มีเงิน 1000 ลงทุนอะไรดี ปี 2021 ⁉️(ทำได้จริง รับประกัน กำไร 2 เท่า ใน 1 เดือน)👍👍

มีเงิน 1000 ลงทุนอะไรดี ปี 2021 ⁉️(ทำได้จริง รับประกัน กำไร 2 เท่า ใน 1 เดือน)







คุณเคยคิดไหมครับว่า คนที่ทุนน้อย จะมีโอกาสตั้งตัวยังไง⁉️ เพราะเห็นว่าจะทำอะไรก็ต้องใช้เงินทั้งหมด และใช้เงินจำนวนไม่น้อยเสียด้วย... และก่อนหน้านี้มีคนถามผมเข้ามาพอดีครับว่า ถ้ามีเงิน 1,000 บาท จะลงทุนทำอะไรดี ที่จะให้ผลตอบแทนสูงสุด วันนี้ผมมีวิธีให้ครับ☺️




“อยากขายของ” แต่ยังไม่มีทุนหรือมีทุนเพียง 1000 บาท จะทำได้ไหม❓❓


ผมบอกได้เลยครับ ว่าไม่ต้องกลัว เพราะในยุคนี้เพียงคุณมีโทรศัพท์เครื่องเดียวก็ขายของได้แล้ว ถึงแม้ว่าเงินแค่ 1,000 บาท สมัยนี้มันอาจจะดูน้อยนิดสำหรับคนบางคน แต่มันสามารถต่อยอดให้ใครหลาย ๆ คนได้เช่นกัน ในความเป็นจริงมีอีกหลายอาชีพที่ลงทุนไม่เกิน 1,000 บาท ก็สามารถสร้างรายได้ที่ดีคืนกลับมาได้ เพียงแต่ต้องอาศัยทักษะ ความขยันมากเป็นพิเศษ และขั้นตอนในการวางแผน ซึ่งในวันนี้เราจะมาดูกันครับว่าเงิน 1,000 จะสามารถสร้างกำไร 2 เท่า ใน 1 เดือน ให้คุณได้อย่างไร





✅ขั้นตอนแรก คุณต้องหาคนซื้อ หรือกลุ่มลูกค้า : ผมอยากให้คุณเก็บเงิน 1,000 บาท ก้อนนี้เอาไว้ก่อนนะครับ อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจอะไรเพียงชั่ววูบ แต่ให้คุณหาคนซื้อสินค้าของคุณให้ได้ก่อน อาทิ เช่น ญาติ พี่น้อง คนในครอบครัว เพื่อนสนิทหรือเพื่อนร่วมงาน เมื่อคุณได้รายชื่อมาแล้วให้นำมาบันทึกไว้ในสมุดหรือกระดาษเพื่อทำการขายกับคนเหล่านี้เป็นกลุ่มแรก ๆ นั่นเอง



✅ขั้นตอนที่ 2 ขายอะไร : การที่เราจะค่อย ๆ สร้างธุรกิจเล็ก ๆ ของตัวเอง โดยเริ่มจากเงินลงทุน 1,000 บาท ถือว่าเป็นการเริ่มต้นสร้างรายได้ที่ไม่เลวสำหรับคนที่มีต้นทุนน้อย และสิ่งที่ผมจะลืมคิดไปเลยไม่ได้ในการนำสินค้ามาขาย ก็คือ การคิดถึงธุรกิจขายของกินเล่นออนไลน์ที่ไม่ต้องหาทำเลตั้งหน้าร้านก็สามารถเริ่มต้นได้ทันที เพราะขึ้นชื่อว่าเป็น “ของกิน” ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่ใคร ๆ ก็ต้องซื้อ และการทำธุรกิจขายของกินเล่นออนไลน์การเลือกของขายให้เหมาะพร้อมทำแบรนด์ให้โดนนั้น คุณต้องเลือกให้ดี โดยที่คุณอาจจะเริ่มจากการหาของขายจาก Lazada และ Shopee ดูก่อน แล้วค้นหาว่าสิ่งไหนคนค้นหามากที่สุด และเลือกร้านที่น่าเชื่อถือสามารถเจรจาต่อรองกันได้ โดยขั้นตอนนี้อาจจะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงหรือหลายวันกว่าจะได้ในสิ่งที่คุณว่าดีที่สุดแล้ว



