พนักงานอารมณ์ร้อน ขยำบิล แล้วเขวี้ยงทิ้งต่อหน้า

กระทู้คำถาม
วันนี้ไปสร้างซุ้มประตูพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิดให้วัด ..
ขากลับตั้งใจไปกินบะหมี่ร้าน ..
ถึงร้านก็เขียนออเดอร์แล้วไปส่งที่แคชเชียร์
เพื่อจ่ายเงินค่าอาหารก่อนรับอาหาร
ขณะที่แคชเชียร์คิดราคา 
บัวก็กดบวกค่าอาหารไปด้วย 
มี 5 บิล บวกได้ 3 บิลแล้ว
อีก 2 บิล แคชเชียร์ให้ดูแต่มีการตบบิลกับเคาน์เตอร์
บัวก็ตกใจ บอกกับเค้าว่า 
ทำไมทำแบบนี้ พี่มองได้ 
แค่นั้นเอง แคชเชียร์ก็ขยำบิลแล้วเขวี้ยงทิ้ง
พูดว่า ไม่ขายคนเรื่องมาก
แล้วลุกจากเคาน์เตอร์ไป 
บัวงงอยู่ไม่กี่วินาที เดินตามไปตะโกนถาม
คุณทำแบบนี้ได้ยังไง 
เค้าหันมาตอบ ไม่ขายลูกค้าเรื่องมาก 
ขณะที่ว้าวุ่นใจอยู่นั้นเจ้าของร้านเดินมา 
ยกมือไหว้ขอโทษและถามว่าเกิดอะไรขึ้น 
บัวเล่าให้พี่เค้าฟัง เด็กคนนั้นเถียง 
บัวก็ท้าให้เปิดกล้องวงจรปิดดูเหตุการณ์
บัวเล่านาทีที่แคชเชียร์ขยำบิลแล้วเขวี้ยงต่อหน้า
น้ำตามันไหลออกมา บัวร้องไห้หนักมาก 
บัวเปิดประวัติการใช้โทรศัพท์ให้เจ้าของร้านดู 
ให้เค้าเห็นว่าเราตั้งใจมาร้านเค้า 
เรามาตามจีพีเอสบอกทาง 
พอมาเจอพนักงานอารมณ์ร้อนแบบนี้ 
ไม่ไหวจริงๆ เสียใจมาก
ถึงเวลานี้ แทนที่บัวจะหลับได้แล้วเพราะ 
ก็เหนื่อยมาทั้งวัน
แต่บัวหลับตาก็เห็นแต่ภาพแคชเชียร์คนนั้น
กิริยานั้น บัวนอนไม่หลับเลย 
สงสารเจ้าของร้าน ต้องมาขอโทษแทนเด็กนั่น 
ถ้าพี่เจ้าของร้านมาอ่านเจอ 
คุ้นๆเรื่องราว 
ได้โปรดทราบว่าบัวไม่ได้โกรธใครเลย
แค่ภาพมันติดตา 
 เค้าขยำบิล เหมือนขยำใจบัว
เค้าปาบิลทิ้ง เหมือนอยากจะเขวี้ยงใส่หน้าแต่มีพลาสติกกั้น 
ภาพนี้คงลืมยาก เพราะไม่เคยมีใครทำแบบนี้ใส่บัวและบัวก็ไม่เคยทำใส่ใคร 

😔😔😔😔

ขอขอบคุณน้องๆที่เข้ามาให้กำลังใจนะคะ 
พอได้ยิ้มออกมาบ้างแล้ว จิตใจดีขึ้นบ้างแล้ว
ขอผลบุญที่พี่ได้ทำในวันนี้ทั้งหมด  
ส่งผลให้น้องๆทุกท่านสุขภาพแข็งแรง 
คิดสิ่งใดที่ดีงามขอให้สมความปรารถนาค่ะ 

❤️❤️❤️❤️
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ต้องขอโทษ จขกท ก่อนที่คิดต่าง
           ผมอ่านเรื่องแล้วรู้สึก เรื่องมาก ที่พนักงานว่า อาจจะจริง
           มองในมุมพนักงาน ถ้าเขาเป็นคนใจร้อนก็คงมีปฏิกิริยาแบบนั้น (เป็นผมก็คงมองแหล่ๆแล้วก็บ่นในใจ)
           คือถ้าจะบวกเงินรวมเงินก็น่าจะทำก่อนส่งบิล เสียเวลา เสียความรู้สึก วุ่นวาย(ในความคิดของพนักงาน/ผม)
           ยิ่งอ่านถึงตอน กลับมาบ้านจะนอนแล้วยังคิดโน่นคิดนี่(ทั้งที่ฟ้อง ผจก ให้จัดการไปแล้ว)
           ก็ยิ่งคิดว่า จขกท ไม่ปล่อยวางอะไรเลย(ไม่ยอมคน จู้จี่จุกจิก)
           (คือผมเป็นคนแบบ ยอมคน/เอาใจคน ไม่ค่อยต่อสู้แข่งขัน เจอคนไม่ยอมคนจะถอยห่าง ไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยถึงจะเก่งก็เถอะ)
ความคิดเห็นที่ 21
อ่านแล้วเอ่อ... ถอนใจเฮือก... เรื่องไม่เป็นเรื่องเท่าไหร่เลย
จขกท กับแคชเชียร์ คือ คนที่อยู่คนละขั้วเลย
อ่อนไหวเกินเหตุ กับ แข็งกระด้าง
มาเจอกัน ปฎิกิริยา ต่อกัน จึงรุนแรงเกิดกว่าเหตุไปมาก

