รับคำท้า(หัวใจ)ยัยตัวแสบ ตอนที่ 32 อุปสรรคของความรัก

รับคำท้าฯ
ตอนที่ 32
 
                ปริมามองผลการเรียนของหนุ่มจอมกวนระดับมัธยมศึกษาปีที่หก ดวงตาของเธอเบิกกว้างอย่างตกใจ  ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลย  เขายังคงได้เกรดสี่ทุกวิชา  แม้ว่าคะแนนจะเฉียดฉิวมาก  แต่ผลการเรียนของเธอสิ!  ดันได้เกรดสามมาหนึ่งตัว  หมดกัน!  โธ่!

                “เป็นไง”  ปฏิการมองเห็นเธอเลื่อนหน้าจอมาถึงผลการเรียนปีสุดท้ายแล้ว
                “นายชนะ” อีกฝ่ายก้มหน้าตอบเสียงอ่อย สีหน้าเหมือนหมดอะไรตายอยากที่ไม่สามารถยกเลิกสัญญาที่เผลอรับปากว่าจะยอมเป็นแฟนกับเขาได้

                หนุ่มหน้าหวานยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง  พลางตบไม้ตบมือแสดงความดีอกดีใจจนออกนอกหน้า  จนต้นแขนของเขาชนกับต้นแขนของเธอ  มองหน้าหวานใจในอนาคต อยากจะเอียงหัวซบไหล่คนที่นั่งข้าง ๆ เวลานี้จัง...แต่ไม่กล้า  ได้แต่เอียงศีรษะเข้าไปใกล้ ๆ แต่กะให้ไม่โดนไหล่ของเธอ ใบหน้าอมยิ้มไม่หุบ ก่อนจะดึงศีรษะกลับมา เมื่อนึกอะไรออก  แล้วกดโทรศัพท์ไปหาคนที่นั่งอยู่ติดกัน

                เสียงข้อความทางไลน์โทรศัพท์ในมือของเธอดังขึ้น คนส่งข้อความเป็นคนที่นั่งอยู่ข้างเธอ  เจ้าของโทรศัพท์ทำหน้างง ก็อยู่ใกล้กันแค่นี้จะไลน์มาหาทำไม?  ประสาทรึเปล่า?

                “อ่านสิ!” หนุ่มข้าง ๆ เอนตัวยื่นหน้ามาบอกให้เธอกดอ่านข้อความของเขา
                “ต่อไป ถ้าฉันไลน์มา เธอต้องเปิดอ่าน  ตามข้อตกลงใหม่ไงล่ะ”  หนุ่มหน้าหวานพูดพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ 

                หญิงสาวทำหน้าเซ็ง  เม้มริมฝีปากอย่างเขม่นเข่นเขี้ยว ให้มันได้ยังงี้สิ!  ก่อนจะจำใจเปิดอ่าน
                หนุ่มผมยาวมองสีหน้าเซ็งเป็ดของเธอแล้วทำให้อดถามออกไปไม่ได้
                “ทำไม! เป็นแฟนกับฉันมันไม่ดีตรงไหน ทั้งหล่อ ทั้งน่ารัก ทั้งแสนดีขนาดนี้” 

                ‘แหวะ!!’ หญิงสาวอยากจะหันไปทำหน้ายู่ใส่เขา แต่ชะงักไว้ก่อน  เมื่อชายตามองคนที่นั่งข้าง ๆ ด้านขวามือ ขาของเขาเกือบจะชนกับขาของเธออยู่แล้ว กล้าดียังไงมานั่งประชิดตัวเธอขนาดนี้  เหลือบมองเห็นมือขาว ๆ ของอีกอีกฝ่ายวางอยู่ใกล้มือของเธอที่วางบนโต๊ะ รู้สึกถึงไออุ่นจากตัวชายหนุ่ม โดยเฉพาะได้ยินเสียงลมหายใจของเขา

                “ถอยไป!”  เธอพูดเตือนด้วยน้ำเสียงดุ ๆ โดยไม่กล้าหันไปมองด้านขวามือ  กลัวว่าจะหันไปจ๊ะเอ๋! กับแก้มขาวละมุนของพ่อหนุ่มหน้าหวาน  แล้วรีบลุกหนีออกไปด้านซ้ายมือทันที

                เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น  สายเข้าเป็นเบอร์ของพ่อหนุ่มจอมกวนอีกแล้ว คนต้องรับสายทำหน้าเบื่อหน่าย  พลางถอนหายใจ
                “รับสิ!”  คนโทรเข้าพยักหน้า บอกเธอให้รับโทรศัพท์

