาณน้อย เพียงนิดเดียวจะเกิดอาการไหม้ลุกลาม ใครเห็นต้องเชื่อว่าอาเซเดียตายแน่”
 
            เซธยังครึ่งหลับครึ่งตื่นแต่พอจับใจความได้ว่ามีสิ่งที่ทำให้อาเซเดียเจ็บหนักอย่างง่ายดาย 
 
            “ไม่ถึงตายหรือหากใช้พิษแรงแบบนั้น”
 
            “แค่ส่วนผิวเท่านั้น” มังกรเหลืองอธิบายว่ามันไม่อันตรายเหมือนที่คิด “อย่าลืมว่าพวกเราคือมังกรไม่ใช่สัตว์ธาตุที่ประกอบด้วยธาตุเดียวทั้งตัว ถ้าไม่โดนจุดสำคัญก็ไม่ถึงชีวิตหรอก แค่เห็นเลือด แผล กับเสียงกรีดร้องคนที่ได้ยินก็เชื่อว่าดับดิ้น ยิ่งเห็นความมืดปกคลุมเป้าหมายยิ่งตอกตะปูชื่อความเชื่อลงไปว่าไม่รอดแน่”
 
            เซธพยักหน้าอย่างง่วงงุน แม้จะอยู่ในห้วงนิมิตก็ไม่ต่างกับถูกปลุกมาคุยตอนดึก
 
            “แล้วอาเซเดียจะยอมให้ใช้พิษอะไรนั่นง่าย ๆ หรือ ต้องมีปะทะกันบ้างล่ะ” 
 
            “เขาถูกซูเปอร์เบียใช้ตรวนแห่งความมืดล่ามไว้จนขยับไม่ได้ เจ้าสิ่งน่ากลัวบอกว่าจะตัดการเชื่อมต่อให้หลังเล่นละครจบจะได้ไม่น่าสงสัย” อวาร์ริเทียขอตัวกลับเพราะเห็นว่าเซธควรพักต่อและบอกรายละเอียดกับท่านผู้นั้นแล้ว “จะส่งกลับห้วงฝันปกติให้ ที่รีบมาคุยเพราะอยากให้ทำเหมือนเป็นความคิดเจ้า” 
 
            หลังคำขอโทษของมังกรเหลืองเซธก็หลับลงไปทันที ฝันวุ่นวายไร้สาระผิดกับตอนแรกเข้ามาทำให้เขาผ่อนคลายจากความเครียดทั้งหลาย...
 
(มีต่อ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่