JJNY : เงินถูกสูบไม่รู้ตัว ผู้เสียหายเป็นหมื่น│โพลชี้ปชช.มองว่ายังไม่ถึงเวลาเปิดปท.│ดร.อนันต์ย้ำอย่าประมาท│ชัยภูมิ อ่วม!

เช็กด่วน! บัตรเครดิต-เดบิต เงินถูกสูบไม่รู้ตัว วันเดียวผู้เสียหายเป็นหมื่น หลากหลายธนาคาร
https://www.sanook.com/news/8459450/
 
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 ต.ค.) ในโลกออนไลน์มีการรวมตัวกันของกลุ่มผู้เสียหายร่วมหมื่นราย ในกลุ่ม แชร์ประสบการณ์โดนหักเงินจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว หลังผู้เสียหายจำนวนมากตรวจสอบพบว่ามีเงินถูกหักจากบัญชีธนาคารโดยไม่รู้ตัว โดยส่วนใหญ่เป็นยอดน้อยๆ ไม่ถึงร้อยบาท แต่เป็นการดูดออกรัวๆ หลายๆครั้ง บางคนโดนจนเกลี้ยงบัญชี และโดนกันหลากหลายธนาคาร โดยรายการธุรกรรมเหล่านี้ จะระบุว่าเป็นการ "ชำระค่าสินค้าผ่าน EDC"
จากการแชร์ประสบการณ์ร่วมกันของผู้เสียหายหลายเคส พบว่าจุดสังเกตุที่ตรงกันคือ บัญชีที่โดนจะเป็นบัญชีที่มีการผูกกับบัตรเดบิต รวมทั้งมีการผูกบัตรไว้กับแอปพลิเคชันออนไลน์ต่างๆ อาทิ แอปฯ ซื้อของออนไลน์, แอปฯ จองโรงแรม, แอปฯ สายการบิน หรือแอปฯ กระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีกรณีของบัตรเครดิต ที่ถูกแฮ็ก มีรายการทำธุรกรรมผิดปกติขึ้นมาในเวลาใกล้เคียงกันเช่นเดียวกัน
 
โดยล่าสุดในเพจของ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ได้โพสต์ภาพกระดาษรายงานรายการทำธุรกรรมของธนาคารแห่งหนึ่ง พร้อมระบุว่า 
 
น่าจะเรื่องใหญ่ครับ แอปฯ ที่ผูกกับบัญชีธนาคาร บัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต โดนกันแบบนี้!

ขอขอบคุณ
ข้อมูล : แชร์ประสบการณ์โดนหักเงินจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว, สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
 

 
ดุสิตโพลชี้ ปชช.มองว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดประเทศ 60.10%
https://www.isranews.org/article/isranews-short-news/103396-dusitpoll-23.html

"...สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี “เปิดประเทศ 1 พ.ย.64”  พบว่า ประชาชนมองว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัว ร้อยละ 60.10 ปัจจัยที่จะทำให้เปิดประเทศได้ คือ ต้องฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพให้กับประชาชนได้เกิน 70% ร้อยละ 74.78 และมองว่าข้อจำกัดคือ ประชาชนยังไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วน ร้อยละ 71.60..."
 
.......................
 
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี “เปิดประเทศ 1 พ.ย.64” กลุ่มตัวอย่าง 1,392 คน ระหว่างวันที่ 11-14 ตุลาคม 2564 พบว่า ประชาชนมองว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัว ร้อยละ 60.10 ปัจจัยที่จะทำให้เปิดประเทศได้ คือ ต้องฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพให้กับประชาชนได้เกิน 70% ร้อยละ 74.78 และมองว่าข้อจำกัดคือ ประชาชนยังไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วน ร้อยละ 71.60 ผลดีของการเปิดประเทศคือ กระตุ้นเศรษฐกิจ ร้อยละ 77.29 ผลเสียคือ อาจเกิดการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น ร้อยละ 83.43 และภาพรวมประชาชนไม่เห็นด้วยกับการเปิดประเทศ 1 พ.ย. 2564 ร้อยละ 59.86
 
จากผลการสำรวจเมื่อพิจารณากลุ่มตัวอย่างจำแนกรายอาชีพ พบว่า กลุ่มอาชีพประกอบธุรกิจเห็นด้วยกับการเปิดประเทศมากที่สุด รองลงมาคือกลุ่มรับจ้าง/ลูกจ้าง ถึงแม้ว่าจะกังวลเรื่องการติดเชื้อใหม่ แต่ก็คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเกิดการจ้างงานมากขึ้น สร้างความหวังที่จะลืมตาอ้าปากได้ ดังนั้นรัฐบาลจึงควรมีมาตรการรองรับที่ชัดเจน สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั้งด้านสุขภาพและการฟื้นฟูเศรษฐกิจไปพร้อม ๆ กัน
 
