เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีปรากฎข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน mRNA แล้วอันตราย วัคซีนคือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือ การฉีดวัคซีนบางยี่ห้อ เป็นยาพิษ หากฉีดจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 2 ปี น่าเชื่อว่ามีผู้ไม่หวังดี จงใจผลิตและเผยแพร่ข่าวปลอม หรือบิดเบือนข้อมูลข่าวสารดังกล่าวทำให้เกิดความตื่นตระหนก เกิดความสับสนวุ่นวาย ในสถานการณ์ฉุกเฉินภาวะวิกฤติโควิด-19
การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ซึ่งมีอัตราโทษหนัก ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี จึงอยากขอให้พี่น้องประชาชนรับฟังข่าวสารอย่างมีวิจารณญาณ ไม่หลงเชื่อข่าวปลอมหรือข่าวบิดเบือนที่ผู้ไม่หวังดีจงใจทำขึ้น
พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560
มาตรา 14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา
(2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
(3) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
(4) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
(5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4)
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง (1) มิได้กระทำต่อประชาชน แต่เป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ผู้กระทำผู้เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้เป็นความผิดอันยอมความได้
ที่มา :
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_2986987
โฆษกตร.ระบุ ฉีดวัคซีนmRNA ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เป็นเฟคนิวส์ ผลิต-แชร์ โทษหนัก คุก 5 ปี ปรับสูงสุด 100,000 บาท
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีปรากฎข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน mRNA แล้วอันตราย วัคซีนคือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือ การฉีดวัคซีนบางยี่ห้อ เป็นยาพิษ หากฉีดจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 2 ปี น่าเชื่อว่ามีผู้ไม่หวังดี จงใจผลิตและเผยแพร่ข่าวปลอม หรือบิดเบือนข้อมูลข่าวสารดังกล่าวทำให้เกิดความตื่นตระหนก เกิดความสับสนวุ่นวาย ในสถานการณ์ฉุกเฉินภาวะวิกฤติโควิด-19
การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ซึ่งมีอัตราโทษหนัก ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี จึงอยากขอให้พี่น้องประชาชนรับฟังข่าวสารอย่างมีวิจารณญาณ ไม่หลงเชื่อข่าวปลอมหรือข่าวบิดเบือนที่ผู้ไม่หวังดีจงใจทำขึ้น
พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560
มาตรา 14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา
(2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
(3) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
(4) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
(5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4)
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง (1) มิได้กระทำต่อประชาชน แต่เป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ผู้กระทำผู้เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้เป็นความผิดอันยอมความได้
ที่มา : https://www.matichon.co.th/local/crime/news_2986987