👉เมื่อคุณสามารถหาร้านค้าที่อยากจะดีลด้วยได้แล้ว ต่อไปก็จะเป็นเรื่องการติดต่อในการนำสินค้ามาขาย ซึ่งในการติดต่อกับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ใน Lazada หรือ Shopee นั้น คุณต้องถามถึงรายละเอียดของการซื้อสินค้าในแต่ละเจ้าที่คุณเลงไว้ให้มากที่สุด แล้วนำมาเปรียบเทียบว่าร้านค้าไหนถูกที่สุดหรือคุ้มค่าที่สุด และคุณอย่าลืมตั้งราคาต้นทุนที่จะขายสินค้าและราคาต้นทุนต่อชิ้น การตั้งราคาต้นทุนที่ดีที่สุดก็อาจจะอยู่ที่ไม่เกิน 100 บาท เพราะเกรงว่าถ้าราคาต่ำเกินไปแล้วมีสินค้าหลายชิ้นคุณอาจจะเสียเวลาหรือถ้าหากมีการผิดพลาดในการคำนวณสินค้าการเพิ่มราคาก็จะเพิ่มได้ยาก แต่ถ้าราคาแพงเกินไปคนที่คุณลิสต์ชื่อไว้ก็จะซื้อยากเช่นกัน



📢เช่น คุณกำลังจะดีลกับร้านค้าออนไลน์ที่ขายขนมทานเล่นเจ้าหนึ่ง ที่ดีลราคาส่งกับคุณชิ้นละ 95 บาท ซึ่งทางหน้าร้านออนไลน์ของเขาได้ขายราคาปลีกทั่วไปอยู่ที่ 160 บาท แต่คุณอย่าลืมคิดต้นทุนค่าจัดส่งด้วยนะครับ เพราะบางทีร้านค้าออนไลน์อาจไม่ได้รวมค่าจัดส่งสินค้าให้คุณ ฉะนั้น เมื่อคุณจะนำสินค้ามาขายการตั้งราคาที่พอเหมาะก็อาจจะอยู่ที่ 150 – 170 บาท ทีนี้เมื่อคุณได้สินค้ามาแล้ว ก็จะเป็นเรื่องของกระบวนการ “การขาย” ต่อไป นั่นเอง





💪และผมเชื่อว่ากลุ่มลูกค้าที่คุณได้ลิสต์รายชื่อไว้ตามขั้นตอนที่ 1 เวลาคุณโพสต์ขายของตามโซเชียลมีเดียส่วนตัวของคุณ เช่น Facebook, Line, Instagram อย่างไรเสียพวกเขาก็จะสามารถมองเห็นโพสต์ที่คุณขายของอยู่ถ้าหากคุณโพสต์อย่างต่อเนื่องหรือโพสต์ในทุก ๆ วัน ซึ่งจุดสำคัญมันอยู่ตรงนี้เลยครับ


✅การโพสต์ที่ดีคือ คุณต้องมีคอนเทนต์และรายละเอียดของสินค้านั้น ๆ ด้วย ไม่ใช่ว่าคุณโพสต์แค่ว่า ขายขนมทานเล่นถุงละ 170 บาท และบอกว่าอร่อยดีแล้วก็หายไป พออีกวันก็โพสต์แบบเดิม  ผมการันตีได้เลยครับว่า ต่อให้คุณโพสต์ต่อเนื่องแค่ไหน แต่ไม่มีคอนเทนต์หรือรูปถาพอะไรที่ดึงดูด ก็คงไม่มีคนสนใจสินค้าของคุณอย่างแน่นอน