                ปริมาพยายามสะกดอารมณ์ขุ่นข้องหมองใจที่ต้องทำตามข้อตกลงใหม่เพิ่มขึ้น ต้องรับสายเมื่อเขาโทรมาหา
                ยัยตัวแสบกดรับสาย  แล้วกดวางทันที ตีสีหน้าว่า มีปัญหาอะไรหรือเปล่า? พลางยิ้มเยาะใส่เขา
                “รับแล้วนะ”  หญิงสาวอมยิ้มอย่างคนที่เหนือกว่า  ก่อนจะทำลอยหน้าลอยตายียวนกวนโอ๊ย  รับสายเหรอไม่เห็นจะยากเลย

                คนโทรเข้าทำหน้าหงุดหงิด แบบนี้ก็ได้เหรอ? เธอปฏิเสธการรับสายของเขาโดยไม่ผิดข้อตกลงได้
                “นี่! ถ้าฉันโทรไปหาแล้วเธอรับแล้วกดสายทิ้งแบบนี้อีก  ฉันจะโทรจนกว่าเธอจะยอมพูดด้วยนะ”  หนุ่มจอมกวนไม่ยอมเด็ดขาด
                “คนเป็นแฟนกันทำแบบนี้ได้ไง”  ชายหนุ่มบ่นด้วยความไม่พอใจกับวิธีรับสายของยัยตัวดี  กดรับแล้ววางสายทันทีมีที่ไหน  ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย

                “เป็นแฟนอะไรไม่ทราบ!  นายทำตามสัญญาได้ครบหมดแล้วหรือยัง? ถ้ายังทำไม่ได้ซักข้อ อย่ามาใช้คำนี้กับฉัน!”  หญิงสาวหัวเสียที่เขาใช้คำว่าเป็นแฟนกับเธอ  พูดพลางรีบเดินไปที่ประตูบ้านอย่างรวดเร็ว

                “นายเปลี่ยนชีวิตตัวเองไปถึงไหนแล้วล่ะ”  เจ้าของบ้านยกมือจับลูกบิดประตูไว้ เริ่มพูดถึงเงื่อนไขข้อแรกของการจะเป็นแฟนกับเธอ
                “ผมนายตัดหรือยัง?”  เธอถามคำถามสุดท้ายก่อนออกแรงดึงลูกบิดประตูเข้าหาตัวให้ประตูเปิดออก

                “นี่!  ผมของฉันมันผิดตรงไหน?”  หนุ่มผมยาวหัวร้อนฉ่า เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูเข้าบ้านของยัยตัวแสบ ผมมันเกี่ยวอะไร อยากรู้เหตุผล!

                “ไม่ผิด!  แต่ฉันไม่ชอบผู้ชายผมยาว  เข้าใจมั้ย?  ถ้าทำไม่ได้! ก็ยกเลิกสัญญาซะ!”  พูดจบรีบเข้าบ้านแล้วปิดประตูทันที  หญิงสาวเงยหน้าพิงกับประตูบ้าน  ยกมือตบหน้าผากตัวเอง  โอ๊ย! เธอรู้สึกเหมือนกำลังจะสูญเสียชีวิตโสด กำลังจะกลายเป็นคนมีเจ้าของแล้ว  ให้ตายสิ!  เหมือนเขารุกคืบใกล้เข้ามามากขึ้นทุกที 
 
                “ใจร้าย!” ปฏิการทำหน้างอ  เขาเป็นคนรักผมยาวเป็นชีวิตจิตใจ การต้องตัดผมทำให้ต้องคิดหนักมาก  คงต้องเอาไว้เป็นข้อสุดท้ายเลยแล้วกัน  หนุ่มผมยาวเดินถอยหลังออกจากประตูบ้านของหญิงสาว  สายตามองขึ้นไปชั้นบน  ไฟห้องของเธอเปิดแล้ว  เขายังคงเดินถอยหลังอย่างช้า ๆ  สายตาหยุดอยู่ที่หน้าต่างห้องของปริมา อย่างน้อยวันนี้ก็ทำให้เธออ่านไลน์และรับโทรศัพท์ของเขาได้แล้ว ไม่ว่าแม่ตัวแสบจะอ่านไลน์หรือรับสายเขาด้วยวิธีไหนก็ตาม  ถือว่ามีพัฒนาการมีความก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง  ริมฝีปากบางได้รูปนั้นค่อย ๆ โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มน้อย ๆ

                “ยัยตัวแสบ เธอรอแฟนกับฉันได้เลย!”

