แบ่งปันการสอบ TOEFL IBT 2021 (โดนเลื่อนสอบ)

สวัสดีค่ะ ชาว pantip  (เห็นในหนังชอบเกริ่นแบบนี้ขอลองบ้าง อิๆ)
อิฉันขอใช้พื้นที่ในกระทู้นี้ในการแบ่งปันวิธีการเตรียมสอบ TOEFL IBT ที่ตัวอิฉันเองได้ประสบพบเจอมา อิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์แก่หลายๆ ท่านที่คิดจะเตรียมสอบเช่นเดียวกันค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่าอิฉันจำเป็นที่ต้องใช้วัดระดับภาษาอังกฤษ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยสอบ IETS ไปแต่ไม่รุ่งเท่าที่ควรจึงหันเห มาซบอก TOEFL บ้าง โดยการสอบครั้งนี้เป็นการสอบ TOEFL ครั้งแรก ใช้วิธีการเรียนเองและใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 เดือนค่ะ ในกระทู้นี้จะมีการเขียนเป็นประเด็นตามลำดับข้อลงไปจ้ะ
อ่ะพร้อมรึยัง พร้อมแล้วเริ่มเลยจ่ะ

1. การโดนเลื่อนสอบ
อิฉันโดนเลื่อนสอบ TOEFL ค่ะคุณผู้ช้มมม โดยแรกเริ่มเดิมทีได้จองสอบไว้วันที่ 7 สิงหาคม ที่ Shine education (แถวจตุจักร) ชะนีที่สอบครั้งแรกอย่างอิฉันก็หน้าเหลอหลาไปสิ จู่ๆมีอีเมลจาก Prometic (ส่งมาใน junk) แจ้งให้ผู้เข้าสอบไม่ต้องไปตามที่นัดเนื่องจากสถานการณ์ COVID แล้วอีเมลที่เข้ามาดันมาตอนตีสี่ของวันที่ 5 สิงหาคม ไอ้เราก็ตกใจ งงว่า Prometic คืออะไรนี่มาหลอกเราไม่ให้เราไปสอบรึเปล่า (ฮาา) แต่หลังจากนั้นตอนแปดโมงเช้าในวันเดียวกัน อิฉันก็ได้รับอีเมลจาก ETS โดยตรงว่าการเลื่อนสอบมันเกิดขึ้นจริงๆ โดยในอีเมลได้แจ้งให้มีการจองวันสอบและสถานที่อีกครั้งโดยกำหนดให้ทำการจองสอบใหม่ ให้รีบเลือกก่อนถึงวันจองสอบวันเดิม (7 สิงหาคม) อิฉันจึงรีบเลือกทันทีทันใดเป็นวันที่ 4 กันยายน 2021 แต่คราวนี้จองเป็นที่เกษมบัณฑิตร่มเกล้าแทน ดังนั้นในวันที่ 7 สิงหาคม อิฉันจึงไม่ได้ไปตามนัดและรอไปวันที่ 4 กันยายนแทน

2. การเตรียมสอบของอิฉัน
2.1) การฟัง
อิฉันเชื่อว่าส่วนนี้น่าจะเป็นส่วนที่หลายๆท่านน่าจะถนัดกัน ในส่วนนี้อิฉันฝึกโดยการฟัง Barron เล่มเขียว (อยากแทรกรูปแต่อิฉันใส่รูปบ่เป็น) ตัว lecture จะค่อนข้างยาวกว่าข้อสอบจริง รายละเอียดเยอะกว่า อิฉันได้ฟังทุก practice แรกๆคะแนนค่อนข้างน้อยพอทำไปเรื่อยๆ จึงพบว่าคะแนนอิฉันก็พัฒนาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังได้ลองไปฟังใน youtube ที่มีให้ฝึกพบว่าตัว lecture ค่อนข้างระดับเดียวกับข้อสอบแต่ตรงส่วนตอบคำถามติดจะง่ายไปเสียนิสนุงเพราะตัวเลือกแตกต่างกันอย่างชัดเจนทำให้เลือกตอบได้ง่ายกว่า ส่วนตัวเเล้วพอไปสอบจริงรู้สึกคะแนนค่อนข้างน้อยเนื่องจากกะเวลาในการตอบแต่ละส่วนผิดทำให้อิฉันสติหลุดตอนฟังช่วงกลางๆไปซะกู่ไม่กลับเลย