ถึงกับ
"น้ำตามันไหลออกมา บัวร้องไห้หนักมาก"
"หลับตาก็เห็นแต่ภาพแคชเชียร์คนนั้น กิริยานั้น บัวนอนไม่หลับเลย"
"เค้าขยำบิล เหมือนขยำใจบัว"

ความเห็นส่วนตัวนะ จขกท เป็นคนเยอะจริง ๆ  ขอโทษถ้าออกความเห็นไม่ถูกใจ
เราก็เป็นแม่ค้านะคะ เราก็มรรยาทดีงามตามสมควร
แต่ลูกค้าแบบ จขกท ขอเลี่ยงดีกว่า

จินตนาการออกมา เดาว่า 5 บิล เพราะ สั่งไม่จบ เดี๋ยวสั่งเพิ่ม สั่งเพิ่ม เรื่อยๆ แล้วจะสั่งเปลี่ยนแปลง เพิ่มนี่ รับนั่น ไม่รับโน่น
แคชเชียร์ เป็นลูกชายเจ้าของร้าน มีฐานะเปรียบเป็นเจ้าของร้านน่ะแหล่ะ จึงมีความมั่นใจ กล้าแข็งกระด้างและกล้าปฏิเสธลูกค้า
ในอีกมุมคือ มีทัศนวิสัยแบบคนมีอำนาจตัดสินใจ ปฏิกิริยาจึงแรงไปตามอำนาจที่มี
เขาอาจจะหงุดหงิดตั้งแต่ ความยุ่งยากการสั่งแล้วไหม
เพราะแค่มาทวนบิลเวลาคิดสตางค์ ไม่น่าจะโมโหได้ขนาดนี้
เวลาสั่งอาหาร ความยุ่งยากอยู่ที่ operation หรือกระบวนการทำ
ออเดอร์เยอะ ๆ ในบิลเดียวยุ่งยากจริง ๆ ถ้าปริมาณมาก ควรต้องวางแผนล่วงหน้า สั่งล่วงหน้า ให้ร้านค้ามีเวลาทำงาน
ถ้าให้ดี ช่วย ๆ กัน ....สรุปเองให้เสร็จ แล้วสั่งทีเดียว ... ใจเขาใจเรานะคะ
แล้วเวลามาคิดเงิน แคชเชียร์ต้องตั้งสมาธิดี ๆ แล้วถ้าเกิดต้องแก้ (void) รายการในเครื่องแคชเชียร์ ขั้นตอนนี้ยุ่งยาก ไม่สนุก
แล้ว จขกท มาเซ้าซี้ เร่งเร้า ขอทวนสอบในเวลาเดียวกัน ... เป็นเราก็ฟิวส์ขาดได้เหมือนกัน
แต่เราคงพูดตรง ๆ กับลูกค้าให้ใจเย็นก่อน ขอสรุปก่อน แล้วค่อยมาทวนสอบพร้อมกัน

ไม่รู้ว่า ร้านปกติขายดีไหม เขากำลังมีออเดอร์อื่น ๆ พันตูด้วยหรือป่าว
ถ้าเป็นแบบนั้น ความเครียดสะสมมี
เขาตบบิลแบบ ไม่อยากขาย แปลว่าเขาไม่ง้อออเดอร์ จขกท เลย ..เดาว่าขายน่าจะดีน่ะแหล่ะ

เราพูดในมุมของแม่ค้าอ่ะนะ เพราะเราแปลกใจ ถ้าแค่เรื่องบิลธรรมดา
ไม่น่ามีใครถือโทสะในเรื่องเล็กน้อยขนาดนี้ ยกเว้นต้องมีเหตุการณ์มาก่อน
เรามีเพื่อนนิสัยทำนอง จขกท พวกมีเงินทอง โลกสีชมพูเสมอ ไปไหนเหมือนต้องการให้คนเอาใจพินอบพิเทาตลอดเวลา
จ่ายดีมีทิป แต่เหนื่อยบริการมาก ส่วนตัวเราไม่ชอบ
ความคิดเห็นที่ 18
รู้สึกว่าจขกท. เล่าไม่ค่อยรู้เรื่อง พูดไม่หมด และพยายามโทษว่าเป็นความผิดพนักงาน(โดยไปอ้างถึงแต่นิสัยและประวัติส่วนตัว)
ความคิดเห็นที่ 17
ทำไมอารมณ์อ่อนไหวขนาดนั้นอ่ะครับ
ถ้าร้านไม่อยากขายก็เรื่องของเขา
เราก็ไปหาร้านให้ที่ตรงใจ ในเมื่อเสนอ ไม่ตรงกับ สนอง ก็แยก

ไม่ควรเก็บเอามาคิดให้เป็นอารมณ์ และพร่ำเพ้อ
ที่สำคัญไม่ควรไปคิดแทนคนอื่นหรือเอาความรู้สึกไปสงสารพ่อเขา
ใจควรนิ่งและหนักแน่นกว่านี้นะครับ ชีวิตยังมีอะไรอีกเยอะ
ความคิดเห็นที่ 16
รูปแบบการเขียนนึกว่านั่งอ่านนิยายอยู่ อย่างไรเสียน้องบัวน้อยก็ลอยอยู่กลางใจพี่น้ำเสมอและตลอดไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่