                หนุ่มนักดนตรีรู้สึกขอบคุณบิดาที่ช่วยเคี่ยวเข็ญเรื่องการเรียนมาตลอด ทำให้เขาชนะเธอได้ในวันนี้  ขอบคุณโชคชะตาที่เข้าข้าง  ทำให้สัญญาระหว่างเขาและเธอยังคงดำเนินต่อไป  ยัยตัวแสบต้องเป็นเนื้อคู่ของเขาแน่นอนเลยแบบนี้  ชายหนุ่มอมยิ้มอยู่คนเดียว

 
                ****************                                      
 

                เสียงริงโทน I just call to say I love you ดังติดต่อกันอยู่นานแล้ว  ปัถยาเดินมาดูโทรศัพท์ของปฏิการที่กำลังส่งเสียงอยู่ มองซ้ายมองขวาไม่เห็นเจ้าของโทรศัพท์  ซึ่งเขาบอกเธอว่าจะไปเข้าห้องน้ำ    สาวใหญ่รีบไปล้างมือที่เปื้อนเพื่อจะมารับสายให้  แต่ทว่า มารับไม่ทัน  เมื่อเดินมาถึงเสียงโทรศัพท์ก็เงียบลงแล้ว  เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพหน้าจอล็อคโทรศัพท์ของพ่อหนุ่มนักดนตรีเป็นรูปหญิงสาวหน้าตาน่ารักเชียว  อดสงสัยไม่ได้ว่าเธอเป็นใคร?  ต้องมีความสำคัญกับเขามากถึงใช้ภาพนี้  ยังไม่ทันคิดอะไรต่อเจ้าของโทรศัพท์ก็ยื่นมือมาคว้าโทรศัพท์ไป

                “เมื่อกี๊มีสายเข้าจ้ะ”  เธอเดินไปหยิบเหยือกน้ำปั่นผักออกมาจากตู้เย็น 

                “รูปใครเหรอ...”  เธออดถามถึงรูปหญิงสาวบนหน้าจอโทรศัพท์ของเขาไม่ได้  แล้วเทน้ำปั่นผักลงในแก้วใสทรงสูงส่งให้ชายหนุ่ม

                “เอ่อ....”  ใบหน้าขาวละมุนนั้นเริ่มแดงระเรื่อขึ้นเรื่อย ๆ  มีรอยยิ้มเขินที่ปกปิดไม่มิด  คนถูกถามเบือนหน้าหนี ไม่กล้าสบตาคนถาม
                “ใครจ๊ะ”  ปัถยาอมยิ้มมองอาการเขินของคนหน้าหวาน  ซึ่งดูน่ารักน่าเอ็นดูมาก  แบบนี้ต้องตามไปถามต่อ

                คนเขินยกมือสองข้างปิดหน้าปิดตาตัวเอง อายม้วนหันตัวหลบไม่กล้าเผชิญหน้า
                ปัถยาหัวเราะอาการเขินของหนุ่มน้อย
                “บอกหน่อย  น้าจะเก็บไว้เป็นความลับเลย”  อีกฝ่ายเอนตัวมากระซิบกระซาบถามด้วยเสียงแผ่วเบา

                “หวานใจ...ครับ...” หนุ่มน้อยกระซิบบอกเบา ๆ ใบหน้านั้นยังอมยิ้มเขินตลอดเวลา
                “ชื่ออะไรจ๊ะ”  เธอมองหนุ่มผมยาวส่งยิ้มหวาน  นัยน์ตาเป็นประกายวิบวับเหมือนคนกำลังมีความรักไม่มีผิด
                “ปริมครับ” 

                “ว่าง ๆ พาเธอมาทานข้าวด้วยกันสิ”  ปัถยามองหน้าลูกชายของสามี  รู้สึกคุ้นชื่อนี้ชอบกล แต่ยังนึกไม่ออก

                ใบหน้าเขินอายนั้นเปลี่ยนเป็นหน้างอขึ้นมาทันที
                “ยังไม่ได้หรอกครับ” 

                คำตอบนั้นทำให้คนถามขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
                “เธอยังไม่โอเคครับ  ผมกำลังตามจีบเธออยู่”

                สาวใหญ่เบิกตาโตด้วยความแปลกใจ  มีสาวที่กล้าปฏิเสธหนุ่มหล่อน่ารักขนาดนี้ด้วยหรือ?  มันเป็นไปได้อย่างไร?
                “ชอบเธอเพราะอะไรจ๊ะ” ภรรยาของพ่อถามต่อไป  พลางใช้มีดริดใบโหระพาออกมาเป็นใบ ๆ ใส่ลงในชาม

                “เธอน่ารักมาก  เก่งและขยัน เธอเลิกขอเงินพ่อแม่ได้ตั้งแต่อายุสิบสองแล้ว  จิตใจดี มีความคิด คอยช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอ ผมรู้สึกอยากช่วยเธอครับ”  หนุ่มหน้าหวานยกแก้วน้ำปั่นผักขึ้นดื่ม

                “อร่อยจังเลยครับ”  

                ปัถยามองหน้าหนุ่มน้อย ผู้หญิงที่เขาชอบไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาที่แค่จะต้องสวยน่ารักอย่างเดียว เขาช่างเหมือนพ่อของเขาตอนหนุ่ม ๆ ไม่มีผิด ต้องตามจีบปาริชาติแบบนี้เลย

                “คุณน้ากำลังเตรียมผักไว้ทำน้ำปั่นผักให้พ่อผมเหรอครับ ให้ผมช่วยนะครับ”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่