2.2) การอ่าน
ส่วนนี้เป็นส่วนที่อิฉันชะล่าใจและฝึกค่อนข้างน้อยกว่าส่วนอื่นๆ เนื่องจากดิฉันเชื่อว่าบทความต่างๆ ย่อมมีคำตอบในตัวอยู่แล้วแค่ต้องหาให้เจอ แต่จู่ๆวันหนึ่งไม่รู้คิดอันใด อิฉันก็ได้หยิบ Barron สีเขียวมานั่งทำส่วนการอ่าน พบว่าคะแนนช่างเน่าบูดเสียจริงๆ อิฉันก็เลยนั่งอ่านสัปดาห์สุดท้ายก่อนสอบแบบตาแฉะกันไปเลยค่ะคุณขา โดยได้อ่านหลักๆ จากหนังสือ The official guide to TOEFL กับ Official TOEFL IBT Tests (vol.1 และ 2) ของ ETS ทั้งหมดเลย ส่วนตัวรู้สึกว่า reading เยอะสะใจดีและอาจจะยากกว่าข้อสอบจริงไปเล็กน้อยแต่ของเขาดีจริง ตอนฝึกทำอิฉันก็ใจแป้วๆ อยู่คิดในใจทำไมคะแนนมันน้อยจังวะ แต่ก็ไม่เป็นไรสู้เขาค่ะอิหญิง 

2.3) การพูด 
การพูดเป็นสิ่งที่อิฉันในช่วงแรกค่อนข้างมีปัญหาเล็กน้อยและเครียดกับส่วนนี้ค่อนข้างมาก เนื่องจากไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรให้สามารถพูดสรุปได้อย่างทันเวลาและพูดได้อย่างไหลลื่น โชคดีที่ก่อนวันสอบเดิม จู่ๆพลังบุญกุศลอันใดที่อิฉันได้ทำมาก็ได้ทำการดันคลิป คลิปหนึ่งขึ้นมาบนหน้ายูทูปของอิฉัน เป็นคลิปหนุ่มกล้ามโตที่ล่อตาอิฉันให้อิฉันกดเข้าไปดู และพบว่าคุณครูหนุ่มกล้ามโตท่านนี้ได้สอนวิธีการพูดสำหรับการสอบ TOEFL ที่อิฉันว่าเวิร์คเป็นที่สุด ซึ่งชื่อช่องยูทูปนั้นก็คือช่อง Teacher jun นั่นเอง ( https://www.youtube.com/c/TeacherJun ) โดยอิฉันได้ทำการฝึกทุกๆ วันอย่างสม่ำเสมอ  อิฉันได้ทำการลอก template ของทีเช่อร์จุนมาทั้งดุ้น ประกอบกับใช้วิธีเลคเช่อร์ตามและฝึกพูดทุกวัน (ตรงนี้จะทำให้เราพูดได้แบบไหลลื่นและแทบจะไม่ต้องจำ template เพราะพูดจนกลายเป็น muscle memory ไปแล้ว) พบว่าค่อนข้างมีประสิทธิภาพมากกกก
แต่น่าเสียดายที่ในวันสอบจริงเนื่องจากที่อิฉันตื่นเต้นไม่ไหว ตอนจดโน้ตลงบนกระดาษ มืออิฉันจึงสั่นระริกประหนึ่งว่าเจ้าเข้ากลางห้องสอบ ทำให้ตอนจดอิฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังวาดคลื่นลงบนกระดาษ จึงอ่านลายมือของตัวเองบางส่วนไม่ค่อยออกและพูดข้อมูลจากเทปได้ไม่ครบถ้วนมากนัก โดย ตอนพูดอิฉันได้ใช้โน้ตง่อยๆ ที่ตนเองจดบวกกับสกิลการแถในการพูดไปเรื่อยๆ ไม่ให้มีการหยุดการคันหรือพูด เอ่อ.., เอิ่ม... ระหว่างการสอบ นอกจากนั้นยังจำลองว่าตัวเองสาวฝรั่งแสนสวยชั่วคราวพยายามพูดให้เหมือนเจ้าของภาษาที่สุด ซึ่งอิฉันก็ทำใจและประเมินคะแนนไว้ว่าต้องได้สัก 18-19 แน่ๆ เพราะ task สุดท้ายพูดแค่ที่ตัวเองจดไว้ซึ่งอ่านออกแค่ไม่กี่ประโยคจากที่จดทั้งหมด