    👉นอกจากคุณจะขายของผ่านโลกโซเชียลมีเดียส่วนตัวของคุณแล้ว คุณก็อย่าลืมที่จะขายสินค้าผ่านทางออฟไลน์ด้วยนะครับ ดีไม่ดีบางทีอาจขายของง่ายกว่าขายในออนไลน์เสียอีก เช่น ถ้าคุณมีโอกาสได้ไปพบปะญาติ หรือ พี่น้อง คุณก็สามารถนำสินค้าติดไม้ติดมือไปด้วยได้เลย โดยอาจจะให้คนเหล่านี้ลองชิมสินค้าดูก่อน เพราะอย่างไรพวกเขาก็มีเปอร์เซ็นต์ที่จะซื้อสินค้าของคุณสูงอยู่แล้ว เนื่องจากสินค้าของคุณมีราคาที่ถูก และเป็นสินค้าที่คุณแน่ใจแล้วว่ามีคุณภาพหรือเป็นสินค้าที่คนจะต้องบริโภคอยู่แล้ว และสิ่งที่สำคัญในการตัดสินใจซื้อของคนกลุ่มนี้ในช่วงแรกอาจมาจากการอยากช่วยคุณอุดหนุนสินค้าของคุณ นั่นเอง👍👍



🌟🌟สรุปได้ว่า เมื่อคุณทำการตลาดหรือโปรโมทสินค้าของคุณได้แล้ว ให้คุณรวบรวมจำนวนคนที่สนใจสินค้าพร้อมกับเก็บเงินจากพวกเขามาให้อยู่ในมือคุณก่อน เพื่อเป็นการเซฟตัวเองด้วยว่า เวลาคุณสั่งซื้อสินค้ามาขายแล้วพวกเขาจะไม่หายไปไหน หลายคนอาจสงสัยว่า “แล้วเงิน 1,000 บาทล่ะ❓❓แสดงว่าไม่ได้นำไปลงทุนเลยสิ” ป่าวเลยครับ‼️เพราะคุณสามารถนำเงินก้อนนี้ไปจ่ายค่าอินทอร์เน็ตได้ นำไปจ่ายค่าเดินทางที่ต้องไปพบปะลูกค้า หรือจ่ายค่าสั่งสินค้าตัวทดลองให้ลูกค้าได้ชิม เป็นต้น ฉะนั้น ทุกอย่างผมถือว่ามันคือ ต้นทุน ที่เราได้ลงแรงลงเวลาไปกับมัน นั่นเอง




💡💡ดังนั้น การลงทุน 1,000 บาท สามารถทำได้จริงและมีกำไร 2 เท่า ใน 1 เดือนได้ ถ้าคุณทำตามขั้นตอนที่ผมได้เขียนไว้ในบทความนี้ ซึ่งวิธีการนี้อาจจะไม่สามารถใช้ได้กับคุณไปได้ตลอด เพราะคงไม่มีใครสามารถช่วยคุณซื้อสินค้าไปในทุก ๆ วัน คุณว่าไหม❓❓

👍ฉะนั้น หลังจากที่คุณสามารถตั้งตัวจากการลงทุนขายของ 1,000 บาทได้ ขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นเรื่องของการตลาดหรือการโพสต์ขายของให้มีชั้นเชิง (สามารถติดตามบทความนี้ได้จาก ตอน เทคนิคการโพสต์ขายใน 1 วัน สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์) ที่คุณไม่ได้ละเลยสิ่งนี้ได้เลยถ้าหากคุณอยากจะรวยต่อจากนี้ หรือคุณคิดว่าอย่างไรสามารถคอมเมนต์มาได้ตามด้านล่างนี้เลยนะครับ👇👇

============
วรัทภพ รชตนามวงษ์
พาพันขอบคุณ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่