จากการที่รัฐบาลมีนโยบาย “เปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องเดินทางมาจากกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ และต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว” ถือเป็นความเสี่ยงที่ท้าทายมาก เนื่องจากจำนวนประชากรคนไทยที่ได้รับการฉีดวัคซีนทั่วประเทศแล้วนั้น ยังมีจำนวนตัวเลขเพียงแค่ 50 กว่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งผลสำรวจจากสวนดุสิตโพล พบว่า ประชาชนร้อยละ 60.10 คิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว แต่รัฐบาลมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อที่จะให้ประเทศชาติเดินต่อไปข้างหน้าให้ได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีค่า GDP ที่สูงขึ้น แน่นอนว่าเมื่อการเปิดประเทศเกิดขึ้นจริง ธุรกิจทุกภาคส่วนย่อมต้องมีการขับเคลื่อนไปข้างหน้าซึ่งต้องใช้แรงงานคน มากขึ้น อาจมีการลักลอบเข้าเมืองของคนต่างด้าวที่ผิดกฎหมายได้ รัฐบาลควรทำให้คนเหล่านี้ถูกกฎหมายเพื่อที่จะได้รับการฉีดวัคซีนจากภาครัฐ เพื่อความปลอดภัยของแรงงานต่างด้าวและประชาชนภายในชาติของเราด้วยเช่นเดียวกัน
 

 
'ดร.อนันต์'ย้ำอย่าประมาทฉีดวัคซีน 2 เข็มแล้ว ยังเสี่ยงแพร่-ติดเชื้อ!
https://www.dailynews.co.th/news/383138/
  
"ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา" เปิดข้อมูลเตือนอย่าชะล่าใจ แม้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็มแล้ว ยังป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไม่ได้ดีนัก ย้ำยังเสี่ยงติดเชื้อ!
 
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ได้ให้ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ระบุว่า 
 
“ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มไม่ว่าจะเป็นสูตรใดยังมีโอกาสติดเชื้อได้อยู่” ข้อมูลก่อนหน้าเดลต้าดูเหมือนจะบอกว่า ถึงแม้จะติดเชื้อได้อยู่แต่ปริมาณไวรัสจะอยู่ในร่างกายไม่มาก มีแนวโน้มจะไม่เพียงพอต่อการแพร่กระจายต่อ ความเชื่อว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนจะปลอดภัย หลายประเทศอนุญาตให้ประชากรของตัวเองถอดหน้ากากทำกิจกรรมต่างๆได้ แต่อีกไม่นานต่อมาต้องมารณรงค์ให้ใส่หน้ากากอนามัยกันอีกครั้ง
  
ข้อมูลในวารสาร Nature Medicine ที่เพิ่งตีพิมพ์ออกมา เก็บข้อมูลในประชากร มากกว่า 15000 ที่ตรวจโควิด ด้วย RT-PCR ในช่วงเวลาต่างๆ และ มีข้อมูลการฉีดวัคซีน (AZ และ PZ) หรือ การติดเชื้อมาก่อน แสดงให้เห็นชัดว่า องค์ความรู้ที่ได้มาจากการติดเชื้อโควิดก่อนเดลต้า ไม่สามารถนำมาใช้กับเดลต้าได้
 
“ในขณะที่การติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิม (G) และ แอลฟ่า ผลจากการฉีดวัคซีนแม้จะแค่เข็มเดียว หรือ เคยติดเชื้อมาก่อน ส่งผลให้ปริมาณไวรัสที่ตรวจได้หลังจากที่ไปติดเชื้อซ้ำมา มีน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนจริงๆ” ข้อมูลจะชัดมากในช่วงแอลฟ่าระบาด ซึ่งเป็นช่วงที่มีมาตรการหยุดใช้หน้ากากอนามัย แต่เมื่อเดลต้าเข้าระบาดในประเทศ ข้อมูลปริมาณไวรัสในผู้ป่วยเปลี่ยนไปชัดเจนครับ เดลต้าสามารถตรวจวัดได้เท่าๆกันในทุกกลุ่ม ไม่มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะไม่เคยฉีดวัคซีน ได้วัคซีนเข็มเดียว สองเข็มครบ หรือ เคยติดเชื้อมาก่อน ที่น่าสนใจคือ คนที่เคยติดเชื้อมาก่อนติดเชื้อเดลต้าซ้ำมีไวรัสเหมือนจะมากกว่าคนที่ไม่ได้รับวัคซีนด้วย (แต่ไม่แน่ใจว่ามีนัยสำคัญทางสถิติหรือไม่) ค่า Ct ประมาณ 20-25 นี้เป็นค่าที่ ATK ตรวจพบได้ เป็นค่าที่สามารถเพาะเชื้อไวรัสขึ้น และ แน่นอนไวรัสแพร่กระจายต่อได้
 
“วัคซีนเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากในการป้องกันอาการโควิด แต่วัคซีนตอนนี้ยังป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไม่ได้ดีนัก ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วทำอะไรได้บ้าง ไม่ได้บ้าง คงต้องสื่อสารให้ชัดครับก่อนจะเข้าใจผิดกัน”..
 
ขอบคุณภาพและข้อมุลจาก @Anan Jongkaewwattana
https://www.facebook.com/anan.jongkaewwattana/posts/4888330171206866
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่