2.4) การเขียน
ช่างเป็นส่วนที่อิฉันว่ายากที่สุดจริงๆ กับคนธรรมดาอย่างอิฉันที่ไม่เคยฝึกเขียน essay อย่างเป็นจริงเป็นจังเสียที สำหรับ integrate essay อิฉันอาศัยฝึกจากยูทูปในช่องของคุณ Brandon Seo ( https://www.youtube.com/channel/UC25MxFsuafHLBtwQR4gz2jQ ) ซึ่งก็มิได้มีการเคยเห็นหน้าคร่าตาว่าเขาคือใคร แต่อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณ คุณแบรนดอนจากใจจริงๆ และเพิ่มเติมคือ template ที่อิฉันใช้จะเป็น template ของเจ๊ Juva ซึ่งจะมีการกล่าวอ้างอิงต่อไป
ในการฝึกสำหรับ independent essay อิฉันได้ทำการฝึกโดยได้รับการช่วยเหลือจาก ช่องยูทูป TOEFL with Juva เนื่องจากว่าเจ๊แกจะสอนเขียนอย่างเป็นเสต็ป เขียนให้ดูเลยว่าแต่ละประโยคควรเขียนยังไงและควรมีอะไรอยู่ใน essay บ้างเหมาะสำหรับชะนีที่เริ่มฝึกเขียนและเขียนไม่เป็นอย่างอิฉันมากๆ ดังเช่นในคลิปนี้ https://www.youtube.com/watch?v=OZFxK23n5xw&list=PL5S1hU9_MNCj71gmaR1ks2Gs_gvLcqVGW&index=15  ตรงนี้มีประโยชน์มากๆ เนื่องจากคลิปส่วนใหญ่มักจะสอนว่าเราควรเขียนอะไรและมี  template ให้แต่เจ๊ Juva ได้มีการเขียนให้ดูเลยทีละประโยค อิฉันว่าสำหรับอิฉันมันทำให้เราเห็นภาพได้มากว่าพอเจอโจทย์แล้วต้องทำอย่างไร แนะนำว่าให้ไปดูใน playlist writing TOEFL ในช่องของเจ๊ คือดีทุกคลิปจริงๆ ต้องขอขอบคุณเจ๊แกมา ณ ที่นี่ด้วย
นอกจากนั้นพออิฉันได้รู้ว่าควรจะเขียนอะไรแล้วอิฉันจึงได้ทำการฝึกโดยใช้หัวข้อจาก https://www.toeflresources.com/sample-toefl-essays/ ซึ่งมีหัวข้อมากมายให้ท่านเลือกสรร สุดจะปังปุริเย่ สุดท้ายคือตอนสอบคาดว่าอยากจะได้สัก 20-21 แต่คะแนนแต่ดันต่ำกว่าที่คาดซะได้น่าจะเพราะมีเขียนคำผิดเยอะแก้ไม่ทัน ประกอบกับเขียนส่วน integrate essay ไม่ทัน

3. วันสอบ 
อิฉันได้สอบที่เกษมบัณฑิต ร่มเกล้า จึงเดินทางไปถึงที่สอบประมาณ 7 โมงกว่าๆ สิ่งที่เตรียมไปคือ บัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต และใบที่นัดวันสอบที่มีให้ปริ๊นท์มาจากเว็บไซด์ ETS ส่วนตัวมองว่าห้องสอบไม่หนาวเลย เสื้อกันหนาวเตรียมไปได้แต่อาจจะไม่ได้ใช้ (สำหรับอิฉันนะ) พี่ๆหน้าห้องสอบใจดีมากกก มีพี่ผู้หญิงหนึ่งคน พี่ผู้ชายอีกหนึ่งคน หน้าห้องสอบมีขนมและน้ำให้ดื่มฟรีสบายแฮ เมื่อเข้าห้องสอบแล้วตัวคอกกั้นมองว่าแน่นหนาดีไม่มีปัญหา แต่ส่วนตัวไม่ชอบแป้นพิมพ์แบบนี้เพราะค่อนข้างพิมพ์ยากทำให้พิมพ์ได้ช้าลง และสุดท้ายคิดว่าคงเป็นเรื่องปกติที่ส่วนของ speaking ที่เราอาจจะได้ยินเสียงของคนรอบข้างพูดมาบ้าง แต่ไม่เป็นไรถือว่าบ่งบอกว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียว ยังมีผู้ร่วมชะตากรรมอีกหลายคน อิๆ 

4. ประกาศคะแนน
ในส่วนการฟังกับการอ่านคะแนนจะออก ณ วันที่สอบเลย แต่ในส่วนการพูดและการเขียนคะแนนจะออกประมาณ 7 วันหลังสอบ ถ้าอิฉันจำไม่ผิดแต่อยู่ที่ประมาณนี้ไม่ขาดไม่เกิน โดยคะแนนที่อิฉันได้คือ Listening: 22, Reading: 25, Speaking: 27, Writing: 19   total = 93 ซึ่งค่อนข้างเกินคาดสำหรับอิฉันอยู่เหมือนกัน ต้องขอขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ช่วยผลักดันคะแนนของลูกให้เกินตามเกณฑ์ที่เขากำหนดไว้เจ้าค่ะ 

สำหรับการแบ่งปันการเตรียมสอบของอิฉัน ขออนุญาตจบไว้เพียงเท่านี้ ถึงคะแนนอิฉันอาจจะไม่ได้ดีเสิศประเสริฐศรีมณีเด้ง แต่อิฉันหวังเป็นอย่างที่สุดว่าพื้นที่กระทู้นี้จะมีประโยชน์แก่ท่านทั้งหลายไม่ท่านก็ท่านหนึ่ง หากในกระทู้นี้ได้มีการกล่าวหรือให้ข้อมูลใดที่ไม่ถูกต้องจะเป็นการดีมากที่ท่านสาวสวยหนุ่มหล่อหน้าตาดีทั้งหลายช่วยแก้ให้อิฉัน และสุดท้ายหากมีการพาดพิงถึงท่านใดที่ไม่สมควรหรือกล่าวคำที่ไม่สมควรต้องขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่